WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

แบเบอร์นั่งประธานสปช. เทียนฉายลิว เก้าอี้รองคนที่1 ยังฝุ่นตลบ

    แนวหน้า : แบเบอร์นั่งประธานสปช. เทียนฉายลิว เก้าอี้รองคนที่1ยังฝุ่นตลบ  NGOส่งพลเดชชนบวรศักดิ์ ‘ทัศนา’รอง2-ปู่ชัยขอถอน แฉ‘ปู’บินญี่ปุ่นดอดพบแม้ว ‘ตุ๊ดตู่’ด่ากราดเหลิมลอบกัด

    เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทัศน์ เศรษฐ์บุญสร้าง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ลำดับที่ 219 ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการ สปช.หลังจากก่อนหน้านี้ได้แจ้งว่า ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ส่งผลให้ขณะนี้ สปช.รายงานตัวครบแล้วทั้ง 250 คน ทั้งนี้ สปช.จะประชุมนัดแรก

    ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้มีวาระสำคัญคือ รับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง สปช.250คน จากนั้นจะพิจารณาเลือกบุคคลมาเป็นประธาน สปช.และรองประธาน คนที่1และรองประธานคนที่2ตามลำดับ

สปช.ประชุมนัดแรก 21 ตุลาคม

    นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจความพร้อมห้องประชุมรัฐสภาที่จะใช้เป็นสถานที่ประชุม สปช.นัดแรกในวันที่ 21ตุลาคม โดยการประชุมนัดแรกจะใช้ข้อบังคับการประชุมของ สนช.ไปก่อนและจะให้สมาชิกที่มีความอาวุโสสูงสุด คือ นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว เพื่อคัดเลือกประธานและรองประธาน สปช.อีก 2คน

คาด’เทียนฉาย’นั่งเก้าอี้ประธาน

    ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายเทียนฉาย กีระนันทน์ จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นประธาน สปช.และมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นรองประธานคนที่1 และนางทัศนา บุญทอง เป็นรองประธานคนที่2และคสช.เห็นด้วยที่ให้ นายเทียนฉาย เป็นประธาน สปช.และนายบวรศักดิ์กับน.ส.ทัศนา เป็นรองประธาน คนที่1และ2 จึงมีการพูดคุยและขอเสียงสนับสนุนให้ทั้ง 3ตำแหน่ง ซึ่งมีผู้ใหญ่ในคสช.บางคนได้โทรศัพท์ไปขอคะแนนกับสมาชิก สปช.ให้เลือกทั้ง 3คน โดยเฉพาะนายบวรศักดิ์ ที่มีเครือข่ายสถาบันพระปกเกล้า ทำให้มีลูกศิษย์อยู่ในกลุ่มต่างๆ ในสปช. จำนวนมาก รวมทั้ง สปช.สายจังหวัด มีความสัมพันธ์อันดีและรู้จักส่วนตัวกับ นายบวรศักดิ์ ดังนั้นคะแนนสนับสนุน นายบวรศักดิ์ จึงมีจำนวนมาก

สปช.หลายกลุ่มหนุน’เทียนฉาย’

    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่มีการรายงานตัว สปช.ปรากฏว่า สปช.กลุ่มต่างๆ ได้นัดพูดคุยกัน โดยเริ่มจากการพูดคุยผ่านแอพพลิเคชันไลน์ จากนั้นนัดไปพูดคุยกันนอกรอบ อาทิ สปช.กลุ่มสื่อสารมวลชน สปช.กลุ่มเอ็นจีโอ สปช.กลุ่มอดีตสว. สปช.กลุ่มที่เป็นผู้หญิงและสปช.กลุ่มรายจังหวัดที่นัดพูดคุยพบปะสังสรรค์กันเมื่อวันที่ 20ตุลาคม ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า สนับสนุนให้ นายเทียนฉาย เป็นประธาน โดย นายชัย ชิดชอบ สมาชิก สปช.จะเสนอชื่อ นายเทียนฉาย เพียงคนเดียว

ฝุ่นตลบ’พลเดช’ชิง’บวรศักดิ์’

    แต่ตำแหน่งที่จะแข่งขันกันคือ รองประธานคนที่1 ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ แต่ สปช.บางกลุ่มหารือถึงความเหมาะสม เพราะนายบวรศักดิ์ จะต้องไปนั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จึงเกรงว่า จะกระทบการทำงาน สปช.เพราะจะมีเวลาน้อย ซึ่งสปช.สายเอ็นจีโอจะเสนอชื่อ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป สปช.ขึ้นมาแข่งขัน แต่สปช.บางส่วนประเมินว่า นายบวรศักดิ์ จะได้รับเสียงสนับสนุนมากกว่า ส่วนรองประธาน สปช.คนที่2 ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อ น.ส.ทัศนา บุญทอง แต่ก้มีชื่อ น.ส.พจนีย์ ธนวรานิช สปช.อดีตรองประธาน สนช.ปี2549 เข้ามาประกบแข่งขัน เพราะสมาชิกหลายคนเห็นว่า มีประสบการณ์ในการควบคุมการประชุม เนื่องจากเคยเป็นรองประธาน สนช.ปี2549 แต่เมื่อผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง น.ส.พจนีย์ ปรากฏว่า น.ส.พจนีย์ ตอบว่า คงไม่ใช่และปฏิเสธเรื่องดังกล่าว ทำให้ค่อนข้างชัดเจนว่าตำแหน่งรองประธานสปช.คนที่2 คือ น.ส.ทัศนา บุญทอง

เทียนฉาย-ทัศนา’พร้อมทำหน้าที่

   ด้าน นายเทียนฉาย กีระนันทน์ สมาชิก สปช.กล่าวยืนยันว่า ตนยังไม่ได้รับทาบทามให้ทำหน้าที่ประธาน สปช.หากสมาชิกสนับสนุนก็พร้อมทำหน้าที่ แต่รู้สึกหนักใจเรื่องกรอบเวลาทำงานที่มีไม่มาก โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างฯภายใน 15วัน นับจากประชุม สปช.นัดแรก โดยมองว่า สปช.ต้องเร่งทำงาน ระหว่างรอโปรดเกล้าฯแต่งตั้งจะต้องคุยกันนอกรอบเกี่ยวกับวิธีคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็นกรรมาธิการยกร่างฯในสัดส่วนของ สนช.20คน ที่ต้องเปิดกว้าง ขณะนี้ทราบว่า มีผู้ประสงค์จะทำหน้าที่นี้แล้ว วันที่ 21ตุลาคมนี้ รายชื่อน่าจะมีความชัดเจน คาดว่าหลังจากโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานและรองประธานแล้วจะประชุม สปช.วันที่ 3พฤษจิกายน เพื่อเคาะตัวบุคคลจะเป็นกรรมาธิการยกร่างฯ

    ขณะที่ น.ส.ทัศนา ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ทราบว่าจะเสนอชื่อตนเป็นรองประธาน สปช.คนที่2และไม่ทราบว่าจะมีชื่อ สปช.คนอื่นขึ้นมาประกบแข่งขัน ซึ่งเห็นว่าเป็นสิทธิที่จะเสนอชื่อได้ จึงต้องแล้วแต่สมาชิก สปช.ส่วนใหญ่จะเลือกใคร แต่หากเลือกตนก็พร้อมทำหน้าที่

พลเดช’ยังแบ่งรับแบ่งสู้ลุ้นเก้าอี้

    นพ.พลเดช ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีสปช.ที่เป็นอดีตสว.และสปช.สายเอ็นจีโอและภาคประชาสังคม จะเสนอตน หากมีการเสนอชื่อตนจริงก็ไม่รู้จะออกมาอย่างไร ซึ่งไม่ได้คิดอะไรและไม่ขัดข้อง แต่ส่วนตัวมองว่าการทำงานใน สปช.ต้องดูไปข้างหน้าเนื่องจากงานมีจำนวนมาก โดยไม่ต้องอาศัยหัวโขนในการทำหน้าที่ อีกทั้งไม่อยากให้เห็นภาพการช่วงชิงแข่งขันเพื่อหาประโยชน์ให้ตัวเอง

ปู่ชัย’ยืนยันไม่ลงแข่งนั่งปธ.

     นายชัย ชิดชอบ สมาชิก สปช.กล่าวยืนยันว่า ตนจะไม่เสนอชื่อลงชิงประธาน สปช. เพราะอายุมากแล้วและตนเป็นนักการเมืองมากว่า 40ปี การปฏิรูปที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เพราะนักการเมืองไม่ดีและทหารต้องการเปลี่ยนแปลงนักการเมืองให้ดีขึ้น ทำให้ประธานสปช.ต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ใช่นักการเมือง ดังนั้นตนเป็นนักการเมืองจึงจะไปนั่งในตำแหน่งประธาน สปช.ไม่ได้ ส่วนประธาน สปช.จะมาจากสายนักวิชาการได้หรือไม่นั้น ก็ต้องอยู่ที่ประชุม สปช.

วินธัย’อุบ'ปู-ลูก'เที่ยวญี่ปุ่น

    ทางด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกและทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อเวลา 22.00น.วันที่ 19ตุลาคมที่ผ่านมา โดยจะไปเล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ พร้อมเพื่อนสนิทน้องไปป์ รวมถึงคนในครอบครัวร่วมเดินทางไปด้วยว่า เป็นการเดินทางออกนอกประเทศตามปกติของน.ส.ยิ่งลักษณ์และบุตรชาย โดยได้แจ้งกำหนดการเดินทางให้ คสช.รับทราบแล้ว ตามที่เคยขอความร่วมมือไว้ สำหรับรายละเอียดการเดินทางไป-กลับนั้น ตนไม่ขอเปิดเผย เพราะเป็นกำหนดการส่วนตัว

แฉนัดพบ 'แม้ว'บินทำบุญอินเดีย

     รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 3วัน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะเดินทางมาพบ จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวไปทำบุญที่ประเทศอินเดียและจะมีอดีต สส.พรรคเพื่อไทยไปร่วมทำบุญด้วยจำนวนมาก ในระหว่างวันที่ 24-26ตุลาคม จากนั้นจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 26ตุลาคม

ผบ.สส.หนุนคสช.-รบ.ทำงาน

    ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.)เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพครั้งแรก หลังการแต่งตั้งโยกย้ายเดือนตุลาคม2557 โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

   โดย พล.อ.วรพงษ์ พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมว่า การประชุม ผบ.เหล่าทัพวันนี้ได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม โดยเฉพาะงานที่ทำอยู่ ยังคงปฏิบัติเหมือนเดิม โดยเน้นเรื่องผลผลิต ผลลัพธ์และตัวชี้วัดให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งนโยบายของเหล่าทัพสนับสนุนงานของรัฐบาลและคสช.อย่างเต็มที่

เชื่อปฎิรูปสำเร็จ-ไม่มีปฎิวัติอีก

     ผู้สื่อข่าวถามว่า ควรปฏิรูปส่วนไหนของกองทัพก่อน พล.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า นโยบายที่ให้เหล่าทัพไปก็คือการพัฒนาคน เรามองว่าประเทศไทยมีปัญหาก็เพราะคน ถ้าคนดี คิดดี ทำดี ปัญหาจะลดลงไปมากกว่าครึ่ง เช่น เรื่องคอรัปชั่น ถ้ามีคนดี ปัญหาจะลดลง ต่อข้อถามว่า ถ้าปฏิรูปสำเร็จ การรัฐประหารก็จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วใช่ไหม พล.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ถ้าปฏิรูปได้ก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เพราะเราเขียนโรดแมปเอาไว้เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ได้นักการเมืองที่ดีมาบริหารประเทศ

    เมื่อถามว่า ถ้าเป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ บริหารงานไป1ปี ไม่มีอะไรดีขึ้น ทหารจะมีบทบาทอะไรหรือไม่ พล.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ท่านบริหารประเทศได้อยู่แล้วตามโรดแมปที่วางไว้ ซึ่งตนมั่นใจในตัวนายกฯและกองทัพก็ให้การสนับสนุนงานเต็มที่อยู่แล้ว เพราะเราเป็นข้าราชการ ส่วนกำลังใจเราให้ท่านนายกฯอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มีอะไรอยากเสนอหรือติชมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า มีแต่คำชม ไม่มีคำติ

