สื่อนอกวิเคราะห์ ยิ่งลักษณ์ ซ้ำรอย ทักษิณ สะเทือน 'ความเป็นกลาง' คสช. การเมืองส่อร้าวหนัก

Details: Category: วิเคราะห์-การเมือง; Created: Friday, 23 January 2015 22:21; Published: Friday, 23 January 2015 22:21; Hits: 3730

สื่อนอกวิเคราะห์ ยิ่งลักษณ์ ซ้ำรอย ทักษิณ สะเทือน 'ความเป็นกลาง' คสช. การเมืองส่อร้าวหนัก

มติชนออนไลน์ : เมื่อ 23 ม.ค. สื่อมวลชนต่างประเทศสำนักใหญ่ๆ ต่างรายงานวิเคราะห์กรณีอัยการสูงสุด หรืออสส. แถลงสั่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบ และความประมาทอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ จากคดีทุจริตในโครงการจำนำข้าว มีบทลงโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี พร้อมกับที่สมาชิกสภานิติบัญญัติ หรือ สนช.ลงมติให้ถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ อันมีผลตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ว่าเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สะท้อนถึงความแตกหักและมีความวุ่นวายรออยู่

บีบีซีสำนักข่าวยักษ์ใหญ่ของอังกฤษรายงานการวิเคราะห์ของโจนาธานเฮดว่าการถอดถอนและการสั่งฟ้องในวันเดียวกันเป็นสัญญาณแรงชัดว่าจะไม่มีการประนีประนอมใดๆและตระกูลชินวัตรจะต้องออกจากการเมืองหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของชาวชนบท แต่เป็นที่เกลียดชังของกลุ่มอีลิต ชนชั้นกลางและคนในเมืองด้วยข้อกล่าวหาทุจริตและใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์มองคล้ายกันว่าชะตากรรมของพ.ต.ท.ทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นมีความคล้ายคลึงกันรวมทั้งคดีที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใดจะไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ความเป็นกลางของพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชาตลอดจนความชอบธรรมของรัฐบาลทหารที่อาจปูทางไปสู่ความแตกแยกที่มากขึ้นอีกในอนาคตระหว่างฝ่ายผู้สนับสนุนและกลุ่มคนชนชั้นกลางในเมืองหลวงที่ต่อต้านกลไกทางการเมืองของตระกูลชินวัตร

รอยเตอร์ระบุว่าทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์และพ.ต.ท.ทักษิณได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นจากกลุ่มชาวชนบทแต่ก็ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายและถูกนักเคลื่อนไหวที่เป็นกลุ่มคนชนชั้นกลางในเมืองหลวงออกมาต่อต้านในสมัยของพ.ต.ท.ทักษิณถูกโค่นล้มด้วยรัฐประหารปี2549ส่งผลให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากประเทศไทยเพื่อหลบหนีโทษจำคุกและยังคงพำนักอยู่ในต่างประเทศจนถึงทุกวันนี้แต่ยังคงมีอิทธิพลต่อการเมืองของไทยขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกยึดอำนาจในปี2557และจำเป็นต้องแจ้งกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศต่อทหารทุกครั้ง

นายพอล แชมเบอร์ส ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยจากสถาบันศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ก่อนการลงมติของสนช. เป็นที่คาดหมายว่าคดีนี้จะส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านคสช. ไม่จากฝ่ายที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ฝ่ายต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ

นิตยสารไทม์ของสหรัฐรายงานว่า ผลการตัดสินของสนช.ในคดีถอดถอนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ จะส่งผลให้ความแตกแยกรุนแรงเพิ่มมากขึ้นระหว่างกลุ่มคนชนบท ที่ส่วนใหญ่สนับสนุนกลไกการเมืองของตระกูลชินวัตร กับกลุ่มคนชนชั้นกลางในกรุงเทพมหานคร

ไทม์สัมภาษณ์นายศักดิ์สิทธิ์ ไสยสมบัติ บล็อกเกอร์วิเคราะห์การเมืองว่า สนช.พยายามกีดกันกลุ่มคนฝ่ายชินวัตรออกไปจากการเมืองให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้มีผู้ขัดขวางในภารกิจใดๆ ที่ทางรัฐบาลทหารของไทยจะดำเนินการในอนาคตอันใกล้ และการตัดสินของสนช.มีแต่จะทำให้ปัญหาความแตกแยกทางการเมืองของไทยเพิ่มขึ้นไปอีก

รายงานระบุว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์กำลังเผชิญหน้ากับโทษจำคุกสูงสุด10ปีจากคดีที่อสส.สั่งฟ้องซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะสร้างความโกรธแค้นให้กับฝ่ายผู้สนับสนุนตระกูลชินวัตรหรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังไม่ออกมาเคลื่อนไหวใหญ่นับตั้งแต่ถูกรัฐบาลของอดีตนายกฯถูกรัฐประหาร และคนเสื้อแดงเคยถูกปราบปรามในการชุมนุม

นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระให้สัมภาษณ์นิตยสารไทม์ว่า การตัดสินถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ในครั้งนี้จะทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์กลายสภาพเป็น “ฮีโร่ทางการเมืองที่ไม่มีวันตาย” เหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ และแม้ฝ่ายผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ อาจต้องเผชิญกับความยากลำบากในหนทางข้างหน้า แต่การกระทำในลักษณะดังกล่าวยิ่งทำให้คนไทยนับล้านก้าวข้ามบุคคลทั้งคู่ไปได้ยากขึ้นอีก

ด้านเอเชียนวอลล์สตรีตเจอร์นัลระบุถึงการวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษาPQAAssociatesในกรุงเทพฯว่าการตัดสินใจแจ้งข้อหาดำเนินคดีอาญากับน.ส.ยิ่งลักษณ์ของอสส. จะไม่ทำให้เกิดกระแสการประท้วงขนาดใหญ่ในทันที แต่การถอดถอนดังกล่าวสุ่มเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ ที่พยายามให้คนเห็นว่าตนเป็นกลาง แม้จะพยายามปฏิเสธแค่ไหนก็ตาม คดีนี้ถือเป็นภาวะถดถอยของความชอบธรรมของรัฐบาลทหารไทย และอาจกลายเป็นชนวนที่ทำให้เกิดความไม่สงบในอนาคตอันใกล้

ส่วนเอเอฟพีรายงานว่า ตั้งแต่ปี 2544 ที่ผ่านมา รัฐบาลที่นำโดยตระกูลชินวัตรถูกโค่นล้มมาแล้วถึง 5 ครั้ง แบ่งเป็นการทำรัฐประหาร 2 ครั้ง และการแทรกแซงของอำนาจฝ่ายตุลาการ 3 ครั้ง

ขณะที่นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการไทยจากมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า โทษจำคุกเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ่งกว่าการตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดยจุดมุ่งหมายที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการคือ การขัดขวางไม่ให้ตระกูลชินวัตรกลับมาเล่นการเมือง หากรัฐบาลทหารไทยจำยอมต้องลงจากตำแหน่งผู้บริหารประเทศ และยอมให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามตระกูลชินวัตรไม่มีขีดความสามารถเพียงพอที่จะชนะได้ในสนามเลือกตั้ง

นายฐิตินันท์พงษ์สุทธิรักษ์ผู้อำนวยการสถาบันศึกษานานาชาติและความมั่นคงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่าสนช.เต็มไปด้วยบุคคลที่ทหารแต่งตั้งมา ดังนั้น การจะช่วยเหลือน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น มีน้อยมาก และความทนทุกข์ของฝ่ายสนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์และพ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกสั่งสมมากขึ้นและจะมีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อมันระเบิดออกมา

แปลโดย ข่าวสดออนไลน์