- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Monday, 02 March 2015 07:45
- Hits: 2452
อุ๋ยลั่นรอปีครึ่งมีเน็ตใช้ทั่วไทย ดึงเอกชนร่วมตั้งนิติบุคคลพัฒนาระบบ อุตฯประเดิมนำดิจิตอลส่งเสริมเอสเอ็มอี
มติชนออนไลน์ : วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ดึงเอกชนร่วมตั้งนิติบุคคลพัฒนาระบบ อุตฯประเดิมนำดิจิตอลส่งเสริมเอสเอ็มอี
"หม่อมอุ๋ย"เปรยภายในปีครึ่งประชาชนมีอินเตอร์เน็ตใช้ทุกหมู่บ้าน พร้อมตั้งนิติบุคคลรัฐร่วมเอกชนพัฒนาระบบ และจัดตั้งกองทุนร่วมทุนเปิดให้คนไทยกู้ยืมเพื่อพัฒนาระบบดิจิตอล ด้านกระทรวงอุตฯนำระบบดิจิตอลส่งเสริมเอสเอ็มอี
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "แนวโน้มเศรษฐกิจดิจิตอล โลกการค้าในอนาคต" ในงานสัมมนาเรื่อง "ขับเคลื่อนเอสเอ็มอีด้วยเศรษฐกิจดิจิตอล" ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ว่า เศรษฐกิจดิจิตอลคือช่องทางในการทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านการอินเตอร์เน็ต อาทิ การโอนเงินเพื่อชำระสินค้า-ค่าบริการ การเผยแพร่ข้อมูลเปรียบเสมือน อี-คอมเมิร์ซ โดยรัฐบาลจะทำให้ประชาชนมีโอกาสใช้อินเตอร์เน็ตในต้นทุนที่ถูกลง สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้เกือบทุกหมู่บ้านภายในระยะเวลาปีครึ่ง และในอีก 1 ปีหลังจากนั้นจะสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ทั้งประเทศ พร้อมมีการตั้งระบบให้คำแนะนำให้ความเข้าใจถึงการทำธุรกรรมอินเตอร์เน็ต และการจัดหมวดหมู่ระบบข้อมูลต่างๆ รวมทั้งการให้เงินทุนสำหรับคนไทยที่เชี่ยวชาญด้วย
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า สำหรับวิธีการในการจัดตั้งระบบเศรษฐกิจดิจิตอลคือ การตั้งเนชั่นแนลบรอดแบรนด์แห่งชาติ เพื่อนำสายไฟเบอร์ออพติคเข้าไปแต่ละพื้นที่ของประเทศ เพื่อให้ทุกบ้านสามารถเข้าถึงการใช้อินเตอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง ซึ่งในส่วนนี้จะตั้งนิติบุคคลขึ้นมา โดยมีรัฐและเอกชนเป็นเจ้าของร่วมกัน แต่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจโดยเอกชนที่เข้าร่วมจะแบ่งผลกำไรกับรัฐจากการคิดค่าบริการการใช้อินเตอร์เน็ตประชาชน ส่วนรูปแบบการจัดตั้งนิติบุคคลจะต้องให้คณะกรรมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณา
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลจะจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุนหรือเวนเจอร์แคปปิตอล เพื่อเข้าร่วมลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพเติบโตได้ เพื่อให้เงินกู้กับคนไทยที่เชี่ยวชาญในการทำโปรแกรมหรือเนื้อหาในลักษณะดิจิตอล อย่างที่สิงคโปร์และเกาหลีทำ เพื่อให้คนที่มีความรู้ในการผลิตเนื้อหาด้านดิจิตอลสามารถจัดตั้งธุรกิจซื้อขายเป็นของตัวเองได้ และรัฐบาลจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สถาบันการเงิน ธุรกิจบริการ ธุรกิจโรงแรม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงไอซีที กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น เพื่อให้เข้ามาทำงานด้วยกัน พิจารณาแนวทางพัฒนาธุรกิจต่างๆ ร่วมกันต่อไป
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานเดียวกันว่า จะนำระบบดิจิตอลเข้ามาส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กไปสู่ขนาดใหญ่และเชื่อมโยงกับภาครัฐเพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว รวมทั้งใช้ระบบดิจิตอลในภาคอุตสาหกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาหลักที่สำคัญ เช่น การขจัดอุปสรรคในการอนุมัติ อนุญาตต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนและภาคเอกชนได้รับความสะดวกสบายและคล่องตัวในการทำธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ ยังจะนำไปใช้กับการจัดการขยะอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นทางจนถึงกระบวนการกำจัด
