- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Thursday, 31 December 2015 09:33
- Hits: 2725
เร่งตั้งนิคมฯยางพาราสร้างเม็ดเงินลงทุน 8 พันล้าน
แนวหน้า : พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber city) สงขลา ว่า การพัฒนานิคมฯดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มียางพาราเป็นวัตถุดิบในการรองรับภาคอุตสาหกรรม โดยมอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เร่งรัดดำเนินแผนงานนิคมยางพารา ในรายละเอียดที่เป็นระบบอย่างชัดเจนที่จะต้องแล้วเสร็จภายในปี 2560 โดยเน้นให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลประโยชน์อย่างสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนอย่างแท้จริง
"การลงทุนครั้งนี้ต้องเน้นการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสถียรภาพราคายางในท้องถิ่น รวมถึงเป็นโครงการที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาให้รัฐบาลในระยะยาวที่ไม่ต้องเข้ามาอุดหนุนราคายางพารา เมื่อเกิดภาวะราคาตกต่ำ รวมทั้งให้ไปวางแผนต่อเนื่อง และชัดเจนในช่วง ปี 2561-2564 หลังจากที่มี การเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ได้เป้าหมายตามที่วางไว้ปี 2564 ต้องได้นักลงทุนมาลงทุน 70 ราย" พลเอกประยุทธ์ กล่าว
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ.มีเป้าหมายที่จะเดินหน้าการพัฒนานิคมฯยางพารา เน้นให้สอดคล้องกับรัฐบาล ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับยางพาราในรูปแบบคลัสเตอร์ ที่จะสามารถเชื่อมโยงภาคธุรกิจอื่นๆ อาทิ ธุรกิจบริการ ธุรกิจ โลจิสติกส์ ธุรกิจชุมชนท้องถิ่น (Otop) รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่ มั่นใจว่าการเดินหน้าโครงการดังกล่าวจะมีส่วนพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและประเทศได้เพิ่มขึ้น
ขณะนี้ กนอ. เตรียมพร้อมแผนพัฒนา การลงทุนนิคมฯยางพารา โดยจะเริ่มก่อสร้าง ในปี 2559 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้าง และเตรียมแผนลงทุนด้านสาธารณูปโภค พื้นฐาน ทั้งระบบการสร้างถนน ระบบไฟฟ้า ระบบปะปา เพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการในปีหน้า
สำหรับ แผนการพัฒนานิคมฯยางพารา หรือ rubber city ตั้งอยู่ในเฟส 2/2 และ 3 ของนิคมฯภาคใต้จังหวัดสงขลา บนพื้นที่ 755 ไร่ คาดว่าจะมีผู้ประกอบเริ่มเข้ามาก่อสร้างโรงงาน ได้ในเดือนกันยายน 2559 และเริ่มประกอบกิจการภายในเดือนกรกฎาคม ปี 2560 ทั้งนี้ในการวางระบบสาธารณูปโภคได้มีแผนที่ จะเริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม ปี 2559 แบ่ง ออกเป็น 2 พื้นที่ คือ Zone A และ Zone B คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2560 และจะดำเนินการแล้วเสร็จในการวางระบบสาธารณูปโภคทั้งหมด ในเดือนมีนาคม 2560 กนอ ตั้งเป้าหมายโรงงานที่จะเข้ามา ลงทุนภายในนิคมฯยางพารา ทั้งสิ้น 70 โรงงาน ภายใน 5 ปี (2564) รวมมูลค่าเม็ดเงิน ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท
นายกฯ ถก กรอ.เร่งจัดสรรงบลงใต้ มุ่งส่งเสริมท่องเที่ยว-ขยายตลาดการเกษตร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับคณะกรรมการคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.)ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยว่า กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยโชคดีที่ไม่ประสบปัญหาเรื่องน้ำ แต่จะต้องแก้เรื่องการจัดสรรงบประมาณลงมาให้เพียงพอสำหรับแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง บรรเทาความเดือดร้อน พร้อมกับการทำยุทธศาสตร์ 20 ปีข้างหน้า
"การลงพื้นที่วันนี้รู้สึกดีใจที่ชาวสุราษฎร์ธานีเพาะปลูกพืชเสริมกับสวนยางพาราไปกว่า 80% ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวจะมีมาตรการเสริมเรื่องการหาจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยมอบกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ไปดำเนินการจัดการ โดยเน้นให้ชุมชนได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นด้วย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีการพูดคุยถึงเรื่องเร่งรัดในการก่อสร้างถนนเส้นทางคมนาคม เพื่อให้เป็น 2 เลนและ 4 เลน โดยถนนจะต้องดีก่อน ส่วนเรื่องรถไฟค่อยไปดูกันในระยะยาว นอกจากนี้ต้องส่งเสริมเรื่องการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งทางพื้นที่ต้องการเลี้ยงโคขุนศรีวิชัย ซึ่งเป็นพันธุ์ท้องถิ่น และตนเองได้อนุมัติแล้ว เพื่อให้สามารถเลี้ยงได้มากขึ้น และต้องเน้นที่เรื่องการแปรรูปให้มากขึ้น เช่น ทำเนื้อแผ่น เนื้อรมควัน หรือไส้กรอก และนอกจากขายในพื้นที่แล้วก็พยายามหาตลาดขยายที่อื่นด้วย อีกทั้งจะต้องหาคนมาร่วมลงทุนในพื้นที่ให้เพิ่มจากท้องที่ที่มีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางด้านเศรษฐกิจจะต้องทำให้ประชาชนมีอาชีพเสริม ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตรกรรมหรือเลี้ยงสัตว์ เช่น เลี้ยงโคหรือแพะ
อินโฟเควสท์
