WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บทบาท การเมือง รัฐมนตรี สมหมาย ภาษี บทบาท ฝ่ายค้าน

บทบาท การเมือง รัฐมนตรี สมหมาย ภาษี บทบาท ฝ่ายค้าน

มติชนออนไลน์ :  

 


มองอย่างเปรียบเทียบระหว่างบทบาทของนักศึกษา "กลุ่มดาวดิน" ซึ่งออกมา "ชู 3 นิ้ว" กับบทบาทของ นายสมหมาย 

ภาษี ซึ่งออกมาวิพากษ์วิจารณ์แก้ไข 

พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการค้ำประกันและจดจำนอง

ของใคร "แรง" กว่ากัน

การเคลื่อนไหวของ "กลุ่มดาวดิน" อาจส่งผลสะเทือนเป็นอย่างสูง กระทั่งมีคนฉลาดๆ ออกมาตั้งข้อสังเกตเป็นจำนวนมาก

ว่าด้วย "ความหมาย" ของการชู 3 นิ้วว่า "หมายความ" ว่าอย่างไร

ยิ่งกว่านั้น ยังส่งผลสะเทือนกว้างไกลจาก "ขอนแก่น" มายังมหานคร "กรุงเทพฯ" กระทั่งบนภูสูงทะลุฟ้าแห่ง "เชียงดาว"

เป็นข่าว "หน้า 1" อย่างครึกโครม

ขณะที่การออกมาคอมเมนต์ของ นายสมหมาย ภาษี ต่อกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์ในเนื้อหาเกี่ยวกับการค้ำประกันและจดจำนอง เสมอเป็นเพียงข่าวเล็กๆ หน้าใน

ทั้งๆ ที่กรณีของ นายสมหมาย ภาษี เป็น "เรื่องใหญ่"

ไม่ว่าจะเป็นการแสดงในบทบาทของ "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง" ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวในลักษณะอันเป็นตัวแทนของ "ธนาคารพาณิชย์" 

"ความหมาย" หมายความเท่ากับเป็นการเล่นบท "ฝ่ายค้าน"

อย่าลืมเป็นอันขาดว่าการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการค้ำประกันและจดจำนองนี้ได้ผ่านกระบวนการของ "สนช." มาแล้ว

ผ่าน 3 วาระรวด

มีผลเป็น "กฎหมาย" แล้วอย่างสมบูรณ์ เพราะผ่านการตีพิมพ์ในหนังสือ "ราชกิจจานุเบกษา" มาแล้ว

เพียงแต่จะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เท่านั้น

การที่นายสมหมาย ภาษี สรุปว่า "ถือเป็นบทเรียนที่ต้องพิจารณาให้ดี โดยเฉพาะสมาชิก สนช.ที่มาจากด้านการเงินและเศรษฐกิจจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่จะมีผลบังคับใช้"

ต้องยอมรับว่า "แรง" และ "แรงส์"

คำถามอยู่ที่ว่าการแก้ไข พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการค้ำประกันและจดจำนองนี้มีกระบวนการเป็นมาอย่างไร

1 เริ่มต้นจากไหน

1 ผ่าน คสช.มาได้อย่างไร โดยที่มือกฎหมายระดับ นายวิษณุ เครืองาม ไม่เกิดความเฉลียว โดยที่มือเศรษฐกิจระดับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ไม่สำเหนียก

ยิ่ง "ประธานพรเพชร" ยิ่งต้อง "รัดกุม"

หากเรื่องนี้ไม่ได้รับการทักท้วงเบาๆ จาก 1 สมาคมธนาคารไทย 1 จากที่ นายสมหมาย ภาษี ระบุว่าเป็น "นักกฎหมายชั้นนำเอกชน"

เรื่องก็คงดำเนินไปอย่างชนิด "ผ่านเลย"

ผ่านเลยเพราะเชื่อใจ "คสช." ผ่านเลยเพราะเชื่อใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านเลยเพราะเชื่อใจในความเป็น "คนดี" ของเหล่าสมาชิก สนช.

ถามว่าคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมายมีหรือไม่

ถามว่าในเมื่อเป็นกฎหมายในทางเศรษฐกิจ ธุรกิจได้ผ่านการพิจารณาของ ครม.เศรษฐกิจมาแล้วหรือไม่

ถามว่าทั้งๆ ที่สำคัญ เหตุใดไม่มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ

หากฟังจากที่สมาคมธนาคารไทยนำมาเปิดเผย ไม่เพียงแต่ทางสมาคมไม่ได้รับการปรึกษาหารือ ไม่มีการจัดส่งร่างแก้ไขเพิ่มเติมให้เสนอความเห็น หากดูเหมือนว่าการพิจารณาของ สนช.เป็นไปอย่างรวดเร็วเร่งรีบ

ผ่านทีเดียว 3 วาระรวด

บทเรียนครั้งนี้ยิ่งใหญ่มหาศาล ไม่เพียงแต่จะทางด้าน "เศรษฐกิจ" หากยังเป็นทางด้าน "การเมือง" ที่ขาดการตรวจสอบ ขาดการถ่วงดุล

จึงดำเนินไปอย่างถี่ลอด "ตาช้าง" ห่างลอด "ตาเล็น"

ยังไม่มีใครตอบได้ว่า เวลาที่เหลืออีก 2 เดือน คสช.และรัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขอย่างไร

หนทางเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมซ้ำเข้าไปอีก หรือไม่ก็ออกกฎหมายใหม่ เพื่อยกเลิกของเดิมให้กลายเป็นโมฆะไป

บทเรียนนี้ "คสช." ชอกช้ำยิ่งกว่าใคร

ชี้แจง

บทความ กฎหมาย 'ร้อน' 2 กฎหมายเศรษฐกิจ บน 'ตัก' คสช. ในมติชน หน้า 3 วันที่ 24 พ.ย. มีข้อเท็จจริงบางประการดังนี้ 

1.การแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ยังไม่ผ่านความเห็นชอบของ สนช.

2.การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการค้ำประกันและจดจำนอง ผ่าน สนช.แล้ว ปรับปรุงแก้ไขจากเดิมที่ให้เจ้าหนี้ไล่เบี้ยจากผู้ค้ำประกัน ในบทบัญญัติใหม่ให้เจ้าหนี้ดำเนินการกับลูกหนี้ในระยะหนึ่งก่อน เพื่อให้การติดตามหนี้มีกระบวนการที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

จึงเรียนมาเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง 

กองบรรณาธิการ 

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!