- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Wednesday, 24 December 2014 21:43
- Hits: 10751
นายกฯประกาศวิสัยทัศน์รัฐบาลปี 58-63 ประเทศมั่นคง-ประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงปี 2558-2563 รัฐบาลมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง และทำให้ประชาชนมีความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน โดยไม่มีแนวคิดที่จะแปลงสภาพคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้เป็นองค์กรถาวร
สำหรับการแถลงผลงานครบรอบ 3 เดือนของรัฐบาลในวันพรุ่งนี้คงต้องถามประชาชนว่าพอใจกับสิ่งที่รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาหรือไม่ แต่ตนเองให้ใจกับประชาชนในการแก้ไขปัญหา และมั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำก็ได้ใจจากประชาชนด้วย เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำก็เพื่อประชาชน เช่น การแก้ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย ปัญหาเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็ง สร้างห่วงโซ่เศรษฐกิจ สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และขอให้ทุกคนช่วยลดความขัดแย้งเพราะขณะนี้ทุกประเทศพร้อมที่จะลงทุนกับประเทศไทย
นายกรัฐมนตรียังอวยพรปีใหม่ให้กับประชาชนว่า ประชาชนเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ รัฐบาลก็มีการจัดของขวัญปีใหม่ให้แต่เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น แต่ที่สำคัญคือการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศดีขึ้น จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ให้ประเทศไทยในปี ค.ศ.2015-2020 ว่า เป็นประเทศต้องเป็นประเทศที่มั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน
โดยนายกรัฐมนตรีได้อธิบายแต่ละด้านว่า ความมั่นคงคือ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ลดความรุนแรง ส่วนความมั่งคั่งคือ สร้างเศรษฐกิจเข้มแข็งเพิ่มการค้าขายและการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน และยั่งยืนคือ ต้องยึดแนวทางพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทุกกระทรวงจะต้องนำไปเนินการ และหลังจากนี้รัฐบาลจะขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับภาคเอกชน ในการผลิต การจำหน่าย การตลาด และชักจูงนักลงทุนจากต่างประเทศมาลงทุนในประเทศไทย
ส่วนการจัดโครงการ"เทใจ คืนสุขสู่ประชาชน"ลดราคาจำหน่ายสินค้าเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นเวลา 7 วันนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์ประเมินยอดขายราว 5 หมื่นล้านบาท แต่หวังว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนอย่างต่อเนื่องเป็นกว่า 1.5 แสนล้านบาทหากได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ส่วนจะขยายกรอบเวลาหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ และการลดราคาสินค้าร้อยละ 70-80 ถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว และอาจมีการจัดงานลดราคาสินค้าในวาระพิเศษหรือมีขึ้นทุกเดือนด้วย ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อช่วยเหลือคนจนให้ได้ซื้อสินค้าราคาถูก ส่วนระยะยาวก็จะมีมาตรการอื่นๆ ออกมาอีก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
"ผมไม่ได้บังคับท่าน เป็นเรื่องความร่วมมือร่วมใจขนาดนี้ ผมถือว่าครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ลดราคาขนาดนี้ ช่วงนี้ช่วงปีใหม่อาจจะแค่ 5 หมื่นล้าน ผมพูดว่าเป็น 1.5 แสนล้านได้มั้ยอาจจะให้โอกาสหน้าหรืออาจเป็นวาระพิเศษแล้วแต่บริษัท" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการประชุมแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่ไทยจะต้องส่งรายงานต่อทางการสหรัฐอเมริกาภายในวันที่ 9 ม.ค.นี้ว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันและต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา เพราะไทยมีปัญหาสะสม ทั้งเรื่องขอทาน และแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องสร้างความเชื่อมั่น และผู้ประกอบการต้องให้ความร่วมมือในการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ซี่งจะต้องชี้แจงให้ได้ในทุกประเด็น รวมถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการ ทั้งการแก้ปัญหาประมงที่จะมีการติดจีพีเอสที่เรือ เพื่อง่ายในการตรวจสอบ ควบคุมการจับปลานอกน่านน้ำ แรงงานประมงต้องอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
ขณะเดียวกันกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ถูกหลอกไปใช้แรงงานประมงด้วยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานให้ดีขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังฝากไปยังชาวสวนยางพาราว่า กำลังติดตามสถานการณ์ราคายางพาราอย่างใกล้ชิดและพยายามขับเคลื่อนการแก้ปัญหาให้รวดเร็วขึ้น และอยากให้เข้าใจว่าขณะนี้ตลาดยางในต่างประเทศมีความต้องการลดลงอย่างมาก แต่รัฐบาลได้พยายามติดตามเร่งรัดการเงินช่วยเหลือให้ถึงมือชาวสวนยาง และเชื่อว่า สินค้าเกษตรในปีหน้าจะมีอนาคตสดใสมากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนกระแสข่าว คสช.จะทำหน้าที่เป็นองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญนั้น นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่ายังไม่มีแนวคิดเรื่องนี้และไม่ทราบรายละเอียดที่มาของข่าวดังกล่าว
อินโฟเควสท์