- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Saturday, 10 October 2015 12:59
- Hits: 3875
รายการคืนความสุขให้คนในชาติ วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ 'คืนความสุขให้คนในชาติ' ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 เวลา 20.15 น.
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
ในช่วงวันที่ 13 – 21 ตุลาคม 2558 จะเป็น เทศกาล 'ถือศีลกินเจ' เป็นการเริ่มต้นประจำปีนี้ สำหรับวัตถุประสงค์ของการกินเจ ทุกท่านทราบอยู่แล้วมีหลากหลายกันไป ตั้งแต่กินเพื่อเป็นการทำบุญ กินเพื่อเว้นกรรม ไปจนถึงกินเพื่อสุขภาพ แต่การปฏิบัติตนระหว่างเทศกาลนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเลือกรับประทาน ที่สำคัญต้องรักษาศีลห้า รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ ทำบุญทำทาน และปฏิบัติตามหลักธรรมทางศาสนาพร้อมกันไปด้วย สำหรับในพื้นที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคก็จะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในห้วงเทศกาลนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลก็ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องน้องประชาชนให้ช่วยกันสอดส่องดูแลร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐในเรื่องของความปลอดภัยด้วย
สัปดาห์นี้ ผมมีเรื่องเรียนให้ทราบ ดังต่อไปนี้
เรื่องเศรษฐกิจ รัฐบาลมีนโยบายปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด เพิ่มการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน อาเซียน หาตลาดใหม่ ๆ แสวงหาความร่วมมือด้านการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช และพัฒนาในเรื่องของการสร้างนวัตกรรม และไปสู่การผลิตให้ได้ด้วย มีการใช้เทคโนโลยีให้มากขึ้น สร้างความเข้มแข็งให้กับทุกภาคส่วน ผมเรียนว่าเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย กับการที่เราอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้มานานหลายปี จนเมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เราก็เกิดความเดือดร้อนไปด้วย เพราะเราไม่สร้างความเข้มแข็งให้ตนเอง ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจไทย ทุกประเทศกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจเช่นเดียวกับเรา ต่างประเทศก็มากกว่า ต่างชาติก็เข้าใจเราและยังมีความเชื่อมั่น ขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรค เพื่อให้เราผ่านพ้นห้วงนี้ไปให้ได้
สำหรับเรื่อง เศรษฐกิจนี้ เช่นเดียวกัน ก็มีข้อมูลจากหลายภาคส่วนที่ประเมินมาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งรัฐและเอกชน สรุปได้ว่าปัญหาเศรษฐกิจไทยนั้น ปัจจุบันเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เริ่มจากการที่เราพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก แต่ไม่มีสินค้าและนวัตกรรมใหม่ ๆ สินค้าราคาสูง และเนื่องจากต้นทุนการผลิต ค่าแรงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ที่ผลิตสินค้าแบบเดียวกัน ทำให้สินค้าเรามีราคาสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน อีกอย่างหนึ่งคือประเทศไทยยังขาด brand ที่จะได้รับความนิยมสูง จึงต้องเร่งให้มีการสร้าง brand ใหม่ ๆ ที่มีอัตลักษณ์ของความเป็นไทยที่ไม่มีใครเหมือน เป็นจุดขาย
อีกประการหนึ่ง คือเศรษฐกิจระดับฐานรากยังไม่เข้มแข็ง โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาภัยแล้ง ราคาผลผลิตตกต่ำ และนโยบายของภาครัฐที่ผ่าน ๆ มานั้น ยังไม่ได้แก้ไขเรื่องระบบภาษีที่อาจจะมีความซับซ้อน มีขั้นตอน กฎระเบียบของทางราชการบางส่วน ที่ล้าสมัย ยุ่งยาก เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ให้กับนักลงทุน ในวันนี้ที่มีการแข่งขันกันมาก จำเป็นต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคได้
เรื่องการขาดความเชื่อมโยงระหว่างผลิตภัณฑ์กับการตลาด demand supply ซึ่งไม่สมดุลกันทั้งด้านวัตถุดิบ ปัจจัยการผลิต การกระจายสินค้าในตลาดชุมชน ในท้องถิ่น ในภูมิภาค ในกลุ่ม CLMV กลุ่มประชาคมโลกด้วย
เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่ผ่านมานั้น ก็มีหลาย ๆ คดีที่กำลังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทำให้การพัฒนาประเทศที่ผ่านมานั้นถดถอยไปมากเลย เรื่องระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่ผ่านมานั้นก็ยังไม่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจอื่น ๆ เท่าที่ควร นอกเหนือจากการให้บริการประชาชนแต่เพียงอย่างเดียว อย่าลืมว่าเราต้องทำเพื่อเกี่ยวกับเรื่องการอุตสาหกรรม และการลงทุนต่าง ๆ เหล่านี้
เรื่องมาตรการกีดกันทางการค้าในปัจจุบัน มีข้อตกลงทางการค้ามากมาย มีการรวมกลุ่มเป็นเศรษฐกิจเดียวของประชาคมโลก แต่ละประชาคม มีกลุ่มประเทศ มีการเจรจาข้อตกลงทางการค้าใหม่ ๆ ซึ่งทำให้อำนาจในการต่อรอง และราคาสินค้าของเราถดถอยลง ที่ผ่านมานั้น ภาครัฐ รัฐบาลนี้ทำหลายอย่าง แล้วก็แก้ไขปัญหาที่เป็นการเมืองมากเกินไป วิสัยทัศน์ที่ไม่ยั่งยืน และการปฏิบัติที่ไม่เป็นรูปธรรมเท่าที่ควร เราก็นำมาแก้ใหม่ทั้งหมด แล้วที่ตรวจสอบแล้ว บางอย่างนั้นก็ไม่เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คือทำเหมือนกัน แต่ทำไม่ครบ แล้ววัดผลสัมฤทธิ์ไม่ได้ แล้วหาความเป็นรูปธรรมได้น้อยในบางเรื่อง ผมไม่ได้ว่าทุกเรื่อง บางเรื่อง เรามีตั้ง 11 แผน มาแล้ว วันนี้กำลังเกิดแผนที่ 12 อยู่
อีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องความขัดแย้ง ความรุนแรง การประท้วงที่ยาวนาน ทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว เรื่องงบประมาณประจำปีของประเทศ ส่วนใหญ่เราก็ใช้ในการเป็นงบประจำ และก็เรื่องที่จำเป็น แต่ยังคงต้องจัดสรรงบประมาณด้านการลงทุน เสริมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย ซึ่งทำให้งบประมาณในการพัฒนาประเทศนั้น เรื่องการลงทุนและวิจัยพัฒนาไม่เพียงพออย่างที่ทุกคนต้องการ ท้องถิ่นก็เก็บภาษีได้ไม่มีคุณภาพมากนัก วันนี้ต้องปรับปรุงใหม่ทั้งระบบ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่อยากทำให้ประชาชนเดือดร้อนในช่วงนี้
เรื่องระบบฐานข้อมูล ยังใช้งานจริงไม่ได้ทั้งหมด ก็ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล มีผลลัพธ์น้อยต้องปรับปรุง ขอความร่วมมือประชาชนร่วมมือด้วย เพราะว่าการช่วยเหลือต่าง ๆ นั้นต้องแบ่งสรรปันส่วนให้ได้ ถ้าฐานข้อมูลไม่ครบก็ทำอะไรไม่ได้ บางอย่างมากเกินไป บางอย่างน้อยเกินไป ในภาพรวมของงบประมาณประเทศก็มีปัญหา
เรื่องการศึกษา สถาบันการศึกษา การให้ความรู้หรือว่าการสอนให้ทุกคนได้มีการเรียนรู้ด้วยเพื่อจะให้รับความเสี่ยงจากโลกในปัจจุบันนี้ สถานการณ์ต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยังไม่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นกำลังปรับปรุงในเรื่องของระบบการศึกษาของไทยด้วยในขณะนี้ ก็มีปัญหาอยู่เยอะแยะพอสมควร ก็ขอความร่วมมือเท่านั้นเอง ทำให้ไม่เกิดความเชื่อมโยงกัน ทั้งหมดที่ผมกล่าวมาแล้ว ภาคการผลิต การวิจัยพัฒนา ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศไทยเผชิญกับสถานการณ์ดังต่อไปนี้ รายได้ในการที่จะนำเข้าประเทศลดลง การค้าขายมีปัญหา งบประมาณไม่เพียงพอ ที่จะรองรับความเสี่ยง หรือการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งนี้ก็เกิดจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยในเวลานี้ เรื่องที่ 2 คือเราไม่สร้างความเข้มแข็งยั่งยืนให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอื่น ๆ ที่มีรายได้น้อยไม่ได้มีการส่งเสริม SMEs ให้เจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งจริงจัง และอื่น ๆ อีกมาก
สำหรับ การแก้ปัญหาของรัฐบาลในปัจจุบันนั้น มุ่งเน้นไปที่การนำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ เจริญเติบโตจากภายใน สร้างความเข้มแข็ง ความเชื่อมโยงต่าง ๆ ต้องถึงกัน และมีการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยทั้งภาคเอกชน ภาครัฐจะต้องเพิ่มในเรื่องของการวิจัยและพัฒนา ต่อยอดงานวิจัยสู่การผลิต และสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ รวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค ชายแดน อาเซียน ประชาคมโลก ไปพร้อม ๆ กันด้วย สิ่งเหล่านี้กำลังทำทั้งสิ้น ก็ถือว่าเป็นการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจมาระยะที่ 1 ด้วย
รัฐบาลต้องพยายามสร้างความเข้าใจกับเอกชน ประชาสังคม ประชาชน ซึ่งอาจจะเคยชิน กับการแก้ปัญหาโดยเงินอุดหนุนจากรัฐบาล อาจจะเป็นการรักษาคะแนนนิยม หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อย ๆ ส่วนผลสัมฤทธิ์ที่ยั่งยืนนั้น เป็นรูปธรรมได้น้อยมาก ต้องมีการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย เพื่อจะลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้ได้ เห็นใจพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อย
ในส่วนของการเดินหน้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจ AEC เป็นทั้งวิกฤติและโอกาส ถ้าหากว่าเราไม่เข้มแข็งเพียงพอ ที่ผมกล่าวมาแล้วนั้น ไม่เริ่มกัน ไม่ปฏิรูปกันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปโอกาสเหล่านั้น ก็จะกลายเป็นวิกฤติทันที จากการที่เราเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในปัจจุบัน สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน ประชาสังคมและประชาชน ที่เดิมอาจจะมีน้อยเกินไปบ้าง เพราะไม่เข้าใจกัน และวิธีการแก้ปัญหาอาจจะไม่เหมือนกับที่เราทำเวลานี้ ก็ต้องขอร้องพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายให้เข้าใจด้วย พยายามเข้าใจหน่อย
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลจะทำต่อไปก็คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศในทุกมิติ เพราะมีผลกระทบกับความมีเสถียรภาพ เพื่อจะสร้างความมั่นใจไว้เนื้อเชื่อใจกับการลงทุน เราต้องขับเคลื่อนประเทศชาติตามยุทธศาสตร์ “ประชารัฐ” โดยมีรัฐบาล เอกชน ประชาสังคม ประชาชน เดินไปด้วยกัน ร่วมมือกัน เพื่อช่วยกันหาเงินเข้าประเทศ นำมาใช้พัฒนาประเทศ บรรเทาความเดือดร้อน ดูแลประชาชนที่มีปัญหา บวกกับการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของสหประชาชาติด้วยในปัจจุบัน
นอกจากนี้ จะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการพัฒนาการท่องเที่ยวแนวใหม่ การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การขยายตลาดระดับกลาง ล่าง ในต่างประเทศ และการทำให้ประเทศไทยของเราเป็นทั้งศูนย์กลางการผลิตศูนย์กระจายสินค้า คลังเก็บสินค้า และพัฒนาการผลิตในขั้นที่ 2 โดยใช้วัตถุดิบจากทั้งในประเทศและนอกประเทศ ทั้งหมดควบคู่กันไป กับการพัฒนาการตลาดในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนการเร่งเจรจาข้อตกลงทางการค้าต่าง ๆ ก็มีหลายประเทศที่มีการเจรจาไปแล้ว ก็มีผลความก้าวหน้ามาตามลำดับ
เรื่องการประท้วง อันนี้มีผลกระทบกับการค้าการลงทุนของประเทศ แล้วก็ความสงบสุข ความมั่นคงของประเทศ ความมีเสถียรภาพทาการเมืองด้วย เพราะฉะนั้นการประท้วง หรือชุมนุมเรียกร้องใด ๆ ก็ขอให้ทุกคนได้คำนึงถึงกฎหมายที่มีอยู่ ประกาศไปแล้วทั้งสิ้น กฎหมายทุกอย่างมีการประกาศใช้ไปแล้วในปัจจุบัน ขอให้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ประเทศชาติมีปัญหา ทุกวันนี้เราต้องการความมีเสถียรภาพ ต้องการความสงบสุข ผมขอให้ทุกคนได้เข้าใจถึงปัญหาในอดีตที่ผ่านมาบ้าง อาจจะมีคนบางกลุ่ม ยังคิดว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อจะแสวงหาอำนาจ และจะสืบทอดอำนาจอะไร ก็พูดกันอยู่ทุกวัน เลิกคิดเถอะ เพราะฉะนั้นอาจจะมีคนบางคนที่อาจจะไม่มีคุณธรรม จริยธรรม คิดแต่เพียงอย่างเดียวว่า จะปลุกปั่น บิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างแต่ความเข้าใจผิด ให้กับประชาชน เกษตรกร ต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ ได้อย่างไร ทั้งนี้โดยไม่ได้ดูความบกพร่อง หรือความผิดพลาดของตนเอง ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น อาจจะไม่ถูกดำเนินคดี อะไรต่าง ๆ ก็แล้วแต่ ด้วยหลาย ๆ วิธีด้วยกัน หลายปีมาแล้ว
รัฐบาลนี้ เข้ามาแก้ไขปัญหาสะสมเหล่านั้นทั้งหมด เพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสงบเรียบร้อย ให้ทุกคนเคารพกฎกติกา เราก็จะอยู่กันอย่างมีเกียรติ มีความสุข ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน หากยังมีการให้ร้ายกันตลอดเวลา แล้วก็มีการใช้คำว่าประชาธิปไตยตลอด ทั้ง ๆ ที่บางอย่างนั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน โดยไม่คำนึงถึงความรับผิดชอบ หรือความเสียหายที่เกิดขึ้น ถ้าหากสร้างความเข้าใจผิดไปเรื่อย ๆ ประชาชนก็เข้าใจผิดไปแบบเดิมตลอดเวลา ก็จะเกิดขึ้นต่อไปวันหน้าอีก
พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่นั้น ผมคิดว่าทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้น จะยอมปล่อยให้คนที่บ่อนทำลายความมีเสถียรภาพ ความสงบสุขของพวกเรานั้นกระทำต่อไปอีกหรือไม่ ก็ขอให้ทุกคนระมัดระวังในเรื่องของการเสพสื่อ ในเรื่องของการรับฟัง การชี้แจง หรือการชักจูง ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ขอให้มีความร่วมมือกันในการสื่อสารออกไป ในสิ่งที่ดี ๆ มีสื่อที่ดี ๆ จำนวนมากหลายอย่างที่เสนอในข้อเท็จจริง บางอย่างก็เป็นเรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์ผมรับได้หมด เว้นแต่พูดในเรื่องที่ไม่จริง ไม่อยากให้ประชาชนเสพสื่อทุกสื่อแล้วไม่คิด ไม่ใช้สติในการพิจารณาใคร่ครวญ บางอย่างชัดเจน สื่อบางสื่อบางสำนักไม่เป็นกลาง เลือกข้างชัดเจน ท่านก็ย้อนกลับไปดูในช่วงที่ผ่านมานั้นทำอะไรบ้าง ช่วยเหลือประเทศชาติ บ้านเมืองอะไรบ้างหรือเปล่า ผมก็ไม่อยากจะกล่าวให้ใครเสียหายหรอก เพียงแต่ว่าท่านต้องฟังผมบ้าง
เรื่องของการใช้งบประมาณ รัฐบาลนี้เราพยายามไม่ใช้จ่ายงบประมาณในลักษณะประชานิยม หลายคนก็บอกว่าประชานิยมดีบ้าง ไม่ดีบ้างอะไรต่าง ๆ ที่ดี ๆ ก็ดีไป ที่ไม่ดีมันก็สร้างปัญหากับงบประมาณของประเทศในอนาคตด้วย เอาเงินในอนาคตมาใช้ แล้วก็ทุ่มลงไปแก้ปัญหาให้อย่างไม่ยั่งยืนก็เกิดอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วเมื่อไรมันจะพอ เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องการคะแนนเสียง เราไม่ต้องการที่จะจัดสรรงบประมาณลงไปเฉพาะพื้นที่ พยายามจะกระจายไปหลาย ๆ ที่ก็มากบ้างน้อยบ้าง ตามวามเดือดร้อน เราไม่ใช่นักการเมือง ทราบดีอยู่แล้ว เราพยายามจะดูแลประชาชนทุกหมู่เหล่า ให้เกิดความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำให้ได้อย่างยั่งยืน
หากพวกเรายังไม่เข้าใจกัน แล้วก็ยังเรียกร้องให้มีการใช้จ่ายงบประมาณแบบเดิม ๆ ซึ่งผมกล่าวถึงปัญหาที่ผ่านมาแล้ว เยอะแยะไปหมด ก็จะทำให้บ้านเมืองเราไม่สงบสุขด้วย ไม่ทำให้ประชาชน เกษตรกรเข้มแข็ง ไม่มีการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ งบประมาณก็ไม่เพียงพอ หาเงินไม่ได้ แต่ใช้มากกว่าที่หาได้ การขับเคลื่อนประเทศ ก็มีปัญหาหมด ต่อไปเราก็จะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว เงินก็ไม่พอ ล้มเหลว ใช้จ่ายอะไรก็ไม่ได้ ต่อไปเราจะอยู่กันอย่างไร ลูกหลาน ทั้งที่เกิดมาแล้ว ยังไม่ได้เกิด ยังไม่โตอะไรเหล่านี้ เพราะฉะนั้นหลายอย่างที่รัฐบาลนี้ทำ และเราจะอยู่กันอย่างไรต่อไป หลายอย่างถูกกล่าวหาว่าเป็นการทำประชานิยมเหมือนกัน
ผมขอเรียนว่าคงไม่ใช่ทั้งหมด บางเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ท่านทำไว้แล้ว ผมก็จำเป็นต้องทำต่อ แต่บางเรื่องที่แก้ไขได้ ผมก็ต้องแก้ไข รัฐบาลนี้จะพยายามไม่สร้างปัญหากับงบประมาณของประเทศ เพราะไม่ต้องการให้ใครมาชอบผม ชอบรัฐ ผมต้องการให้ทุกคนเข้าใจรัฐมากกว่า เราต้องบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยการสร้างความเข้มแข็งด้วย สิ่งที่ท่านทั้งหลายทำกันไว้ในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจจะเป็นปัญหาอยู่บ้างในเรื่องของการสร้างความเข้มแข็งย่างยั่งยืนให้กับประชาชน ทำให้เกิดการเรียกร้องไปทุกกลุ่ม เพราะว่าปัญหาเดิมซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าทุกปี วันนี้เราพยายามจะไม่ให้เกิดขึ้น แต่ต้องอาศัยเวลาในการแก้โครงสร้างทั้งหมด เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ต้องขอความเข้าใจ ขอความร่วมมือกับรัฐให้มากขึ้น
เรื่อง Single Gateway ผมขออนุญาตเรียนอีกครั้งเดียว ว่าเป็นเพียงการหารือกันเท่านั้น ผมได้กล่าวไว้แล้ว ก็เอามาแพร่กันเฉพาะในส่วนที่ไม่ใช่ใจความสำคัญ ก็คือผมกล่าวว่า ต้องเคารพในสิทธิมนุษยชน ต้องเป็นไปตามกฎหมายถ้าทำได้ก็ไปหารือกันมา เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เป็นไปตามกฎหมาย ไปละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นยังไม่ได้สั่งอะไรได้ทั้งสิ้นเลย เพียงแต่ให้ไปหารือมา เพราะปัญหาวันนี้ เราคิดแต่เพียงว่าเราจะป้องกัน และสร้างความปลอดภัยในประเทศของเราได้อย่างไร ผมไม่ได้ห่วงว่าจะมีไว้เพื่อปิดปากประชาชน เพื่อจะรักษาอำนาจต่อไป ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย ถ้าคิดแบบนั้น ผมไม่ทำแบบนี้อยู่แล้วทุกวันนี้
วันนี้ ปัญหาของเราคือภัยคุกคามทางอินเตอร์เน็ต แล้วก็โซเชียลมีเดียหลาย ๆ อัน มีอันตราย แล้วก็ไซเบอร์อีก ที่มีการแฮ็คข้อมูลอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องไปช่วยคิดมา ผมก็ยังนึกไม่ออก แต่ส่วนที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการสื่อสารต้องมาช่วยผม ในการทำงาน โดยเฉพาะในเรื่องของการเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ อาจจะต้องรับผิดชอบมากขึ้น ในการที่จะกลั่นกรองทุกอย่างที่ผ่านมาจากต่างประเทศ เพราะวันนี้มีหลายบริษัทด้วยกัน ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยรับผิดชอบ พอสอบถามไป อะไรไปแล้วก็ตอบไม่ได้ แสดงว่าไม่เอาใจใส่กัน เพราะฉะนั้นบ้านเมืองเราก็อันตราย การปลูกฝังคติที่ผิด ๆ ทัศนคติที่ผิด ๆ ก็เกิดขึ้นมาตลอดเวลา ก็ต่อต้านกันอยู่แบบนี้ วันหน้าก็เป็นแบบนี้อีก ยิ่งกว่านี้ด้วยเพราะการเมืองเข้ามาแล้ว เขาก็ต้องพยายามสร้างคะแนนเสียงให้ได้มากที่สุด แต่ผมก็ไม่ได้ไปว่าทุกคน มีบางคนเท่านั้นเองที่พยายามจะพูดบิดเบือนอยู่ตลอดเวลา
เรื่องของการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนราชการ ข้อมูลส่วนบุคคล เราจะดูแลอย่างไร เยาวชนของเราจะปลอดภัยได้อย่างไรในอนาคต ที่จะไม่ถูกครอบงำ จากข้อมูลข่าวสารที่ไม่ดี ไม่ถูกต้องซึ่งมีมากมาย ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ เพราะในประเทศก็คงทำไม่ได้มากนักเพราะมีหน่วยราชการดูแลอยู่แล้วส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นเราไม่มีนโยบาย หรือแนวคิดที่จะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของใครเลย วันนี้ถึงเราจะเข้ามาแบบนี้เราก็รู้ว่าเราควรจะต้องทำอย่างไร ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วย ถ้าท่านไม่ห่วงลูกหลานของท่านก็แล้วแต่ แต่ผมห่วงแทนท่าน คนที่ออกมาต่อต้าน ผมอาจจะใช้คำว่าท่านอาจจะไม่เข้าใจ ท่านอาจจะถูกบิดเบือนโดยคนไม่กี่คน เพราะฉะนั้นคนที่ไม่เห็นด้วย ก็ไปช่วยกัน ช่วยคิดออกมา แล้วสร้างพลัง ความรู้ ความสามารถของท่านที่มีอยู่มากมาย ส่วนใหญ่ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็ไปใช้ในทางสร้างสรรค์ รวมพลังกันต่อต้านเว็บผิดกฎหมาย เว็บหมิ่นสถาบัน เว็บอะไรเหล่านี้ ในเมื่อรัฐบาลทำอะไรก็ไม่ได้เลย แล้วกลับมาโทษรัฐบาลอีก ก็เป็นปัญหาอยู่ดี
เพราะฉะนั้นช่วยกันคิด หาทางเลือกใหม่ ๆ มาเสนอทางแก้ปัญหาสังคม สร้างการรับรู้ รวมพลัง รณรงค์เชิญชวนคนในสังคมให้ตระหนักถึงผลเสียของการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด ไม่ใช่หลาย ๆ คนก็อาจจะบ่น แล้วกด F5 มาถล่มเว็บอะไรเหล่านี้ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนด้วย เพราะฉะนั้นอย่าไปส่งเสริม อย่าไปร่วมมือ ในเมื่อผมประกาศไปแล้วว่า ผมไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งสิ้น ก็จะทำไปทำไม ผมไม่เข้าใจ คนที่เขาเดือดร้อนอีกเท่าไร เข้ามาเป็นแสน ผมก็รู้ แต่คนที่เขาเดือดร้อนอีกเท่าไร กี่ล้านคนที่เขาต้องทำการค้า การลงทุน ผมว่าประท้วงแบบนี้ก็เหมือนเดิม ประท้วงมาก ๆ ความรุนแรงเกิดขึ้น ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น มันก็บานปลายไปทุกที เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ท่านช่วยผมคิด
ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย จะมีอิสระไปเสียทุกอย่างคงไม่ได้ เพราะทุกประเทศในโลกนี้เขาก็มีกฎหมายเหมือนกัน บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีทัศนคติอยากทำร้ายประชาชนอยู่แล้ว จะทำไปทำไมคนไทยด้วยกัน แต่เขามีหน้าที่ของเขา ถ้าเขาไม่ทำ เขาก็ละเว้นเจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องยึดถือกฎหมาย ยึดถือมาตร 157 ด้วย ที่จะต้องระมัดระวังเรื่องการละเว้นไม่ทำหน้าที่ อะไรที่ผิด อะไรที่ไม่ถูกต้อง มีข้อห้ามไว้แล้ว ก็อย่าฝืนเลย อย่ากระทำเลย เพื่อให้ประเทศมีเสถียรภาพและความเข้มแข็ง ประเทศอื่น ๆ นั้น ประเทศใหญ่ ๆ ประเทศที่เป็นมหาอำนาจนั้น เขามีเสรีภาพ เสถียรภาพ ไปด้วยกัน สมดุลกันพอดี เพราะว่าเขามีการศึกษาที่ดี ทั่วถึง มีวิสัยทัศน์ ประชาชนนั้นคิดมีสติ ในการที่จะใคร่ครวญ เราก็พร้อมแล้ว เพียงแต่ว่ามีคนไม่ดีที่ยุแหย่ ที่บิดเบือนอยู่ตลอดเวลา ผมขอร้องอย่าทำลายประทศของท่านอีกต่อไปเลย
