- Details
- Category: รัฐสภา
- Published: Tuesday, 07 October 2014 00:17
- Hits: 4058
'วิษณุ'ชี้ปปช.ทำถูกตีกลับแก้ที่มาสว.เชื่อตีความอำนาจสอยไม่ยืดยาว
แนวหน้า : นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนคดีถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา รวมถึงการถอดถอนอดีต ส.ว. 39 คน กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว.โดยมิชอบ ส่งกลับให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา โดยอ้างว่ารัฐธรรมนูญปี 50 ไม่มีผลบังคับใช้แล้ว ขึ้นอยู่กับ สนช.พิจารณาว่า สนช.จะพิจารณาตามมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการวินิจฉัยกรณีใดในวงงานของ สนช. ให้ สนช.เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด เรื่องใดที่เกิดนอกวงงาน สนช.ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดได้
ดังนั้น ขั้นตอนที่ ป.ป.ช.ส่งไปถูกต้องแล้ว สนช.ต้องพิจารณาอยู่ในอำนาจพิจารณาได้หรือไม่ ฐานความผิดรัฐธรรมนูญฉบับก่อน ผิดตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันด้วยหรือไม่ อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ใครไม่พอใจก็ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญต่อ เหมือน สนช.ไม่พอใจ ป.ป.ช.ให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน คราวนี้เหมือนกัน แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับพิจารณาก็ได้ ถ้าไม่รับก็โยนกลับมาที่ สนช.เรื่องก็จบที่ สนช.
นายวิษณุ กล่าวว่า ระหว่างที่ร่างธรรมนูญฉบับชั่วคราว พูดเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน แต่ไม่พิจารณาและไม่ได้เสียดาย เพราะมีตัวกฎหมายอื่นที่ไม่ใช่รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ของแต่ละหน่วย ที่จะไปพิจารณาในอำนาจของตัวเอง หลายเรื่องที่เราตั้งใจไม่เขียนไว้ อย่างการยื่นบัญชีทรัพย์สินก็ไม่เขียนเอาไว้ มีทางออกตามกฎหมายอื่นอยู่แล้ว การถอนถอดทำได้หรือไม่ก็ไปดูกฎหมายอื่น หาทางออกตามกฎหมายอื่น ไม่อย่างนั้นถ้าเอามาเขียนหมดก็ยาวเหมือนรัฐธรรมนูญฉบับถาวร และคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะว่ากันยาว สนช.บอกว่าไม่มีอำนาจก็จบ ใครไปบอกแทนว่ามีก็ไม่ได้ บอกว่ามีอำนาจก็จบ อย่างผู้ที่ถูกยืนถอนถอนออกมาแสดงความไม่พอใจก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา ก็ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ และเรื่องนี้ก็ต่างกับการการยื่นถอดถอนจากกรณีการทุจริตคอรัปชั่น ต้องวินิจฉัยเป็นเหตุๆ ไป เรื่องนี้ไม่น่ายืดยาว รัฐธรรมนูญให้คำตอบไม่ได้ทุกอย่าง บางอย่างก็ต้องไปว่ากฏหมายที่มีอยู่บัญญัติไว้ รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมีเรื่องให้เขียนอีกเยอะ แต่ไม่อยากเขียนให้ชัดเจน อาศัยกลไกทางออกอื่น และจงใจใส่มาตรา 5 ไว้ให้ สนช.ตีความเอง
