- Details
- Category: รัฐสภา
- Published: Friday, 13 March 2015 19:05
- Hits: 6184
'ยุบรวม-ตั้งใหม่' องค์กรตามรธน.ฉบับ'ปฏิรูป'
มติชนออนไลน์ : หมายเหตุ - องค์กรตามรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ภายหลังที่คณะ กมธ.ยกร่างฯได้ยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นในเบื้องต้น 315 มาตรา โดยจะส่งร่างรัฐธรรมนูญให้สมาชิกสภารูปแห่งชาติ (สปช.) พิจารณาปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญอีกครั้งในวันที่ 17 เมษายน 1.องค์กรเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ประกอบด้วย ตัวแทนผู้บริโภค ทำหน้าที่ให้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของหน่วยงานรัฐในการตราและบังคับใช้กฎหมาย และให้ความเห็นในการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งตรวจสอบและรายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและเสนอแนวทางแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่ผู้บริโภคได้รับ ตลอดจนสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีความรู้และทักษะที่จำเป็นด้านการคุ้มครองผู้บริโภค 2.สภาตรวจสอบภาคพลเมือง จำนวน 77 จังหวัด ประกอบด้วย สมาชิกจำนวนไม่เกิน 50 คน มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนั้น โดยมีที่มาจากผู้แทนสมัชชาพลเมืองทั้งหมดไม่เกินหนึ่งในสี่ ผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคมไม่เกินหนึ่งในสี่ และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีอำนาจหน้าที่ภายในเขตจังหวัดของตนเองในการตรวจสอบการกระทำของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ของรัฐ และหน่วยงานของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในเขตจังหวัดนั้น รวมทั้งส่งเสริมให้พลเมืองยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต โดยเฉพาะประเด็นการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างและการใช้จ่ายเงินแผ่นดินของหน่วยงานของรัฐ การละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือการละเมิดจริยธรรม 3.สมัชชาพลเมือง ประกอบด้วย สมาชิกที่มาจากองค์ประกอบหลากหลาย พลเมืองในท้องถิ่นที่มาจากการสมัครใจ อาทิ ตัวแทนจากองค์กรชุมชน ประชาสังคม เอกชน นักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้าน โดยสมัชชาพลเมืองจะเข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจดำเนินงานที่มีผลกระทบต่อประชาชน ไม่มีรายได้และเงินเดือนประจำ เพื่อป้องกันการแทรกแซงของนักการเมืองท้องถิ่น โดยสามารถให้ความเห็นในการบริหารงานของผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์กรบริหารท้องถิ่น 4.สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ทำหน้าที่ในการกำกับมาตรฐานคุณธรรม จริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้บริหารระดับสูง กรรมการในองค์กรตรวจสอบในการใช้อำนาจรัฐ องค์กรอิสระ นักการเมืองท้องถิ่น รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่ปลูกฝังและส่งเสริมจริยธรรมของประชาชนและผู้ดำรงตำแหน่งสาธารณะ และประเมินจริยธรรมของผู้นำการเมืองทุกปี รวมทั้งไต่สวนผู้กระทำการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงและส่งเรื่องให้รัฐสภาหรือประชาชนถอดถอน 5.คณะกรรมการประเมินผลแห่งชาติ มีอำนาจทำหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติงานขององค์กรตามรัฐธรรมนูญเป็นรายปี และแจ้งให้องค์กรดังกล่าวพร้อมประกาศต่อสาธารณะ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นกลไกตรวจสอบและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างเป็นระบบ 6.คณะกรรมการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนโดยระบบคุณธรรม ประกอบด้วย กรรมการจำนวน 7 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา จากบุคคลที่มีความซื่อสัตย์สุจริตและเป็นกลางทางการเมืองอื่น แบ่งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จำนวน 2 คน ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าปลัดกระทรวงและได้พ้นจากราชการ จำนวน 3 คน ประธานกรรมการจริยธรรมของทุกกระทรวงซึ่งเลือกกันเอง จำนวน 2 คน มีหน้าที่พิจารณาเสนอรายชื่อบุคคลที่เห็นสมควรต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงและหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าปลัดกระทรวง หรือย้าย หรือให้พ้นจากตำแหน่งและมีอำนาจหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ 7.ศาลปกครองแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ ประกอบด้วย องค์คณะตุลาการศาลปกครอง มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยคดีเกี่ยวกับกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดที่ใช้จ่ายเงินแผ่นดินจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยจำนวนองค์คณะและวิธีพิจารณาของศาลแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 8.คณะกรรมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งจากข้าราชการในแต่ละหน่วยงาน หน่วยงานละ 1 หน่วยงาน ทำหน้าที่ดำเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น รวมทั้งการออกเสียงประชามติ 9.ผู้ตรวจการแผ่นดินและพิทักษ์สิทธิมนุษยชน เป็นการควบรวมผู้ตรวจการแผ่นดินกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ประกอบด้วย คณะกรรมการ จำนวน 11 คน มีอำนาจหน้าที่พิทักษ์ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชาชน อาทิ เสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายและกฎต่อรัฐสภา หรือคณะรัฐมนตรีเพื่อส่งเสริมคุ้มครองสิทธิของประชาชน 10.คณะกรรมการอิสระเสริมสร้างความปรองดองแห่งชาติ ประกอบด้วย กรรมการไม่เกิน 15 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งไม่เป็นฝักฝ่ายทางการเมืองหรือความขัดแย้ง และผู้ซึ่งเป็นผู้นำความขัดแย้ง มีอำนาจหน้าที่ ศึกษา วิเคราะห์ เพื่อหาสาเหตุแห่งความขัดแย้ง ความเสียหายที่เกิดขึ้น และเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหา ส่งเสริมให้มีการเรียนรู้และใช้กระบวนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งร่วมกัน และสร้างเครือข่ายในการสร้างความปรองดองในภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้มีกระบวนการสร้างความปรองดองเกิดขึ้น 11.สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ ประกอบด้วย สมาชิกไม่เกิน 120 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ จำนวน 60 คน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวน 30 คน ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาาญในการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ จำนวน 30 คน มีอำนาจหน้าที่ขับเคลื่อนการปฏิรูปโดยการเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปฏิรูปต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในด้านต่างๆ นำแผนและขั้นตอนการออกกฎหมายและการปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการปฏิรูปของสภาปฏิรูปแห่งชาติและแผนงานยุทธศาสตร์การปฏิรูปของทุกภาคส่วนมาบูรณาการ ส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการปฏิรูป ติดตามประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การปฏิรูปสอดคล้องและเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ |