- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Saturday, 24 October 2015 00:01
- Hits: 9475
สมคิด'สั่งผู้ประกอบการอสังหาฯ หาแนวทางสร้างบ้านต้นทุนต่ำให้ผู้มีรายได้น้อยเช่าระยะยาว เล็งสร้างโครงการบนที่ดินธนารักษ์-การรถไฟ
สมคิด สั่งผู้ประกอบการอสังหาฯ หาแนวทางสร้างบ้านต้นทุนต่ำให้ผู้มีรายได้น้อยเช่าระยะยาว 99 ปี เล็งสร้างโครงการบนที่ดินธนารักษ์-การรถไฟ กำชับให้ส่งแผนภายใน 1 เดือน ฟากนายกส.อาคารชุดไทยเผย แผนกระตุ้นอสังหาฯ จะดันภาพรวมตลาดฯ ปีนี้โต 13% จากเดิมคาดโต 0-5%
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และผู้ประการอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 17 ราย ว่า นายสมคิด ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เร่งหารือกันเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย เพื่อคนมีรายได้น้อย ทั้งทหาร ตำรวจ ประชาชน รวมไปถึงผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินได้ โดยเบื้องต้นได้ ให้ผู้ประกอบการรวมกลุ่ม เพื่อตั้งธุรกิจเพื่อสังคม หรือ โซเชียลเอนเตอร์ไพรส์ เพื่อสร้างบ้านราคาถูก ให้ผู้มีรายได้น้อยเช่าระยะยาว โดยพื้นที่ที่จะสร้างนั้นอาจเป็นพื้นที่จากกรมธนารักษ์ หรือ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.
“ปัจจุบันภาครัฐมีเครื่องมือให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้าน ผ่านโครงการเคหะฯ และบ้านมั่นคง ซึ่งมีค่อนข้างกำจัด ล่าสุดระบุแล้วว่าจะสร้างเพิ่มอีก 2.5 ล้านยูนิตในอีก 2 ปีข้างหน้า ส่วนแนวทางเพิ่ม คือ ให้เอกชนรวมกลุ่มสร้างบ้านราคาต่ำประมาณ 500,000-600,000 บาท ให้ผู้ที่มีรายได้น้อยเช่าในระยะยาว 99 ปี ซึ่งประชาชนที่มีเงินเดือนประมาณ 10,000 นิดๆ น่าจะพอส่งไหว”นายอภิศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวนั้น ได้สั่งการให้เอกชนไปหารือกันในกลุ่มย่อย จะมีแนวทางในการดำเนินการอย่างไรออกมาบ้าง ซึ่งคาดว่าจะได้ความชัดเจนภายใน 1 เดือน
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวที่อยู่ระหว่างการพิจารณานี้ จะช่วยเหลือทุกกลุ่มที่มีรายได้น้อย ไม่ใช่เฉพาะข้าราชการเท่านั้น รวมถึงช่วยเหลือกลุ่มที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อด้วย
นายประเสริฐ ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมานั้น สร้างความคึกคักให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างมาก และเรียกความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค ทำให้ในปีนี้มีการคาดว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงไตรมาส 4/2558 และส่งผลให้ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นจาก 0-5% เป็น 13% และในปีหน้าคาดว่าจะโต 5-10% จากเดิมคาดโต 0-5%
อย่างไรก็ตาม ในการทำโซเชียลเอนเตอร์ไพรส์ หรือ ธุรกิจเพื่อสังคมนั้น จะรับโจทย์เพื่อไปทำการบ้านต่อไป ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่ไม่มุ่งหวังกำไร จึงมีในเรื่องของข้อกฎหมายเข้ามีเกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง โดยยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวนั้น เป็นการลงขันกัน เพื่อวัตถุประสงค์ช่วยเหลือคนที่มีรายได้น้อยโดยเฉพาะ
ด้านนายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมบ้านจัดสรร กล่าวว่า มาตรการอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมานั้น ยอมรับว่า รัฐบาลเดินมาถูกทาง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เห็นได้จากในการจองในงานมหกรรมบ้านและคอนโดนั้น มียอดจองมากกว่าปกติ 1 เท่า และคาดว่าจะส่งผลดีต่อเนื่องถึงปีหน้าด้วย โดยการหารือในครั้งนี้ เพื่อรับฟังแนวทางในการดำเนินการช่วยเหลือ รวมไปถึงการทำธุรกิจเพื่อสังคมด้วย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย