- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Thursday, 04 June 2015 10:15
- Hits: 2566
นายกฯกำชับส่วนราชการเร่งงาน ด้านคลังพอใจ GDP ไตรมาส 1/58 คาดครึ่งหลังฟื้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่กระทรวงการคลังว่า ที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงความชัดเจนในแต่ละกระทรวงว่าได้ดำเนินการแก้ปัญหาในเรื่องใดไปบ้างแล้ว และปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถ ปัญหาพลังงาน และการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม โดยประเด็นหลักคือการลดความเหลื่อมล้ำให้ความเป็นธรรม ช่วยเหลือคนจน ซึ่งประเทศไทยต้องทำให้อาเซียนและโลกเห็น ไม่ใช่ไทยต้องตามนานาชาติทุกเรื่อง
สิ่งที่รัฐบาลทำวันนี้เพื่อเป็นการวางรากฐานให้รัฐบาลชุดใหม่ได้สานต่อ พร้อมย้ำว่าไม่เคยไล่ล่าข้าราชการ เพราะทุกคนทำงานในหน้าที่ของตนเอง ซึ่งในวันนี้ได้มาชี้แจงเหตุผลของคำสั่งต่างๆ รวมถึงนโยบายของรัฐบาลเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาให้กับประชาชนทุกกลุ่ม
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ทางกระทรวงการคลังไม่ได้เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ เป็นแต่เพียงการรายงานความคืบหน้าของมาตรการที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว เชื่อว่ามาตรการที่ออกไปแล้วยังเดินเครื่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่และเพียงพอ โดยหลายโครงการยังมีวงเงินเหลือดำเนินการได้ต่อเนื่อง เช่น โครงการกองทุนหมู่บ้านที่มีวงเงินเหลือ 1.9 หมื่นล้านบาท หากสามารถจัดสรรวงเงินถึงมือประชาชนได้ครบก็จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้เป็นอย่างดี
สำหรับ มาตรการภาษี ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า ไม่ได้มีการหารือเป็นพิเศษ เนื่องจากภาษีมรดกและภาษีการให้ได้ผ่านขั้นตอนไปเกือบจะแล้วเสร็จ ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นกระทรวงการคลังกำลังดำเนินการอยู่ หากฝ่ายนโยบายพร้อมและมีคำสั่งลงมาก็พร้อมเดินหน้าได้ทันที
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ 3% ว่า ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับหลายๆประเทศ อาทิ เยอรมนีที่ขยายตัวไม่ถึง 1% แต่อาจจะด้อยกว่าเวียดนาม หรือ จีนไปบ้าง แต่โดยรวมเชื่อว่าในช่วงไตรมาส 2-4 เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ทำให้เชื่อมั่นว่า ในปี 58 นี้เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ตามคาดการณ์ที่ 3.7%
นอกจากนี้ ในส่วนของการเบิกจ่ายงบประมาณเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการก่อหนี้ส่วนราชการที่ทำได้สุงกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบจากปีก่อน ทำให้เชื่อมั่นว่า ภายในปีงบประมาณ 58 การเบิกจ่ายจะเป็นไปได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้มีการประเมินว่า หากเงินบาทออ่นค่า หรือ ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 33-34 บาท/ดอลลาร์จนถึงสิ้นปี จะเป็นผลดีให้ภาคส่งออกฟื้นตัวขึ้นด้วย
สำหรับ ความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อยผ่านโครงการนาโนไฟแนนซ์นั้น ขณะนี้ กระทรวงการคลังเตรียมเซ็นใบอนุญาตประกอบธุกิจให้กับบริษัทที่ 7 ในเร็วๆ นี้ ได้แก่ บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด คาดว่าจะอนุมัติได้เร็วๆนี้ ส่วนการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่ผ่านมา ยังทำได้น้อย เพราะต้องยอมรับว่า ประชาชนยังรับรู้ในธุรกิจนี้น้อย ประกอบกับบริษัทที่ให้บริการส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่เท่านั้น
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ทางกระทรวงการคลังจะมีนโยบายที่จะจัดมหกรรมแบงก์รัฐเพื่อเอสเอ็มอีและผู้มีรายได้น้อย ระหว่างวันที่ 27-28 มิ.ย.นี้เพื่อประชาสัมพันธ์มาตรการต่างๆที่แบงก์รัฐได้ออกมาช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย และเอสเอ็มอี