- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Saturday, 27 September 2014 21:53
- Hits: 3330
คลอดแผนกระตุ้น ศก. 30 ก.ย.นี้ ระยะสั้น 3 เดือนใช้งบค้างท่อย้ำไม่เน้นประชานิยม
บ้านเมือง : ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลถกออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น สัปดาห์หน้า เน้นกระตุ้นงบค้างท่อ เผย กบง.ชุดใหม่ ปรับโครงสร้างก๊าซฯ ให้เหมาะสม ‘ม.ร.ว.ปรีดิยาธร’ ยอมรับเศรษฐกิจไทยปี 2558 อาจโต 3-4 % โดยเน้นการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกเป็นหลัก
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ และทีมเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมระดับผู้นำด้านสถาบันการเงิน และ การบริหารจัดการสินทรัพย์ของภาครัฐ ครั้งที่ 2 ว่า จะมีการประชุมทีมเศรษฐกิจ เพื่อกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น 3 เดือน และประกาศแผนในการประชุม ครม.อังคารหน้า โดยมาตรการสำคัญคือ เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณค้างท่อปี 2557 ที่เหลือเป็นวงเงินที่สูง รวมถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบปี 2558 โดยจะมีการเร่งรัดเบิกจ่ายรายไตรมาส เป้าหมายเพื่อให้เศรษฐกิจในปี 2558 ขยายตัวแบบมั่นคงยั่งยืน และเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.5-5 จากปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวประมาณร้อยละ 1.5-2
สัปดาห์หน้าเมื่อ ครม.แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ชุดใหม่ที่มีตนเป็นประธานเสร็จสิ้น ก็จะเรียกประชุม กบง.ทันที เพื่อปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่เหมาะสม จากที่ปัจจุบันมีหลายด้านที่ไม่สมดุล เช่น ราคาแอลพีจีภาคขนส่งต่ำกว่าภาคครัวเรือน ภาษีดีเซลต่ำกว่าเบนซินอย่างมาก ดีเซลถูกกำหนดเป็นราคาการเมืองไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 โดยในส่วนของภาษีน้ำมันคงจะปรับให้เท่ากัน เพราะปัจจุบันรถหรู เช่น บีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7 ก็ใช้ดีเซล ดังนั้น ดีเซลจึงไม่ใช่น้ำมันของคนจนเท่านั้น อย่างไรก็ตามมาตรการเหล่านี้จะถูกปรับให้สมดุล เป็นเมื่อไหร่ยังไม่ขอเปิดเผย และจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยควบคู่ไปด้วย
นายณรงค์ชัย กล่าวว่า รัฐบาล และ คสช.มีส่วนผสมมาจากทหารเป็นหลัก ดังนั้น การเข้ามาดูแลประเทศจะดูเรื่องความมั่นคงก่อนความมั่งคั่ง จึงยอมรับว่าจีดีพีปีนี้ที่ต่ำกว่าคาดการณ์เดิม ทั้งผลกรระทบจากการส่งออก การท่องเที่ยวที่อาจมีนักท่องเที่ยวเหลือไม่ถึง 25 ล้านคน ส่วนหนึ่งผลพวงจากการคงประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งรัฐบาลคงจะยกเลิกเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น นอกจากนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังมาจากการตรวจสอบและยกเลิกงบประมาณภาครัฐที่มีเงินทอนสูง และการปราบปรามธุรกิจเถื่อน เช่น ตู้เกม บ่อน ซึ่งต้องยอมรับว่าธุรกิจนี้มีเงินสะพัดสูงมากในระบบเศรษฐกิจ
สำหรับ นโยบายด้านเศรษฐกิจในช่วง 1 ปีนี้ รัฐบาลเน้นเรื่องปฏิรูป โครงสร้างเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ พัฒนาบุคลากร การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ในส่วนนี้จะต้องมีการพัฒนาในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันนี้ยอมรับว่าการทำงานของ กสทช.มีปัญหา เช่น รัฐบาลสั่งห้ามจอดำ และกรรมการ กสทช.ก็ยังเสียงแตกกันอยู่ ขณะที่ภาครัฐบาลจะลดการแทรกแซงตลาด ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องราคาพลังงานแล้วก็จะมีการปรับการจัดเก็บภาษี เช่น การออกภาษีมรดก ภาษีที่ดิน ใครมีบ้านใหญ่ก็จะจ่ายภาษีมากขึ้น นอกจากนี้จะเร่งรัดเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในรัฐบาลชุดนี้ เพราะไม่ต้องการเห็นโครงการล่าช้าและเกิดการทุจริต ในอนาคต
"รัฐบาลประกาศชัดจะไม่ใช้นโยบายประชานิยม ขณะที่ทีมเศรษฐกิจกำลังหารือว่าจะเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่าให้กำหนดในรัฐธรรมนูญ หากรัฐบาลในอนาคตกำหนดนโยบายประชานิยมแล้วสร้างหนี้สาธารณะระยะยาว เป็นภาระต่อคนรุ่นหลังจะนับว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเศรษฐกิจระยะยาวเหมือนกับกรีก สเปน ที่เป็นปัญหาอยู่"
ด้านนายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ในแผนด้านการคลังที่เสนอรัฐบาลไปแล้วจะมีการปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มให้มากกว่าร้อยละ 7 แต่จะปรับขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น รวมทั้งการเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยในงบปี 2558 จะลงทุนส่วนนี้ 90,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการใหม่ 40,000 ล้านบาท การดำเนินการตามโครงการเดิม 50,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งเสริมเอกชนร่วมลงทุน (พีพีพี) และการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานในการลงทุน ส่วนเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น 3-6 เดือนที่จะประกาศสัปดาห์หน้า คาดว่าจะเห็นผลต่อเศรษฐกิจตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นไป