ท่าที ทักษิณ เพื่อไทย คนเสื้อแดง ลด บทบาท

    เหมือนกับ “ท่าที” ล่าสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรในการเตือนพรรคเพื่อไทย ในการเตือนคนเสื้อแดง ไม่ให้เคลื่อนไหว

   จะมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “บรรยากาศ”

   เป็นบรรยากาศอันอยู่ระหว่างที่ประชุมสนช.เปิดการพิจารณาคดีถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

   1 นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ 1 นายนิคม ไวยรัชพานิช 1 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

    อดีตประธานรัฐสภา อดีตรองประธานรัฐสภาซึ่งเป็นประธานวุฒิสภา อาจเป็นเป้าหมาย 1 ในการสร้างบรรยากาศอันเป็นคุณในทางการเมือง

    กระนั้น เป้าหมายจริง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

    กระนั้น เป้าหมายจริง คือ ไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทย หรือคนเสื้อแดง เป็นอุปสรรคให้กับคสช.และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการแก้ปัญหาบ้านเมือง

    นี่คือ บรรยากาศ “ปรองดอง”
.....................................................

 หากจับกระแสเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ลอยลมมาจากกรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน 
 
 เป็นกระแสเสียงเป็นห่วงรัฐบาล

 ความเป็นห่วงนั้นวางน้ำหนักไปยังปัญหาในทางเศรษฐกิจ เพราะว่าสภาวะเศรษฐกิจทั้งระดับโลกและระดับประเทศ หนักหนาสาหัส

 รัสเซียก็ย่ำแย่ จีนซึ่งเคยเติบใหญ่ก็เริ่มชะลอตัว

 ปัจจัยจากประเทศมหาอำนาจอย่างนี้ย่อมส่งผลกระทบไปยังเศรษฐกิจภายในประเทศของไทยอย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อใดเศรษฐกิจแย่ชาวบ้านซึ่งเป็นมวลชนของพรรคเพื่อไทยหรือเป็นคนเสื้อแดงก็ย่ำแย่ตามไปด้วย

 ตรงนี้แหละที่ต้องให้รัฐบาลแสดงฝีมืออย่างเต็มพิกัด
.....................................................

    ความหมายจากกระแสเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็คือ ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยหรือคนเสื้อแดงกลายเป็นเงื่อนไข กลายเป็นปัจจัยรั้งดึง

    เพราะอาจตกเป็น “เป้า” ในการกล่าวหา โจมตีได้

    ท่าทีเช่นนี้เป็นท่าทีตั้งแต่เมื่อเกิดรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 ที่หลายคนคิดว่ามีสาเหตุมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถตกลงกับฝ่ายทหารได้แล้ว ซึ่งไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่น่าจะเพราะต้องการลดเงื่อนไขมากกว่า

    เป็นการลดเงื่อนไขจากพรรคเพื่อไทย จากคนเสื้อแดง หลังสรุปบทเรียนจากภายหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 และหลังรัฐประหารโดยองค์กรอิสระเมื่อเดือนธันวาคม 2551 

 จึงต้องลดบทบาท จึงต้องลดเงื่อนไขลง
.......................................................
    ท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เช่นนี้อาจสร้างความหงุดหงิดให้กับ “ฮาร์ดคอร์” ทางการเมือง

     แต่ก็ต้องยอมรับว่าพื้นฐานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเช่นนี้ พื้นฐานของพรรคเพื่อไทยเป็นเช่นนี้ และพื้นฐานของคนเสื้อแดงเป็นเช่นนี้

      นั่นคือ อยู่ในกรอบแห่ง 'ประชาธิปไตย'.....