- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Sunday, 24 May 2015 18:25
- Hits: 2771
นายกฯ แจงงบรายจ่ายปี 59 ต่อสนช. ภายใต้คาดการณ์ GDP โต 3.7-4.7%
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ชี้แจงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ถึงการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 โดยระบุว่า เป็นการจัดทำงบประมาณรายจ่ายที่ 2.72 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.45 แสนล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายปี 58 หรือเพิ่มขึ้น 5.6% โดยงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวที่ 2.72 ล้านล้านบาทนี้คิดเป็น 20.4% ของ GDP
ฐานะการเงินการคลังภายใต้นโยบายเศรษกิจดังกล่าวในปี 59 รัฐบาลคาดว่าจะเก็บรายได้สุทธิได้ทั้งสิ้น 2.49 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% จากปี 58 มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่ 3.9 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ภายใต้การประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 59 ว่าจะสามารถขยายตัวได้ 3.7-4.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่ 1.1-2.1% และมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ 7.8 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 2% ของ GDP
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 59 ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มว่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น เป็นปัจจัยหนุนให้ความต้องการของภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ความต้องการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นตามกรอบการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนของภาครัฐที่มีความชัดเจน การลงทุนพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่หยุดชะงักมานานได้เร่งรัดแก้ไขให้เร็วขึ้น การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการและจะเร่งรัดให้เกิดขึ้นได้ภายในปี 58
อย่างไรก็ดี ในปี 59 เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากราคาน้ำมัน ซึ่งอาจจะมีผลให้รายได้รัฐลดลง จากการเก็บภาษีสรรพสามิตลดลง การแข็งค่าของเงินบาทที่มีผลกระทบต่อภาคการส่งออก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 59 ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อเนื่องจากในปี 58 โดยนโยบายการเงินมีความผ่อนคลายมากขึ้นจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้งติดกันมาอยู่ที่ระดับ 1.50% เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และความเชื่อมั่นในการที่ภาวะการส่งออกและการใช้จ่ายภาคเอกชนอ่อนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้
"เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย ทุกอย่างก็เข้าสู่ระบบ สามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่การเมืองจะนิ่งแบบนี้ได้นานแค่ไหน ประชาชนและภาคการเมืองก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย ส่วนจะนิ่งได้นานแค่ไหนคงตอบไม่ได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า ในช่วงต่อไปการใช้จ่ายภาครัฐโดยเฉพาะงบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะมีความสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสนับสนุนความเชื่อมั่นของภาคเอกชน อย่างไรก็ดี ฐานะการเงินของประเทศยังถือว่ามีความมั่นคงค่อนข้างมาก เนื่องจากล่สุดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมี.ค.58 ยังอยู่ที่ 156,319 ล้านบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากเป็น 3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น
"ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 59 นี้ได้จัดทำขึ้นโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ประเทศมีความมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืน โดยมั่นคงทุกมิติ ทุกหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม สร้างความเข้มแข็งให้ภาคประชาชนเป็นหลัก ให้มีความมั่นคงปลอดภัย และมีความมั่งคั่งในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก 2 ประการ คือ 1.น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา และ 2.ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" นายกรัฐมนตรี กล่าว
อินโฟเควสท์