WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ประยุทธ์ประชุมเช็คอาการเศรษฐกิจ บี้พาณิชย์จัดการข้าวแกงแพง

     แนวหน้า : นายกฯถกทีมเศรษฐกิจ เช็คสถานการณ์ บี้ถามพาณิชย์น้ำมันถูก แต่ทำไมข้าวแกงยังแพง ด้านพาณิชย์รับลูกเตรียมเชิญเอกชนเข้าหารือ พร้อมเสนอ ครม.ดันส่งออกเป็นวาระแห่งชาติ ยืนยันเป้า 4% เร่งเดินหน้าขยายการค้าชายแดน

     เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจ นำโดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ นายประสาร ไตรรัตนวรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานราชการระดับปลัดกระทรวง

    ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์ทางเศรษฐกิจให้ที่ประชุมรับทราบโดยเฉพาะการดูแลค่าเงินบาทของธปท. หลังสหภาพยุโรป

    (อียู)อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จนทำให้เงินทุนไหลออก ส่งผลต่อเงินบาท รวมถึงต้นทุนราคาสินค้าและค่าโดยสาร ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถทำให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ปรับลดลงได้ พร้อมทั้งติดตามแผนช่วยเหลือประชาชนของส่วนราชการต่างๆ ซึ่งเตรียมประกาศออกมาเป็นแพ็กเกจออกมาพร้อมกันอีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และระดับรากหญ้าในช่วงฤดูแล้ง ให้มีเงินไหลออกสู่ระบบ

   นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่านายกรัฐมนตรี ได้สอบถามเกี่ยวกับราคาอาหาร หลังจากราคาน้ำมันปรับลดลง ราคาวัตถุดิบในตลาดสดลดลงหลายรายการ แต่อาหารปรุงสำเร็จรูปหรือข้าวแกงยังไม่ปรับลดลง ดังนั้นภายในสัปดาห์นี้เตรียมเชิญภาคเอกชนมาหารือร่วมกันเกี่ยวกับต้นทุนลดลงแต่อาหารสำเร็จรูปยังคงที่และบางรายการกลับปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าข้าวแกงไม่สามารถบังคับการกำหนดราคาได้ เพราะแต่ละจานใส่เนื้อหมู ไก่ ไข่ ไม่เท่ากัน จึงต้องใช้รูปแบบราคาแนะนำ และแนะนำให้ประชาชนซื้อในสถานที่ใดบ้าง

    สำหรับ สถานการณ์ส่งออกนั้น ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ยืนยันที่ประชุม ครม.ว่าการส่งออกปีนี้คาดว่ายังทำได้ตามเป้าหมาย 4% จากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จึงต้องหันมาเน้นตลาดตามแนวชายแดน ตลาดประเทศกำลังพัฒนากำลังฟื้นตัว ส่วนอัตราเฟ้อเดือนมกราคมที่ติดลบนั้น ที่ประชุมไม่เป็นห่วง เพราะไม่ใช่ติดลบ เนื่องจากการบริโภคลดลง แต่ติดลบเพราะต้นทุนสินค้าลดลง

    วันเดียวกัน ที่กระทรวงพาณิชย์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานกระทรวงพาณิชย์โดย มีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม โดยยืนยันภายหลังการประชุมว่าแม้หลายหน่วยงานจะประเมินการส่งออกปี 2558 อาจจะขยายตัว 2.5-3% แต่กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งประมาณการส่งออกปีนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 4% แม้จะมีปัญหาและอุปสรรค โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลก ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน และปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าทุกวิถีทางที่จะผลักดันตัวเลขการส่งออกให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4%

   อย่างไรก็ตาม การที่จะผลักดันตัวเลขการส่งออกให้มีอัตราการขยายตัว 4% กระทรวงพาณิชย์จะทำงานเพียงหน่วยงานเดียวคงเป็นเรื่องลำบาก ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอที่ประชุมครม.เพื่อให้ดึงเรื่องการส่งออกเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะให้มีการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคณะกรรมการชุดดังกล่าว

    ประกอบไปด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ และอีกหลายหน่วยงาน

   ส่วนภาคเอกชน ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เมื่อสามารถจัดตั้งคณะกรรมการที่จะเข้ามาดูและผลักดันการส่งออกเป็นวาระแห่งชาติแล้วจะทำให้การแก้ไขปัญหาการส่งออกจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์จะไม่ย่อท้อและไม่ปรับเปลี่ยนตัวเลขการส่งออก เพราะเชื่อว่ายังสามารถผลักดันการส่งออกได้

    นอกจากนี้ ในเรื่องของความคืบหน้าการค้าชายแดนยังเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการผลักดันการส่งออก การค้าชายแดน โดยปี 2558 ตั้งเป้าหมายการค้าชายแดนขยายตัวไม่น้อยกว่า 30% หรือคิดเป็นมูลค่าการค้าไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ไทยกับกระทรวงพาณิชย์ประเทศเมียนมาร์ได้ตกลงร่วมกันที่จะขยายการค้าชายแดนในส่วนของไทยและเมียนมาร์ในช่วง 1-2 ปีนี้ให้ขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!