- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Saturday, 11 November 2017 11:08
- Hits: 1813
สมคิด เผยปรับครม.แน่แต่นโยบายศก.ไม่เปลี่ยน,ประกาศปี 61 เป็นปีแห่งการปฏิรูป-ช่วยผู้มีรายได้น้อย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เชื่อว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะมีการปรับตำแหน่งใดบ้างนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี และถึงแม้จะมีการปรับ ครม.แต่แนวนโยบายด้านเศรษฐกิจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะเชื่อว่าแนวทางที่ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมานั้นถูกต้องแล้ว ทั้งโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) หรือเศรษฐกิจดิจิทัล
"รัฐบาลชุดนี้โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจของผม ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นเรื่องธรรมดา แม้กระทั่งตัวผม แต่ขอยืนยันว่าถ้าอยู่ตรงนี้ อย่าหวังมาสั่นคลอน ไม่มีทาง" นายสมคิด กล่าว
ขณะที่แนวทางการทำงานของรัฐบาลในปีหน้าจะเป็นการสานต่องานด้านการปฏิรูปประเทศ และถึงแม้รัฐบาลนี้จะดำเนินการไม่เสร็จเรียบร้อยทั้งหมด แต่จะเป็นการวางรากฐานให้รัฐบาลใหม่เข้ามาสานต่อ นอกจากนี้จะเป็นปีแห่งการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ได้รับความเท่าเทียม ซึ่งตนเองมั่นใจว่าเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน หากไม่เกิดความวุ่นวายทางการเมือง เพราะต่างประเทศกำลังจับตาดูอยู่ หากการเมืองมีเสถียรภาพ มั่นใจว่าจะดึงดูการลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาอย่างแน่นอน
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงแม้เศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการส่งออกปีหน้าจะดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัว แต่รัฐบาลจะยังคงต้องเร่งเดินหน้าต่อ โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุนต่างชาติด้วยการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งในปี 61 กระทรวงคมนาคมจะต้องเร่งเดินหน้าการลงทุนตามแผนงานที่วางไว้ให้ได้ตามเป้าหมาย
ในอนาคตดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรองรับ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการเดินหน้า e-payment เพราะในอนาคตทุกการใช้จ่ายของภาครัฐและเอกชนจะผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด และในปีหน้ารัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้มากขึ้น เพื่อให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งต้องเร่งสร้างความเท่าเทียมของประชาชนในทุกกลุ่ม โดยให้ธนาคารออมสิน และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เข้ามาเดินหน้าเป็นตัวหลักในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ หรือกลุ่มรายย่อยให้ได้
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการขับเคลื่อนที่ทุกหน่วยงานจะต้องเร่งการสร้างและเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งด้านคมนาคม ด้านอุตสาหกรรมที่จะมีแพคเกจใหญ่ที่จะร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอ็สเอ็มอี
ขณะนี้การเติบโตธุรกิจออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะต้องเร่งเดินหน้าในเรื่องไทยเทรดดอทคอมให้เห็นเป็นรูปธรรมให้ได้ในเร็วๆนี้ เพื่อเป็นการวางรากฐานในอนาคต รองรับการเติบโตของภาคเอกชน ส่วนภาคเกษตรนั้นนายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจและรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก ซึ่งภาครัฐได้พยายามสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคการผลิตทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองและทีมงานด้านเศรษฐิจไม่มีพรรคการเมือง จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการเมือง แต่ตั้งใจที่จะทำงานให้บ้านเมืองดีขึ้น และอยากให้ความเป็นธรรมกับทุกกระทรวงที่ทำงานอยู่ ไม่อยากให้มองแค่เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจให้พรรคการเมืองหลังเลือกตั้งเข้ามาสานต่อได้ พร้อมทั้งหวังอยากเห็นการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นให้มีการคัดเลือกคนดีๆ เข้ามาบริหารประเทศ ไม่ใช่เลือกตั้งกี่ครั้งก็ได้แต่คนหน้าเดิมๆ
อินโฟเควสท์