WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

แห่หนุนภาษีมรดก-ที่ดิน ชี้ผ่านฉลุย สนช.พร้อมเปิดไฟเขียว คลังเชื่อทันใช้ภายใน1ปี ขานรับนโยบายนายกตู่ เรืองไกรแนะให้คสช.สั่ง ปชป.ห่วง-ละเอียดอ่อน

มติชนออนไลน์ :

     พท.หนุน'บิ๊กตู่'เร่ง กม.ภาษีที่ดิน-มรดก แต่หวั่นแท้งก่อน แนะออกเป็นคำสั่ง คสช. วิป สนช.มั่นใจสภาผ่านฉลุยถ้ารัฐบาลชงให้พิจารณา อธิบดีสรรพากรชี้ รบ.ผลักดันทันใช้ปีนี้แน่

@ ภาษี"มรดก"เร็วกว่า"ที่ดิน"

         นายประสงค์ พูลธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 13 กันยายน ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุในการแถลงนโยบายว่า ภาษีมรดกจะแล้วเสร็จในปีนี้ว่า ถ้าเป็นกฎหมายที่รัฐบาลต้องการผลักดันคงใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าเป็นขั้นตอนปกติจะใช้เวลาพิจารณาเป็นปี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมกฤษฎีกา เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วเสร็จ จะเสนอไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง เพื่อให้ ครม.นำร่างกฎหมายเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติอนุมัติให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นหน่วยงานที่ดูแล 

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขั้นตอนในเรื่องภาษีที่ดินฯนั้น สศค.ต้องนำเสนอต่อนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอต่อ ครม. ถ้า ครม.เห็นชอบก็ต้องนำไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป โดยขั้นตอนของภาษีที่ดินฯจะช้ากว่าภาษีมรดกอยู่ 2 ขั้นตอน แต่ถ้ารัฐบาลต้องการผลักดันสามารถเร่งรัดการพิจารณาให้มีผลพร้อมๆ กันได้ โดยบรรจุเป็นกฎหมายเร่งด่วนที่ สนช.ต้องพิจาณาเป็นอันดับแรกๆ 

@ พื้นที่ว่างเปล่าเก็บไม่เกิน 2%

      ทั้งนี้ ร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะนำมาใช้แทนที่ พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน และ พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปภาษี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในประเทศ ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่นี้ จะเป็นการปรับปรุงจากร่างเดิม ที่กระทรวงการคลังเคยยกร่างมาแล้วในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยจะกำหนดเพดานภาษีตามกฎหมายให้สูงขึ้น เพื่อรองรับในอนาคตที่เศรษฐกิจประเทศขยายตัว หากกำหนดเพดานในกฎหมายหลักในอัตราที่ต่ำไป ในอนาคตเมื่อมีความจำเป็นต้องเพิ่มอัตราภาษี ก็ต้องเสียเวลาในการยกร่างกฎหมายเพื่อให้สภาอนุมัติ 

      "เพดานภาษีใหม่อาจกำหนดให้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่ออยู่อาศัย และที่ดินเพื่อการเกษตร จัดเก็บในอัตราไม่เกิน 0.5% ที่ดินเชิงพาณิชย์ในอัตราไม่เกิน 1% และที่ดินว่างเปล่าไม่ได้ทำประโยชน์ตามควร จัดเก็บในอัตราไม่เกิน 2%" แหล่งข่าวกล่าว

@ วิปสนช.เชื่อผ่านสภาฉลุย

      นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะโฆษกวิปสนช. กล่าวว่า นโยบายเรื่องการเก็บภาษีที่ดินและมรดก เป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลจะต้องส่ง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาให้สภาพิจารณา แต่การแถลงนโยบายเป็นสัญญาประชาคมที่รัฐบาลเองสัญญาไว้กับประชาชน เชื่อว่าอีกไม่นานรัฐบาลจะส่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มายังสภาแน่ 

      "หากมีการส่งมายังสภา ก็น่าจะผ่านร่างนี้ได้ เพราะสมาชิกส่วนใหญ่น่าจะเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากเป็นการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน เป็นการเก็บภาษีจากคนรวยเพื่อไปช่วยคนจนได้ รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้ของรัฐอีกช่องทางหนึ่ง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่อาจมีสภาชิกบางคนที่ไม่เห็นด้วย คงต้องมาถกเถียงกันอีกครั้งในสภา" นพ.เจตน์กล่าว

