- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Sunday, 08 February 2015 17:14
- Hits: 2843
นายกฯเผย รบ.ตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศให้ได้ 1% ของ GDP
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ" ว่า การลงทุนในการวิจัยและพัฒนามีความจำเป็นอย่างยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ ในการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในการแข่งขัน ดังนั้น ภาครัฐจะเร่งผลักดันให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเพิ่มมากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศโดยรวมให้ได้ 1% ของ GDP และ เพิ่มสัดส่วนการวิจัยและพัฒนาของเอกชนเป็น 70% ต่อ 30% ให้ได้ ขณะนี้ภาพรวมของการลงทุนวิจัยภาคเอกชน ได้เพิ่มมากขึ้นถึงกว่า 2 หมื่นล้านบาทในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังไม่เพียงพอกับสภาพการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้น ดังนั้น เมื่อเรามีมาตรการยกเว้นภาษีเพิ่มเติมนั้น ก็อาจจะช่วยเป็นแรงจูงใจให้กับภาคเอกชน ได้เพิ่มการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นตามลำดับ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน เพราะว่าถ้าหากเราสามารถศึกษาวิจัยพัฒนาสินค้าได้ เราก็จะใช้วัตถุดิบทางการเกษตร มีการรับรองคุณภาพ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับพืชผลทางการเกษตรของเรา ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องราคาที่ตกต่ำได้ด้วย
ขณะเดียวกัน อยากจะฝากให้สถาบันการศึกษาทุกส่วน ทุกระดับที่มีส่วนสำคัญ มีสถาบันวิจัย หรือมีเรื่องที่วิจัยอยู่แล้วในขณะนี้ ในสถานศึกษาทั่วทุกภูมิภาค ได้มีการร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น ภาคเอกชนในพื้นที่ช่วยกันวิจัย และพัฒนาสินค้าท้องถิ่นด้วย ในส่วนของภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อจะรองรับกับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะช่วยให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ด้านการส่งเสริมการค้าการลงทุน เป็นสิ่งที่รัฐดำเนินการมาโดยตลอด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 8 เดือน วันนี้ การเร่งรัดการอนุมัติโครงการของBOI และการให้ใบอนุญาตการจัดตั้งโรงงาน หรือเรียกว่า รง. 4 (ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน) นั้น ก็ได้สั่งการให้รีบดำเนินการอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ในส่วนของ BOI นั้น รัฐบาลได้มีการอนุมัติโครงการไปแล้วกว่า 1,050 โครงการ เป็นเม็ดเงินลงทุนประมาณ 680,000 ล้านบาท ในช่วงธันวาคมที่ผ่านมานั้น ได้มีโครงการที่มาขอรับการส่งเสริมจาก BOI อีกกว่า 2,000 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน กว่า 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะเร่งพิจารณาส่งเสริมโครงการที่มีคุณค่าต่อเศรษฐกิจ และช่วยในการพัฒนาประเทศ รวมทั้งเร่งดำเนินการวางโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมกับการค้าการลงทุน ทั้งในด้านการวางรากฐานเทคโนโลยี การพัฒนาคุณภาพบุคลลากร การฝึกทักษะฝีมือแรงงาน รวมไปถึงระบบโลจิสตกส์ต่าง ๆ เพื่อจะให้เอื้อต่อการค้าการลงทุนในประเทศไทย เป็นการวางรากฐาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมต่อไป
อินโฟเควสท์