WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Payutนายกฯ แนะรัฐวิสาหกิจ อย่ารอแต่ให้รัฐคอยอุดหนุน ชี้ ต้องมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลตัวเองได้

     พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตี เปิดเผยในการสัมมนาการรัฐวิสาหกิจ เรื่อง บทบาทกรรมการรัฐวิสาหกิจ ว่า สิ่งที่ต้องการคือ ทำให้การบริหารจัดการภาครัฐมีประสิทธิภาพ รัฐวิสาหกิจจะต้องสามารถดูแลตัวเองได้ สร้างผลประกอบการที่ดี และหากผลประกอบการไม่ดีจะต้องชี้แจงได้ รวมถึงปัญหา อย่าให้ผลประกอบการเป็นเช่นเดิม และให้รัฐบาลอุดหนุนเงินตลอดเวลา สหภาพเร่งรัดการขึ้นค่าแรงเงินเดือน ถ้าผลประกอบการไม่ดี และขอมาถ้ารัฐบาลให้ไป ตนจะตอบประชาชนว่าอย่างไร ถ้าไม่ได้ช่วยทำให้ผลประกอบการดีขึ้น จะได้รางวัลได้อย่างไร

    ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจจะต้องมีความโปร่งใส ความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและผู้ถือหุ้น การกำกับดูแลกิจการ วันนี้ต้องทำทั้งหมดด้วยตัวเอง โปร่งใส ตรวจสอบได้ สร้างความน่าเชื่อถือจากสังคม

   "องค์กรรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ถ้าประกอบการไม่ดีต้องเปลี่ยน เป็นการทำความเข้าใจกัน ไม่ได้ข่มขู่กัน ทุกท่านมีความรู้มากกว่าผมอยู่แล้ว ผมทำหน้าที่ทหาร 38 ปีเต็ม นายก 1 ปี ผมใช้ประสบการณ์ของผม จิตสำนึกของผม และความตั้งใจของผมในการขับเคลื่อนประเทศ"นายกฯกล่าว

    ในส่วนการบริหารมีทั้งกิจการที่ดี กิจการกลางๆเดินหน้าไปได้ ที่แย่บางแห่งก็ยังสามารถมีเงินส่งกลับรัฐบาลได้ ในวันหน้าอยากให้เงินส่งกลับรัฐบาล ล้านล้านบาทได้ไหม เช่น การดำเนินลดต้นทุน การบริหารกิจการให้ได้ผลประกอบการดี เป็นต้น

    สำหรับ บทบาทแรกของรัฐวิสาหกิจ คือ ต้องแสวงหากำไร เพื่อขยายกิจการ นำส่งรายได้เข้าประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และอีกส่วนคือ การให้บริการและดูแลประชาชน ในการบริหารจัดการการกำหนดยุทธศาสตร์จะต้องชัดเจน รัฐบาลมียุมธศาสตร์บริหารประเทศชัดเจนใน 5 ปี การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจก็ต้องทำเช่นเดียวกัน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

นายกฯ มอบนโยบายรสก. แนะลดสิทธิประโยชน์-เน้นสร้างผลตอบแทน

    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการสัมมนา เรื่อง บทบาทและหน้าที่กรรมการรัฐวิสาหกิจระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับรัฐวิสาหกิจ เพราะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ เสริมสร้างและเพิ่มศักยภาพของประเทศ สำหรับนโยบายการพัฒนารัฐวิสาหกิจของรัฐบาลนั้นมีความจำเป็นที่อาจต้องปรับลดสิทธิประโยชน์บางอย่างสำหรับรัฐวิสาหกิจบางแห่งลงบ้าง และจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายแบบเดิมๆ ซึ่งไม่ได้ต้องการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง แต่เพื่อพัฒนารัฐวิสาหกิจให้เกิดความโปร่งใส ทำให้เกิดความเชื่อมั่น

    "อย่าปล่อยให้ผลประกอบการออกมาไม่ดีแล้วรอให้รัฐบาลอุดหนุนเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับสหภาพฯ ก็ขออย่าออกมาเรียกร้องเพื่อขึ้นเงินเดือน หากผลประกอบการไม่ดี ซึ่งวันนี้ได้รับข้อมูลติติงคนนั้นคนนี้ไม่ดี ซึ่งในโซเซียลมีการระบุไว้มากมาย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจต้องมีบริหารกิจการที่ดี แสวงหากำไรเพื่อลงทุนหรือขยายกิจการ และนำรายได้ส่งมายังรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น พยายามลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนของแต่ละองค์กร ซึ่งรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่ให้บริการประชาชน ต้องสร้างองค์กรให้เกิดความเข้มแข็งและดูแลประชาชนให้มีความสุข