@ อ.จุฬาฯชี้ยังปฏิรูปไม่เต็มที่

     นายตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่จะผลักดันภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และภาษีมรดก ออกมาในเร็วๆ นี้ว่า หลักการการจัดเก็บภาษีทั้งสองอย่าง ทำให้รายได้ภาษีของรัฐบาลเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เรียกได้ว่าเป็นการปฏิรูปภาษีเต็มรูปแบบ เป็นการปฏิรูปเพียงด้านเดียว หรือเป็นการเพิ่มและขยายฐานการจัดเก็บภาษี โดยการปฏิรูปภาษีที่ดีจะต้องทำให้ภาระภาษีของประชาชนไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้ เพราะการที่ประชาชนต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลจะปฏิรูปเรื่องรายจ่ายหรือเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ต่อไปจะเป็นปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาว

       นายตีรณ กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีมรดกหรือภาษีการตาย มีแนวคิดการเก็บเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แต่ภาษีตัวนี้มีรายละเอียดที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ รวมถึงหลักเกณฑ์และฐานจำนวนมรดกที่นำมาจัดเก็บภาษี ว่ามีการศึกษาและมีข้อมูลประกอบมากน้อยแค่ไหน เช่น การจัดเก็บจากฐานมรดก 50 ล้านบาทมาจากอะไร และพิจารณาไปถึงกรณีที่อาจจะมีการโยกย้ายทรัพย์สินให้นอมินีด้วย 

@ "เรืองไกร"แนะคสช.ออกคำสั่ง

      นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การออกกฎหมายภาษีมรดกและภาษีที่ดินเป็นเรื่องที่ดี เห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเรื่องนี้ควรเก็บนานแล้ว และความจริงควรเก็บแบบขั้นบันได คือใครมีมากต้องเสียมาก ที่สำคัญกฎหมายนี้อย่าให้ช้า ควรทำให้เสร็จภายในสิ้นปี ควรเป็นกฎหมายลำดับต้นๆ เพราะจะลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทำให้ผู้มีฐานะได้จุนเจือสังคม 

      "ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าจะออกกฎหมายได้สำเร็จหรือไม่ ดังนั้น ควรออกเป็นคำสั่ง คสช." นายเรืองไกรกล่าว และว่า ที่ผ่านมาเรื่องนี้ทำไม่ได้ เพราะคนออกกฎหมาย คือนักการเมืองซึ่งส่วนใหญ่มีที่ดิน มรดกเยอะ จะให้ออกกฎหมายมาลงโทษตัวเองคงยาก 

      นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า เท่าที่ฟัง พล.อ.ประยุทธ์แถลงนโยบายรัฐบาลว่า จะมีการปรับปรุงโครงสร้างภาษี ถือว่ายังไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามเป้าหมายที่สำคัญคือ จะต้องคำนึงถึงอัตราภาษี โดยเฉพาะความโปร่งใส ประชาชนที่มีรายได้น้อยจะจ่ายภาษีเยอะหรือไม่ ส่วนภาษีมรดก 

      ในหลายประเทศมีการดำเนินการจัดทำแล้ว ถ้ารัฐบาลจะดำเนินการปรับปรุงต้องชัดเจนว่า หลักคิดของรัฐบาลคืออะไร และรัฐบาลควรจะฟังความเห็นจากหลายๆฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง ว่าถ้าดำเนินการแล้วจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ อย่างไร

@ ธ.ก.ส.ยันปล่อยกู้ซื้อยางแล้ว

       แหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชี้แจงกรณีนายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาการยางแห่งประเทศไทย ระบุว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อนุมัติเงิน 5,000 ล้านบาท ให้สถาบันเกษตรกรเพื่อนำเงินมารวบรวมยางจากเกษตรกร แต่ผ่านมา 2 สัปดาห์แล้วยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือว่า มติ คสช.ให้ ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อภายใต้แนวทางการพัฒนายางพาราทั้งระบบ 2 โครงการ คือ โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้รวบรวมยางวงเงิน 10,000 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราวงเงิน 5,000 ล้านบาท รวม 15,000 ล้านบาท 

     "ที่ผ่านมาได้เห็นชอบวงเงินสินเชื่อให้สหกรณ์เพื่อนำไปรวบรวมยางจากเกษตรกรแล้ว 281 แห่ง วงเงิน 2,880 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 442 แห่ง ธ.ก.ส.จะทยอยปล่อยเงินกู้ในเดือนกันยายนนี้อีก 4,000 ล้านบาท เดือนตุลาคม 2,000 ล้านบาท และเดือนพฤศจิกายน 1,000 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาจ่ายเงินกู้ตามโครงการเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557-30 มิถุนายน 2558 กำหนดคืนเงินกู้ไม่เกิน 12 เดือน โดยสหกรณ์จะรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้ 1% ต่อปี และรัฐบาลอุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้ให้ 3% ต่อปี" แหล่งข่าวกล่าว

@ หนุนสินเชื่อแปรรูป 5 จุดใหญ่

      แหล่งข่าวกล่าวว่า อีก 5,000 ล้านบาท ในโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพารานั้น ธ.ก.ส.จะสนับสนุนให้สหกรณ์ที่มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพ และมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ รวมตัวกันเป็นเครือข่ายประมาณ 24 แห่ง เพื่อรวบรวมยางพารา ครอบคลุมพื้นที่ปลูกยางพารา 5 จุดใหญ่ทั่วประเทศ ได้แก่ จ.ชลบุรี 2 จุด จ.บุรีรัมย์ 1 จุด จ.สุราษฎร์ธานี 1 จุด และ จ.ยะลา 1 จุด เพื่อให้ศูนย์เป็นผู้รวบรวมยางจากสหกรณ์ในเครือข่ายเพื่อนำไปจำหน่ายหรือนำไปแปรรูปเพื่อการส่งออกต่อไป 

      แหล่งข่าวกล่าวว่า คาดหวังว่า จะช่วยให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรกว่า 723 แห่ง มีความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจและช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ให้แก่ชาวสวนยาง จึงต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของสถาบันเกษตรกรอย่างละเอียดซึ่งต้องใช้เวลาพอประมาณ 

@ ชงยุทธศาสตร์ข้าวให้"บิ๊กฉัตร"

      นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวมีความคืบหน้ามากแล้ว น่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะนำเสนอให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาต่อไป สาเหตุที่ต้องใช้เวลาในการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวนานหลายเดือน เพราะต้องการให้เป็นยุทธศาสตร์ที่สามารถปฏิบัติและบรรลุเป้าหมายได้จริง เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน อีกทั้งกำหนดกรอบแนวทางพัฒนาระบบข้าวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จึงต้องหารือและจัดทำแผนให้รอบคอบ 

      ที่ผ่านมามีหลายประเด็นที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน อาทิ เอกชนเสนอตั้งไรซ์บอร์ด ก็เห็นว่าซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการบริหารจัดการข้าว (กบข.) จึงเสนอให้ตั้งเป็นสถาบันการพาณิชย์ข้าว มีตัวแทนจากเอกชน ข้าราชการ นักวิชาการ และผู้เกี่ยวข้องด้านข้าว เพื่อกำหนดแนวทางให้เกิดสมดุลทั้งการผลิต การบริโภค การส่งออก 

      ขณะที่ กบข.ยังต้องมีเพราะเกี่ยวข้องกับการพิจารณาด้านงบประมาณช่วยเหลือ" นางจินตนากล่าว 

@ ย้ำราคาอยู่ที่ตันละ 7.8 พัน

       นางจินตนากล่าวว่า ยืนยันว่าราคาข้าวเปลือกซื้อขายกันตอนนี้อยู่ที่ตันละ 7,800-8,200 บาท ที่ว่าราคาข้าวตก คงต้องดูว่าเป็นข้าวเปลือกความชื้นสูง 30% หรือไม่ เมื่ออบแล้วสีแปรจะเหลือต้นข้าวน้อยลง และยอมรับว่าน่ากังวลต่อราคาข้าวที่อาจลดลงได้อีกในช่วงผลผลิตข้าวเปลือกนาปี 2557/58 ออกสู่ตลาดจำนวนมากที่จะเริ่มในเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมมาตรการเร่งระบายข้าว ลดปริมาณข้าวในตลาด โดยการช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ 3% กับผู้ซื้อข้าวชาวนา เตรียมโรงสีต่างพื้นที่เข้าซื้อข้าวชาวนาเพื่อลดความเดือดร้อน จัดตลาดนัดค้าข้าว ด้านส่งออกได้เร่งรัดในการหาตลาดส่งออกข้าว 

       "ยืนยันว่าได้เตรียมใช้ทุกวิธีการที่จะดึงผลผลิตข้าวรอบใหม่ให้มากที่สุด เพื่อลดปริมาณข้าวล้นตลาด แต่อยากให้ชาวนาทบทวนด้วยว่าพื้นที่ปลูกข้าวที่ทำอยู่จะหันไปปลูกพืชอื่นดีกว่าไหม แต่ยอมรับว่าการจะปรับไปอาชีพใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องใช้เวลา ชาวนาคงต้องอดทนต่อการเปลี่ยนแปลงด้วย เชื่อว่ายุทธศาสตร์ที่มุ่งสร้างสมดุลระบบค้าข้าว ไม่กี่ปีรายได้ชาวนาจะดีขึ้น" นางจินตนากล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!