- Details
- Category: รัฐสภา
- Published: Wednesday, 04 March 2015 23:53
- Hits: 5655
ที่ประชุมสปช.ดันยานยนต์ไฟฟ้า หวังลดการพึ่งเชื้อเพลิงตปท.
แนวหน้า : การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ครั้งที่ 13/2558 โดยมี นางทัศนา บุญทอง รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมีระเบียบวาระการประชุมคือ รายงานการพิจารณาของคณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน เรื่อง “การส่งเสริม ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย” และการดำเนินการเลือกสมาชิกผู้ที่สมควรจะทำหน้าที่เป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 32 วรรค 3 ของรัฐธรรมนูญฯ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ประกอบกับข้อบังคับการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติฯ ข้อ 112
โดยนายทองฉัตร หงส์ลดารมณ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้แถลงรายงานว่า รายงานดังกล่าวเพื่อผลักดันให้ส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยให้ภาครัฐกำหนดนโยบายที่ชัดเจน สนับสนุนการให้เกิดยานยนต์ไฟฟ้าที่แพร่หลายในอนาคต เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงนำเข้าจากต่างประเทศ เพิ่มทางเลือกการใช้พลังงานให้ประชาชนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยโครงการปฏิรูปจะเน้นการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ เนื่องจากไทยมีศักยภาพ มีการวิจัยและพัฒนา พร้อมทั้งมีอุตสาหกรรมยายนต์ที่เป็นพื้นฐานรองรับอยู่แล้ว
จากนั้น ได้มีสมาชิกอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เป็นจำนวน 17 คน โดยได้อภิปรายสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพราะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประเทศ โดยสนับสนุนให้นำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้กับบริการสาธารณะก่อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เนื่องจากระบบยานยนต์ไฟฟ้า มีระบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมช่วยลดมลภาวะ และควรสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสถานีจ่ายไฟฟ้าเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้าขึ้นโดยเฉพาะ พร้อมกันนี้สมาชิกฯ บางรายเห็นควรให้มีการสนับสนุนเด็กและเยาวชนให้เรียนในสายอาชีพเพื่อเพิ่มบุคลากรด้านอุตสาหกรรมให้มากขึ้น โดยต้องได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขการใช้งานของรถไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการด้วย นอกจากนี้แล้ว สมาชิกฯ ยังได้ให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ แก่คณะกรรมาธิการฯ ว่าควรศึกษาข้อดี ข้อเสียและควรวางแผนในการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบ ต่อมา ทางสมาชิกได้มีมติ 222 ต่อ 2 เห็นชอบรายงานข้อเสนอการปฏิรูปของคณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน และมีมติเห็นด้วย 219 งดออกเสียง 6 เสียง เห็นด้วยที่จะมีการดำเนินการส่งความเห็นและคำอภิปรายของสมาชิกฯ ในเรื่องดังกล่าว ให้กับคณะกรรมาธิการฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป