- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Monday, 13 August 2018 18:25
- Hits: 12409
นายกฯ ปลื้มธนาคารโลกจัดไทยอยู่อันดับ 32 ด้านโลจิสติกส์ในปี 61 พอใจการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน"ว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดีในเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เนื่องจากธนาคารโลกประกาศผลการจัดลำดับความสามารถด้านโลจิสติกส์ ประจำปี 2561 โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 32 จาก 160 ประเทศทั่วโลก ดีขึ้น 13 อันดับ และถือเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน และอันดับ 7 ของเอเชีย
"เราได้มาอย่างนี้ ไม่ได้มาโดยง่าย แต่เป็นผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์ของการบริหารงานอย่างมียุทธศาสตร์ และเอาจริงเอาจังของรัฐบาล และทุก ๆ ฝ่ายที่ร่วมมือกัน 2 ปีที่ผ่านมา เราได้ขับเคลื่อนแผนงาน และจัดสรรงบประมาณในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ จนสามารถมองเห็นเป็นรูปธรรมได้ เห็นอนาคต ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเรา รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง หรือแม้กระทั่งเส้นทางที่ไม่เคยมีรถไฟวิ่ง ก็ต้องมีแผนงานทั้งหมด ท่าเรือ ขยายสนามบินเพิ่มเติม อะไรต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ได้รับการพิจารณาการประเมินไปด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมขอว่าอย่ากังวลในเรื่องของการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่ตัวเลขงบประมาณอาจจะดูว่าสูงมาก แต่รัฐบาลมีกฎกติกามีกฎหมายควบคุมไม่ให้เกิดหนี้สาธารณะเกินกว่า 60% ตามที่ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ได้กำหนดไว้อยู่แล้ว
นายกฯ พอใจการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ชี้ประสบผลสำเร็จมากสุดในรอบ 19 ปี
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยได้รับรายงานว่าคณะอนุกรรมการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินสามารถตกลงปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ และเข้าซื้อหนี้ของเกษตรกรจากสถาบันการเงินเจ้าหนี้ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สหกรณ์การเกษตร และธนาคารพาณิชย์ทั่วไป รวมประมาณ 36,000 ราย มูลค่าหนี้ราว 6,000 ล้านบาท โดยจะลดยอดหนี้แต่ละรายลง 50% และหยุดดอกเบี้ย ระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นผลสำเร็จมากที่สุดตั้งแต่ตั้งกองทุนมาในปี 2542
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเกษตรกร จึงได้ตั้งคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจ เมื่อเดือน พ.ค.60 เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินและพัฒนาอาชีพให้กับเกษตรกร แทนคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูตาม พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2542 ซึ่งประสบปัญหาไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งแต่ปี 2549-2557 แก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรไปได้เพียง 29,000 รายเท่านั้น จากจำนวนสมาชิกเกษตรกรที่ลงทะเบียนหนี้สินไว้ราว 460,000 ราย
"นายกฯ เน้นย้ำว่าเมื่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ได้แล้ว จะต้องส่งเสริมให้เกษตรกรลูกหนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถชำระหนี้ตามสัญญาใหม่ได้ โดยกำชับให้สำนักงานกองทุนฯ ไปหาแนวทางฟื้นฟูอาชีพร่วมกับธ.ก.ส. และกรมส่งเสริมการเกษตรต่อไป" พล.ท.สรรเสริญกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนฯ จะร่างระเบียบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ใหม่ และเปิดรับลงทะเบียนเกษตรกรเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้สินเป็นระยะเวลา 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.เป็นต้นไป จากปกติที่เปิดให้ขึ้นทะเบียนทุกปี ตั้งแต่เดือน ม.ค. - มิ.ย. ซึ่งในปีนี้ยังไม่ได้เปิดรับลงทะเบียน นอกจากนี้ จะยกเลิกเพดานวงเงินช่วยเหลือที่กำหนดไว้รายละไม่เกิน 2.5 ล้านบาท เพราะเกษตรกรบางคนมีหนี้สินมากกว่า ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไป โดยหลังจากที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนแล้ว จะดำเนินการแยกประเภทหนี้ให้มีความชัดเจนโดยเร็ว
อินโฟเควสท์