ประเทศของเขานั้น เคารพในกฎหมาย ในกติกาบ้านเมือง แต่เราจะไปเอาตัวอย่างแบบเขา เสรีภาพแบบเขาได้หรือไม่ วันนี้ต้องใช้กฎหมาย ผมไม่อยากใช้อำนาจของผม ใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน ไม่อย่างนั้นก็ขัดแย้งกันไม่เลิก ใครจะมาลงทุน ค้าขายกับเรา รัฐบาลก็ไม่มีเงิน หาเงินไม่ได้ มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน หรือมีรายได้น้อยไม่ได้อีก อย่าลืมประเทศของเรา มีผู้มีรายได้น้อยเกือบ 50% ปานกลางประมาณ 40% ได้ รายได้สูงประมาณ 10% เท่านั้นเอง เราต้องยกระดับทุกอย่างให้สามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นไปตามเกียรติยศและศักดิ์ศรีของแต่ละคน ๆ ความพอเพียง พอพัฒนาไปเรื่อย ๆ วันหน้าเราก็เป็นประเทศที่มีรายได้สูงเอง แต่ต้องใช้เวลา เพราะแต่ก่อนที่ผ่านมา ใช้เวลาหลายสิบปีเหมือนกัน
เรื่องสถานการณ์ภัยแล้ง วันนี้เป็นปัญหาเร่งด่วน ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่วันนี้ ไม่ใช่แก้ปัญหาวันนี้ เป็นการเตรียมการเพื่ออนาคตอีก 10 ปี 20 ปี 30 ปี ข้างหน้า มีหลายปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วในวันนี้ คือปรากฎการณ์เอลนิโญ ฝนไม่ตก ตกล่า ตกน้อย หมดก่อน เพาะอะไร เพราะอาเซียนนั้นเป็นประเทศที่ได้ฝนมาจากป่า ป่าที่สมบูรณ์ วันนี้ป่าเราหายไปเยอะมาก จากการดูแลที่ไม่ดีเท่าที่ควรในห้วงที่ผ่านมา วันนี้เราก็ต้องมาสร้างป่ากันใหม่ จัดระเบียบประชาชนที่อยู่ตามที่ที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องขอร้องกัน ถ้าทุกคนใช้ประชาชนมาเคลื่อนไหวแล้วบอกเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน แต่ท่านก็อย่าลืมไปว่าสิ่งที่ท่านทำวันนี้ผิดกฎหมายทั้งสิ้นที่ผ่านมา วันนี้ถ้าเรายังปล่อยไว้ต่อไป ก็จะบานปลายไปเรื่อย ๆ ก็จะเกิดปัญหาซ้ำซ้อนหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร แล้วเราต้องเตรียมมาตรการป้องกันไว้ล่วงหน้าด้วยว่าอนาคต ถ้าโลกเปลี่ยนแปลง อากาศเปลี่ยนแปลง ฝนไม่ตกเลย ไม่ตกบ้านเราเลย มีแต่แห้งแล้ง จะทำอย่างไร ต้องเตรียมแหล่งน้ำไว้ล่วงหน้าหรือไม่ วันนี้ก็ขุดลอกคูคลองต่าง ๆ ไว้เยอะแยะ ฝนตกน้อยน้ำก็ยังไม่มี ก็หวังแต่เพียงว่าฤดูต่อไป ฝนจะตกมากขึ้น หรือดีเปรสชั่น พายุอะไรเหล่านี้เข้ามาก็หวังให้ฝนเข้า ส่วนใหญ่ก็มาทั้งน้ำ ทั้งลม แล้วก็เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนด้วย ทำให้น้ำท่วมบ้าง อะไรบ้าง ที่ท่วมก็ท่วม ที่แล้งก็แล้ง
วันนี้ ต้องคิดเรื่องนี้แล้ว ถ้าทุกคนยังมุ่งหวังแต่เพียงว่าแก้ปัญหาเป็นคราว ๆ แล้วกัน ผมว่าวันหน้าปัญหาจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นผมให้ระมัดระวังจากเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนเมษายนปีหน้าด้วย ว่าจะเป็นอย่างไรสถานการณ์ในช่วงนั้น จะเป็นตัวชี้วัดว่าสถานการณ์น้ำของเราจะเป็นอย่างไร ในปี 2559 ต่อไปด้วย แล้วฝนฤดูหน้าจะเป็นอย่างไร ล่าสุดได้รับทราบจากประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีรับสั่งให้จัดเตรียมแหล่งน้ำและทำแก้มลิงในโครงการพระราชดำริทั่วประเทศ รวมทั้งโครงการที่มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ร่วมกับกองทัพบกในการแก้ปัญหาเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแก่พสกนิกรชาวไทย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงห่วงใยพวกเราเสมอ แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะมีคนที่มาบิดเบือน ปลุกปั่นไม่ให้ทุกคนยอมรับความจริงว่าน้ำน้อยอะไรอย่างไรแล้วแต่ สภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง มีทั้งโลก เป็นปัญหาทั้งโลก
รัฐบาลก็ไม่สามารถจะหาน้ำที่ไหนมาได้ เพราะว่าเราสร้างที่เก็บกักน้ำไว้มาก องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างไว้อีกมาก วันนี้ก็ทำเพิ่มอีกมาก ตามแนวพระราชดำริด้วย แต่น้ำไม่มา ก็เก็บกักน้ำได้น้อยเท่านั้นเอง ก็ช่วยกันแล้วกัน รักษาป่า แล้วก็ทำอย่างไรใช้น้ำอย่างประหยัด ใช้ตามคำแนะนำของราชการ ของรัฐบาล วันนี้ฝนตกน้อย หรือฝนตกใต้เขื่อน เราก็ได้พยายามแก้ปัญหาทั้งเร่งด่วน ระยะสั้น ระยะยาว วันนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้อนุมัติโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ได้กำหนดแนวทางขึ้นมา 8 มาตรการ 55 โครงการ เป็นเงินหลายหมื่นล้านบาท เป็นการบูรณาการงานของทุกกระทรวง ซึ่งประกอบไปด้วย การขุดแหล่งน้ำเพิ่มเติม การขุดลอกคูคลอง การขุดน้ำบาดาล การจ้างงาน การลดต้นทุนการผลิต การปรับเปลี่ยนการปลูกพืช สนับสนุนน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ ขยายเวลาปฏิบัติการฝนหลวง ทุกอย่างต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้นเลย เพราะว่าเราทำเองไม่ได้ทั้งหมด ก็คงต้องมีเอกชนอะไรต่าง ๆ มาร่วม ในการปฏิบัติงานด้วยโดยใช้งบประมาณ ที่ทำให้โปร่งใส สุจริตเท่านั้นเอง ผมก็เป็นห่วงเหมือนกันว่าวันหน้ารัฐบาลที่มาแล้วจะทำต่อไปหรือไม่ ผมก็คงแล้วแต่ท่าน อย่างที่บอกแล้วว่าผมไม่อยากจะบังคับใครอยู่แล้ว ผมก็ทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นวันนี้ก็อยากให้พวกท่านที่จะต้องเข้าไปสู่การเลือกตั้ง ออกมาพูด ออกมาอธิบายสังคมว่าท่านจะทำอย่างไรเมื่อท่านเป็นรัฐบาล ผมขอย้ำให้ท่านพูดเรื่องนี้แล้วกัน แล้วท่านก็หาว่าผมมามอมเมาประชาชนใช้สื่อรัฐอะไรต่าง ๆ ผมมอมเมาตรงไหน ผมไม่เข้าใจ ผมทำให้ประชาชนนั้นมีความรู้ เรียนรู้จากข้อเท็จจริง แล้วจะร่วมมือกันอย่างไร
