- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Thursday, 26 February 2015 22:37
- Hits: 2764
นายกฯ ชี้เบิกจ่ายงบฯ Q2/58 จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% หลังลดขั้นตอนทำงาน
นายกฯ เผย การเบิกจ่ายงบประมาณช่วงไตรมาส 2/58 จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของงบประมาณรวม หลังรัฐเร่งลดขั้นตอน หวังอัดเงินซ่อมสร้างถนน 4 หมื่นลบ.ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ระบุแม้ยังคงกฏอัยการศึกแต่ต่างชาติยังเที่ยวไทยมากขึ้น รัฐบาลจึงต้องกองทุนไว้ดูแลสวัสดิการนักท่องเที่ยวต่างชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่าการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลในช่วงไตรมาส 2/58 จะดีขึ้นเป็น 30% ของงบประมาณประจำปี 58 จากปัจจุบันเบิกจ่ายไปแล้ว 20% เนื่องจากรัฐบาลได้เข้าไปดูขั้นตอนให้มีการเร่งรัดและลดขั้นตอนการเบิกจ่ายให้เร็วขึ้น ซึ่งในระดับล่างนั้นมีขั้นตอนถึง 6ขั้นตอน เชื่อว่าในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะเริ่มมีการใช้งบประมาณ
โดยส่วนตัวเชื่อว่าข้าราชการไม่ได้มีการใส่เกียร์ว่างในเรื่องการผลักดันให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งข้าราชการไม่ควรกลัวเรื่องการเดินหน้าการเบิกจ่ายเพียงเพราะว่ากลัวจะเจอการตรวจสอบเรื่องทุจริต เพราะหากคิดอย่างนั้นแล้วโครงการจะไม่เดินหน้า โดยหากดำเนินการตามขั้นตอนมีระเบียบแบบแผนก็ไม่ควรกลัวเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลจะมีการเปิดเผยในเว็บไซต์ว่าจะมีงบประมาณการลงทุนออกมาในส่วนไหนบ้างเพื่อให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยอาจจะมีการให้ทำเป็นแอพพลิเคชั่นขึ้นมา
นอกจากนี้ จากการที่ ครม.อนุมัติเม็ดเงินเพิ่มอีก 4หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการซ่อมถนนชนบท คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในครึ่งปีหลัง ก็หวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จากการขับเคลื่อนการลงทุนของรัฐบาล
นอกจากนี้ การลงทุนที่นอกเหนือจากการซ่อมถนนแล้ว รัฐบาลก็จะลงทุนทั้งระบบ โดยจะมีการสร้างรถไฟฟ้ารางคู่ เชื่อมจากภาคตะวันออกไปภาคตะวันตก และเชื่อมภาคเหนือไปภาคใต้ ดังนั้น จึงต้องมีงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกนอกเหนือจาก 4 หมื่นล้านบาทที่ได้อนุมัติไปแล้วเพื่อลงทุนด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานดังกล่าว รวมถึงการลงทุนในเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย
ขณะที่เศรษฐกิจระดับล่างซึ่งได้มีการให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และมหาดไทย เข้าไปดูแล 2 เรื่อง คือ 1.รายได้ของเกษตรกร ต้นทุนการผลิต และ 2.การปรับเปลี่ยนการผลิต ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะการตั้งโรงงานในต่างประเทศเพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) เพื่อนำมาแปรรูปในประเทศ
นายกฯ กล่าวต่อถึง กรณีที่ภาคเอกชนรวมตัวกันมาเพื่อยื่นข้อเสนอในการลงทุนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมมาพัทยานั้น ภาคเอกชนได้เข้ามาหารือแล้ว ซึ่งการลงทุนจะเป็นลักษณะร่วมลงทุนกับภาครัฐ (PPP) ไม่ได้เป็นการให้สัมปทานส่วนเม็ดเงินลงทุนอาจจะต้องกู้ในต่างประเทศบ้าง
นายกฯ กล่าวถึง สถานการณ์ท่องเที่ยวในไทยว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น แม้ไทยจะมีกฎหมายพิเศษก็ตาม ซึ่งรัฐบาลไทยได้มีการตั้งกองทุน 200ล้านบาท ซึ่งหากนักท่องเที่ยวมีการบาดเจ็บจากการเดินทางสามารถที่จะมาเบิกเงินจากกองทุนนี้ได้ โดยหวังให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยให้มากขึ้น
"ปัจจุบันนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยจำนวนมาก สังเกตได้จากที่สนามบินมีการต่อแถวยาวมากในการที่จะเข้ามา ซึ่งอาจจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวชอบมาเที่ยวไทยในช่วงมีกฎหมายพิเศษ ซึ่งถือว่าเข้ามามากกว่าจากในช่วงก่อนหน้านี้ โดยรัฐบาลมีการจัดตั้งกองทุน 200 ล้านบาท หากนักท่องเที่ยวมีการบาดเจ็บก็มาเบิกตรงนี้ได้ อยากให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น และคนไทยก็ควรจะเที่ยวในประเทศ" นายกฯ กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย