WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

นายกฯ ยันเดินหน้าเต็มที่ตามแผนพัฒนาระบบรางและพร้อมส่งต่อให้รัฐบาลใหม่

    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เรื่องการวางรากฐานการขนส่งมวลชนระบบรางว่า ในกรอบยุทธศาสตร์ของไทยได้วางแผนในระยะปี 2558-2565 ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จะทยอยดำเนินการและส่งต่อให้กับรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา

    โดยในเรื่องของรถไฟนั้น ไทยและจีนตกลงกันได้ในเบื้องต้น ทั้งในเรื่องของการก่อสร้างทางราง ซึ่งจะต้องเริ่มจากการกระบวนการเวนคืนที่ดินที่ ทำผลกระทบเรื่องสิ่งแวดล้อมซึ่งไทยจะต้องรับผิดชอบ ส่วนจีนจะศึกษาสำรวจและออกแบบ โดยจะแยกเป็น 4 เส้นทาง กรุงเทพฯ-แก่งคอย 133 กิโลเมตร, แก่งคอย-มาบตาพุด 246.5 กิโลเมตร, แก่งคอย-นครราชสีมา 138.5 กิโลเมตร และนครราชสีมา-หนองคาย 355 กิโลเมตร

    "จะเริ่มทำการก่อสร้างช่วงที่ 1 และ 2 ภายในเดือนตุลาคมนี้ และก่อสร้างช่วงที่ 3 ที่ 4 ภายในเดือนธันวาคมนี้ แต่จะไปจบภายในปีหน้าหรือปีต่อไป ก็เป็นการตามระยะเวลา จะทำให้เร็วที่สุด อันนี้ก็จะตกลงเจรจาพูดคุยกันเรื่องเงินกู้อะไรต่างๆ จะเน้นทั้งกู้ในประเทศ กู้จากจีน และจากกองทุนอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าไปเอาของใครคนใดคนหนึ่งทางเดียว ไม่ได้ เพราะว่าผลประโยชน์ต้องอยู่ที่ไทย ไม่ให้เกิดผลเสียหาย เราจะไม่ยกให้เขาไปทำทั้งหมดไม่ได้ มีคณะทำงานร่วมกันทุกระดับ"นายกรัฐมนตรี กล่าว

    พร้อมระบุว่า ถ้าหากดำเนินการได้ตามแผนทั้งหมดนี้ จะเริ่มเดินรถทั้ง 4 เส้นทางภายในปี 2561 ซึ่งต่อไปก็อาจจะนำเอกชนมาร่วมลงทุน จัดรถ/รอบ วิ่งเพิ่มในรถไฟทางคู่

   นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการพัฒนาโครงข่ายรถไฟที่ไทยจะร่วมมือกับญี่ปุ่นว่า เป็นความร่วมมือร่วมกันเหมือนกับที่ไทยร่วมมือกับจีน ซึ่งขณะนี้กำลังเดินหน้าอยู่ ซึ่งจากที่ได้เดินทางไปหารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ท่านก็รับปากว่าจะเร่งดำเนินการในเรื่องการศึกษา การร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลให้ได้ โดยเฉพาะเส้นทาง East - West Corridor ซึ่งจะต้องมีผลไปถึงทวายด้วย ซึ่งเส้นทางที่สำคัญตอนนี้ที่คุยกับญี่ปุ่นไว้ คือเส้นทางจากกาญจนบุรีไปแหลมฉบัง ผ่านกรุงเทพมหานครด้วย

  "เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเราได้คุยกัน และตกลงว่าจะมีส่งคณะมาหารือกับกระทรวงคมนาคม กรรมการฝ่ายไทยโดยเร็วที่สุด...เส้นทางนี้จะเชื่อมโยงไทย-เมียนมาร์-กัมพูชา ระหว่างนี้กำลังเจรจากัน เพื่อเร่งทำ Action Plan ให้เร็วที่สุด อะไรที่เริ่มได้ในรัฐบาลนี้ ผมจะเริ่มให้หมด แต่วันหน้า ท่านก็ไปบอกรัฐบาลให้ทำต่อหรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะเป็นรัฐบาลเลือกตั้งของท่าน" นายกรัฐมนตรี กล่าว

   ส่วนการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนนั้น ขณะนี้ได้เร่งทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ กำลังวางระบบการเดินรถ แล้วก็จะเริ่มทดลองวิ่งในต้นปี 2559 สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย กำลังคัดเลือกผู้เดินรถ คาดว่าจะเปิดบริการได้ 2561 เส้นทางอื่นๆ หลายเส้นทาง เช่น สายสีเขียวใต้ ช่วงสมุทรปราการ - บางปู, สายสีเขียวด้านเหนือช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต, สายสีส้ม ช่วงพระราม 9 - มีนบุรี, สายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ทั้งหมดจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จและเปิดบริการภายในปี 2563

   นอกจากรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครแล้ว รถไฟฟ้า Monorail หรือรถรางในพื้นที่ปริมณฑล หรือเมืองใหญ่ๆ ก็ได้วางแผนเพื่ออนาคตไว้แล้ว ขณะนี้กำลังทำ Action Plan กันอยู่แต่จะเกิดขึ้นเมื่อไรก็เป็นเรื่องของในพื้นที่ด้วยที่ต้องช่วยกันดำเนินการ

   "อันนี้ จะต้องทำหลายลักษณะ วันนี้เราต้องเปลี่ยนรูปแบบการลงทุน รัฐลงทุนอย่างเดียวไม่ไหว ต้องร่วมมือกับภาคเอกชน โดยเบื้องต้นอาจจะเน้นเส้นทางระยะสั้นที่มีการคมนาคมขนส่งจำนวนมาก เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ ไปพัทยา ระยอง หรือหัวหิน ได้ประกาศไปแล้วมีเอกชนสนใจร่วมลงทุนมาพอสมควร" นายกรัฐมนตรี กล่าว

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!