- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Monday, 20 April 2015 23:22
- Hits: 2337
อนาคต และจะทำให้เกิดปัญหาตามกันไปหมด แต่ตนไม่ละเว้นไว้อยู่แล้ว ฉะนั้นต้องมองที่ตนเคยพูดไว้ตั้งแต่แรกว่าการที่จะใช้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการกับใครก็ตามต้องมีหลักฐานที่ครบถ้วนบริบูรณ์ ให้มีโอกาสในการชี้แจง ซึ่งในกระบวนการยุติธรรมมีอยู่แล้ว ที่ผ่านมามีปัญหาตรงที่ไม่ถูกนำเข้ากระบวนการ และพอเข้าสู่กระบวนการก็ไม่ได้รับการยอมรับ กลายเป็นว่ารังแกกันอะไรกัน ตนจะไม่ให้เกิดเรื่องเหล่านั้น ให้ความเป็นธรรมทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลการโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ นายกฯ กล่าวว่า อันนั้นเป็นส่วนที่ได้รับการร้องเรียนมามาก ซึ่งข้าราชการสี่ห้าคนของกระทรวงศึกษาธิการที่ถูกย้ายไม่เกี่ยว ไม่มีความผิดอะไร ตนปรับเพื่อความเหมาะสม เพราะต้องการปฏิรูป เขายังไม่มีความผิดอะไร และตนก็สามารถที่จะปรับย้ายข้าราชการได้ตามความเหมาะสม และตนก็ไม่ได้ปรับโดยเอาคนของตัวเองไปใส่ เมื่อถามว่า จะกระทบต่อขวัญและกำลังใจของข้าราชการหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่กระทบหรอก เพราะเท่าที่คุยกับรมว.ศึกษาธิการก็ไม่เห็นจะมีอะไร ก็แฮปปี้ดี และปลัดกระทรวงฯ ก็เคยอยู่ที่สภาการศึกษามาก่อน เป็นการหมุนไปธรรมดา ไม่ได้มีความผิดอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระทรวงไหนอีกที่จะต้องมีการปรับย้ายข้าราชการเพื่อประสิทธิภาพ นายกฯ กล่าวว่า เวลานี้ยัง ต้องรอให้เจ้ากระทรวงรายงานขึ้นมา ส่วนกระแสข่าวการปรับย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการคลังนั้น ในที่ประชุมครม.วันนี้ไม่ได้มีการพูดกัน เมื่อถามว่า จะมีการปรับย้ายข้าราชการกรมที่ดินหรือไม่ ที่เอื้อประโยชน์ให้เกิดการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของกรมที่ดินต้องดู เพราะเวลานี้กำลังสอบสวนอยู่ ซึ่งต้องย้อนไปหลายกรม หลายอธิบดี ทั้งเรื่องการออกโฉนด นส. 3 โดยวันนี้ต้องทำ2อย่าง คือคนที่เข้ามาซื้อสิทธิ์การครอบครองพื้นที่ และคิดว่าถูกต้องก็มี เพราะมีโฉนด มีนส.3 ก. มีเอกสารถูกต้องครบทุกประการ ขณะเดียวกันได้ลงทุนเป็นพันๆล้าน ทำให้เชื่อมั่นว่าถูกต้อง จึงตัดสินใจซื้อ ดังนั้นต้องไปดู หากผิด แล้วเอกสารเหล่านั้นออกมาได้อย่างไร ซึ่งต้องย้อนไปหลายส่วน ทั้งในส่วนของกรมที่ดินและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกฎหมายเรื่องที่ดิน เรื่องผังเมือง บางทีออกมาที่หลัง การประกาศพื้นที่ป่าบางพื้นที่ก็ออกมาที่หลัง ซึ่งวันนี้มีปัญหาหลายพื้นที่
เมื่อถามว่า ถ้าพบว่าข้าราชการในอดีตที่เกษียณอายุราชการไปแล้วมีส่วนเกี่ยวข้อง จะยังสามารถเอาผิดได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าผิดก็ต้องผิด ตราบใดที่คดียังไม่หมดอายุความ ถึงใครก็ลงโทษหมด จะย้อนไปถึงไหนก็แล้วแต่
นายกฯ เผย รมว.คลังยังไม่ได้หารือหลังมีกระแสข่าวโยกย้ายใหญ่ ขรก.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทรี์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ยังไม่ได้หารือถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลัง หลังจากมีกระแสข่าวว่ากระทรวงการคลังจะเสนอรายชื่อโยกย้ายข้าราชการระดับสูงเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การพิจารณาปรับย้ายข้าราชการในแต่ละกระทรวง อยู่ระหว่างให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงได้รายงานว่าจะมีการปรับย้ายหรือไม่ และหากมีการโยกย้ายจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งรวมไปถึงกระทรวงการคลังที่มีข่าวจะปรับโยกย้ายก่อนหน้านี้
รายงานข่าวอ้างแหล่งข่าวกระทรวงการคลัง ระบุว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ จะมีการตั้งนายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) แทนนายกฤษฎา อุทยานิน ที่เสียชีวิต
นอกจากนี้ จะมีการโยกย้ายผู้บริหารระดับอธิบดีกรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต รวมทั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งมีกระแสข่าวว่า มีชื่อนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม หรือนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ เข้ามารับตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธว่า การโยกย้ายข้าราชกระทรวงศึกษาธิการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่คณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.) เสนอรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้อกับการทุจริต แต่เป็นการปรับย้ายตามอำนาจที่สามารถทำได้ โดยก่อนหน้านี้กระทรวงศึกษาธิการก็ได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก และมีการปรับย้ายเพื่อประโยชน์ต่อการปฎิรูป ไม่ใช่ทำเพื่อนำเอาคนของตนเองเข้าไปบริหาร
"มีการร้องเรียนเข้ามาเยอะ แต่ 4-5 คนนี้ไม่ได้มีความผิด แต่ปรับย้ายเพื่อความเหมาะสม และไม่ได้เอาคนของผมไปใส่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนการตรวจสอบข้าราชการที่ส่อทุจริตนั้นกำลังดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนและอำนาจของแต่กระทรวง ไม่เคยคิดกลั่นแกล้งใคร และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหากใครสามารถชี้แจงได้ก็ถือว่าไม่มีความผิด
สำหรับ การตรวจสอบข้อร้องเรียนในกรมที่ดินนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีปัญหามาก จึงต้องตรวจสอบย้อนกลับไปในอดีตหากกรณีใดมีการซื้อขายถูกต้อง เอกสารชัดเจนก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่หากพบมีการปลอมเอกสารสิทธิ์ก็จะมีการดำเนินเอาผิดทั้งกรมที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะตรวจสอบข้าราชการทุจริตแม้จะเกษียณราชการไปแล้วก็สามารถเอาผิดได้ตราบที่คดียังไม่หมดอายุความ
อินโฟเควสท์