- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Monday, 24 November 2014 20:54
- Hits: 2894
'ปรีดิยาธร'มั่นใจจีดีพี 58 ฉลุย 4% ยันรัฐเร่งฉีดเงินกระตุ้นดันค้า-ลงทุนลื่น
ไทยโพสต์ : เชียงราย *'ม.ร.ว.ปรีดิยาธร'มั่นใจจีดีพีปี 2558 โตฉลุย 4% แน่ หลังรัฐบาลเร่งอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนเข้าระบบ พร้อมลุยแก้กฎหมายสางปมภาษี ดึงบริษัทนอกตั้งสำนักงานในไทย รับมีกฎหมายอีก 100 ฉบับต้องแก้ไขก่อนเปิดเออีซี หนุนผู้ประกอบการไทยทำการค้า-ลงทุนสะดวกขึ้น หอการค้าไทยระบุ ศก.จะโตมากน้อย ขึ้นอยู่กับการกระตุ้นจากภาครัฐ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายในการปาฐกถาพิเศษ "การขับเคลื่อนประเทศไทย" ในงานสัมมนาหอ การค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 32 ที่จังหวัดเชียงราย ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะเห็นผลต่อเศรษฐกิจได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2558 ซึ่งจะส่งผลให้จีดีพีขยายตัวได้ในระดับ 4%
โดยงบลงทุนในปี 2557 คาดว่าจะเซ็นสัญญาการใช้งบประ มาณได้ 10.5% ของ 1.4 แสนล้าน บาท ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเงินจำนวนนี้จะเข้าสู่ระบบได้ทันที ขณะที่งบลงทุนในปี 2558 ภายใน 3 เดือนแรก ได้มีการเซ็นสัญญาใช้แล้วเช่นกัน ซึ่งในช่วงเดือน ม.ค.มี.ค.จะมีเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น ดันให้เศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2558 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ พยายามปรับแก้กฎระเบียบให้เอื้อต่อการทำธุรกิจของภาคเอกชน โดยจะมีการเสนอการปรับแก้กฎหมายด้านภาษีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ภูมิภาค (ROH) เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในเมืองไทย โดยสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะเทียบเคียงกับฮ่องกงและสิงคโปร์ ขณะที่ขั้นต่อไปจะปรับแก้การขออนุญาตเข้าทำงานของชาวต่างชาติ ให้เอื้อนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมให้ประเทศไทยมีกิจ กรรมการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น
ด้านการส่งเสริมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ขณะนี้ปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่การ เตรียมตัวของภาครัฐ โดยเฉพาะ เรื่องการปรับแก้กฎระเบียบ กฎหมายต่างๆ ให้สอดคล้องกับการเปิดเสรี ซึ่งปัจจุบันมีกฎหมายกว่า 100 ฉบับ ที่รอการปรับแก้อยู่ โดยรัฐบาลจะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จภาย ในเดือน ธ.ค.2558 เพื่อการทำการค้า การลงทุนของผู้ประกอบการไทยภายในอาเซียนเป็นไปอย่างสะดวก
นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย แถลงสรุปผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค และ SMES ไทย จากผู้เข้าร่วมสัมมนาที่ตอบแบบสอบถามจำนวน 700 รายจากทั่วประเทศ ว่า เศรษฐกิจภูมิภาคปี 2557 และแนวโน้มปี 2558 ได้ปัจจัยบวกจากการเมืองที่มีเสถียรภาพ การค้าขายดีที่คึกคักขึ้น การท่องเที่ยวฟื้นตัว การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น การจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา และโครงการลงทุนของภาครัฐ
ส่วนปัจจัยลบที่กระทบต่อเศรษฐกิจภูมิภาค ได้แก่ ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐ กิจโลก แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรชะลอตัว ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น งบประมาณการลงทุนของรัฐล่าช้า ภาระหนี้สินของครัวเรือน การส่งออกของประเทศไทยมีแนวโน้มชะลอตัว และภัยธรรม ชาติ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐ กิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการ ค้าไทย กล่าวว่า ปี 2558 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีอัตราขยายตัว 3-5% ซึ่งจะขยายตัวมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่เป็นรูปธรรมหรือไม่.
หม่อมอุ๋ย นัดเปิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเดือนหน้าหวังเป็นของขวัญปีใหม่
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ในช่วงเดือนหน้า (ธ.ค.) รัฐบาลเตรียมเชิญสื่อมวลชนพูดคุยและชี้แจงถึงมาตรการทางด้านเศรษฐกิจที่จะมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย พร้อมทั้งชี้แจงถึงแนวทางการดำเนินเศรษฐกิจของปีหน้าด้วย
สำหรับ มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย การดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านซึ่งที่ผ่านมาถือว่าเป็นหนึ่งการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเป็นอย่างดี ซึ่งรัฐบาลมีแนวคิดที่จะหามาตรการเสริม โดยขณะนี้ทางกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการจัดทำ'นาโนไฟแนนซ์'ให้เป็นแหล่งเงินกู้ของผู้มีรายได้น้อย อาจกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 3 ต่อเดือน หรือร้อยละ 36 ต่อปี และอยู่ระหว่างติดต่อองค์กรเอกชนขนาดใหญ่เข้ามาร่วม คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในสิ้นปีนี้
ส่วนกรณีมีชาวนาบางส่วนออกมาเรียกร้องให้รัฐพยุงราคาข้าวเปลือกนั้น ยืนยันว่า ราคาข้าวในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 8,000 บาทต่อเกวียน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่อยู่ในเกณฑ์ที่รัฐบาลตั้งไว้อยู่แล้ว นอกจากยังคงมีมาตรการที่รัฐบาลให้การส่งเสริมไม่ว่าจะเป็น การให้โรงสีสามารถกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์และรัฐบาลช่วยเหลือภาระดอกเบี้ยที่ร้อยละ 3
ด้านมาตรการส่งเสริมให้ชาวนามีอาชีพเสริมนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนทั้งระบบคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.โดยจะเป็นส่วนช่วยในการเพิ่มรายได้ให้ชาวนา พร้อมทั้งจะมีการกำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมว่าควรจะปลูกพืชใด ซึ่งเริ่มมาตรการในช่วงของการปลูกข้าวนาปีปีหน้า
อินโฟเควสท์