เรื่องของการสร้างความเข้มแข็งทางภาคการเกษตร ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นข่าวที่ส่งเสริมสิ่งดี ๆ ของเด็กรุ่นใหม่ในภูมิภาค ที่รักถิ่นฐาน รักการเกษตร อย่างกลุ่ม “5 พระกาฬ อีสานเหนือ คนรุ่นใหม่ หัวใจรักควาย” ที่ทำให้หลาย ๆ คน ได้เข้าใจว่า การเลี้ยงควายในแดนอีสานนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่ล้าสมัย แถมยังสร้างรายได้เพิ่มเติม วันนี้ควายในประเทศน้อยมากเลย ก็เป็นทั้งอาหารด้วย เป็นทั้งแรงงานด้วยในการทำไร่ทำนาของเราในอดีตที่ผ่านมา แล้วก็เป็นการสร้างรายได้ให้กับครอบครัวชาวไร่ชาวนามาเป็นจำนวนมากอีกด้วย เช่นเดียวกันโครงการดี ๆ ที่ร่วมกันระหว่างภาครัฐ มหาวิทยาลัย องค์กรเอกชน และประชาสังคม ถึงเกือบ 20 องค์กร ในการที่จะร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นและภูมิภาค
ผมอยากให้เกษตรกรเพิ่มการเลี้ยงสัตว์ในประเทศของเราให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วัว ควาย แพะ แกะ อื่น ๆ ด้วย เพราะน้ำเราน้อยลง ในอนาคต เราอาจจะต้องเลี้ยงสัตว์ให้มากขึ้น ใช้น้ำน้อยลง ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยลง โดยต้องดูทั้ง demand supply การตลาดด้วย อาจจะทำให้รายได้สูงขึ้นกว่าทำการเกษตรอย่างเดียว หรือจะเลี้ยงเสริมก็ได้ จะได้ไม่มีผลกระทบจากรายได้ที่จะเลี้ยงชีพแต่ละวัน ๆ ไปอีกด้วย จะได้สามารถที่จะรักษาชีวิตความเป็นอยู่ของท่านให้ดีขึ้น ไม่ให้ตกต่ำไปกว่าเดิม เดิมก็ต่ำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องทำทั้งเกษตรกรรมและปศุสัตว์ด้วย ผมเห็นข่าววันนั้นเร็ว ๆ ในทีวี ที่อำเภอศรีเชียงใหม่ มีการผลิตเนื้อ ที่เรียกว่าเนื้อ วากิว แบบที่ประเทศญี่ปุ่นทำ คือเอาวัวมาขุน มีวิธีการเลี้ยงอะไรต่าง ๆ ให้มีไขมันแทรกตามเนื้อ ก็ใกล้เคียงกับต่างประเทศที่มีราคาสูง วันนี้เห็นบอกว่า ขายได้ตัวละแสน สองแสน ก็ลองติดตามดู รู้สึกจะที่ศรีเชียงใหม่
อีกเรื่องหนึ่ง ก็คือโครงการ'คนกล้าคืนถิ่น'ได้มีการรวมกลุ่มประชาชนคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ กว่า 700 คน เข้าร่วมโครงการกลับคืนสู่ถิ่นในรุ่นที่ 1 เพื่อจะนำความรู้ด้านการเกษตร ภายใต้แนวพระราชดำริเกษตรผสมผสาน และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ผ่านการกระจายความรู้ เป็นพี่เลี้ยงให้กับเกษตรกรในท้องถิ่นทั่วประเทศ ด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูลแบบพี่สู่น้อง สอนให้เกษตรกรรู้จักการดำรงชีวิตแบบพอเพียง เริ่มจากสิ่งง่าย ๆ สิ่งที่มี ไม่ใช่ไปเริ่มในสิ่งที่ไม่มีโดยร้องขอจากรัฐ ซึ่งรัฐก็มีให้ไม่ได้ ต้องดูแลที่ตัวเราก่อน ให้สามารถมีกินมีใช้อย่างพอเพียง ช่วยเหลือตัวเอง รัฐก็จะมาเสริมให้ ส่วนที่ขาด ถ้าไม่ช่วยตัวเองเลย แล้วรัฐอย่างเดียวดูไม่ได้ทั้งหมดหรอก คนตั้งหลายสิบล้าน เช่นการปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ ของเดิมก็มีอยู่แล้ว
วันนี้ ถ้าเราลดรายจ่ายของเราเอง ทำบัญชีครัวเรือนก็สามารถดูได้ว่าเราใช้เงินจำเป็นหรือไม่จำเป็น เขาเรียกว่ามีภูมิคุ้มกัน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วย การทำปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ที่เรียกว่าปุ๋ยเฉพาะพื้นที่ ตามความต้องการมีการสำรวจดิน แล้วก็เอาปุ๋ยมาผสมเอง ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ต้นทุนลดลง ขายได้ส่วนต่างก็มากขึ้น
เรื่องของการเลี้ยงสัตว์ การปลูกป่า การรักษาป่าต้นน้ำ การนำทรัพยากรธรรมชาติ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สิ่งเหล่านี้ จะช่วยในการประหยัดต้นทุนให้กับเกษตรกร ทำให้เกษตรกรมีกินมีใช้ มีรายได้เพิ่มขึ้น อยากให้เรียนในท้องถิ่น มีการศึกษาเล่าเรียนตามวิทยาลัยต่าง ๆ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่อยู่ตามภาคต่าง ๆ โรงเรียน คือถ้าเข้ามาในกรุงเทพฯ ทั้งหมด หรือเข้ามาเมืองใหญ่ทั้งหมด ท้องถิ่นก็ไม่ได้รับการพัฒนา วันนี้เราก็เร่งรัดพัฒนาในท้องถิ่นด้วย เพราะฉะนั้นต้องทำงาน ต้องเรียนหนังสือแล้ว ทำงานในบ้านเกิดของตัวเอง จะได้พัฒนาบ้านเกิดของตัวเองให้ดีขึ้น ไม่อย่างนั้นก็อยู่กันไม่ได้ สังคมเมืองต้องเริ่มขึ้นในชนบทด้วย ในวันนี้ก็ต้องมีทั้งการพัฒนาสิ่งแวดล้อมไปด้วย แล้วไม่สร้างมลภาวะ ในด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีการพัฒนาเกิดขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แล้วก็เสริมอาชีพการเกษตรด้วยแรงงานที่จะไปทำงานตามโรงงานต่าง ๆ ก็ฝากพ่อแม่พี่น้องช่วยคิดกันด้วย อย่าขัดขวางกันนักเลย ไม่อย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง ปัญหาก็เยอะ เงินก็น้อย
ผมก็อยากให้มีโครงการดี ๆ เกิดขึ้น แสดงถึงความเป็น “ประชารัฐ” เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ประชาชน องค์กรอิสระต่าง ๆ และภาคเอกชน และภาคประชาสังคมก็จะรวมพลังกันเป็นประชารัฐที่ทุกคนร่วมใจกัน ในการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนต่าง ๆ เช่นนี้อีกหลาย ๆ โครงการ
ที่ผ่านมานั้น ผมได้เริ่มส่งทีมงานลงไปดูในพื้นที่หลาย ๆ จังหวัด ทั้งในภาคใต้ และภาคอีสาน เพื่อให้เข้าใจถึงสภาพปัญหาที่แท้จริงของเกษตรกร โดยเฉพาะสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่เข้าใจนโยบายของรัฐในปัจจุบัน และพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาล กำลังใจต่าง ๆ ที่ส่งมาให้ผม ส่งให้รัฐบาลมากมาย พร้อมทั้งปัญหาข้อขัดข้อง ผมรับฟังทั้งหมด ผมก็พยายามที่จะแก้ปัญหาไปตามลำดับความเร่งด่วน เพราะว่าอย่างที่เรียนแล้วว่างบประมาณเราก็มีจำกัด รัฐบาลก็จะรีบพิจารณา หาหนทางแก้ไข ถ้าระยะที่ 1 ไม่ได้ ก็ต้องรอระยะที่ 2 มีระยะ 1-2-3 อยู่แล้ว ในทุกเรื่อง จัดลำดับการดูแลไม่ได้จัดลำดับความเร่งด่วนเป็นพื้นที่ เพราะว่าต้องการให้มาชอบผม ไม่ใช่ เป็นจัดลำดับตามความเดือดร้อน ผมทราบว่าเกษตรกรหลาย ๆ ท่าน ได้มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มเกษตรกร รวมพื้นที่เป็นแปลงขนาดใหญ่ เพื่อจะลดต้นทุนอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ตามนโยบายรัฐบาล แล้วจะมีการจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนากลุ่มของตนให้เข้มแข็งขึ้น ดีใจ หลายสหกรณ์ได้มีการพัฒนาจนสามารถที่จะมีการแบ่งปันผลกำไรกันได้
อีกอย่างหนึ่ง ที่รัฐบาลนี้พยายามจะทำอยู่คือการ สร้างระบบวิสาหกิจชุมชน และธุรกิจเพื่อสังคม โดยให้เกษตรกรเป็นผู้ดำเนินการเองให้ได้ในทุกพื้นที่ ก็ขอให้กลุ่มสมาชิกเกษตรกรของตนเองนั้นได้ร่วมมือกัน เรียนรู้ แล้วปรึกษาทางราชการ ก็จะได้ทำให้ท่านมีอำนาจต่อรอ กับพ่อค้าคนกลางด้วย รวมทั้งมีการพัฒนาหาตลาดใหม่ ๆ ให้กับตนเองได้ ทำให้ราคาผลผลิตสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีกลุ่มเกษตรกรอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้รับการจดทะเบียน หรือจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เรื่องนี้สำคัญ SMEs ก็เช่นกัน ถ้าหากพวกท่านไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว จะทำให้การช่วยเหลือของภาครัฐก็จะทำได้ยาก เพราะเป็นการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ถ้าท่านจดทะเบียนแล้ว อะไรแล้ว ก็พอจะจัดระเบียบ ลำดับความเร่งด่วนไปช่วยเหลือได้ ขอร้องอย่าเกรงว่ารัฐบาลจะไปรีดภาษีจากท่าน อะไรท่านเลย ท่านต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่อย่างไร
รัฐบาลก็จะประคับประคองท่านในระยะต้นตรงนี้ เมื่อท่านเข้มแข็งแล้ว ก็มาเองภาษี ทุกท่านก็พร้อมที่จะจ่ายให้อยู่แล้ว วันนี้ไม่พร้อมผมก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรท่าน ผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐในทุกพื้นที่ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์จังหวัด เกษตรอำเภอ เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด หรืออุตสาหกรรมจังหวัด ต้องลงไปในพื้นที่ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้บูรณาการทุกหน่วยงานให้ได้ แล้วสร้างความเข้าใจกับเขา คสช. จะลงไปช่วยด้วย ในเรื่องของการทำความเข้าใจ ให้ความรู้ รวมไปถึงเรื่องของการจดทะเบียน ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก เอกสารราชการมีอยู่เยอะแยะไปหมด อ่านก็ไม่เข้าใจ อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ผมสั่งแก้ไขไปแล้ว ต้องใช้เวลาในการแก้พอสมควร บางอย่างก็ยากเกินไป
ในส่วนของการเดินทางไปประชุมที่สหรัฐอเมริกา หรือการประชุม UNGA ก็ถือเป็นความสำเร็จของประเทศเรา ไม่ใช่ของผม การรับรางวัลต่าง ๆ นั้น ก็มีคนไปวิพากษ์วิจารณ์กันเสีย ๆ หาย ๆ พยายามให้ผมเสียเครดิตให้ได้ ผมขอเรียนว่าประเด็นสำคัญคือ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ที่ประชุมก็ให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ ให้ผมได้มีโอกาสได้กล่าวถ้อยคำต่าง ๆ ที่อยากจะพูดให้เขาฟัง แล้วก็ได้รับความไว้วางใจจากประเทศสมาชิกในการให้เป็นประธานกลุ่ม G77 ก็เป็นการ ไม่ใช่การหมุนเวียนหรอก เป็นเรื่องของการคัดเลือกกันในปีนี้ ว่าประเทศใดจะเหมาะสม อาจจะไม่ใช่เพราะผมหรอก ก็ขอให้มองมุมนี้กันบ้าง ทุกประเทศเขาจะให้โอกาสประเทศไทยอยู่เสมอ ท่านอย่าทำลายโอกาสของประเทศไทยกันเองก็แล้วกัน ผมก็พยายามประคับประคองทุกอย่าง ให้ผ่านพ้นห้วงเวลาวิกฤติเหล่านี้ไปให้ได้ เมื่อถึงวันหน้ามีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แล้ว มีการเลือกตั้งแล้วความสัมพันธ์ประเทศของเราอย่างดีดังเดิม แต่วันนี้ ท่านทำลายกันวันนี้ วันหน้าถึงจะเลือกตั้งมาแล้ว ความน่าเชื่อถือก็หมดไปอยู่ดี ต้องช่วยกัน ช่วยหยุดคนที่ทำเหล่านี้ด้วย
หลังจากที่กลับมาแล้วก็มีรายงานดี ๆ ของทางสหรัฐฯ ว่าประเทศไทยนั้นมีความก้าวหน้ามาก เกี่ยวกับสถานการณ์และการจัดการการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบเลวร้ายที่สุด ประจำปี ค.ศ. 2014 ซึ่งได้ประเมินความพยายามและผลการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวของ 140 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยได้รับการปรับระดับสูงขึ้นจากระดับที่มีความก้าวหน้าปานกลาง เป็นระดับที่มีความก้าวหน้าอย่างสำคัญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เป็น 1 ใน 13 ประเทศที่ได้รับการปรับระดับให้อยู่ในกลุ่มนี้ ผมเชื่อว่าเป็นเพราะความพยายามของเราทุกฝ่าย ทุกพวก คนไทยทุกคน ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างบูรณาการเป็นรูปธรรม ร่วมมือซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาแรงงานเด็ก การออกกฎกระทรวงแรงงานกำหนดอายุขั้นต่ำของแรงงานในภาคเกษตรและภาคประมง การจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลไทยเพื่อยุติการใช้แรงงานเด็กและสนับสนุนโครงการต่างๆ ของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การตรวจแรงงานเชิงรุกโดยทีมสหวิชาชีพและ การปฏิบัติตามแผนระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2552-2557 และ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2558-2563 อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทำตามเขาประเมิน แต่เป็นสังคมโลก เราก็จะต้องทำ แต่ความมุ่งหมายหลักจริง ๆ แล้ว ไม่ใช่ทำเพราะถูกประเมินดี หรือไม่ดี ไม่ดีก็แก้ไขไป แต่สิ่งที่เราทำวันนี้ เพื่อจะแก้ไขให้เกิดความเท่าเทียม เพื่อประโยชน์สุข แล้วก็ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกันของคนในชาติ โดยเฉพาะเยาวชนนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง มีผลกระทบต่อหลาย ๆ เรื่องในอนาคตด้วย
สำหรับ สื่อ ก็ขอร้องไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ทั้งไทย และต่างประเทศ ถ้าอ่าน ถ้าฟังแล้ว คิดกันก่อนว่าจะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี สอบถามผมมาก็ได้ มารัฐบาล มาสำนักนายกรัฐมนตรี มาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้ ผมก็จะตอบให้ แล้วก็จะให้สำนักโฆษกได้ชี้แจง เพราะบางคน บางราย หรือ คอลัมนิสต์บางท่าน ก็ยังเลือกข้างเหมือนเดิม ประชาชนก็แตกแยกเหมือนเดิม ซึ่งก็น้อยลง วันนี้ก็ยังทำอยู่ ผมไม่ทราบว่าเพราะอะไร ท่านไม่รักประเทศไทยกันบ้างหรืออย่างไร พอพูดอะไรไปท่านค้านได้ทุกเรื่องไป ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องที่ดี ๆ ท่านก็ไปโยงอย่างเดียวเท่านั้นเอง ว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วเป็นอย่างไร ประชาธิปไตยที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แล้วผมทำวันนี้แล้วเป็นอย่างไร ท่านไปคิดเอาเอง เพราะฉะนั้นไม่ทราบว่าท่านมองหลายเรื่อง มองอย่างไร หรือไม่ได้มองหรือคิดเอาเอง เขียนโน่นเขียนนี่ไป บางอย่างทำไปหมดแล้ว ท่านยังมาติติงผมอยู่
ขอให้น้อง ๆ ผู้สื่อข่าวรุ่นใหม่ ๆ หรือคอลัมนิสต์ใหม่ ๆ ให้มีจรรยาบรรณ เป็นสื่อที่ดี ส่วนใหญ่แล้วผมแตะต้องไม่ค่อยได้อยู่แล้ว แต่ผมก็จำเป็น อยากให้น้อง ๆ ทุกคน อยากให้คนรุ่นใหม่ในสื่อ เป็นสื่อที่ดี เป็นอนาคตของชาติ เพราะท่านเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติด้วย 50% อยู่ที่ท่านรัฐบาลทำส่วนหนึ่งประชาชนทำส่วนแต่สื่อเป็นคนสร้างความเข้าใจ สร้างความเชื่อมโยง ความขัดแย้ง ท่านต้องเคารพในสิทธิของผู้อื่นด้วย ไม่ใช่เรียกร้องวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่ไม่ใช่สถานการณ์ข้อเท็จจริง แล้ววันนี้ทุกคนก็รู้อยู่ เราอยู่ในสถานการณ์ไหน แล้วท่านก็ยังเรียกร้องเรื่องเดิมอยู่ ตอนสมัยที่ผ่านมา ท่านไม่เห็นเรียกร้องแบบนี้เลย ก็ชุดเดิม ผมไม่อยากตำหนิท่านหรอก แต่ขอบ่นหน่อย
เดือนตุลาคมนี้ ตลาดนัดของเรานำเสนอสินค้าชุมชน ในงาน “สุดยอด SMEs ของดี ทั่วไทย” จัดโดย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ภายใต้คอนเซ็ป “4 พร้อมเสิร์ฟ”คือ (1) ของกินถูกปาก (2) ของฝากถูกใจ (3) เงินทุนหลากหลาย และ (4) ตั้งตัวได้ในงาน ซึ่งถือว่าครบเครื่อง เป็นงานที่จัดอย่างสมบูรณ์ เพื่อจะได้แมทชิ่งกัน ให้ทุกคนมีความสุข มาช็อป มาชิมหรือมาซื้อของในงาน หรือต้องการองค์ความรู้ในการที่จะพัฒนาตัวเอง พัฒนากิจการของตนเอง สร้างองค์ความรู้ ศึกษาเรื่องเงินทุนของรัฐที่สนับสนุนให้ เงินทุนดอกเบี้ยต่ำ มีการให้คำปรึกษาแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ด้วย ขอให้ทุกคนมาฟังหน่อย SMEs ก็ต้องจดทะเบียนให้เป็นนิติบุคคล ท่านจะเข้าถึงกองทุนได้ ไม่จดเข้าไม่ได้ เพราะใช้งบประมาณรัฐ ทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ก็จะช่วยเรื่องนี้ ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ มีกระทรวงพาณิชย์ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมมาให้คำปรึกษาแนะนำในด้านต่าง ๆ ด้วย เรื่องทางบัญชีก็เป็นปัญหาอีก ทุกคนก็หลาย ๆ SMEs เพราะว่าไม่เข้าใจเรื่องการทำบัญชี ก็เลยไม่พร้อมขึ้นทะเบียน มาเรียนรู้ ง่าย ๆ แป็บเดียวก็รู้แล้ว แล้วก็ไปจดทะเบียนให้เรียบร้อย
ก็ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการทั่วไป ข้าราชการ ในละแวกใกล้เคียง กรุ๊ปทัวร์เกาะรัตนโกสินทร์ แวะเข้ามาร่วมงาน ได้อิ่มท้อง แถมมีของฝากและได้ภาคภูมิใจกับสิ่งประดิษฐ์ ต่าง ๆ ที่เราได้มีการเร่งในเรื่องของการวิจัยและพัฒนา หลาย ๆ อย่าง ทั้งเครื่องมือการเกษตร ทั้งเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาการผลิต เกี่ยวกับเรื่องการปรับปรุงคุณภาพต่าง ๆ มีมากมายไปหมด ซื้อของกลับไปบ้านก็ได้ มีอาหารการกินด้วย ฝนตกมาก็มีเต็นท์ ไม่ให้เปียกด้วย วันนี้อยากให้ทุกคนมาเรียนรู้ วันนี้เราต้องอยู่ด้วยกัน เรียนรู้ไม่ใช่เรียนอย่างเดียวเพื่อปริญญา นั่นคือปัญหาของบ้านเราติดกับดักตัวเองมาโดยตลอด
ขอบคุณฝากพ่อแม่พี่น้องช่วยดูแลด้วย ช่วยทุกคน มีส่วนในแผ่นดินนี้ทุกคน เช่นผมมีความรับผิดชอบเท่าเทียมกันหมด ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีรับมากกว่า ผมเป็นแต่เพียงผู้มาขับเคลื่อน มากรุ๊ปปิ้งให้ มาจัดระเบียบให้ ให้เกิดความทั่วถึงและเป็นธรรมเท่านั้นเอง ท่านก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอยู่แล้ว อย่าคิดว่าผมมาบังคับท่านเลย บางอย่างต้องเรียนรู้ คนไทยถึงพูดแต่คำว่าอยากมีอำนาจ อยากมีผลประโยชน์ เพื่อจะมีอำนาจ พูดกันอยู่แค่นี้ ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ผมทำ ทำเพื่ออะไร เพื่อท่านทุกคน เพื่ออนาคตของท่าน ผมจะต้องการอำนาจไปทำอะไรอีก
ผมขอให้มีความสุขนะครับ ปลอดภัยในการเดินทางในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์นะครับ มีความสุขทุกคน ขอบคุณครับ สวัสดีครับ....
.........................................
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก