คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน โดย การ์ตอง มติชน 10 ส.ค. 2557
หากเป็นการเมืองยุคก่อน ไม่ว่าประชาธิปไตยจะถูกต้อนให้ถอยร่นอย่างไร จะยังคงมีฐานที่มั่นหนึ่งรองรับการถอยนั้นให้สามารถตั้งรับ และตั้งหลักเพื่อเตรียมความพร้อมในการรุกกลับคืนได้
ฐานที่มั่นนั้นคือสถาบันการศึกษา อันหมายถึงมหาวิทยาลัย
เครื่องมือของมหาวิทยาลัยที่สามารถสอดแทรกเข้าไปในทุกอำนาจคือ "การวิพากษ์วิจารณ์เชิงวิชาการ"
รัฐบาลอาจจะมีอำนาจล้นเหลือในทางบริหาร รัฐสภาอาจจะมีอำนาจเต็มที่ในการออกกฎหมาย และตุลาการมีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินคดีความ
หรือกระทั่งกองทัพที่สามารถแสดงอำนาจเบ็ดเสร็จในการรักษาความมั่นคงของประเทศในทุกเมื่อ
การใช้อำนาจเพื่อหยุดการแทรกแซงทางทุกฝ่ายอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่สถาบันการศึกษา ซึ่งก็คือมหาวิทยาลัย มีอำนาจที่จะเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ทุกอำนาจในกรอบของวิชาการได้
เพราะวิชาการคือความแหลมคมของปัญญาที่จะก่อให้เกิดความรอบคอบในการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ของประเทศชาติ
ไม่มีใครมีความชอบธรรมที่จะปฏิเสธการติเตือนเพื่อให้เกิดความรอบคอบในการใช้อำนาจได้
ในนามของมหาวิทยาลัยที่มีความตื่นตัวทางการเมือง และหนักแน่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยคือ "มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์"
ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อประเทศมีการใช้อำนาจนอกกรอบประชาธิปไตย ประชาชนชาวไทยจะมอบความหวังไว้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าจะเป็นผู้นำในการใช้อำนาจทางวิชาการเพื่อเข้าแทรกแซงให้การใช้อำนาจนอกกรอบนั้นเป็นไปอย่างรอบคอบ
ที่สำคัญคือ ทำให้กลับคืนสู่ประชาธิปไตยอันเป็นการปกครองที่ประเทศพัฒนาแล้วให้การยอมรับโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
จนแทบทุกครั้งธรรมศาสตร์จะเป็นหัวขบวนในการต่อสู้เพื่อเรียกคืนประชาธิปไตย
การที่จะคงบทบาทเช่นนั้นได้ นักวิชาการในรั้วมหาวิทยาลัยจะต้องไม่เข้าไปมีผลประโยชน์ในอำนาจอื่นนอกจากอำนาจทางวิชาการในนามสถาบันการศึกษา
การรักษาจุดยืนนี้ไว้คือ เกราะป้องกันความทรงเกียรติของมหาวิทยาลัย
การต่อสู้ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โดดเด่นในการความเป็นผู้นำมาทุกครั้ง
จนกระทั่งวันนี้ เหมือนกับอำนาจนอกกรอบประชาธิปไตยจะเรียนรู้ และพัฒนาการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
การทำให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นผู้นำในอำนาจวิชาการเข้าไปมีผลประโยชน์ร่วมในอำนาจนอกระบบคือไม้เด็ดที่จะบั่นทอนอำนาจทางวิชาการที่เข้าไปแทรกแซงอำนาจอื่นให้ใช้อย่างรอบคอบ
"สมคิด เลิศไพฑูรย์" ในนามอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินไปสู่จุดนั้นในวันนี้
เมื่อเข้าไปรับหน้าที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นั่นหมายถึงความชอบธรรมที่จะแทรกแซงการใช้อำนาจนิติบัญญัติให้เกิดความรอบคอบด้วยกรอบของความเป็นสถาบันวิชาการของธรรมศาสตร์ย่อมถูกตั้งคำถาม
ความโดดเด่นในความเป็นผู้นำในยามวิกฤตประชาธิปไตยสูญเสียไปแล้ว
ด้วยจุดยืนของอธิการบดีซึ่งเป็นผู้นำ
อย่างไรก็ตาม "สมคิด เลิศไพฑูรย์" คงไม่มีความสุขนักกับการยืนในจุดนี้
เพราะถึงอย่างไรจิตวิญญาณธรรมศาสตร์น่าจะยังคงหนักแน่น และพร้อมจะเป็นแรงเสียดทานสั่นคลอนการนำของ "สมคิด" อยู่ไม่น้อย