- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Friday, 28 November 2014 22:43
- Hits: 3046
ไทย-เวียดนาม พร้อมเชื่อมโยงระเบียงศก.ตั้งเป้าการค้า 15,000 ล้าน US ปี 63
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบหารือกับนายเหวียน เติ๊น สุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ณ สำนักนายกรัฐมนตรีเวียดนาม สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามมีความใกล้ชิดและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภายหลังการประกาศความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อเดือนมิถุนายน 2556 ทั้งนี้ในปี 2559 ไทยและเวียดนามจะครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต
สำหรับ ด้านการค้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการค้ามูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ค.ศ.2020 นั้น ทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมเดินหน้าหาช่องทางในการขยายการค้าระหว่างกัน โดยใช้ประโยชน์เพื่ออำนวยความสะดวกและผลักดันให้มีการส่งออกและนำเข้าสินค้าระหว่างกันมากขึ้นโดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือระหว่างกัน ได้แก่ ข้าว และยางพารา ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
ด้านการลงทุน นายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลเวียดนามที่ดูแลนักธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามมาโดยตลอด และขอเสนอให้หน่วยงานส่งเสริมการลงทุน 2 ฝ่ายพิจารณาจัดตั้งกลไกหรือคณะทำงานส่งเสริมและคุ้มครองด้านการลงทุนระหว่างกัน เพื่อใช้ความตกลงด้านการลงทุนที่มีอยู่ เช่น ความตกลงคุ้มครองการลงทุน และอนุสัญญายกเว้นการเก็บภาษีซ้อนให้ได้ประโยชน์สูงสุด และส่งเสริมให้ธนาคารไทยมาเปิดสาขาในเวียดนามมากขึ้น
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังยินดีที่ทราบว่ารัฐบาลเวียดนามอนุมัติให้ บมจ.ปตท.(PTT) ดำเนินโครงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานปิโตรเคมีในเขตเศรษฐกิจเญินโห่ย จ.บิ่งห์ดิ่งห์ รวมทั้ง บริษัท EGAT I ของไทยเข้ามาลงทุนโรงงานผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานทั้งในไทย เวียดนามและภูมิภาค
ด้านการเชื่อมโยงนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งที่จะช่วยทำให้การรวมกลุ่มของอนุภูมิภาคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ โดยให้ความสำคัญในการใช้ประโยชน์จากเส้นทาง R8 R9 และ R12 เชื่อมต่อไทย-ลาว-เวียดนาม โดยฝ่ายไทยขอเสนอให้เปิดบริการรถโดยสารในเส้นทางระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยกับภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระตุ้นการค้าและการลงทุนแล้ว ยังจะเพิ่มการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคโดยรวมด้วย
นอกจากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยินดีสนับสนุนให้สายการบินต้นทุนต่ำเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นโอกาสทางธุรกิจของสายการบินเองและช่วยสนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนและนักธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งให้มีการพัฒนาการเดินเรือตามแนวชายฝั่งทะเล เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของการท่องเที่ยวระหว่างกัน
สำหรับ สถานการณ์ทะเลจีนใต้ ในฐานะผู้ประสานงานอาเซียน-จีน ไทยมุ่งส่งเสริมให้การเจรจาจัดทำ COC มีความคืบหน้า และส่งเสริมให้อาเซียนมีท่าทีร่วมกันเพื่อความสงบในพื้นที่และในภูมิภาค โดยโอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญนายกรัฐมนตรีเวียดนามเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และเป็นประธานร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนามอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3 ที่ฝ่ายไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนมกราคม 2558 ซึ่งจะเป็นโอกาสให้คณะรัฐมนตรีของทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันหารือความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนในด้านต่าง ๆ
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ตอบรับคำเชิญของนายกรัฐมนตรีที่จะเข้าร่วมการประชุม GMS ที่จัดขึ้นในไทย และร่วมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม อย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3 ในต้นปีหน้า
สำหรับ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจนั้น เวียดนามพร้อมที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจ ตะวันออก-ตะวันตก และเหนือ-ใต้ รวมทั้งความร่วมมือในมิติอื่นๆ ทั้งการศึกษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และกีฬา รวมทั้งการกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยนายกรัฐมนตรีของเวียดนาม ระบุว่า พร้อมจะสนับสนุนไทยในทุกเวที ทั้งระดับประเทศ ภูมิภาค และภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งนี้ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามที่มีความเข้มแข็งในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างสร้างสรรคแก่อาเซียน และภูมิภาคโดยรวม
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีของไทยและนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแผนปฏิบัติการและบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ คือ 1.แผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-เวียดนาม 2.แผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนว่าวัฒนธรรมไทย-เวียดนาม 3. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดฉะเชิงเทรากับนครเกิ่นเทอ
อินโฟเควสท์