'เหาะเกินลงกา' สารพัดสูตร'การเมือง'ตอบโจทย์'ปฏิรูป'?
- Details
- Category: วิเคราะห์-การเมือง
- Created: Sunday, 28 December 2014 18:15
- Published: Sunday, 28 December 2014 18:15
- Hits: 3544
'เหาะเกินลงกา' สารพัดสูตร'การเมือง'ตอบโจทย์'ปฏิรูป'?
วิเคราะห์
ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ถือเป็นช่วงเวลาที่บรรดานักคิดได้แสดงสูตร "การเมือง" ออกมาอย่างเข้มข้น
ทั้งที่แสดงแบบเปิดเผย ทั้งที่แสดงแบบปิดลับ
ทุกสูตรการเมืองมีความเหมือนและมีความต่างกันอย่างสัมผัสได้
เริ่มตั้งแต่ข้อสรุปของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมืองของสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ที่มี นายสมบัติ
ธัญญวงศ์ เป็นประธาน ได้เสนอด้วยเสียงข้างมากให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง
ด้วยเหตุและผลที่ว่า วิธีการดังกล่าวจะทำให้การซื้อสิทธิขายเสียงลดลง แต่ก็ถูกคัดค้านทั่วทิศ นับตั้งแต่คนในคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง รวมไปถึงสภาปฏิรูปแห่งชาติ
โดย นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้อภิปรายข้อเสีย
6 ประการ แสดงความไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะเรื่องอำนาจฝ่ายบริหาร ที่เปรียบว่ามีอำนาจมากประดุจ "ซุปเปอร์ประธานาธิบดี"
แม้กระทั่งพรรคการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา และอื่นๆ ก็ไม่เอาด้วย
สุดท้าย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและผู้ดูแลงานด้านกฎหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ออกมาแสดงความเห็น
ส่งสัญญาณเบรกด้วยวาทะ 'อย่าเหาะเกินลงกา'กระทั่งกระแสเลือกตั้งนายกฯและคณะรัฐมนตรีโดยตรงสงบลง
ประจวบเหมาะกับสูตรพิเศษที่ผุดขึ้นตามมาอีก
นั่นคือ ข้อเสนอให้ คสช.แปลงเป็นคณะกรรมการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ กำหนดให้รัฐสภามีจำนวน 500 คน ในจำนวนนี้เป็น ส.ส.มาจากการเลือกตั้งร้อยละ 70 และเป็น ส.ว.มาจากการสรรหาร้อยละ 30
รัฐสภาทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรี
แต่ข้อเสนอดังกล่าวดังขึ้นเพียงชั่วคืน คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญก็ทยอยมีมติต่างๆ ออกมาทุกวัน
วันแรก คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกรัฐมนตรีมาจากการลงคะแนนของ ส.ส.
กำหนดให้ ส.ส.มีทั้งสิ้น 450 คน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทแบ่งเขต 250 คน และประเภทสัดส่วน 200 คน
วิธีการเลือกตั้งใช้แบบเยอรมนี คือกำหนดจำนวน ส.ส.ตามสัดส่วนที่ได้รับเลือกจากประชาชน เช่น ได้ประชาชนเลือก ส.ส.สัดส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ พรรคการเมืองนั้นก็จะมี ส.ส.แค่ 45 คน ถ้าได้จำนวน ส.ส.เขตไม่พอก็นำเอา ส.ส.สัดส่วนมาเพิ่มเติมเข้าไป
แต่ทั้งนี้ ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง
ต่อมาคณะกรรมาธิการยกร่างฯได้สรุปให้นายกรัฐมนตรีมาจาก'คนนอก'ก็ได้ โดยอ้างว่าเผื่อไว้สำหรับแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศ
ขณะเดียวกันได้เสนอให้มี ส.ว. 200 คน ทั้งหมดมีที่มาจากการสรรหา 5 กลุ่มผู้นำของสังคม ทั้งผู้นำ
