- Details
- Category: กกต.
- Published: Sunday, 22 July 2018 22:18
- Hits: 8923
ว่าที่ 5 กกต.เตรียมประชุมนัดแรก 31 ก.ค.เลือกประธาน ส่วนอีก 2 คนคาดชัดเจน ส.ค.นี้
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ว่าที่กรรมการการเลือกตั้ง 5 คน ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม สนช.จะประชุมนัดแรกเพื่อเลือก ประธาน กกต. จากนั้นจะเป็นขั้นตอนของการนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
ส่วนกระแสข่าวเรื่องการล็อบบี้ตำแหน่งประธาน กกต.นั้น นายพรเพชร มองว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการคาดการณ์ และพูดคุยกันถึงคุณสมบัติและความเหมาะสม ดังนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สิ่งสำคัญคือประธานต้องทำงานร่วมกับกรรมการคนอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ขัดแย้งกันเอง
สำหรับ กกต.ใหม่อีก 2 คนที่เหลือต้องรอให้นำรายชื่อ 5 คนแรกขึ้นกราบบังคมทูลก่อน แล้วจะเริ่มกระบวนการตามขั้นตอนทันที ส่วนจะใช้วิธีทาบทามหรือสรรหานั้น แล้วแต่ที่ประชุมกรรมการสรรหาจะพิจารณา แต่ส่วนตัวมีวิธีการที่จะเสนอต่อที่ประชุมกรรมการสรรหาไว้ในใจแล้วตอนนี้ยังพูดไม่ได้เกรงว่าจะเป็นการชี้นำ คาดว่าจะมีความชัดเจนว่าจะเลือกใช้วิธีใดในต้นเดือน ส.ค.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหา กกต.สามารถทาบทามบุคคลให้เป็น กกต.ได้ แต่ต้องเป็นกรณีที่มีความพยายามสรรหาแล้วไม่ได้ครบตามจำนวน 7 คน โดยกระบวนการในขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องทาบทาม เพราะไม่มีประเด็นต้องเร่งรัด ทั้งนี้กระบวนการการสรรหาในกรอบ 90 วันนั้นจะเริ่มนับตั้งแต่ สนช.มีมติ
นายวิษณุ กล่าวว่า การที่กฎหมายเปิดช่องไว้ให้ทาบทามบุคคลภายนอก เพื่อไว้ในกรณีที่มีความจำเป็นเท่านั้น เป็นเรื่องที่จะทำหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ขอทุกฝ่ายอย่าตื่นตกใจเพราะยังไม่มีการใช้วิธีการทาบทามใครทั้งสิ้น ขอให้ทุกฝ่ายเป็นไปตามกระบวนการ หากที่สุดมีการทาบทามค่อยมาว่าในรายละเอียดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดและวิธีการที่ชัดเจนนั้นต้องถามจาก สนช. ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลแล้วจึงไม่จำเป็นต้องแจ้งหรือรายงานมายังรัฐบาลเพราะถือเป็นคนละส่วนกัน พร้อมทั้งปฎิเสธเว้นตำแหน่ง กกต.2 คนเพื่อให้คณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เลือก เพราะ คสช. ไม่มีอำนาจมาเป็น กกต.
สนช.ลงมติคัดเลือก กกต.ใหม่ 5 คน จากที่เสนอมา 7 คน เพียงพอเรียกประชุม-เลือกประธาน
ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธาน ได้ลงคะแนนลับในการเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามรายชื่อที่ผ่านการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา โดยผลการลงคะแนนพบว่ามี 5 คนที่ได้รับคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก สนช. ให้ดำรงตำแหน่ง กกต.ชุดใหม่ คือ
1.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นักวิชาการสาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2.นายอิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา และกรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
3.นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
4.นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
5.นายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา
ส่วนอีก 2 คน ที่ไม่ผ่านความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่ง กกต. เนื่องจากได้คะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก สนช. คือ 1.นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 2.นายพีรศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าราชการหลายจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย และนายพีรศักดิ์ ไม่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม สนช.ให้ดำรงตำแหน่ง กกต.นั้น เนื่องจาก สนช.ส่วนใหญ่กังวลกับปัญหาคดีความของนายสมชายที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ กกต.และหากศาลตัดสินว่ามีความผิด อาจต้องเสียเวลาสรรหา กกต.ใหม่ในอนาคตด้วย ขณะที่นายพีระศักดิ์ ถูกร้องเรียนเรื่องความไม่เป็นกลางทางการเมือง
สำหรับ ขั้นตอนหลังจากนี้ ว่าที่ กกต.ใหม่ทั้ง 5 คน จะต้องลาออกจากงานทุกประเภทที่มีลักษณะต้องห้าม ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบ ก่อนที่จะนำหลักฐานมายื่นต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา พร้อมกับนัดประชุมเพื่อเลือกตำแหน่งประธาน กกต.จากนั้นจึงจะนำรายชื่อประธาน กกต.และว่าที่ กกต.ใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ในคราวเดียวกัน และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีในวันถัดจากวันที่ลงพระปรมาภิไธย
ส่วน กกต.อีก 2 ตำแหน่งที่ขาดไปนั้น จะต้องเริ่มต้นกระบวนการสรรหาใหม่ในส่วนที่ขาด หรืออาจใช้วิธีการทาบทามบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ตามที่กฎหมายเปิดช่องไว้ได้
สุรชัย ปัดมีใบสั่งล้มกระดานเลือกกกต.ใหม่ ยันพิจารณาด้วยความอิสระตามคุณสมบัติเหมาะสม
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 กล่าวถึงการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.)ว่า ตามขั้นตอนจะเป็นการประชุมลับเพื่อพิจารณารายงานการตรวจสอบประวัติเชิงลึกของคณะกรรมาธิการฯ
ส่วนที่ประชุม สนช.จะมีการล้มกระดานหรือไม่นั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ไม่น่าจะมีประเด็นถึงขนาดนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าบุคคลที่มาสมัครในครั้งนี้เบื้องต้นน่าจะสำรวจตัวเองมาแล้ว เพราะถ้าคนที่มาสมัครไม่มั่นใจก็อาจจะถูก สนช.ปฏิเสธได้อีก
"สนช.เข้มงวดในรายละเอียด และการดูประวัติเชิงลึก และความประพฤติทางจริยธรรม ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยกันคัดกรองเพื่อให้ตัวบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมาทำหน้าที่ เพราะ กกต.จะมีหน้าที่การเข้ามาดูแลการเลือกตั้ง" นายสุรชัย กล่าว
นายสุรชัย ยืนยันว่า การพิจารณาเรื่องดังกล่าวของ สนช.ไม่มีใบสั่ง เป็นเพียงข่าวที่ออกไปเท่านั้น เพราะคิดว่าสมาชิก สนช.มีดุลพินิจที่จะสามารถตัดสินใจได้เองบนพื้นฐานของความเหมาะสม ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่า สนช.จะทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระเพื่อคัดกรองบุคคลที่ดีมาทำหน้าที่ใน กกต.
สำหรับ กรณีมีข่าวว่าอาจจะมีผู้ผ่านการสรรหาหนึ่งคนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติจนอาจไม่ได้รับการเห็นชอบจาก สนช.นั้น ส่วนตัวไม่ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว เพราะคณะกรรมาธิการฯ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวยังไม่มีการแถลงต่อที่ประชุม สนช. อย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นดุลพินิจของสมาชิก สนช.ในการตัดสินใจว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ หาก สนช.ลงมติเห็นชอบผู้ผ่านการสรรหาไม่ครบ 7 คน บุคคลที่ผ่านความเห็นชอบจะสามารถทำหน้าที่ กกต.ได้ทันทีหรือไม่นั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ถ้าผ่านความเห็นชอบจาก สนช.จำนวน 5 คนก็สามารถเป็นองค์ประชุมเพื่อทำหน้าที่ได้ต่อไป
อินโฟเควสท์