- Details
- Category: สำนักนายกฯ
- Published: Sunday, 29 July 2018 11:34
- Hits: 5620
นายกฯ สั่งเร่งสนามบินอุบลฯ ให้เร็วจากแผนเดิมในปี 65 - ศึกษารถไฟทางคู่วารินชำราบ - ช่องเม็ก
นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มอีสานตอนล่าง 2 สั่งเร่งพัฒนา ระบบโลจิสติกส์เชื่อมการค้าชายแดน - พัฒนาสนามบินอุบลให้เร็วจากแผนเดิมในปี 65 - ศึกษาโครงการรถไฟทางคู่วารินชำราบ - ช่องเม็ก
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 (อุบลราชธานี ยโสธร ศรีษะเกษ อำนาจเจริญ) โดยเปิดเผยว่า การประชุม ครม.นอกสถานที่ มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการต่าง ๆ ที่ได้มีการสั่งการไปแล้ว รวมถึงเพื่อติดตามรับฟังปัญหาจากประชาชน เพื่อให้ได้ข้อมูลนำไปแก้ไขปัญหาให้ตรงตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่ ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าภูมิภาคอื่น ๆ จึงต้องการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่พบว่ามีแต่ปัญหาเดิม ๆ โดยกลุ่มจังหวัดฯ เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ จึงต้องร่วมมือกันพัฒนา เพิ่มศักยภาพ เพิ่มโอกาส สร้างความเท่าเทียม ไปสู่กลุ่มจังหวัดที่มีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างเชื่อมโยง เพื่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในกลุ่มจังหวัด
สำหรับ ข้อเสนอการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย 1. ด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ แบ่งออกเป็นดังนี้ 1.1 โครงข่ายคมนาคมทางถนน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการค้า การลงทุน การค้าชายแดนของกลุ่มจังหวัดฯ โดยขยายเป็น 4 ช่องจราจรตลอดสาย จัดทำเกาะกลางถนน และศึกษาออกแบบเส้นทางสำคัญเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ จำนวน 12 เส้นทาง ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมชี้แจงว่า โครงข่ายคมนาคมทางถนน จำนวน 12 เส้นทางที่กลุ่มจังหวัดเสนอ บางโครงการอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการและมีงบประมาณแล้ว บางโครงการจะได้เร่งศึกษาความเป็นไปได้ต่อไป ด้านนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่าโครงการที่ได้ดำเนินการไป ต้องสร้างการรับรู้สร้างความเข้าใจต่อประชาชนและสื่อมวลชนให้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินโครงการ ส่วนการขยายถนนขอให้คำถึงผลประโยชน์ที่ส่วนรวมจะได้รับเป็นหลัก ในเรื่องของการสร้างเกาะกลางถนน นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ใช้แบริเออร์แทนการสร้างเกาะกลางถนน เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ และเพื่อประหยัดพื้นที่ถนน
1.2 โครงข่ายคมนาคมทางอากาศ ขอขยายอาคารสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี เพื่อรองรับการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคอินโดจีน โดยให้เร่งรัดดำเนินการให้เร็วขึ้นจากแผนที่กำหนดไว้เดิมในปี 2565 ประกอบด้วย ขอเพิ่มลานจอดเครื่องบินเพื่อรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้น และสะพานเทียบพร้อมส่วนต่อเติม รวมถึงอาคารจอดรถยนต์ และปรับปรุงต่อเติมร้านค้า พร้อมขอให้ปรับปรุงและต่อเติมอาคารที่พักผู้โดยสาร จุดตรวจค้นรถยนต์และจุดตรวจค้นบุคคล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวชี้แจงว่า การขอขยายอาคารสนามบินอุบลราชธานีบางส่วนได้ดำเนินการแล้ว ในส่วนการจัดทำอาคารผู้โดยสารใหม่จะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2565 ส่วนการปรับปรุงอาคารจอดรถจะดำเนินการในปีงบประมาณ 2563 สำหรับการเร่งรัดศึกษาสนามบินมุกดาหารและสนามบินเลิงนกทานั้น จะเร่งดำเนินการศึกษาและนำผลมาพิจารณาความเป็นไปได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป
1.3 โครงข่ายคมนาคมทางราง ขอให้เร่งรัดศึกษาโครงการรถไฟทางคู่วารินชำราบ - ช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี และเร่งรัดศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถไฟจากสถานีวารินชำราบ - อำนาจเจริญ - เลิงนกทา เชื่อมโครงการรถไฟทางคู่ “บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม” เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวทางด้านตะวันออกของภาคอีสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวชี้แจงว่า ได้ดำเนินการศึกษาและบรรจุอยู่ในแผนการดำเนินการแล้ว
2. ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และแก้ไขปัญหาอุทกภัย ขอรับสนับสนุนโครงการการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร จำนวน 40 โครงการ และการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย จำนวน 5 โครงการ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติกล่าวชี้แจงว่า โครงการต่าง ๆ ที่กลุ่มจังหวัดเสนอสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์น้ำ และอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในแผนแล้ว
3. ด้านการยกระดับการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เพื่อยกระดับการผลิตและการแปรรูปผลผลิตด้านเกษตรไปสู่การเป็น Smart Farmer จึงขอรับการสนับสนุนโครงการจำนวน 3 โครงการ ดังนี้ 3.1 โครงการก่อสร้างโรงงานต้นแบบด้านการแปรรูปสินค้าเกษตร นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้สำนักงบประมาณพิจารณาเรื่องงบประมาณในการทำโครงการก่อสร้างโรงงานต้นแบบ โดยเฉพาะโรงงานด้านการแปรรูปเนื้อสัตว์ ส่วนด้านเครื่องดื่มและเครื่องสำอาง มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์ศึกษาความเป็นไปได้ เน้นผลประโยชน์และความคุ้มค่าเป็นหลัก 3.2 โครงการยกระดับกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ให้เป็นกลุ่มคลัสเตอร์ต้นแบบด้านเกษตรอินทรีย์ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการกำหนดพื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์ให้ชัดเจน กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนว่ามีพื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์เท่าไร และจะขยายไปอีกจำนวนเท่าไร เน้นการทำการเกษตรอินทรีย์แบบปลอดสารพิษให้ได้จริง
4. ด้านคุณภาพชีวิต ขอรับการสนับสนุน ดังนี้ 4.1 โครงการเพิ่มศักยภาพให้บริการของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ 4.2 ขอรับการสนับสนุนและยกระดับศูนย์การแพทย์แผนไทย-พนา เป็นศูนย์การแพทย์ครบวงจรบริการคลินิกแพทย์แผนไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพ รักษา และฟื้นฟู ผลิต จำหน่ายยาสมุนไพรที่มีคุณภาพเน้นการใช้สมุนไพรคุณภาพดีในท้องถิ่น ยกระดับเป็นศูนย์ศึกษาพัฒนาคุณภาพด้านการแพทย์แผนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 4.3 ขอรับการสนับสนุนครุภัณฑ์ทางการแพทย์ สำหรับการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขรับหลักการไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป
5. ด้านการท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดมีแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมขอมโบราณ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สถานที่สำคัญทางศาสนา รวมถึงวัฒนธรรมชนเผ่าในพื้นที่หลากหลาย แต่สภาพเส้นทางคมนาคมติดต่อบางช่วงยังเป็น 2 ช่องจราจรและไม่มีเกาะกลางถนน เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุแก่นักท่องเที่ยว จึงขอรับการสนับสนุนโครงข่ายคมนาคมรองรับการท่องเที่ยว และการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้จัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของแผนงาน อะไรที่สามารถดำเนินการได้ขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาไปก่อน อย่ารอให้รัฐบาลช่วยเหลือฝ่ายเดียว พร้อมกล่าวย้ำว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประชาชนขอให้เร่งดำเนินการ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว พร้อมให้การสนับสนุน ในส่วนเรื่องการสนับสนุนงบประมาณจะสนับสนุนโครงการที่มีความเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัดเป็นหลัก เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายงบประมาณแบบบูรณาการ โดยจะไม่เน้นสนับสนุนงบประมาณเพื่อหวังผลทางการเมืองให้แต่ละจังหวัดตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวในสื่อต่าง ๆ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
นายกฯโปรยยาหอมคนอุบลฯไม่สบายก็ต้องมาเพราะคิดถึง วอนอย่าโยงปมการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และคณะเดินทางมายังศูนย์เรียนรู้ผักอินทรีย์ เมืองธรรมเกษตร ไร่ภูตะวัน ออร์แกนิคฟาร์ม บ้านหนองเม็ก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เพื่อรับฟังความเป็นมาศูนย์เรียนรู้ผักอินทรีย์ เมืองธรรมเกษตร และพบปะกับข้าราชการและประชาชนในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้เจอทุกคน และถึงแม้ไม่สบายก็ต้องมาเพราะคิดถึง ทั้งนี้ได้คุยกับรองนายกรัฐมนตรีว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล จึงขออย่ามองว่ามาเรื่องการเมือง เพราะไม่ได้มาหาเสียง และไม่ได้เป็นการมาหว่านเงินให้ประชาชน เพราะเงินที่นำมาใช้เป็นเงินของประชาชนและเป็นงบประมาณของแผ่นดินที่ได้ตั้งไว้ โดยจะนำมาพิจารณาโครงการต่างๆให้เหมาะสมกับงบประมาณ เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่มุ่งหวังแก้ปัญหาที่มีอยู่ ซึ่งวันข้างหน้าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่จะต้องเริ่มต้นให้ได้วันนี้ก่อน เพราะที่ผ่านมาเจอปัญหามาเยอะ รัฐบาลนี้จะต้องเดินหน้าประเทศอย่างยั่งยืน จึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และคนไทยทุกคนต้องร่วมมือกันในรูปแบบประชารัฐ ถึงจะประสบความสำเร็จ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้าราชการในพื้นที่จะต้องพัฒนาร่วมกับประชาชนด้วย ขออย่าไปคิดว่ารู้ทั้งหมด จึงต้องผสมผสานระหว่างความรู้ของข้าราชการและประสบการณ์ของชาวบ้าน และอยากให้ประชาชนฟังรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ตนเองพูดในทุกวันศุกร์ จะได้ทราบว่ามีเจตนาดีกับทุกคนอย่างไร และสิ่งสำคัญต้องสร้างหลักคิดว่าจะพัฒนาตนเองได้อย่างไร ขณะเดียวกัน คนไทยทุกคนทุกคนต้องร่วมมือกันในรูปแบบประชารัฐไม่ใช่แค่รัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว ถึงจะประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกอย่าง เกิดขึ้นเพราะการเลือกผู้นำที่ผิดจะมาโทษรัฐบาลฝ่ายเดียวไม่ได้ จึงอยากให้ประชาชนพิจารณาก่อนจะเลือกใครมาเป็นผู้นำ เพราะคนนั้นจะต้องรับผิดชอบ เหมือนกับการเลือกผู้ใหญ่บ้าน และ อบต. เมื่อถนนพังก็ต้องรับผิดชอบปรับปรุงให้ เช่นเดียวกับตนเองที่ต้องรับผิดชอบทุกเรื่องในประเทศที่เกิดขึ้น พร้อมฝากผู้ว่าราชการในทุกจังหวัด ให้ดูแลห้องสมุดให้กับประชาชนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงความรู้ต่างๆ มากขึ้น เพราะไม่อยากให้คนไทยอ่านหนังสือแค่วันละ 8 บรรทัด
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งต้องลงพื้นที่ให้มากขึ้น เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ และการเลือกตั้งครั้งต่อไปเมื่อมีรัฐบาลใหม่จะต้องเป็นรัฐบาลที่ไปได้ทุกที่ ยิ่งมีคนเกลียดยิ่งต้องไปทำให้เกิดความเข้าใจ จึงขออย่าแบ่งสีแบ่งฝ่าย ใครจะไม่ชอบตนเองก็ไม่เป็นไร แต่ทหารทุกคนรักชาวบ้าน เพราะทุกที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ซึ่งรัฐบาลลงพื้นที่เพื่อต้องการรับทราบปัญหาและเพื่อแก้ปัญหาให้กับทุกพื้นที่
มีรายงานว่า หลังพบปะประชาชนนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมแปลงผักเกษตรอินทรีย์ และสอบถามถึงการปลูกและดูแลผักด้วย จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานขอศูนย์แพทย์แผนไทยพนา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ
อินโฟเควสท์