- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Tuesday, 21 October 2014 00:05
- Hits: 3367
ที่ปรึกษาหม่อมอุ๋ยคาดจะได้เห็นแผนแม่บทเศรษฐกิจดิจิทัลในเร็วๆ นี้
นายสิทธิชัย โภไคยอุดม อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) และที่ปรึกษา ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีแนวคิดร่วมกับนายโกศล เพ็ชรสุวรรณ์ อดีตอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ในเรื่องความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องมีนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้เห็นถึงความสำคัญและนำแนวคิดนี้ไปเสนอต่อรัฐบาล ซึ่งการจัดทำแผนแม่บทเศรษฐกิจดิจิทัลคาดว่าจะแล้วเสร็จในไม่ช้านี้ ซึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับคณะทำงานชุดที่รัฐบาลตั้งขึ้น
ส่วนกรณีที่คณะทำงานได้เสนอให้มีการเปลี่ยนชื่อจากกระทรวงไอซีที ไปเป็นกระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัลนั้น เห็นว่าคงเพื่อต้องการจะตั้งธงขึ้นมาให้ทุกคนมีความกระตือรืนร้นในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ระบบงานของตัวเองให้มากขึ้น รวมทั้งใช้ในระบบเศรษฐกิจ ในระบบค้าขาย ในระบบจัดการขนส่งให้มากขึ้นกว่านี้ ตลอดจนเพื่อเน้นให้ภาครัฐจัดตั้งระบบงาน และมีการปรับปรุงองคาพยพของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ รวมทั้งผลิตบุคลากรที่รู้จักเทคโนโลยีไอซีทีให้มีความรู้จริงๆ มีจำนวนเพียงพอต่อการขยายระบบเศรษฐกิจของเราในอนาคต
"เราจะเน้นว่า เพื่อจะให้เศรษฐกิจของชาติเจริญได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แม้กระทั่งด้านการเกษตรก็ตาม ก็จะต้องนำเทคโนโลยีไอซีทีมาใช้ ซึ่งก็เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยระบบดิจิตอลเอง" นายสิทธิชัย กล่าว
พร้อมระบุว่า เราเห็นว่าถ้าจะให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยมีความแพร่หลายและเจริญได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีไอซีทีเข้ามาช่วยอย่างมาก การจะให้ไอซีทีแพร่หลายได้นั้น คือจะต้องให้ประชาชนสามารถส่งข้อมูลดิจิตอลไปในประเทศและต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ในราคาถูก ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับปรุงระบบไฟเบอร์ออฟติกให้ครอบครุมทั้งประเทศ เรียกว่าเป็น National Broadband Network คล้ายกับการสร้างทางหลวงที่มีโครงข่ายไปทั่วประเทศ ซึ่งจะต้องพยายามให้บริษัทต่างๆ ที่เป็นผู้ให้บริการมือถือ 3G อยู่ในขณะนี้ได้พัฒนาปรับปรุงให้มีสถานีฐาน(Cellsite) ให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น และต้องเน้นว่าระบบ 4G ต้องเกิดขึ้นตามมาอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นระบบมือถือที่เน้นการส่งข่าวสารข้อมูลเป็นหลัก
"ปัจจุบันเป็นการขนถ่ายข้อมูลดิจิทัลเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นทางหลวงที่จะใช้ในการส่งข้อมูลต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถรองรับจำนวนข้อมูลที่มากขึ้นทวีคูณได้ เป็นการขยายแบนด์วิท เพื่อให้ทุกคนสามารถส่งข้อมูลพร้อมกันได้มากๆ รวมทั้งโทรศัพท์ระบบ 3G ในปัจจุบันที่เรายังทำได้ไม่ดีนัก ถ้าอยู่ในบริเวณที่ห่างไกล ยังติดต่อยาก ค่าโทรแพง ถ้าจะให้คนที่อยู่ห่างไกลสามารถค้าขายโดยระบบไอซีทีได้ บางแห่งการลากสายไฟเบอร์ออฟติกอาจไม่คุ้มทุนเพราะมีคนอยู่น้อย จึงต้องหันมาใช้ระบบโทรศัพท์มือถือ 3G และ 4G เป็นหลัก ต้องพยายามให้มีการบริการที่ดีขึ้นมากกว่านี้"อดีตรมว.ไอซีทีระบุ
อินโฟเควสท์