- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Sunday, 05 April 2015 09:33
- Hits: 2290
หม่อมอุ๋ย มองส่งออกปีนี้โต 0% หลังไตรมาสแรกยังติดลบ พร้อมเร่งเบิกจ่ายภาครัฐฯ หวังช่วยดันจีดีพี ตั้งเป้า 2-3 ปีข้างหน้า จีดีพีโต 5%
หม่อมอุ๋ย มองส่งออกปีนี้โตแค่ 0% หลังไตรมาสแรกยังติดลบ พร้อมเร่งเบิกจ่ายภาครัฐฯ หวังช่วยดันจีดีพี ตั้งเป้า 2-3 ปีข้างหน้า จีดีพีโต 5% หลังเดินหน้าผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้า ส่วนมาตรา 44 ไม่เข้มงวดเท่ากฎอัยการศึก มั่นใจช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวฟื้น
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการสัมมนา SCB Investment Symposium 2015 “The World Ahead” ในหัวข้อ นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้รัฐบาลจะเร่งผลักดันให้สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน โดยจะมีแรงขับเคลื่อนจากการเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนของภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ขณะที่ภาคการส่งออกคาดว่าในปีนี้จะเติบโตได้ 0% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง สินค้าไทยบางตัวในส่วนของอุปโภคบริโภคสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มองว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ของไทยจะสามารถเติบโตได้ 5% โดยเป็นผลจากไทยเร่งผลักดันเป็นศูนย์กลางการค้าโลก หรือ อินเตอร์เนชั่นแนลเฮดควอเตอร์ เป็นต้น รวมถึงการเร่งปรับโครงสร้างการผลิตเป็นอุตสาหกรรมใหม่ การเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิตอลอิโคโนมี่ เป็นต้น
“ตอนนี้เราพยายามเต็มที่ พยายามหาตัวอื่นเพื่อมาชดเชยการส่งออกที่ลดลงไป เช่น การลงทุนภาครัฐ การเร่งเบิกจ่ายต่างๆ เนื่องจากหากจะหวังพึ่งพาการส่งออกคงไม่ได้ เนื่องจาก 3-4 ปีที่ผ่านมาการส่งออกชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากส่งออกติดลบ 3% จะฉุดจีดีพีอย่างน้อย 1.6%”ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ส่วนการประกาศใช้มาตรา 44 ในการบริหารประเทศ แทนการยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น มองว่า จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ทุกคนต้องยอมรับว่าการส่งออกชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง การจะหารายได้เพื่อมาชดเชยการส่งออกที่หายไป คือ ด้านการท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมาไทยขาดนักท่องเที่ยวจากยุโรป และสหรัฐ ซึ่งการประกาศใช้มาตราดังกล่าวจะสามารถหนุนให้นักท่องเที่ยวกลับมาได้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย