- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Tuesday, 10 November 2015 14:04
- Hits: 2633
โฆษกฯ เผยมาตรการกองทุนหมู่บ้านได้ผลดี ปชช.ได้ประโยชน์กว่า 2.3 ล้านราย
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลออกมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้าน โดยให้สินเชื่อกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับการจัดชั้นเป็นกองทุนระดับ A และ B จากสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กองทุนละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขไม่ให้กองทุน Refinance หนี้เดิม เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานให้กับกองทุนฯ กำหนดวงเงิน 60,000 ล้านบาท ประกอบด้วยวงเงินสินเชื่อของธนาคารออมสิน 30,000 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 30,000 ล้านบาท โดยให้ดำเนินการทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน 31 ธันวาคม 2558 นั้น ล่าสุดมีกองทุนยื่นขอรับการสนับสนุนแล้ว จำนวน 46,489 กองทุน จากเป้าหมาย 59,875 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 77.64 โดยทั้งสองธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 38,683 กองทุน วงเงิน 37,458,705,114 บาท จากเป้าหมาย 60,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62.43 มีผู้รับสินเชื่อโดยตรง จำนวน 2,382,117 ราย
สำหรับ รายละเอียดผลการให้สินเชื่อมีดังนี้ ธนาคารออมสิน มีกองทุนแจ้งความประสงค์ขอรับการสนับสนุน จำนวน 24,405 กองทุน อนุมัติสินเชื่อแล้ว 21,205 กองทุน วงเงิน 21,142,544,701 บาท สมาชิกได้รับประโยชน์ 1,362,413 ราย วัตถุประสงค์ของการให้สินเชื่อ เพื่อนำไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม ค้าขาย รับจ้าง บริการ และบริการร้านค้า เป็นต้น ส่วนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีกองทุนแจ้งความประสงค์ จำนวน 22,084 กองทุน อนุมัติสินเชื่อแล้ว 17,478 กองทุน วงเงิน 16,316,160,413 บาท สมาชิกได้รับประโยชน์ 1,019,760 ราย วัตถุประสงค์ของการให้สินเชื่อประกอบด้วย เพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรม เพื่อประกอบอาชีพนอกภาคเกษตรกรรม และเพื่อความจำเป็นฉุกเฉิน
ขณะเดียวกัน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติได้ประสานภาคีเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อออกติดตามตรวจสอบการนำเงินไปใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และร่วมกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จัดอบรมเรื่องการพัฒนาอาชีพ การบริหารจัดการเงิน และการตลาด รวมทั้งติดตามประเมินผลเพื่อพัฒนาปรับปรุงการดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้วางแผนจัดทำโครงการตลาดชุมชนเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกที่ได้รับสินเชื่อนำผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโครงการมาจำหน่ายต่อไป
"รัฐบาลมั่นใจว่า โครงการนี้จะช่วยให้พี่น้องประชาชนมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อต่อยอดการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง เพิ่มความเข้มแข็งและช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจในระดับฐานรากซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
อินโฟเควสท์