- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Tuesday, 26 January 2016 14:05
- Hits: 2434
นายกฯ เผยเร่งจัดสมดุล แก้ความทับซ้อนในการทำงบประมาณ พร้อมเตรียมแจ้งที่มาของเงินรับซื้อยางต่อครม.วันพรุ่งนี้ ยันมีเงินเพียงพอ
นายกฯ เผยเร่งจัดสมดุล แก้ความทับซ้อนในการทำงบประมาณ ฝากเอกชนช่วยพัฒนาบุคลากร ป้องกันเด็กจบใหม่ตกงาน หวังแก้ปัญหาบุคลากรขาดแคลนหลังเปิด AEC พร้อมเร่งแก้ปัญหาเกษตรกรครบวงจร ทั้งลดต้นทุนการผลิต เมล็ดพันธุ์- ราคาปุ๋ย และค่าเช่าที่นา เตรียมแจ้งที่มาของเงินรับซื้อยางต่อครม.วันพรุ่งนี้ ชี้แผนนำยางผลิตตุ๊กตาลูกเทพ เป็นเรื่องของภาคเอกชนไม่ใช่นโยบายรัฐ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงานใหญ่ประจำปี F.T.I.OUTLOOK 2016 : ทิศทางอุตสาหกรรมไทย 2559 จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการนั้น เพราะต้องการให้ประเทศมีความเข้มแข็งเกิดขึ้นโดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลา 1 ปี 5 เดือน โดยสิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อการสร้างความมั่นคงในทุกมิติ สร้างเศรษฐกิจใหม่ และก่อให้เกิดการเชื่อมโยง นอกจากนี้สิ่งสำคัญ คือ การลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม
"เราพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลงมีเรื่องความทับซ้อนของปัญหา วันนี้ออกกฎหมายสามร้อยกว่าฉบับ เกี่ยวกับการค้าการลงทุน วันนี้ผมต้องจับทุกอย่างให้เกิดขึ้นให้ได้ แต่ก็ต้องเกิดจากความร่วมมือของคนในประเทศ วันนี้อากาศเริ่มเย็นคิดว่ามันจะดีขึ้น เพราะก่อนหน้านี้อากาศร้อนมาก เลยมีผลทำให้คนมัวแต่ทะเลาะกัน อากาศหนาวจะได้ดีใจ ถ้าวันหน้าหิมะตกจะได้ขยันเหมือนประเทศอื่นๆ เราต้องพึ่งพากันและกัน"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ในขณะนี้รัฐบาลพยายามทำงานอย่งเต็มที่ในการวางรากฐาน วันนี้เหลือ 1 ปี 5 เดือน ต้องทำระยะที่ 1 ของการปฏิรูป ทั้งหมดจะต้องเดินด้วยยุทธศาสตร์ชาติ จะต้องมีการพัฒนาต่อเนื่อง ส่วนการขับเคลื่อนประเทศนั้น ยอมรับว่า หลายอย่างต้องอาศัยความร่วมมือกับภาคธุรกิจในการปฏิบัติ ซึ่งตนรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
นอกจากนี้ ตนจะเข้าไปแก้ไขในส่วนของ พ.ร.บ.งบประมาณใหม่ โดยในวันหน้ารัฐบาลจะต้องมีการประชุมการการจัดทำงบประมาณ การชี้แจงในการจัดทำงบประมาณปกติ งบกลาง งบรายจ่ายประจำ งบประมาณในการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลตามยุทธศาสตร์บริหารประเทศ เพื่อความชัดเจนในการดำเนินการและการจัดทำงบประมาณที่เหมาะสมต่อไป ว่าเรื่องใดที่ควรทำก่อน เรื่องใดที่มีในงบรายจ่ายประจำแล้ว ไม่ควรมีทับซ้อนในส่วนของงบกลางเพิ่มเติม เป็นต้น
พลเอกประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้อยากฝากภาคเอกชน ที่มองว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดขึ้นได้ โดยมองว่าปัจจุบันไม่ใช่แค่การสอนหนังสือให้นักเรียนเรียนแล้วจบ แต่ต้องให้ใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้ โดยอยากให้ภาคธุรกิจนำกลุ่มคนที่มีศักยภาพมาต่อยอด โดยในเบื้องต้นให้นำคนที่จบแล้วยังไม่มีงานทำ แต่มีศักยภาพนั้นมาฝึกอบรม เพื่อพัฒนาต่อยอดให้มีงานทำได้ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาแรงงานเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ขณะที่ในภาครัฐนั้น มีการดำเนินการในเรื่องของกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว เช่น การสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูง การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน มีการลงทุนต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม เติมอุตสาหกรรมใหม่ หรือ 10 อุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุน ซึ่งจะเป็นการช่วยพัฒนาประเทศให้เข้มแข็งในอนาคต นอกจากนี้จะต้องเน้นการเติบโตจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งจะต้องเริ่มตั้งแต่ ชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ภูมิภาค ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนว่าจะทำอะไร เช่น เกษตร อุตสาหกรรมอะไรที่จะพัฒนาและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นการสร้างการเชื่อมโยงได้ ถึงจะมีผู้ผลิต ผู้แปรรูป ผู้ส่งออก
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนดำเนินการทั้งหมดนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการอำนาจ ไม่ได้ต้องการผลประโยชน์ สิ่งที่ต้อการคือ การสร้างประเทศ โดยจะต้องเน้นการเติบโตจากภายในให้มีความเข้มแข็งก่อน โดยปัญหาที่ต้องเร่งแก้ในวันนี้ คือ เกษตรกร ที่ประสบปัญหาในเรื่องต้นทุนการผลิตสูง ทั้งเรื่องเมล็ดพันธุ์ ราคาปุ๋ย และค่าเช่าที่นา ซึ่งขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาในเรื่องการเช่าที่นาแพงอยู่