    ขณะที่การกำหนดแผนของรัฐวิสาหกิจต้องมีความชัดเจน และเป็นไปตามยุทธศาสต์ของรัฐบาล 5 ปี(2558-2563) เน้นความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน การลงทุนในรัฐวิสาหกิจต้องประเมินผลตอบแทนที่จะได้รับ ขณะที่การคัดสรรซีอีโอก็มีคณะกรรมการเข้ามาคัดสรรตามความชำนาญ ตามบัญชี และตามความเหมาะสมกับงาน

    "อย่าให้เกิดเรื่องเป็นคนของใคร แต่คนที่เลือกมาแล้วต้องทำตามนโยบาย และอย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ที่สำคัญทุกคนในองค์กรต้องมีความสามัคคีกัน และหากยังไม่เลือกตั้งใคร ก็ขอให้ดำเนินการให้จบใน 3 เดือนนี้ ส่วนคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งต้องเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจ สามารถผลักดันโครงการต่างๆและสร้างองค์กรให้เข้มแข็ง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    ขณะที่การกำหนดทำสัญญาก็ต้องรอบคอบ และเตรียมรับการตรวจสอบจากรัฐบาลตามข้อตกลงสัญญาคุณธรรม พร้อมระมัดระวังเรื่องการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบทุจริต ซึ่งจะขอเข้ามาตรวจสอบตั้งแต่เริ่มโครงการ ดังนั้นรัฐวิสาหกิจก็ต้องเตรียมตัวไว้

    ส่วนรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหา 7 แห่งก็ต้องดูแลองค์กรไม่ให้ได้รับความเสียหาย และต้องมีการรายงานแผนการแก้ไขปัญหาของแต่ละองค์กรให้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) รับทราบในทุกๆเดือน และพร้อมให้กำลังใจทุกคนในการทำงาน และขอให้ยึดหลักเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาในทางที่ถูกต้อง

    นายกฯ ระบุว่า การที่ตนเองเข้ามาทำงานในวันนี้เพื่ออนาคตของทุกคน แม้จะมีคนเกลียดบ้างแต่ก็จะไม่ไหวหวั่น เพราะทำเพื่อแผ่นดินเกิด และในการทำงานต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และขณะนี้ประชาชนมีความเดือดร้อน ซึ่งส่วนตัวเมื่อเห็นคนลำบากจะไม่สบายใจ เหตุที่บ้านเมืองไม่สงบเพราะความยากจนนั่นเอง แต่ถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคน ดังนั้นจึงต้องมาร่วมมือกันแก้ปัญหาตั้งแต่วันนี้ และวางอนาคตไว้ให้ลูกหลาน

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนไทยสนใจแต่เพียงว่าตนเองจะสืบทอดอำนาจหรือไม่ หวังแต่จะให้ใช้กฎหมายแรงๆ ซึ่งการใช้กฏหมายใดๆ ต้องดูกระแสสังคมภายนอกด้วย ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะลดความขัดแย้งและใช้กฏหมายเท่าที่จำเป็น ขณะที่การทำงานของตนเองทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมพ และรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเท่านั่น

    "ผมถึงบอกว่าการออกกฏหมาย การออกกติกาใดๆต้องดูความมุ่งหมายของกฏหมายเสียก่อนว่า กฏหมายจะออกมาเพื่อใคร ไม่ได้ออกมาเพื่อเจ้าหน้าที่ กฏหมายต้องทำให้สังคมอยู่ร่วมกันปกติสุขเท่านั้น กฏหมายไม่ใช่ตัวชี้ชะตา รัฐธรรมนูญไม่ใช่ตัวชี้ชะตาว่าประเทศไทยจะเจริญ จะก้าวหน้าหรืออ่อนด้อย เป็นกฏระเบียบหลักของสังคม ทำอย่างไรให้กฏหมายไม่ไปสร้างความขัดแย้งอยู่ที่คนทั้งสิ้น อยู่ที่จิตสำนึกความเป็นมนุษย์เท่านั้นไม่มีทางแก้ได้ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันทำอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

   อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!