- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Wednesday, 04 March 2015 23:52
- Hits: 2218
นายกฯชมรมต.ทุกคนทำเต็มที่ ย้ำถ้าจำเป็นปรับครม.ก็ต้องทำ
แนวหน้า : ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ยังไม่ได้ปรับอะไรเลย ยังไม่ได้สั่ง ซึ่งในที่ประชุมครม.ตนก็ได้ให้กำลังใจ และขอบคุณทุกคนที่ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน และสิ่งที่นายกฯทราบคือทุกคนเต็มที่ในการขับเคลื่อน ซึ่งต้องดูว่าองคาพยพในกระทรวง ทบวง กรมเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาอยู่ภายใต้อะไร วันนี้ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเขาให้มีกำลังใจในการทำงาน และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ซึ่งก็ใช้เวลามา 8 เดือน ขณะที่ผ่านมาไม่รู้กี่ปี ที่อยู่ภายใต้การบริหารอะไรไม่รู้ แต่วันนี้ไม่ได้แล้ว ต้องริเริ่มทำงานเชิงรุก มันก็เหนื่อย และไม่ได้อะไร ซึ่งตนเองก็ไม่ได้อะไร ที่ผ่านมาบางส่วนอาจมีผลประโยชน์อะไรต่างๆ ฉะนั้นคนเหล่านี้อาจมองว่า ที่เรามาเป็นส่วนเกิน แต่วันนี้ตนคิดว่าไม่มีแล้ว คนเหล่านั้นต้องถอยออกไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระทรวงไหนที่ต้องเสริมทัพหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกันทุกฝ่าย ถ้าดูโพลสำรวจ ฝ่ายความมั่นคงก็โอเค ใช้อำนาจ ใช้กฎหมายจัดระเบียบก็ดูดี เหตุการณ์ต่างๆลดลง เขาก็ได้คะแนนดี ส่วนฝ่ายเศรษฐกิจแย่ เพราะเศรษฐกิจโลกแย่ลงทำให้ในประเทศแย่ลง แต่อยากจะขอร้อง ถ้าเราพูดว่าแย่ๆทุกวัน จะยิ่งทำให้แย่ตามปากตัวเอง ประชาชนจะตื่นตระหนก ไม่กล้าใช้เงิน ทั้งๆที่คนไทยมีเงิน ใครว่าคนไทยไม่มีเงิน พวกเราที่นั่งอยู่ตรงนี้มีเงินน้อยกว่า 500 บาทในกระเป๋าหรือไม่ ต้องมีเงินทุกคน แต่จะกล้าใช้หรือไม่ ถ้าเราบอกว่าวันนี้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างนี้ มันก็ไม่กล้าใช้ พอไม่กล้าใช้เงิน สินค้าก็แพงขึ้นตามกัน เป็นการสร้างกระแสความตื่นตระหนก ซึ่งมันไม่ได้ ฉะนั้นทำอย่างไรให้คนใช้จ่ายอย่างพอเพียง มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย รัฐก็ต้องส่งเสริมการลงทุน โดยสร้างความเข้มแข็งภาคการผลิต ภาคธุรกิจ ซึ่งตนจะให้มีการรายงานมาว่าเศรษฐกิจอ่อนแอเพราะอะไร การส่งออกแย่เพราะอะไร เพราะเราไม่ได้เตรียมการเหล่านี้ไว้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้บังเอิญเราเข้ามาในช่วงที่น้ำมันลง เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ก็ดี ทำให้เราได้ปรับวิธีการทำงานใหม่ และวันนี้ได้สั่งให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม ดูเรื่องการส่งเสริมสินค้าเพื่อสร้างความเข้มแข็ง โดยการสร้างนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร รถรุ่นใหม่ หากเรายังผลิตแบบเดิมแต่ราคาสูงขึ้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องแข่งขันกับทุกประเทศ หรือจะปฏิวัติรูปแบบ เรียกว่านวัตกรรมแบบเชิงปฏิวัติ เปลี่ยนรูปแบบใหม่ เช่น เคยสร้างรถ เปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลก็ต้องไปช่วยเตรียมเครื่องจักร เทคโนโลยี เวลานี้กำลังจับเรื่องนี้ให้ออกมาเป็นเรื่องเป็นราว สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)ต้องไปดูผลการวิจัยต่างๆ รวบรวมขึ้นบัญชี และนำมาคิดจะทำอย่างไร ไม่ใช่แบบเดิม วิจัยแล้วจัดเก็บไว้ในเก๊ะ มันต้องเชื่อมโยงทั้งหมด เพราะวันนี้เศรษฐกิจของเราถูกบีบจากเศรษฐกิจรอบบ้าน เพราะค่าแรงเพื่อนบ้าน ลาว กัมพูชา พม่า ถูกกว่าเราประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ หากเป็นอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ค่าแรงจะถูกกว่าเราถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าเราจะแข่งกับเขาอย่างไร ก็ต้องปรับเปลี่ยนนวัตกรรมสินค้า ใช้ของดีกว่าและทนกว่า รูปแบบที่เป็นประโยชน์ ที่ผ่านมาทำหรือไม่เรื่องเหล่านี้ ตอนนี้กำลังจี้อยู่ทุกวัน ต้องส่งเสริมธุรกิจที่มีอยู่เดิม วันนี้จะคิดแค่ครัวโลกไม่ได้ ต้องเป็นเรื่องของอาหารทั่วโลก ประเทศไทยมีหลายอย่าง ทั้งอาหาร ท่องเที่ยวและบริการ สมุนไพร เครื่องสำอาง ตั้งคณะกรรมการมาต้องขับเคลื่อนให้ได้ นำไปสู่การส่งเสริมธุรกิจเดิมที่มีอยู่ให้ได้ ถ้ารอแบบนี้คนที่อยากทำก็ไม่กล้ามากู้ หากใครสนใจก็ต้องเรียกมาคุย บริษัทไหนจะร่วมมือหรือจะลดภาษีอะไร อย่างไร ก็ต้องทำ ไม่เช่นนั้นไม่เกิด และวันนี้ที่ห่วงอีกคือเรื่องน้ำใช้น้ำกิน
เมื่อถามว่า จะปิดตายคำว่า ‘ปรับครม.’จะไม่มีอีกแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “อย่ามาถามผม อย่างนั้นถ้าจำเป็นต้องทำก็ต้องทำ”