นายกฯดีเดย์กองทุนหมู่บ้านอัดเงิน 3.5 หมื่นล.สู่ศก.ฐานราก

    แนวหน้า : พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติการ "โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทาง ประชารัฐ" โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลต้องการใช้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก หลังจากได้สนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 60,000 ล้านบาท ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)และธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้สมาชิกกองทุน โดยยกเว้นดอกเบี้ยให้เป็นเวลา 2 ปี ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 3 ล้านครัวเรือน เพื่อหวังเพิ่มทุนหมุนเวียนในชุมชน

     ดังนั้น เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้กับชุมชนในระยะยาว รัฐบาลจึงได้ออกโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ด้วยการโอนเงินโดยตรงให้กับกองทุนหมู่บ้านทุกแห่ง จำนวน 79,556 แห่ง กองทุนละไม่เกิน 5 แสนบาท เพื่อนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน หวังเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพ เช่น การสร้างลานตากข้าวชุมชน โรงสีชุมชน บ่อน้ำ หรือรวมตัวกันหลายหมู่บ้านซื้อรถเกี่ยวข้าว เพื่อใช้งานในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต

     สมาชิกกองทุนหมู่บ้านได้ร่วมกัน ให้คำปฏิญาณการใช้เงินจากโครงการดังกล่าวให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และหาก ชาวบ้านรวมตัวกันตั้งวิสาหกิจชุมชนเพื่อแปรรูปสินค้าเกษตร เมื่อต้องการขยายกิจการเพิ่มเติมเป็นผู้ประกอบการตามนโยบาย 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอีภาคเกษตรเอสเอ็มอี แบงก์จะเข้าไปสนับสนุนด้วยการปล่อย สินเชื่อให้กับกลุ่มชาวบ้าน ผ่านโครงการ Policy Loan ของเอสเอ็มมีแบงก์จากวงเงินที่เหลืออยู่ 10,000 ล้านบาท คิด อัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก 4% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยแบบ MLR ระยะเวลากู้ ไม่เกิน 5 ปี เพื่อเน้นส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่ และผู้ประสบปัญหาเศรษฐกิจ และให้ออมสินและธ.ก.ส.เข้าช่วยเหลือโครงการประชารัฐ ในทุกด้านเพิ่มเติม เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง