- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Saturday, 19 September 2015 08:53
- Hits: 10162
นายกฯ ถกปัญหาค้ามนุษย์-ประมงผิดกฎหมาย สั่งแก้ระเบียบ ห้ามขรก. เจ้าหน้าที่รัฐ ใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหา
นายกฯ ถกปัญหาค้ามนุษย์-ประมงผิดกฎหมาย สั่งแก้ระเบียบ ห้ามขรก. เจ้าหน้าที่รัฐ ใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหา กำชับต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ในวัน ที่ 15 ต.ค.นี้ ยันถือเป็นเรื่องร้ายแรง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และการทำประมงผิดกฎหมาย ครั้ง ที่ 1/2558 ว่า ต้องให้ความสำคัญ อย่างจริงจังทั้งในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ และการแก้ปัญหาการทำประมง ผิดกฎหมาย ซึ่งการที่จะให้ประเทศใด ประเทศหนึ่งยอมรับ หรือชมเชยเรา แต่เพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องสร้างการรับรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ประชาชนดีขึ้น รวมทั้ง ต้องสร้างการรับรู้ ในการไม่เอาเปรียบ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นสาระสำคัญที่ต้องสร้างการรับรู้ กับสังคม ลด ความเหลื่อมล้ำ ปลูกจิตสำนึกไม่เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ สำหรับการ ประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งได้มอบหมาย ให้รอง นายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงมาดูแลเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ แล้ว ซึ่งต้องขอบคุณรองนายกรัฐมนตรี และคณะทำงานทุกคนที่ทำงานอย่าง หนัก ทุ่มเทด้วยความภาคภูมิใจ ขอให้มีกำลังใจในการทำงานต่อไป เพราะ การทำงานเรื่องนี้ได้เห็นแล้วว่ามีความก้าวหน้าตามลำดับ เรื่องใดมี ปัญหาติดขัดที่เสนอให้รองนายกรัฐมนตรีทราบ อะไรที่สามารถช่วยได้ ก็ ยินดี เพราะทุกอย่างถือเป็นผลงานก่อนเกษียณอายุของหลายคน ด้วย ทั้ง พล.ต.อ. ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ
ในส่วนของการกวาดล้าง และลงโทษผู้กระทำผิด ทุก ส่วนราชการต้องดูแลจริงจัง จะต้องไม่เข้าข้างผู้กระทำความผิด ทุก เรื่องที่มีปัญหา เพราะเราไม่ทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเท่า เทียม วันนี้ ไม่อยากให้ทำงานด้วยความสงสาร แต่ก็ต้องช่วยกันดูว่าจะ ทำยังไงให้ประเทศชาติดีขึ้น ขอย้ำว่าอย่าเข้าข้างผู้กระทำความผิดไม่ ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพล หรือ ข้าราชการใดๆ ก็ตาม รวมทั้งการแก้ปัญหา แรงงานทาส ในภาคประมงด้วย ซึ่งได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว
ทั้งนี้ นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ ประชุมได้มีการพิจารณาวาระสำคัญคือได้มีการรายงานผลการดำเนินงาน ของอนุกรรมการด้านต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ได้มีการดำเนินการปราบปรามการค้า มนุษย์ในคดีต่างๆ การป้องกันและคุ้มครองผู้เสียหาย รวมทั้งการประสาน ความร่วมมือกันนานาประเทศในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งการประชา สัมพันธ์และการแก้ไขกฎหมาย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการ ป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ปี พ.ศ.2558 โดยระเบียบดังกล่าวจะมีการออกข้อกำหนด ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญ ในการป้องกันไม้ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการ บุคลากรที่เป็ร พนักงาน เจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนสนับสนุน ทำให้เกิดหรือเพิกเฉยการ กระทำที่ให้เกิดการค้ามนุษย์ มีซึ่งเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ขึ้นใหม่ใน การกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากมีเจ้าหน้าที่กระทำการดังกล่าว ก็จะ ต้องเข้าสู่คณะกรรมการในการตรวจพิจารณาในการใช้อำนาจทางการบริหาร เพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวจะมีการดำเนินการตามกฎหมายแนบ ท้ายไปด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างว่าการที่ข้าราชการหรือเจ้า หน้าที่ใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหา หรือคนที่ถูกกล่าวหา
โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ไปแสดงตน ใช้อำนาจหน้าที่หรือตำแหน่งของตนเอง เป็นประกัน ถือว่าเป็นการปกป้องหรือแสดงการคุ้มครอง ถือว่าเป็นเรื่อง ร้ายแรง ซึ่งระเบียบดังกล่าวจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ เรื่องการช่วยเหลือคนทำผิดไม่ว่ากรณีใดๆ รวมทั้งการแสดงตนต่างๆ ในการ ใช้อำนาจหน้าที่ของข้าราชการไม่สามารถทำได้ ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบ ในหลักการ และจะมีการดำเนินการในรายละเอียดก่อนที่เสนอต่อที่ ประชุม ครม. เพื่อออกเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรต่อไป โดยนายก รัฐมนตรีกำชับว่าจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ในวัน ที่ 15 ต.ค.นี้
นายวิเชียร กล่าวว่า ที่ประชุมยังพิจารณาการจัดทำรายงานผลการดำเนิน งานการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี 2558 ซึ่งถือเป็น รายงานประจำปี เพื่อรายงานต่อที่ประชุม ครม.รับทราบถึงผลสำเร็จ ต่างๆ รวมทั้งจะต้องนำรายงานส่งประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐ อเมริกา เพื่อจัดทำเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาว่าประเทศใดมีสถานการณ์ การค้ามนุษย์ขนาดไหนอย่างไร หรือทริปรีพอร์ต ซึ่งประเด็นสำคัญที่ ประชุมได้พิจารณากรอบเวลาว่าจะทำอย่างไรให้เสร็จเรียบร้อยทันกำหนด เวลา ซึ่งที่ประชุมเสนอต่อนายกรัฐมตรีในฐานะในที่ประชุมภายในวัน ที่ 25 ธ.ค. นี้ ร่างของเอกสารรายงานเสร็จสิ้น แต่นายกรัฐมนตรีได้ เร่งรัดว่า ภายในวันที่ 15 ต.ค. นี้ให้รายละเอียดทั้งหมดสามารถได้ข้อ สรุปมีผลออกมา และวันที่ 15 พ.ย. ก็ควรจะมีร่างที่สมบูรณ์ ซึ่งนอก จากกรอบเวลาแล้วที่ประชุมยังพูดถึงว่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง ไรบ้างที่จะเข้ามาพิจารณา
ขอชี้แจงว่า รายงานฉบับนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเอกสารรายงาน เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสรุปผลปฏิบัติการทำงานและความก้าว หน้าต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ นายกรัฐมนตรีได้ มอบหมายและย้ำว่าหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถือว่าต้องรับ ผิดชอบร่วมกันไม่ใช่มอบให้ใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนจะต้อรับผิดชอบร่วมกัน และต้องทำให้เกิดความสมบูรณ์ รวมทั้งได้กำชับและสั่งการในตอนท้าย ว่า ผู้ที่รับผิดชอบต้องไปกำกับดูแลกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยว ข้อง เพื่อรับผิดชอบในแต่ละด้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำด้วยว่า เรื่องสำคัญในคดีสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ให้ ติดตาม เร่งรัดให้เป็นผลสัมฤทธิ์ ในส่วนการแก้ไขปัญหาแรงงาน ซึ่งเป็น ปัญหาใหญ่ส่วนหนึ่งของการค้ามนุษย์ นายกรัฐมนตรีและที่ประชุมไดืกำชับ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการเรื่องการจัดหาแรงงานที่ถูกต้องเข้าสู่ตลาด แรงงาน โดยเฉพาะด้านประมงนายวิเชียร กล่าวว่า
นายวิเชียร กล่าวว่า ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ซึ่งปัจจุบันประเทศ ไทยมีปัญหาที่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเข้ามาและลักลอบใช้ บริการเซ็กส์จากเด็ก (child sex) ก็ได้กำชับให้ดำเนินการแก้ไขให้เกิด ผลสัมฤทธิ์ให้ได้ รวมทั้งสื่อลามก อนาจารต่างๆ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับในเรื่องการคุ้มครองผู้เสียหายที่จะเป็นพยานในคดี พนักงาน เจ้าหน้าที่ต้องคุ้มครองดูแลปกป้องให้เป็นพยานได้อย่างปลอดภัย เพื่อ นำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ซึ่งในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีให้ นโยบายอีกครั้ง โดยย้ำว่า การทำงานจะสัมฤทธิ์ผลได้ การแก้ค้ามนุษย์ ไม่ใช่แค่ต้องการให้หลุดเทียร์ 3 อย่างเดียว หรือทำให้ปัญหาหมดไปโดย เน้นการดำเนินคดีอย่างเดียว แต่ต้องการไม่ให้มีปัญหาการค้า มนุษย์ เพราะตามหลักมนุษยชนแล้ว มนุษย์ทุกคนจะต้องได้รับการดูแล ไม่ ให้มีการเอารัดเอาเปรียบกัน