ตุ๊ดตู่”ซัด”เหลิม”ใส่ร้าย’แม้ว’

   วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการ”มองไกล”ทางสถานีโทรทัศน์พีซทีวี ตอบโต้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่พาดพิงคนเสื้อแดงมีความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย ในช่วงชุมนุมทางการเมืองตอนหนึ่งว่า การพูดดังกล่าวเป็นการใส่ร้ายตนและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.ทั้งยังทำลายความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและคนเสื้อแดง รวมถึงพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าการชุมนุมที่ถนนอักษะ ไม่ได้ขัดแย้งกับรัฐบาลช่วงนั้น ดังนั้นที่บอกว่า การยึดอำนาจเป็นการแก้ปัญหาเรื่องเสื้อแดงมีปัญหากับรัฐบาล จึงถือว่า ร.ต.อ.เฉลิม โกหกและที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ ได้กำไรจากการยึดอำนาจก็ไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่เคยได้ยินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า มีความสุขจากการยึดอำนาจ การพูดอย่างนี้เท่ากับฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะจะกระทบต่อความรักความศรัทธาที่ประชาชนมีให้ โดยอาจมองว่า เขามาปฏิวัติรัฐบาลตัวเอง แล้วยังมีความสุข

สงสัยชี้เป้าให้’สนช.’เชือด’ปู’

    นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งที่จะถึงและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้กลับมาเป็นนายกฯนั้น เป็นการคิดเพียงชั้นเดียวและชี้เป้าให้ สนช.เร่งดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะไม่จัดการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะได้กลับมาเป็นนายกฯไม่ทราบว่าที่บ้าน ร.ต.อ.เฉลิม มีกระจกหรือไม่ เพราะเวลาต่อสู้เราไม่เคยได้ยินเสียง ร.ต.อ.เฉลิม แต่ในวันที่ชนะกลับได้ยินเสียง

หมาลอบกัด-หน้าตัวเมีย-ไม่เผาผี

    “ผมสงสัยมานานแล้วว่า ใครไปกรอกหูเป่าหู พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เข้าใจขบวนการคนเสื้อแดงผิดๆ ร.ต.อ.เฉลิม แถลงข่าวเหมือนเป็นมิตร แต่ลับหลังไม่ใช่ เดินไม่เกิน ก้าวก็นินทาทันที เวลานี้คงจะไปกรอกหู พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ดูเหมือนว่า การยึดอำนาจเป็นการจัดการคนเสื้อแดง ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะจัดการคนเสื้อแดงจริงๆ แค่ยกหูโทรศัพท์มาบอก ผมจะลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยให้ แต่ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะจิตใจต่ำอย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิมพูด ผมและนายณัฐวุฒิ มีมือมีตีน ไม่กลัว ซัดมาก็ซัดไป เพราะไม่ใช่นักการเมืองงี่เง่า หน้าอย่าง หลังอย่าง ทำตัวเป็นหมาลอบกัด นิสัยขี้นินทาคล้ายหน้าตัวเมีย สถานการณ์อย่างนี้คุณมากระทืบผมโชว์ คสช.ทั้งที่ไม่เคยต่อสู้ร่วมกันมาเลย คุณประกาศผีไม่เผาเงาไม่เหยียบได้ ผมก็ประกาศได้ ผมไม่สนใจ อย่ามาเสียงดังกับผม เพราะผมจะสวนทุกกรณี บางคนเสียงดัง แต่หัวใจเท่าขามด”นายจตุพร กล่าว

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามโทรศัพท์สอบถามเรื่องดังกล่าวกับ ร.ต.อ.เฉลิม แต่ ร.ต.อ.เฉลิม บอกผ่านคนใกล้ชิดว่า ไม่ซีเรียส ขออยู่เฉยๆ ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!