"ท่านต้องยอมรับในการเปลี่ยนแปลงบ้าง ผมเป็นเพียงผู้นำชั่วคราว เพื่อมาปลดล็อคประเทศ ในด้านของเอกชนนั้นผู้นำจะต้องยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงบ้าง หากอยู่แบบเดิมจะไม่มีการพัฒนา"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ กล่าวเสริมว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ในวันพรุ่งนี้ จะชี้แจงให้ที่ประชุมรับทราบว่าเงินที่จะรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรโดยตรงนั้นจะมาจากส่วนใดบ้าง แต่เบื้องต้นยืนยันว่ามีเงินเพียงพอแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายให้ใช้วิกฤติเป็นโอกาส ในการนำยางพาราของเกษตรมาผลิตเป็นตุ๊กตาลูกเทพที่กำลังได้รับความนิยม ว่า เป็นเรื่องของความเชื่อที่สังคมจะตัดสิน ซึ่งในวันนี้ยังนิยมอยู่ แต่ในวันข้างหน้านั้นไม่มีใครตอบได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งมองว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมนั้น สะท้อนว่า คนไทยอยู่ในภาวะขาดๆเกินๆ คือ ขาดในสิ่งที่ไม่ควรจะขาด และเกินในสิ่งที่ไม่ควรจะเกิน
"ยางพาราที่รัฐบาลรับซื้อนั้น จะนำเอาไปสร้างถนน ไปทำอย่างอื่น ส่วนจะมาทำตุ๊กตาลูกเทพหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของภาคเอกชนเอง รัฐบาลคงไม่ได้สนับสนุน เพราะไม่ใช่กิจกรรมหลักที่รัฐบาลจะทำ เอกชนเขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
นายกฯ แนะทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาขับเคลื่อนประเทศ สร้างศักยภาพ ย้ำเข้ามาบริหารเพื่อปลดล็อคปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ" การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2559" ในงานสัมมนา“F.T.I. OUTLOOK 2016 :ทิศทางอุตสาหกรรมไทย ในปี 2559” ว่า การพัฒนาประเทศที่ผ่านมาเติบโตค่อนข้างช้าจากปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศและปัญหาภายในประเทศ นอกจากนี้ยังผู้ที่ให้ข้อมูลบิดเบือน ดังนั้นวันนี้ต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งและความร่วมมือของทุกภาคส่วน ต้องสร้างความเชื่อมโยงและความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน สร้างศักยภาพในการต่อรอง ซึ่งรัฐบาลจะบริหารราชการใหัเกิดผลสัมฤทธิ์ด้านการพัฒนาตามโรดแมพสร้างความน่าสนใจต่อลงทุน การปรับปรุงกฏหมายให้ทันสมัย และเกิดการบูรณาการ ไม่ใช่ใช้แต่มาตรา 44 ในการแก้ปัญหา โดยรัฐบาลพยายามให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ต้องสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน เร่งรัดความคืบหน้าเศรษฐกิจพิเศษ สร้างแนวทางการขับเคลื่อนที่ต่อเนื่อง ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง และดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
นอกจากนี้ ยังต้องช่วยกันสร้างความรับรู้ ในสิ่งที่ต้องสร้างความมั่นคง การพัฒนา และต้องดูแลสภาพแวดล้อม ไปสู่เป้าหมายการลดความเหลื่อมล้ำ
ขณะที่แนวทางการพัฒนาประเทศไทยจะต้องเดินตามยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศในระยะ 20 ปีข้างหน้า ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและต้องมีแผนปฏิบัติให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การขับเคลื่อนประเทศต้องมีการบูรณาการยุทธศาสตร์กันอย่างชัดเจน ซึ่งตนเองจะแก้ไขการบริหารราชการแผ่นดินใหม่ โดยการปรับปรุง พ.ร.บ.การจัดทำงบประมาณ เพื่อการปรับการจัดทำงบประมาณแบบใหม่ ซึ่งต่อจากนี้ไปการจัดทำงบจะต้องให้รัฐบาลประชุมร่วมกันก่อน เพื่อจัดทำดับความสำคัญของเรื่องต้องดำเนินการ ต้องหารือถึงนโยบายที่ต้องการขับเคลื่อนตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และนโยบายใดที่ควรเป็นเรื่องการปฏิรูป โดยแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องทำให้สอดคล้อง ไม่ใช่แบบปัจจุบันที่แต่ละกระทรวงรวบรวมมา พอเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ก็ตัดงบไป 5-10% จากนั้นก็บริหารต่อไป ซึ่งหลังจากนี้แนวทางการพัฒนาประเทศจะเกิดความชัดเจน
นายกรัฐมนตรี ยังฝากภาคอุตสาหกรรมให้ช่วยกันพัฒนาบุคลากรที่ตรงความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะภาคการวิจัยการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพราะภาคอุตสาหกรรมใหญ่ๆมีศักกายภาพ ซึ่งบริษัทใหญ่ๆต้องช่วยเหลือเกื้อหนุน ไม่เอาเปรียบเกษตรกร พร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลง และร่วมสร้างความร่วมมือประชารัฐ โดยการช่วยเหลือชุมชนสร้างความรักความไว้ใจให้เกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เคยคิดว่าประเทศไทยจะมีปัญหามากขนาดนี้ ซึ่งน่าจะมาจากการที่ทุกคนต่างความคิด ซึ่งล้วนแต่คิดดี แต่เป็นความคิดที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นต้องช่วยกันหาทางออกให้ได้โดยสันติวิธี ตนเองเข้ามาก็เพื่อปลดล็อกให้สามารถคลี่คลายปัญหาได้
อินโฟเควสท์