3 อำนาจอธิปไตย ผู้นำข้าราชการ ผู้นำภาควิชาชีพ ผู้นำภาคประชาชนที่สรรหาตามสัดส่วน และสุดท้ายคือเปิดให้ประชาชนเลือกทางอ้อม
ข้อสำคัญคือ ได้เพิ่มอำนาจให้สมาชิกวุฒิสภาเข้าไปกลั่นกรองประวัติบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี ก่อนนายกรัฐมนตรีจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
และยังมีอำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองร่วมกับ ส.ส. โดยใช้เสียงกึ่งหนึ่งของรัฐสภาเป็นเกณฑ์
เท่ากับว่าคณะกรรมาธิการยกร่างฯได้ติดดาบให้แก่ ส.ว.เต็มที่
หลังจากนี้ จนถึงสิ้นปี 2557 คณะกรรมาธิการยกร่างฯจะยังประชุมกันต่อเนื่อง ก่อนจะถึงกำหนดเวลา 12 มกราคม 2558 ซึ่งคณะกรรมาธิการจะยกร่างเป็นรายมาตรา
บัดนี้ มองเห็นสารพัดสูตรการเมืองแล้ว อนุมานภาพรวมของเจตนาผู้นำเสนอได้ว่ายังคงต้องการแก้ไขโจทย์การเมืองเก่าที่ค้างคาใจ
นั่นคือ ทำอย่างไรให้ชนะการเลือกตั้งระบอบ ทักษิณ ชินวัตร
หรือทำอย่างไรจะควบคุมระบอบทักษิณไม่ให้ควบคุมฝ่ายบริหารได้เบ็ดเสร็จ
กระทั่งมีกระแสข่าวสะพัดว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังมีความคิดจะให้อำนาจ คสช.อยู่สืบทอดต่อไปในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
ไม่ว่า จะเป็นรูปแบบองค์กรในรัฐธรรมนูญใหม่ หรือไม่ก็การเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเป็นนายกรัฐมนตรีได้ต่อไป
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนหรือวิธีใด โจทย์การเมืองที่ค้นหาคำตอบอยู่ยังเป็นเรื่องเดิม
เพียงแต่การตอบโจทย์เรื่องเดิมดั่งว่านั้นจะเป็นการตอบโจทย์การปฏิรูปไปพร้อมๆ กันได้หรือไม่ ยังคงเป็นคำถาม
ทั้งนี้ เพราะแรกเริ่มเดิมทีที่ผู้เสนอให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การปฏิรูปก็ด้วยเหตุผลความเจริญก้าวหน้าของประเทศ หรือการที่ทำให้ประชาชนได้รับสิ่งที่ดีกว่าอดีต
ประชาชนมีเสรีภาพดีกว่า ประชาชนมีความเสมอภาคมากกว่า และประเทศชาติได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น
หากแต่ยิ่งมีสูตรการนำเสนอทางการเมืองปรากฏแก่สายตา กลับปรากฏว่าประชาชนได้รับเสรีภาพน้อยลง จนไม่แน่ใจว่ามีความเสมอภาคเท่าเดิมหรือไม่
นายกรัฐมนตรีเป็นคนนอกก็ได้ หมายความว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนที่ประชาชนไม่ได้เลือกก็ได้
ให้สมาชิกวุฒิสภากลั่นกรองประวัติบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี เท่ากับว่าหากนายกรัฐมนตรีจะตั้งรัฐบาล ต้องผ่านการพิจารณาจากสมาชิกวุฒิสภาเสียก่อน
หมายความว่า สมาชิกวุฒิสภามีส่วนสำคัญต่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีทุกคน
เท่ากับว่าฝ่ายบริหารจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่วันแรกที่ได้รับการเสนอชื่อ
ข้อเสนอดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นข้อเสนอที่เคยเกิดขึ้นในช่วงพฤษภาคม 2535 หรือเมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา
ข้อเสนอดังกล่าวกำลังถูกมองว่าทำให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนลดน้อยลง
ข้อเสนอดังกล่าวยังเป็นที่น่าสงสัยว่า ยังจะอยู่ในนิยามของคำว่า'ปฏิรูป'อีกหรือไม่...