ก่อนการ "ร่าง" ธรรมนูญการปกครอง ก่อนกำหนด "สมาชิก"สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อันจะนำไปสู่การเสนอชื่อ "นายกรัฐมนตรี"
มีการศึกษา "บทเรียน" ทางการเมืองจาก "อดีต"
ไม่เพียงแต่อดีตจากการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 หากแต่ยังย้อนไปยังอดีตจากการรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534 และยังย้อนไปไกลถึงอดีตจากการรัฐประหารเมื่อเดือนตุลาคม 2519
ไม่ว่านายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร
ไม่ว่านายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน
ไม่ว่านายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
เหตุนี้เองการตระเตรียมของ "คสช." จึงไม่รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม เพียง 1 เดือนก็ได้นายกรัฐมนตรี
ตรงกันข้าม ทอดเวลาร่วม 3 เดือน
กระนั้น กรณี "ศึกษา 1" อันอาจจะถูกมองข้ามไปโดยปริยาย ถูกมองข้ามไปโดยประมาท ถูกมองข้ามไปโดยเจตนาก็คือ หลักการทางการทหารอันเก่าแก่อย่างยิ่งที่ว่า
"ป้อมค่าย" ถูกตีแตกจาก "ภายใน"
บทสรุปนี้มาจากบทเรียนในกรณีศึกเมืองทรอย ดำเนินการอย่างยืดเยื้อโดย "ยูลิซิส"เขาสามารถเผด็จศึกได้อย่างเบ็ดเสร็จ
เมื่อมีการนำ "ม้าไม้" ไป "จัดวาง"
และเมืองทรอยชะล่าใจคิดว่าเสมอเป็นเพียงม้าไม้ จึงได้ลากดึงเข้าไปไว้ในกรุงทรอย ต่อจากนั้นก็เรียบโร้ยย
เพราะภายในม้าไม้นั้นซ่อนไว้ด้วยทหารแกร่งกล้า
ท่ามกลางความประมาท ท่ามกลางความชะล่าใจ ทหารซึ่งแฝงตัวอยู่ภายในม้าไม้ก็ออกมาและปฏิบัติการโจมตี
จัดการยึดกรุงทรอย
ที่ยึดได้เพราะการยุทธ์นี้ดำเนินไปในลักษณะของการประสาน1 เริ่มโจมตีจากภายใน ขณะเดียวกัน 1 รุกเข้ามาจากภายนอก
กรุงทรอยจึงต้องรับศึก 2 ด้าน
จากจุดนี้เองจึงนำไปสู่บทสรุปการรบอย่างต่อเนื่องจากโบราณ แม้กระทั่งกลยุทธ์ของเหมาเจ๋อตุง กลยุทธ์ของโวเหวียนเกี๊ยบ นั่นก็คือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถเร้นแฝงเข้าไปในใจกลางของฝ่ายตรงกันข้ามแล้วแตกเสียงปืน
"ป้อมค่าย" ตีแตกจาก "ภายใน"
ถามว่าภายในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มีอะไรอันกลายเป็น "จุดอ่อน" บ่อนเซาะให้ขาดประสิทธิภาพ ไม่มีประสิทธิผล
คำตอบเห็นได้จากกรณี "เขายายเที่ยง"
อย่าได้สงสัยว่ากรณีเขายายเที่ยงเริ่มจากพรรคไทยรักไทย หรือเริ่มจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร
แท้จริงแล้ว เริ่มจาก "ลูกป๋า" ด้วยกัน
เป็น "ลูกป๋า" คนหนึ่งซึ่งมาดหมายที่จะได้ตำแหน่งบริหาร แต่เมื่อไม่ได้ก็ปล่อย "คนสนิท" ให้ดำเนินการเปิดโปง โจมตี
เสียงปืนของรัฐบาล นายอานันท์ ปันยารชุน ก็มาจาก "ภายใน"
รอยร้าวอันเนื่องแต่สัมปทานโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมายเริ่มขึ้นในกระทรวงคมนาคม และบานปลายถึงกับก่อกระแสจะปลด "นายกรัฐมนตรี"
ยิ่งเสียงปืนของรัฐบาล นายธานินทร์ กรัยวิเชียร ยิ่งมากด้วยความหวาดเสียว
เป็นความหวาดเสียวที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยดำเนินกลยุทธ์แบบ "สายล่อฟ้า"
ในที่สุด บรรดา "เปลือก" ทั้งหลายตั้งแต่ระดับ "ยังเติร์ก" กระทั่ง "โอลด์เติร์ก" มิอาจทนต่อไปในบทคุ้มครองจึงต้องลอยแพ "หอย"
"ป้อมค่าย" ตีแตกจาก "ภายใน"
หากสัมผัส "ปฏิกิริยา" ต่อกระบวนการแต่งตั้ง "สนช." กระบวนการแต่งตั้ง "สภาปฏิรูป"
ทาง 1 เริ่มมีเสียงทวงบุญทวงคุณดังขึ้นจากปัญญาชน นักวิชาการ บางคนวางเป้าหมายถึงระดับ "รัฐมนตรี" ด้วยซ้ำไป ขณะเดียวกัน 1 หากคนเหล่านี้ไม่ได้รับบำเหน็จ รางวัลจะเป็นเช่นใด
"ป้อมค่าย" ตีแตกจาก "ภายใน"...............