- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Saturday, 02 December 2017 13:23
- Hits: 3968
นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งผลักดันใช้งบฯส่วนกลาง-อปท.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ชี้ภาคใต้ศักยภาพสูง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.สัญจร.)ว่า รัฐบาลยืนยันให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด และที่ได้แยกออกมาเป็นภูมิภาคพิเศษ คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพื่อให้สามารถเร่งรัดการพัฒนาให้รวดเร็วมากขึ้น และเพื่อต้องการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในภาพรวม
ทั้งนี้ ในพื้นที่ภาคใต้ ถือว่ามีศักยภาพสูง เพราะมีทั้งภาคการเกษตร การประมง การท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีวัฒนธรรมที่หลากหลายในลักษณะสังคมพหุภาคีที่ทุกคนอยู่ร่วมกันบนความแตกต่าง ซึ่งรัฐบาลจะเร่งรัดโครงการพัฒนาการเชื่อมโยงทางกายภาพในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งทางถนน ท่าอากาศยาน ท่าเรือ ระบบราง เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการการแลกเปลี่ยนสินค้าและการขนส่ง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะเร่งผลักดันการใช้งบประมาณทั้งจากส่วนกลาง และจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) สร้างประโยชน์ให้ถึงมือประชาชนให้มากที่สุด
ส่วนการแก้ปัญหาราคายางและปาล์มน้ำมัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จำเป็นต้องดูที่ปริมาณการผลิต ซึ่งปัญหาหนึ่ง คือ การบุกรุกพื้นที่ป่า จึงได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการกับกลุ่มนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ ส่วนการใช้พื้นที่สวนป่าของประชาชน ให้งดกรีดยาง สำหรับพื้นที่ที่ประชาชนบุกรุกเป็นเวลานานให้หาแนวทางในการดูแล ซึ่งจะใช้กลไกของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
และสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาราคายางพารา คือต้องเร่งเพิ่มปริมาณการใช้ยางภายในประเทศ โดยภายในสิ้นปีนี้ จะเร่งรัดทุกหน่วยงานใช้ยางพาราภายในประเทศให้ได้ 2 แสนตัน โดยจะแบ่งเป็นการใช้น้ำยางข้น เพื่อปูพื้นสระน้ำและอุดรอยรั่ว ที่มีอยู่หลายพันแห่งทั่วประเทศ และแนวทางการนำผลผลิตยางไปสู่การผลิต ส่งให้หน่วยงานรัฐที่มีความต้องการใช้สินค้าที่ผลิตจากยางพารา
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ขอให้เกษตรชาวสวนยางเข้าใจว่าราคายางขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ราคาน้ำมัน สต็อคยางต่างประเทศ รวมถึงพื้นที่เพาะปลูกที่มีเพิ่มขึ้นในแต่ละประเทศ ซึ่งส่งผลต่อราคาทั้งสิ้น ซึ่งเกษตรสวนยางจึงต้องปรับตัว โดยหันไปปลูกพืชเสริม โดยเฉพาะมะพร้าวที่ยังมีความขาดแคลน และมีแนวโน้มนำเข้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่เพาะปลูกมะพร้าวของไทยมีปัญหา เพราะมีสวนมะพร้าวบางพื้นที่ไม่มีการดูแล ทำให้เป็นที่เพาะหนอนหัวดำ ทำความเสียหายจนต้องหามาตรการมาดูแลเรื่องนี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เข้าใจถึงปัญหาการประมงที่เป็นหัวใจของภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะแก้ปัญหาทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยง ทั้งในแง่ของกฎหมาย และเป็นไปตามหลักสากล เช่น IUU
แต่เหตุการณ์เมื่อวานนี้ที่มีชาวประมง จ.ปัตตานี เข้าร้องเรียนนั้น จำเป็นต้องใช้เสียงดังเล็กน้อย เพราะการพูดจาต้องให้เกียรติกัน ทุกอย่างต้องพูดคุยกันไม่ใช่มาใช้วาจารุนแรงใส่ และการขอให้แก้ปัญหาก็จะต้องมองให้สอดคล้องกับต่างประเทศ เพราะหากไม่ปฎิบัติตามอนาคตก็จะมีปัญหาต่อตลาดการส่งออกสินค้าประมง โดยเฉพาะกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา อีกทั้งจำเป็นต้องมีช่วงเวลาให้มีการพักชะลอการจับสัตว์น้ำ การดูแลทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อที่จะสามารถทำอาชีพประมงได้ยั่งยืน
ครม.สัญจร พิจารณาแผนลงทุนเมกะโปรเจ็คต์ภาคใต้ 5 แสนลบ.-มาตรการด้านการเงิน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ จ.สงขลาวันนี้จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จ.สงขลา โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ซึ่งการประชุมวันนี้มีรัฐมนตรีเข้าร่วม 14 คน เนื่องจากบางคนติดภารกิจ ส่วนรัฐมนตรีใหม่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณจึงไม่สามารถมาร่วมประชุมครม.ได้ แต่ถือว่าการประชุมวันนี้ครบองค์ประชุมและจะสามารถพิจารณาเห็นชอบและอนุมัติวาระประชุมได้ตามปกติ
สำหรับ วาระการประชุมที่น่าสนใจวันนี้ ที่ประชุม ครม.จะรับทราบรายงานผลการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดภาคใต้และชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้มีการประชุมร่วมไปแล้วกับผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้นำท้องถิ่น และภาคเอกชนในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งภาคเอกชนจากหอการค้า 14 จังหวัด ได้เสนอให้รัฐบาลลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมระบบราง ถนน ท่าเรือ และสนามบิน รวมทั้งหมด 14 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนราว 5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นแผนการลงทุนระยะ 5 ปี (2562-2566)
นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังเสนอโครงการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยว และการค้า การลงทุน การเชื่อมโยงโครงข่ายโลจิสติกส์เชื่อมโยง 2 ฝั่งทะเล อ่าวไทยและอันดามัน รวมถึงนโยบายผลักดันนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) ในภาคใต้ ขณะที่ อบจ.สงขลา เสนอการการจัดสรรงบประมาณในการจำกัดขยะมูลฝอยที่มีสะสมตกค้างกว่า 2.4 ล้านตัน การแก้ปัญหาจราจรในเขตเมือง และระบบขนส่งทางราง ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นต้น
กระทรวงการคลัง เสนอมาตรการด้านการเงิน สำหรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้
กระทรวงคมนาคม เสนอความก้าวหน้าการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ เช่น แผนงานโครงการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายหาดใหญ่ – สะเดาชายแดนมาเลเซีย ระยะทางรวม 62.59 กม. ของกรมทางหลวง(ทล.), โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ชุมพร - สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 167 กม.และช่วง สุราษฎร์ธานี - หาดใหญ่ (สงขลา) ระยะทาง 339 กม. หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม.
อีกทั้ง รายงานผลการดำเนินงานการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ที่เกิดขึ้นระหว่างธ.ค.59 ถึง ม.ค.60
กระทรวงศึกษาธิการ เสนอขออนุมัติกรอบอัตรากำลังพนักงานมหาวิทยาลัยเพิ่มเติมของสถาบันอุดมศึกษา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีงบประมาณ 2561 - 2564 พร้อมรายงานความคืบหน้าการจัดทำโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เสนอร่างทิศทางการพัฒนาภาคใต้ และร่างทิศทางการพัฒนาภาคใต้ชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนเริ่มประชุมว่า มีฝนตกลงมาตั้งแต่ช่วงเช้าทำให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องยกเลิกกำหนดการถ่ายรูปหมู่ ที่บริเวณรูปปั้นนางเงือก ริมหาดสมิหลา รวมทั้งยกเลิกการเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ด้วย
ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย โดยรอบบริเวณสถานที่จัดการประชุม ครม.เป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีทหาร, ตำรวจ และฝ่ายปกครองวางกำลังดูแลรักษาความเรียบร้อยอย่างเต็มที่ และตลอดช่วงเช้าไม่ปรากฏว่ามีกลุ่มต่อต้านใดๆ มาประท้วง บริเวณด้านหน้าที่ประชุม ครม.สัญจรแต่อย่างใด
นายกฯ ลงพื้นที่จ.ปัตตานีเปิดตลาดกลางปศุสัตว์ฯ-ติดตามงานความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการพัฒนาตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พร้อมทำพิธีเปิดป้าย "ตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ดำเนินการโครงการปศุสัตว์ ฐานความรู้สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน, การรวมกลุ่มสหกรณ์เครือข่ายแพะ แกะ ปัตตานี จำกัด และสหกรณ์โคเนื้อมือนารอ จำกัด จังหวัดนราธิวาส
โดยแนวทางการพัฒนาที่สำคัญ ได้แก่ การกำหนดและประกาศพื้นที่ให้เป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะ โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วนเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน อาทิ ออกมาตรการด้านสิทธิประโยชน์ มาตรการการคลัง การยกระดับศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ระยะ 2 ปีถัดไปเพื่อสนับสนุนการลงทุนในระยะแรก โดยให้ความสำคัญกับการขยายพื้นที่ เพิ่มผลผลิต และพัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรเพื่อจำหน่ายเป็นสินค้าและวัตถุดิบ โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันและมะพร้าว การพัฒนาพื้นที่ด่านชายแดน การเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีรูปแบบการให้เอกชนร่วมทุน ระยะต่อไป ดำเนินการเชื่อมโยงระบบขนส่งทางบก ทางเรือ ทางอากาศไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับ การเดินทางนายกรัฐมนตรีและคณะได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่จะเดินทางไปยังสนามบินบ่อทอง (กองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ 9) จ.ปัตตานี มาเป็นที่กองบิน 56 จังหวัดสงขลา เนื่องจากสนามบินบ่อทองประสบปัญหาน้ำท่วมบริเวณลานบิน รวมถึงปัญหาสภาพอากาศ ทำให้กำหนดการเดินทางไปยังตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพบปะประชาชนต้องมีการเลื่อนออกไป
ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการประชุมติดตามงานด้านความมั่นคงและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้นจะพบผู้นำท้องถิ่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังสนามบินสงขลา ฐานทัพเรือสงขลา กองทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อร่วมประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ (Working Dinner) ที่ โรงแรมบีพี สมิหลา บีช จังหวัดสงขลา
ขณะที่ภาคเอกชนภาคใต้เตรียมเสนอที่ประชมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.ภูมิภาค) พิจารณาแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาคใต้กว่า 2 แสนล้านบาท หวังเชื่อมโยงกับอีอีซีภาคตะวันออก เพื่อให้รัฐบาลจัดสรรงบปี 2562-2563 ลงทุนรถไฟทางคู่สุราษฎร์ -หาดใหญ่ -ปาดังเบซาร์ เส้นทางหาดใหญ่-สุไหงโกลก หวังเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่ของมาเลเซีย ตลอดจนการพัฒนาท่าเรือขนาดใหญ่ จังหวัดกระบี่ เกาะสมุย เพื่อรองรับการท่องเที่ยว การพัฒนาท่าเรือน้ำลึก 18 เมตร รองรับการขนส่งสินค้าของจังหวัดระนอง และโครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลาเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ยอดลงทุน 2แสนล้านบาทและมีกำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้
อินโฟเควสท์