- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Saturday, 26 March 2016 23:04
- Hits: 5773
'ประชารัฐ' ต่อยอดเศรษฐกิจฐานราก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ โดยอนุมัติงบประมาณ 35,000 ล้านบาทผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองลงไปยัง 79,556 กองทุนฯทั่วประเทศ โดยให้หมู่บ้านละไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อสร้างความเข้มแข็งผ่านกองทุน โดยให้ประชาชนเสนอโครงการเข้ามา โดยรัฐบาลยืนยันจะทำทุกอย่าง ด้วยความโปร่งใส สิ่งสำคัญในวันนี้ คือกระบวนการสร้างความเข้าใจต่อประชาชน โดยภาครัฐและประชาสังคมต้องมาช่วยกันดู ขณะเดียวกัน โครงการนี้จะมาเสริมโครงการส่งเสริมความเป็นอยู่ในระดับตำบล ซึ่งจัดงบประมาณให้ตำบลละ 5 ล้านบาท
แต่มีปัญหาการเบิกจ่ายตามขั้นตอนทางราชการ ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า งบประมาณที่ใช้โครงการนี้มาจากงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่มีอยู่ในมือของนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับงบจากการประมูล 4 จี และไม่ใช่งบกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นงบที่ลงทุนเพื่อยกระดับความเข้มแข็งให้เกษตรกรในชนบท ต่อยอดการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านที่เคยให้เงินกู้เป็นรายบุคคล แต่ในครั้งนี้ต้องมาร่วมกันคิดโครงการที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นเพื่อเป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานราก โดยมีงานหลักๆที่ต้องทำ 2 เรื่อง คือ 1. การเข้าไปสร้าง ความเข้มแข็งด้านการผลิต และเพิ่มมูลค่าผลผลิตที่มีอยู่ในชุมชน ช่วยแก้ปัญหาในอดีตที่เกษตรกรมักถูกพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบ 2. การเสริมสร้างความ เข้มแข็งของชุมชน ทั้งเรื่องของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สร้างแหล่งน้ำ และการดูแลคนชรา
“โครงการนี้เริ่มมา 2 เดือนแล้ว โดยได้มีการประชุมตัวแทนกองทุนฯ ล่าสุดเสนอโครงการมาแล้วกว่า 10,000 โครงการ ซึ่งจะมีคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองอีกครั้ง วงเงินนี้ไม่ใช่ทุกหมู่บ้านจะได้ครบทั้ง 500,000 บาท ต้องดูว่าโครงการที่เสนอมาเหมาะสมกับหมู่บ้านนั้นหรือไม่ เป็นโครงการที่ดีหรือซ้ำซ้อนไหม และเรื่องนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้หมู่บ้านบริหารจัดการกันเอง และต่อไปจะเอาภาคเอกชนจาก 12 กลุ่มประชารัฐเข้าไปต่อยอดด้านการตลาด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จะเข้ามาผลักดันโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งเอสเอ็มอีให้เกิดขึ้น”.
ที่มา : www.thairath.co.th