- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Sunday, 02 February 2020 23:10
- Hits: 11169
ครม.เศรษฐกิจ ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวบรรเทาผลกระทบไวรัส-คลังรับพิจารณาข้อเสนอลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 1/2563 เห็นชอบมาตรการพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจากผลกระทบการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 สำหรับ มาตรการระยะเร่งด่วน ได้แก่ การจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและยืดระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้หรือดอกเบี้ย 6 เดือน
สำหรับ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว, การปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน, การปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงของอากาศยาน, การสนับสนุนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจัดประชุมสัมมนาในต่างพื้นที่เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ, การหาตลาดทดแทนที่มีศักยภาพ เป็นต้น
สำหรับ มาตรการระยะยาวเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน ได้แก่ การปรับปรุงบริการ การอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศไทย, การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ยกระดับคุณภาพ และการบริการด้านการท่องเที่ยว, การสนับสนุน Charter Flight สำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีการใช้จ่ายสูง และการขยายเวลาเศรษฐกิจภาคกลางคืน โดยนำร่องเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว (Zoning) คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไป
ผู้ว่าการ ททท.ระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ได้ส่งผลกระทบทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงถึง 80% คิดเป็นมูลค่าความเสียหายถึง 95,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2563 นั้น จะพยายามทำให้ได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ที่ 41.8 ล้านคน
ด้านกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการครม.เศรษฐกิจ กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะช่วยดูผลกระทบของสายการบิน โดยเฉพาะมาตรการทางภาษี โดยจะนำเสนอ ครม.ต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจวันนี้ ยังอนุมัติหลักการให้มีการเพิ่มเขตพัฒนาด้านภาคตะวันตกด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการสร้างกระดูกสันหลังเพิ่มเติมในแต่ละภาค เช่น การเพิ่มเส้นทางการเดินรถมากขึ้น
ขณะเดียวกัน จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อขับเคลื่อนโครงสร้างด้านอุตสาหกรรมเป็นหลัก และจะมีการแก้ไขกฏหมายให้ EEC ให้สามารถเข้าไปดูเขตเศรษฐกิจในทุกพื้นที่ได้ทั้งหมด รวมถึงเขตเศรษฐกิจตามแนวชายแดน "ในอนาคตจะมีบอร์ดเดียวเลย ดูเขตเศรษฐกิจทั้งประเทศไทย บอร์ด EEC ก็เป็นบอร์ดใหญ่" นายกอบศักดิ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ยังรับความความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ เน้นเรื่องการพัฒนาด้านดีไซน์ แฟชั่น รวมถึงอุตสาหกรรมซอฟแวร์ ที่ตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจสร้างสรรค์ล้านนา เขตพัฒนาเศรษฐกิจฐานชีวภาพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นการพัฒนาไบโออิโคโนมีเป็นหลัก และการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืนกอบศักดิ์"เผย GDP ช่วง Q4/62 และทั้งปี 63 อาจต่ำกว่าคาดการณ์, ติดตามสภาพัฒน์แถลง 21 ก.พ.
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) กล่าวว่า ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ ได้มีการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4/2562 พร้อมประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจปี 2563 ซึ่งจากการรายงานของคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ประเมินว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4/62 และประมาณการ GDP ปี 63 อาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ 2.7-3.7%
ทั้งนี้ การปรับ GDP ลดลง เนื่องจากในปี 63 ยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งปัญหาภัยแล้ง การระบาดของไวรัสโคโรนา และการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ที่ล่าช้า โดยเฉพาะงบลงทุน 6 แสนล้านบาทไม่สามารถเดินหน้าได้ อย่างไรก็ดี ขอให้ติดตามการแถลงตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสภาพัฒน์ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจครั้งต่อไป จะมีการเตรียมเสนอมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยเน้นเรื่องของการลงทุนภาครัฐเป็นหลัก รวมถึงการดูแลให้การใช้จ่ายในประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้
"จาก 3 ปัจจัย ที่เคยประมาณการ 2.7-3.7% ได้รายงาน ครม.เศรษฐกิจว่าต้องมีการปรับตัวลงของ GDP ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต้องมีการเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งจะนำเสนอในรอบถัดไป"นายกอบศักดิ์ กล่าว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)