ทบทวน พิมพ์เขียว บันได 4 ขั้น ′คมช.′ ผ่านผล ′เลือกตั้ง′
- Details
- Category: วิเคราะห์-การเมือง
- Created: Saturday, 12 July 2014 22:13
- Published: Saturday, 12 July 2014 22:13
- Hits: 4370
ทบทวน พิมพ์เขียว บันได 4 ขั้น ′คมช.′ ผ่านผล ′เลือกตั้ง′
(ที่มา:มติชนรายวัน 11 ก.ค.57)
ภารกิจ ปฏิรูป ข้อเสนอ คนดี เสียงค้าน คนดี
(ที่มา:มติชนรายวัน 10 ก.ค.57)
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนว่าภารกิจที่เป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งในการเข้ายึดอำนาจการปกครอง ก็เพื่อ "ปฏิรูป" ยกเครื่องประเทศ ให้เกิดความโปร่งใส สุจริต และมีประสิทธิภาพ หนึ่งในจำนวนนี้ก็คือการปฏิรูปการเมือง ที่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสรุปและนำเสนอข้อเท็จจริง-ความเห็นประกอบขึ้นมา ความเคลื่อนไหวในองค์กรอิสระหลายแห่งจึงเต็มไปด้วยความคึกคัก 4 กรกฎาคม นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.รวบรวมมาตรการป้องกันการทุจริตเสนอให้ คสช. พิจารณาและสั่งการให้หน่วยงานของรัฐนำไปปฏิบัติ รวมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการจัดทำนโยบายในการหาเสียงของพรรคการเมือง เพื่อป้องกันการทุจริตเชิงนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดิน และการเพิ่มมาตรการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้สมัครรับเลือกตั้งระดับชาติ ก่อนนำเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง โดยคาดว่าจะนำเสนอต่อ คสช.ได้ในสัปดาห์หน้า 9 กรกฎาคม นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า จากการหารือระหว่าง ป.ป.ช. และ คสช. มีหมายหลักตรงกันคือการป้องกันปราบปรามการทุจริต ซึ่ง ป.ป.ช.จะเสนอผลักดันปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่ให้ดีขึ้น อาทิ เรื่องการยืดอายุความ เพราะเห็นว่าคดีที่มีอายุความ 15-20 ปียังน้อยเกินไป รวมถึงกฎหมายติดตามทรัพย์สินคืน เพื่อให้อยู่ในมาตรฐาน
โดยกรณีการเลือกตั้ง ส.ส.นั้นยังคงให้มี ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ แต่เปลี่ยนจากเขตเดียวเบอร์เดียวเป็นแบบเขตใหญ่ และให้ ส.ส.ทั้งสองระบบมีจำนวนใกล้เคียงกัน ส่วน ส.ว.ให้คงไว้ แต่จะมีทั้ง ส.ว.สรรหา และ ส.ว.เลือกตั้งหรือไม่ ก็ได้เสนอจุดเด่นจุดด้อยให้พิจารณา รวมทั้งแก้ไขเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง อาทิ การจะลงสมัครรับเลือกตั้งต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 1 ปี เมื่อเข้าดำรงตำแหน่งแล้วควรกำหนดให้มีวาระ 4 ปี แต่ต้องไม่ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระ ห้ามมิให้บุพการี บุตร บุญธรรม คู่สมรสตามกฎหมาย หรืออดีตคู่สมรส ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.หรือ ส.ว.ในคราววาระเดียวกัน เพิ่มลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง คดียาเสพติด และคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หากเกิดปัญหาการขัดขวาง เกิดเหตุสุดวิสัยอันเป็นภัยร้ายแรง ให้ กกต.มีอำนาจในการเสนอเลื่อนขยายวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร โดยไม่ต้องมีการปรึกษาหรือขอความเห็นจากนายกรัฐมนตรี เมื่อมีการยุบสภาหรือดำรงตำแหน่งครบวาระ ให้คณะรัฐมนตรีพ้นไปโดยปริยายไม่ต้องเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการ โดยให้ปลัดกระทรวงรักษาการแทน
ที่คัดค้านในประเด็นการกำหนดให้ ส.ส.ดำรงตำแหน่งติดต่อกันไม่เกิน 2 วาระ อย่างเอาจริงเอาจัง บ่งบอกให้เห็นว่า ภารกิจในการปฏิรูปของ "คนดี" อาจจะไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะเมื่อเกิดความขัดแย้งในผลประโยชน์ กระนั้น ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อรังเกียจเฉพาะในส่วนที่เสียประโยชน์โดยตรง แต่มิได้นำพาเรื่องหลักการ อาทิ การให้อำนาจ กกต.เลื่อนเลือกตั้งได้เอง หรือการก้าวข้ามอำนาจบริหารด้วยการเสนอให้ยกเลิกรัฐบาลรักษาการ ปล่อยให้ภาระในการคัดค้านประเด็นที่เป็นหลักยิ่งกว่าเหล่านี้ ไปอยู่กับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยแทน |
อนิจจัง การเมือง ธานินทร์ เกรียงศักดิ์ พลิกผัน ไม่เที่ยง
(ที่มา:มติชนรายวัน 9 ก.ค.57)
เห็น "อาการ" กองเชียร์ คสช. ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่เสนอว่าให้อยู่นาน-นานโดยไม่มีกำหนดเวลา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่เสนอว่า อยู่ตามความจำเป็น "ใช้โอกาสนี้ในการแก้ปัญหาประเทศ และชี้ให้เห็นว่านักการเมืองทำให้ประเทศเสียหายอย่างไร และจะวางหลักเกณฑ์อย่างไรไม่ให้นักการเมืองกลับมาทำเรื่องไม่ดีอีก" เหน็ดเหนื่อยและหนักใจแทน แม้ว่าจะเป็น "ข้อเสนอ" อันมาจากความปรารถนาดี แม้ว่าจะเป็น "ข้อเสนอ"อันมาจากความรังเกียจ "นักการเมือง"
และอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มี "เวลา" ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้จะมี"โหร" บางโหรยกให้เป็น "อัศวินม้าข้าว" มาปราบยุคเข็ญก็ตาม แต่ "เชน" เมื่อถึงเวลาก็ต้อง "โก" รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 ให้คำตอบได้ คำตอบ 1 เห็นได้จากเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้ข้าราชการ "ประจำ" เข้ามามีบทบาททางการเมืองอย่างเต็มที่ เป็นบทบาทในฐานะ "วุฒิสมาชิก" เป็นบทบาทในฐานะ "รัฐมนตรี" แต่พอถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2523 พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ก็ต้องอำลาจากตำแหน่ง และรัฐสภาก็ลงมติให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี 1 เป็นคะแนนเสียงจาก "วุฒิสภา" อยู่ได้เพียง 1 ปีก็ต้อง "จร" คำตอบอ่านได้จากคำปรารภอันปรากฏผ่านรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พ.ศ.2519 คือ 12 ปี แต่พอถึงเดือนตุลาคม 2520 ก็ต้อง "โก" เป็น "ทหาร" ต่างหากที่ "โค่น" อะไรคือเหตุผลของทหาร ทหารต้องทำเพราะ "ประชาชน" ไม่พอใจ ความต้องการพัฒนาประชาธิปไตยของ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร จึงตกอยู่ในมือพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ และตกอยู่ในมือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เลื่อนไหล แปรเปลี่ยนอย่างเป็น "อนิจจัง" |