- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Thursday, 04 June 2015 22:54
- Hits: 2512
ประยุทธ์ แจงผลงานรอบ 1 ปี ให้สปช.นำแนวทางปฏิรูปรัฐบาลไปปฏิบัติ ไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ ย้ำจุดยืนการนิรโทษกรรมไม่ใช่การปรองดอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา มีการสัมมนาแม่น้ำ 3 สาย ประกอบด้วยครม. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธานการสัมมนา เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) นำทีมรองนายกรัฐมนตรี 4 คน ประกอบด้วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล นายวิษณุ เครืองาม นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ และครม.มาชี้แจงผลงานต่อสนช.และสปช. โดยให้เวลาชี้แจงคนละ 30 นาที ซึ่งนายพรเพชรชี้แจงถึงกรอบการแถลงผลงานรัฐบาลว่า รัฐบาลจะชี้แจงตามกรอบใน 5 เรื่องคือ 1.ภารกิจตามโรดแม็ปของรัฐบาล 2.นโยบายเร่งด่วน 3.การบูรณาการแต่ละกลุ่มงาน 4.งานที่เป็นวาระแห่งชาติ 5.งานโครงสร้างพื้นฐาน จากนั้นจะเปิดโอกาสให้สมาชิกสนช.และสปช.ซักถามการดำเนินงานของรัฐบาลตาม 5 กรอบดังกล่าว แต่จะไม่มีการซักถามเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญ
จากนั้นเวลา 13.25 น. พล.อ.ประยุทธ์แถลงชี้แจงผลงานรัฐบาลเป็นคนแรกว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำตามโรดแม็ปที่วางไว้ ตอนนี้อยู่ในโรดแม็ปช่วงที่ 2 ในช่วงการยกร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวบริหารราชการแผ่นดินบางเรื่องแต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะใช้มาตรา 44 ได้ บางเรื่องก็ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งดำเนินการระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมาย คำสั่งดังกล่าวจะลักษณะคล้ายคลึงกับกฎหมายที่กำลังพิจารณาอยู่ ขอให้สปช.นำแนวทางปฏิรูปที่รัฐบาลวางไว้ไปทำ ไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่ ขอให้ฟังว่า ตนทำไปถึงไหนแล้ว บางเรื่องต้องทำทันที ไม่ต้องรอการประชุม ถ้าจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ก็ต้องใช้ ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความสงบเรียบร้อย และนำไปสู่ความยุติธรรม แต่ละกระทรวงต้องไปจัดลำดับความเร่งด่วนในงานที่ทำ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องการรักษาความสงบนั้น ให้ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป(ศปป.)เชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยเพื่อความปรองดอง ไม่ได้ไปกดหัวใคร แต่ไปสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่าย ทุกเรื่องให้มารายงานให้ตนทราบ เพื่อเข้าสู่ครม. และมอบหมายให้ฝ่ายเกี่ยวข้องไปแก้ไข ตนฟังสนช. สปช. ฟังวิทยุ อ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ จะได้ทราบว่า ประชาชนต้องการอะไร จะได้ไม่หลงทาง วันนี้ไม่ต้องการคะแนนเสียง ไม่ต้องการให้ใครนิยมชมชอบ ใครจะเกลียดไม่เป็นไร วันหน้าอาจจะรักก็ได้ แค่ไม่เกลียดก็พอ ส่วนเรื่องการปฏิรูป ถ้าไม่ทำก็จะกลับไปสู่วังวนเดิม แต่ถ้ามีการปฏิรูปทุกคนต้องร่วมมือกัน จะให้ตนทำคนเดียวไม่ได้ ทำวันนี้ก็ปวดหัวแล้ว สิ่งที่จะทำ ทุกคนต้องมีความพึงพอใจและให้ความเห็นชอบ ถ้ายังขัดแย้งกันอยู่ก็ไปไม่ได้ เมื่อหมดอำนาจแล้ว ตนไม่ได้จะไปเป็นอะไร จะกลับบ้านไปนอน การปฏิรูปคือหัวใจ ผมเริ่มต้นหยุดเลือดแล้ว วันนี้ต้องให้น้ำเกลือ ในอนาคตต้องใส่วิตามินทำให้เข้มแข็ง เพื่อไปต่อสู้ข้างนอก เดินหน้าไปสู่เออีซี และประชาคมโลก"
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนติดตามข่าวสารทุกอย่าง และที่ต่างประเทศมาพูดเรื่องรัฐธรรมนูญ ก็เห็นว่า เราเริ่มเดินหน้าแล้ว วันนี้ใครผิดหรือถูกก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เกิดความปรองดอง แต่การปรองดองจะให้ยกโทษทั้งหมด มันใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็ไม่ใช่การปรองดอง เพราะการปรองดองคือการเจอหน้ากัน ทักทายกัน ครอบครัวคุยกันได้ ไม่มีระเบิด ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง จะให้มีการปรองดองโดยการนิรโทษกรรมมันคนละเรื่อง ทุกเรื่องต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทำให้ทุกอย่างเดินหน้า อย่างไรก็ตามโลกทั้งโลกไม่มีอะไรเท่าเทียมกัน แต่กฎหมายจะทำให้คนเท่าเทียมกันได้ ตนจำคำพูดนี้มาจากหนังเรื่องประธานาธิบดีลินคอร์นที่บอกว่า แม้จะทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันไม่ได้ แต่จะให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันและเคารพกติกา เพื่อให้ประเทศเดินหน้า
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย