- Details
- Category: การเมือง
- Published: Monday, 01 September 2014 10:13
- Hits: 4654
วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8678 ข่าวสดรายวัน
รอเข้าถวายสัตย์ 12 นายพล พรึบ-ครม.บิ๊กตู่ 'บิ๊กป้อม'นำทีม 32 คน-34 เก้าอี้ แถลงนโยบายต่อสนช.พฤหัส เริ่มประชุมทำเนียบอังคารหน้า
 |
โปรดเกล้าฯแล้ว'ครม.บิ๊กตู่ 1'ตั้ง 32 รมต.34 ตำแหน่ง แยกเป็น 20 พลเรือน 11 ทหาร 1 ตำรวจ'บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก'คุมกลาโหม-มหาดไทย ตามโผ'บิ๊กจิน'เจ้ากระทรวงหูกวาง "ดาว์พงษ์"ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ'บิ๊กโด่ง'รมช.กลาโหม 'บิ๊กอู๋'คุมพัฒนาสังคมฯ'หม่อมอุ๋ย'รองนายกฯเศรษฐกิจ 'สมหมาย ภาษี'ผงาดขุนคลัง 'บิ๊กนมชง'พาณิชย์'ปีติพงศ์'เกษตรฯ "จักรมณฑ์"อุตสาหกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาถึงยุครมว.หญิง"กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร" ตั้ง "สุวพันธุ์-ปนัดดา" 2 รมต.สำนักนายกฯ มีกำหนดเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯบ่ายอังคารที่ 2 ก.ย. แถลงนโยบายต่อสนช.วันพฤหัสฯ หรือศุกร์ จากนั้นเริ่มประชุมครม.นัดแรก อังคารที่ 9 ก.ย. อดีตนายกฯ 'สมชาย'ควงเจ๊แดงเปิดบ้านเบิร์ธเดย์ 67 ปี หนุนนายกฯตู่บริหารประเทศ พงศ์เทพจี้ครม.ใหม่แถลงนโยบายต่อสภา ยอดผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นสปช.พุ่งเกิน 4 พันคน คาดก่อนปิดทะลุ 5 พันคน คณะกรรมการสรรหา สปช. 11 ด้าน พร้อมผู้ว่าฯ 77 จว. เตรียมรับฟังนโยบายประยุทธ์ 4 ก.ย.นี้
โปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.05 น. สำนักราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรีทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาพร้อมเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนดังนี้
ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 24 สิงหาคม 2557 แล้วนั้น
บัดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบไปแล้ว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นรองนายกรัฐมนตรี
นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ
นายวิษณุ เครืองาม เป็นรองนายกรัฐมนตรี
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เป็นรมช.กลาโหม
นายสมหมาย ภาษี เป็นรมว.คลัง
นายดอน ปรมัตถ์วินัย เป็นรมช.ต่างประเทศ
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เป็นรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นรมว.คมนาคม
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรมช.คมนาคม
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายพรชัย รุจิประภา เป็นรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็นรมว.พลังงาน
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็นรมว.พาณิชย์
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ เป็นรมช.พาณิชย์
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นรมว.มหาดไทย
นายสุธี มากบุญ เป็นรมช.มหาดไทย
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นรมว.ยุติธรรม
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เป็นรมว.แรงงาน
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ เป็นรมว.วัฒนธรรม
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เป็นรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย เป็นรมว.ศึกษาธิการ
นายกฤษณพงศ์ กีรติกร เป็นรมช.ศึกษาธิการ
พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ เป็นรมช.ศึกษาธิการ
นายรัชตะ รัชตะนาวิน เป็นรมว.สาธารณสุข
นายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เป็นรมช.สาธารณสุข
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เป็นรมว.อุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2557 เป็นปีที่ 69 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
20รมต.พลเรือน-11ทหาร 1 ตร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายชื่อ "ครม.ประยุทธ์ 1" จำนวน 32 คนนั้น แบ่งเป็น 20 พลเรือน 11 ทหาร และ 1 ตำรวจ
รายงานข่าวแจ้งว่า คาดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนำครม.ใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในช่วงบ่ายวันอังคารที่ 2 ก.ย.นี้ จากนั้นจะเข้าแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประมาณวันที่ 4-5 ก.ย. ก่อนประชุมครม.นัดแรกในวันอังคารที่ 9 ก.ย.
ปนัดดายังไม่แบ่งงานสำนักนายกฯ
ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี เวลา 18.30 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าตนยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ในการเข้ามาถ่ายรูปหมู่ที่ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งวันและเวลาในการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนัก นายกฯ สำหรับเรื่องการแบ่งงานในส่วนรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ขณะนี้เพิ่งได้รับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง จึงยังไม่มีการหารือกันในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
ด้านนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า คณะรัฐมนตรีต้องเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจึงจะกำหนดได้ว่าจะเข้ากระทรวงเกษตรฯ เมื่อไหร่ ส่วนทีมงานขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้เป็นรัฐมนตรี
ทำเนียบพร้อมรับนายกฯ-ครม.ใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลถึงความคืบหน้าการปรับปรุงซ่อม แซมอาคารสถานที่ภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อรองรับการเข้าปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่า วันเดียวกันนี้ยังคงมีผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาปฏิบัติงานเพื่อเก็บงานให้เรียบร้อย อาทิ เก็บรายละเอียดการทาสีรั้ว ทาสีเสาไฟสปอตไลต์หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ปรับปรุงพื้นผิวถนน และที่สำคัญคือที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งจะใช้เป็นห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ชั้น 5 และเป็นห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรีและรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยผู้รับเหมาเร่งงานในส่วนการตบแต่งภายในที่ยังไม่เรียบร้อย ขณะที่ภายนอกอาคารแม้ภาพรวมจะทาสีใหม่เสร็จเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ยังตั้งนั่งร้านและคลุมผ้าใบในบางส่วนของอาคารเพื่อซ่อมแซมในบางจุด ขณะที่อาคารอื่นๆ อาทิ ตึกสันติไมตรีแล้วเสร็จเพียงตึกหลังนอก ส่วนตึกหลังในยังเหลือในส่วนของห้องครัวด้านหลัง สำหรับตึกนารีสโมสรซึ่งจะใช้เป็นตึกรับรองแขกวีไอพีของรัฐบาลแล้วเสร็จทั้งภายนอกและภายใน
ผู้รับเหมาโอดเร่งทำทั้งวันทั้งคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับตึกไทยคู่ฟ้าซึ่งเป็นห้องทำงานนายกรัฐมนตรีเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยเมื่อเวลา 11.30 น. เจ้าของบริษัทผู้รับเหมาในส่วนการตกแต่งภายนอกตึกไทยคู่ฟ้าและสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า คือ บริษัท ไอทีเอ็ม เทคโนโลยี จำกัด เดินทางมาพร้อมครอบครัวและพนักงานบางส่วนเข้าสักการะศาลพระภูมิและศาลตายายประจำทำเนียบรัฐบาล พร้อมตั้งโต๊ะถวายเครื่องเซ่นที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยผู้รับเหมา บริษัท ไอทีเอ็ม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ามาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อำนวยความสะดวกให้งานเสร็จทันเวลา ทั้งที่สัญญาจริงระบุให้เวลาทำงาน 2 เดือน แต่ถึงเวลาลงมือจริงกลับมีการเร่งงานให้เสร็จภายใน 1 เดือน ซึ่งพวกตนต้องเร่งมือทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนจนงานเสร็จไปได้ด้วยดีแม้จะเจออุปสรรคใหญ่คือฝนตกทุกวันซึ่งทำให้งานทาสีมีปัญหาอย่างมาก อย่างไรก็ตามก็เสร็จทันเวลาที่เร่งรัดมาและพร้อมส่งมอบงานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 1 ก.ย. จะมีการตรวจรับและส่งมอบอาคารบางส่วนจากผู้รับเหมาให้กับพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช. ฝ่ายกิจการพิเศษ และม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นสัญญาณแสดงความพร้อมในการเตรียมสถานที่ให้นายกรัฐมนตรีและครม.เข้าปฏิบัติงาน
สมชายเปิดบ้านเบิร์ธเดย์ 67 ปี
ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดบ้านพักภายในหมู่บ้าน เบเวอร์ลี่ย์ ฮิลล์ ถ.แจ้งวัฒนะ ทำบุญถวายภัตตาหารพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 67 ปี โดยมีอดีตรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค นายนพดล ปัทมะ คณะกรรมการกิจการพรรค นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายอุดมเดช รัตนเสถียร นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เดินทางมาอวยพรวันเกิดอย่างต่อเนื่อง
ขอพรให้ประเทศสงบเรียบร้อย
นายสมชาย กล่าวว่าวันเกิดปีนี้หากขอพรได้อยากขอให้ประเทศเข้าสู่ความสงบเรียบร้อย ประชาชนอยู่ดีกินดี ผู้ที่มีหน้าที่บริหารบ้านเมืองก็ขอให้ทำหน้าที่ให้ประสบความสำเร็จ สร้างความปรองดองสามัคคีให้เกิดขึ้น ประชาชนก็จะมีความสุข อยู่ร่มเย็นภายใต้พระบารมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ส่วนตัวซึ่งพ้นจากภาระหน้าที่ทางการเมืองมาหลายปีแล้วขอให้กำลังใจ ผู้บริหารบ้านเมืองให้ทำงานเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการเลือกตั้งครั้ง ต่อไปตามโรดแม็ปจะลงรับสมัครเลือกตั้งหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า มีคนบอกว่าการเมืองเป็นสิ่งไม่จีรัง หมุนเวียนไป แต่หากมีโอกาสก็ยังคงจะทำงานเพื่อประชาชน ไม่ทิ้งประชาชน แต่ไม่ปรารถนาตำแหน่งทางการเมือง หากมีการเลือกตั้งอยากให้คนหนุ่มสาวที่มีไฟเข้ามาสานงานต่อ ส่วนจะวางมือหรือไม่นั้นเมื่อถึงเวลาจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง วันนี้ยังไม่ถึงโอกาสที่จะพูดกัน ขอให้คนที่มีหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ไปก่อน ประเทศจะว่างเว้นจากการบริหารไม่ได้ วันนี้ไม่ขอวิจารณ์หรือพูดเรื่องการเมือง ขอวางตัวเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย วันนี้ต้องรอกติกาและโอกาสแล้วค่อยมาคุยกัน
หนุนนายกฯตู่ทำงานเพื่อปชช.
ต่อข้อถามว่าในฐานะอดีตนายกฯ มีอะไรจะฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ. ทบ. หัวหน้าคสช. ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่าพล.อ. ประยุทธ์คงตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติอยู่แล้ว ก็ขอให้ทำไป เราในฐานะประชาชนภายใต้การปกครองขอให้กำลังใจให้ทำงานลุล่วง ทุกคนมีสำนึกเพื่อประเทศและประชาชนอยู่แล้วคงไม่ต้องฝากอะไรถึง เมื่อถามต่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อวยพรอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่ค่อยได้คุยกันมาก เพราะทุกคนรู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่จะมาคุยกันตอนนี้ แต่พ.ต.ท. ทักษิณอวยพรวันเกิดก่อนหน้านี้แล้วเพราะได้เจอกันที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ก่อนแล้ว เมื่อถามว่าวันเกิดนี้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยา มอบของขวัญอะไรให้เป็นพิเศษ นายสมชายกล่าวติดตลกว่าขอเก็บเป็นความลับ เพราะสำหรับคุณแดงทุกวันคือวันพิเศษ
พงศ์เทพจี้ครม.แถลงนโยบาย
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนาให้สัมภาษณ์ถึงโฉมหน้าครม.ว่า หน้าตาครม. ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญอยู่ที่นโยบายและการทำงานมากกว่า เมื่อมีครม.ก็ควรแถลงนโยบายต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติติดตามการทำงานและทราบถึงนโยบาย รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนรับทราบด้วยว่าครม.มี นโยบายอย่างไร สามารถประเมินได้ว่า นโยบายใดเป็นเรื่องดีหรือนโยบายใดมีปัญหา รัฐบาลจะได้นำไปคิดให้รอบคอบ เพราะนโยบายที่ออกมาไม่ใช่จะดีไปทั้งหมด
เติ้งส่งตือหอบดอกไม้ร่วมยินดี
ต่อข้อถามถึงนโยบายประชานิยมควรจะมีต่อไปหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่าต้องถามว่าเราเข้าใจคำว่านโยบายประชานิยมตรงกันหรือไม่ แม้แต่คนที่พูดก็เข้าใจคำนี้ไม่ตรงกัน ดังนั้นต้องเข้าใจตรงกันว่านโยบาย ประชานิยมที่คิดว่าไม่สมควรและคนไม่ต้องการคืออะไร จากนั้นค่อยมาดูว่าที่พูดอย่างนั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะนโยบายบางอย่างที่ประชาชนไม่พอใจถือเป็นเรื่องดี อย่างเช่นการช่วยเหลือเรื่องราคาพืชผลเกษตรตกต่ำเรียกว่าประชานิยมหรือไม่ ควรมีนิยามเรื่องประชานิยมให้ชัดเจน
เวลา 09.45 น. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกร จำนง แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำกระเช้าดอกไม้เข้าอวยพรวันเกิด โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่านายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรค ฝากคำอวยพรมาว่าขอให้มีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรง พร้อมฝากขอโทษที่ไม่ได้มาร่วมงานเหตุเพราะสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง
ยอดผู้ถูกเสนอชื่อเป็นสปช.พุ่ง
ที่สำนักงานคณะกรรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยการเปิดรับเสนอชื่อ พร้อมกล่าวว่าภาพรวมการเปิดรับเสนอชื่อเพื่อเข้ารับการสรรหาสปช.ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ ขณะนี้มีผู้ถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา สปช.ทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัด กว่า 4 พันคนแล้ว ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากเกินกว่าที่สำนักงานกกต.ตั้งเป้าหมายไว้แค่ 3 พันคน คาดว่าระยะเวลาที่เหลืออีก 2 วันน่าจะมี ผู้ถูกเสนอชื่อถึง 5 พันคนแน่นอน ขอให้องค์กรนิติบุคคลที่ประสงค์จะเสนอชื่อรีบทยอยเสนอชื่อผู้เข้ารับการสรรหาโดยเร็ว อย่ามาเสนอชื่อกันในวันสุดท้ายเพราะถ้ามีปัญหาเรื่องเอกสารอาจไม่ทัน และถ้าไม่ทันสำนักงานกกต.คงจะไม่ขยายเวลาเปิดรับเสนอชื่อเพิ่มเติมอีก เนื่องจากพ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหาสปช.กำหนดระยะเวลาการสรรหาสปช.ไว้ 50 วัน หากขยายเวลาในช่วงนี้อาจกระทบต่อปฏิทินการดำเนินการที่วางไว้
เลขาฯกตต.ยันตรวจคุณสมบัติทัน
สำหรับ กระบวนการตรวจสอบคุณ สมบัติผู้ถูกเสนอชื่อนั้น เลขาธิการกกต.กล่าวว่าขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 15 หน่วยงานเริ่มทยอยส่งกลับมายังสำนักงาน กกต.แล้ว เบื้องต้นพบว่ามีผู้ถูกเสนอชื่อเพียงรายเดียวเท่านั้นที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติ เนื่องจากเคยถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง ทั้งนี้หลังจากปิดรับเสนอชื่อสำนักงานกกต.มีระยะเวลา 10 วันในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาสปช. จึงคิดว่าแม้จะมีผู้ถูกเสนอชื่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก สำนักงานกกต.จะดำเนินการ ทันเนื่องจากวางระบบการปฏิบัติงานไว้อย่างดี
นายกฯตู่นัดถก77จว.พฤหัสฯนี้
นายภุชงค์ เผยด้วยว่า ในวันที่ 4 ก.ย. เวลา 09.00 น. ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. จะเป็นประธานมอบแนวทางการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสรรหา สปช.ให้คณะกรรมการสรรหาสปช.ทั้ง 11 ด้าน นอกจากนี้ยังมีผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด ปลัดกรุงเทพมหานคร ประธานกกต.จังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด รวมกว่า 500 คน เข้าร่วมงาน เพื่อให้การดำเนินการสรรหาสปช.ทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัดเรียบร้อยถูกต้องและเป็นธรรม
ยอดเสนอชื่อสปช.ล่าสุด 4,797 คน
ต่อมาเวลา 17.00 น. นายภุชงค์แถลงสรุปยอดเปิดรับการเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. ซึ่งวันเดียวกันนี้ถือเป็นวันที่ 18 ของการเปิดรับเสนอชื่อว่า ตลอดทั้งวันมีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวง หากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ใน 11 ด้าน จำนวน 158 คน ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด 17 คน รวมทั้งสิ้นวันนี้มีผู้เข้ารับการเสนอชื่อ จำนวน 175 คน รวมการเปิดรับเสนอชื่อทั้ง 18 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-31 ส.ค. มีนิติบุคคลเสนอชื่อจำนวน 2,610 คน และเสนอชื่อระดับจังหวัด จำนวน 2,187 คน รวมทั้งหมดจำนวน 4,797 คน ด้านที่มีการเสนอชื่อมากที่สุด ได้แก่ ด้านการศึกษา จำนวน 436 คน รองลงมาคือด้านสังคม 373 คน และด้านอื่นๆ 370 คน ส่วนด้านที่มีการเสนอชื่อน้อยที่สุด คือด้านสื่อสารมวลชน 112 คน เหลือเวลาอีก 2 วันจะครบกำหนดการเปิดรับการเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ตามที่ คสช.กำหนดไว้ คาดว่าน่าจะมีบุคคลเข้ายื่นเสนอรายชื่อใน 2 วันสุดท้ายเป็นจำนวนมาก
ดันคนดังหลากวงการร่วมสภาปฏิรูป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่เข้ารับการเสนอชื่อในวันนี้ อาทิ พรรคมาตุภูมิ เสนอชื่อ พล.ต.วีระศักดิ์ นาทะศิริ รองเลขาธิการพรรค เข้าสรรหาด้านการเมือง สมาคมเพื่อสวนสัตว์ไทย เสนอชื่อนายโสภณ ดำนุ้ย อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เข้าสรรหาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิอมตะ เสนอชื่อ นายโกศล ใจรังษี อดีตรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าสรรหาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สมาคมนักเรียนทุนรัฐบาลไทย เสนอชื่อนางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตอธิบดีกรมประมง เข้าสรรหาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิกองบัญชาการตำรวจนครบาล เสนอชื่อ พล.ต.ท.อนันต์ ภิรมย์แก้ว อดีต ผบช.น. เข้าสรรหาด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ศิลปากรสมาคม เสนอชื่อนายจรวย หนูคง อดีตตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง เข้าสรรหาด้านกฎหมายกระบวนการยุติธรรม มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อนายพนม พงษ์ไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เข้าสรรหาด้านการศึกษา
ท่องเที่ยวปากน้ำดันบิ๊กฟาร์มจระเข้
นอกจากนี้ สมาคมการค้าพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทปราการ เสนอชื่อนาย อุเทน ยังประภากร ผู้บริหารฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ เข้าสรรหาด้านเศรษฐกิจ มูลนิธิกองบัญชาการตำรวจนครบาล เสนอชื่อพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย อดีตโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เข้าสรรหาด้านสื่อสารมวลชน บริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด เสนอชื่อพล.อ.อ.คำรบ ลียะวนิช รักษาการผู้อำนวยการบริษัทรถไฟฟ้า รฟท. เข้าสรรหาด้านสังคม แพทย สภาเสนอชื่อพล.อ.อ.อิทธิพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา เข้าสรรหาด้านสังคม มูลนิธิพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เสนอชื่อนายไพโรจน์ ด้วงวิเศษ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เข้าสรรหาด้านอื่นๆ มูลนิธิอีพีเอธรรมศาสตร์ เสนอชื่อนายนิรันดร์ ประดิษฐ์กุล อดีตส.ว. และมูลนิธิวิทยากรลูกเสือชาวบ้าน เสนอชื่อพล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน เข้าสรรหาด้านการเมือง
โพลหวั่น"ตู่ 1"บิ๊กพรึบไร้คานอำนาจ
วันที่ 31 ส.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,446 คน ระหว่างวันที่ 28-30 ส.ค. ในหัวข้อ "ครม.ประยุทธ์ 1 ในสายตาของประชาชน" พบว่า ข้อดีที่มีทหารจำนวนมากเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในครม.ประยุทธ์ 1 นั้น อันดับ 1 ประชาชนเห็นว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบเป็นระเบียบเรียบร้อย ร้อยละ 85.48 อันดับ 2 การทำงานเป็นระบบมีประสิทธิภาพ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ร้อยละ 81.12 อันดับ 3 สามารถควบคุมดูแลสั่งการได้ง่าย ทำให้งานต่างๆ เดินหน้าได้รวดเร็ว ร้อยละ 75.10 ส่วนข้อเสียอันดับ 1 เห็นว่าไม่มีการคานอำนาจถ่วงดุล หรือการตรวจสอบที่ชัดเจน ร้อยละ 84.02 อันดับ 2 อาจขาดประสบการณ์ความเชี่ยวชาญที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับในกระทรวงนั้นๆ ร้อยละ 82.43 อันดับ 3 กระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในสายตาต่างชาติ ร้อยละ 78.42
ส่วนในหัวข้อประชาชนคิดอย่างไรกรณีที่ไม่มีนักการเมืองเข้ามาเป็นรัฐมนตรีใน "ครม.ประยุทธ์ 1" พบว่า ข้อดี อันดับ 1 คือทำให้การทุจริตคอร์รัปชั่นน้อยลง ร้อยละ 81.95 อันดับ 2 ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก ร้อยละ 80.57 อันดับ 3 เปิดโอกาสให้คนใหม่ๆ เข้ามาทำงาน ไม่ยึดติดการทำงานแบบเดิม ร้อยละ 77.59 ส่วนข้อเสีย อันดับ 1 ขาดบุคคลที่เชี่ยวชาญและประสบการณ์การทำงานไม่ต่อเนื่อง ร้อยละ 81.19 อันดับ 2 ไม่มีนักการเมืองทำให้ขาดสีสัน ครม.ไม่มีความหลากหลาย ร้อยละ 76.49 อันดับ 3 อาจเข้าถึงประชาชนยากขึ้น ไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ ไม่รู้ปัญหาที่ แท้จริง ร้อยละ 71.09
เมื่อถามว่า กรณีที่รัฐมนตรีบางกระทรวงไม่มีความรอบรู้และไม่มีความชำนาญของกระทรวงนั้นๆ ควรมีวิธีแก้ไขอย่างไร อันดับ 1 ควรแต่งตั้งที่ปรึกษาและหาทีมงานที่มีประสบการณ์มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วย ร้อยละ 46.77 อันดับ 2 ต้องศึกษาเรียนรู้หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบ ร้อยละ 31.70 อันดับ 3 ให้โอกาสรัฐมนตรีทำงานเพื่อพิสูจน์ผลงานให้ประชาชนเห็น ร้อยละ 21.53
ต่อข้อถามอีกว่าเนื่องจากครม.ชุดนี้จะทำงานเพียง 1 ปีกว่าๆ เพื่อรอร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ การทำให้งานของกระทรวงต่างๆ ดำเนินไปได้ด้วยดี ประชาชนมีข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีอย่างไร อันดับ 1 เห็นว่าต้องมุ่งมั่นตั้งใจยึดหลักการทำงานที่ดีซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 39.51 อันดับ 2 ฟังเสียงประชาชน เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายแสดงความคิดเห็นและนำไปใช้ในการบริหาร ร้อยละ 28.09 อันดับ 3 เห็นว่าควรวางรากฐานการทำงานอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอน นำไปใช้ได้ในระยะยาว ร้อยละ 16.2
2-4 กันยาพร้อมเข้าเฝ้า ถวายสัตย์ โปรดเกล้า'32 รมต.'แล้ว 'อุดมเดช'รมช.กลาโหม บิ๊กต๊อกยธ.-ประจินคค. ตร.ปล่อยตัวแม่น้องเกด สปช.พุ่ง-คาดทะลุ 5 พัน
'ครม.บิ๊กตู่''ปรดเกล้าฯแล้ว 'อุดมเดช'ว่าที่ ผบ.ทบ.นั่ง รมช.กลาโหม 'ไพบูลย์'ว่าที่รองปลัด กห.คุม ก.ยุติธรรม 'บิ๊กป้อม'รองนายกฯควบ รมว.กลาโหม 'อนุพงษ์'กำกับมหาดไทย ผบ.ทร.นั่ง รมว.ศึกษาฯ
@ โปรดเกล้าฯครม.ประยุทธ์1
เมื่อเวลา 17.05 น. วันที่ 31 สิงหาคม สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทำเนียบรัฐบาลได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่อง การแต่งตั้งรัฐมนตรี ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 24 สิงหาคม 2557 แล้วนั้น บัดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบไปแล้ว อาศัยอำนาจตามมาตรา 19 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
@ "บิ๊กป้อม"รองนายกฯควบกห.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (อดีตผบ.ทบ.) เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์) เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์) เป็นรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร (ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รองหัวหน้า คสช.) เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายวิษณุ เครืองาม เป็นรองนายกรัฐมนตรี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล (ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ (ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ) เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร (รอง ผบ.ทบ. ว่าที่ ผบ.ทบ.) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
@ "บิ๊กจิน"-คค."สมหมาย"คุมคลัง
นายสมหมาย ภาษี (อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายดอน ปรมัตถ์วินัย (อดีตเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร (ประธานกรรมการบริหารบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว (ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองหัวหน้า คสช.) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา (อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง (ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้า คสช.) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
@ บิ๊กป๊อก-มท.1"บิ๊กหนุ่ย"-ทส.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ (อดีตเสนาธิการทหารบก) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพรชัย รุจิประภา (อดีตปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายณรงค์ชัย อัครเศรณี (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ (ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ว่าที่ รอง ผบ.ทบ.) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ (อดีตอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา (อดีต ผบ.ทบ.) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุธี มากบุญ (อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา (ผู้ช่วย ผบ.ทบ. รองหัวหน้า คสช. ว่าที่ รองปลัดกระทรวงกลาโหม) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ (ปลัดกระทรวงกลาโหม รองหัวหน้า คสช.) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ (อดีตปลัดกระทรวงวัฒนธรรม) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
@ "บิ๊กเข้"-รมว.ศธ."รัชตะ"นั่งสธ.
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย (ผู้บัญชาการทหารเรือ รองหัวหน้า คสช.) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ นายกฤษณพงศ์ กีรติกร (อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ (รองเสนาธิการทหารบก) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน (อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ (เลขาธิการมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช (อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
@ แจ้งครม.พร้อมเข้าเฝ้าฯ2-4 ก.ย.
รายงานข่าวแจ้งว่าได้มีการสั่งการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เตรียมตัวเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งและถ่ายรูปหมู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลภายในวันที่ 2-4 กันยายน เนื่องจากต้องเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจกันก่อน หลังจากนั้นจะแจ้งให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าวการถ่ายรูปหมู่ภายในทำเนียบรัฐบาลต่อไป
@ "หมอรัชตะ"ไม่หวั่นปัญหาสธ.
นพ.รัชตะให้สัมภาษณ์หลังได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่ากำลังเตรียมพร้อมในการเข้ามาทำงาน เบื้องต้นจะร่วมคิด ร่วมทำกับข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุข โดยหลักการคือ ทำให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพอย่างดีที่สุด ส่วนกระบวนการทำงานจะหารือร่วมกันทุกฝ่ายก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ศึกษาปัญหาในกระทรวงสาธารณสุขมาก่อนหรือไม่ นพ.รัชตะกล่าวว่า คงต้องเข้าไปคุยกับแต่ละฝ่ายก่อน ตนพร้อมทำงานทุกฝ่าย โดยหลักการคือ ต้องให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพให้ดีที่สุด
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนนโยบายต้องรอการพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
@ ตึกบัญชาการ1ยังไม่เรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการบูรณะซ่อมแซมอาคารสถานที่ภายในทำเนียบรัฐบาลเพื่อรองรับการเข้าปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่า ยังคงมีผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาปฏิบัติงาน ทั้งในส่วนของการทาสีรั้ว ทาสีเสาไฟสปอตไลต์หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ปรับปรุงพื้นผิวถนน และที่สำคัญคือที่ตึกบัญชาการ 1 และตึกบัญชาการ 2 ซึ่งตึกบัญชาการ 1 จะใช้เป็นห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ชั้น 5 และเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้รับเหมาเน้นเร่งงานในส่วนของการตกแต่งภายในที่มองจากสายตาแล้วพบว่ายังไม่เรียบร้อยในหลายจุด ขณะที่ภายนอกอาคารแม้ภาพรวมจะมีการทาสีใหม่เสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังมีการตั้งนั่งร้านและคลุมผ้าใบในบางส่วนของอาคารเพื่อซ่อมแซมบางจุด ขณะที่อาคารอื่นๆ อาทิ ตึกสันติไมตรีเสร็จเพียงตึกหลังนอก ขณะที่ตึกหลังในยังเหลือในส่วนของห้องครัวด้านหลังเท่านั้น ส่วนตึกนารีสโมสรใช้เป็นตึกรับรองแขกวีไอพีของรัฐบาลก็แล้วเสร็จทั้งภายนอกและภายใน
@ ส่งอีโอดีตรวจรอบทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้นำเก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่สั่งทำใหม่ นำไปไว้ที่ห้องทำงานนายกฯ ที่ตึกไทยคู่ฟ้าแล้ว รวมถึงห้องต่างๆ ภายในตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมนำเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ ในส่วนห้องเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทีมงาน พล.อ.ประยุทธ์ มาจัดวางแล้วเช่นเดียวกัน คาดว่า 1-2 วันนี้ ชุดปฏิบัติการเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) กองทัพบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเข้าตรวจสอบพื้นที่ทำเนียบฯทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีจะเข้าปฏิบัติหน้าที่
@ พร้อมส่งมอบงาน1ก.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นตึกที่มีห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีก็เรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เวลา 11.30 น. เจ้าของบริษัทผู้รับเหมาในส่วนของการแตกแต่งภายนอกตึกไทยคู่ฟ้าและสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า คือ บริษัทไอทีเอ็ม เทคโนโลยี จำกัด ที่เดินทางมาทั้งครอบครัวและพนักงานบางส่วนได้เข้าสักการะศาลพระภูมิและศาลตายายประจำทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับตั้งโต๊ะถวายเครื่องเซ่นด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า
โดยผู้รับเหมาบริษัทไอทีเอ็ม กล่าวว่า มาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อำนวยความสะดวกให้งานเสร็จทันเวลา ทั้งที่สัญญาจริงระบุให้เวลาทำงาน 2 เดือน แต่ถึงเวลาลงมือจริงกลับมีการเร่งงานให้เสร็จภายใน 1 เดือน และช่วงเช้าวันที่ 1 กันยายน จะตรวจรับและส่งมอบอาคารบางส่วนจากผู้รับเหมาให้กับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช. หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
@ คาดสมัครสปช.ทะลุ5พัน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันเดียวกัน ที่ลานอเนกประสงค์ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดรับเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จำนวน 11 ด้าน ระหว่างวันที่ 14 สิงหาคม-2 กันยายน ว่า ยังคงมีองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรให้ความสนใจทยอยเข้าเสนอรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมเข้าสรรหาเป็น สปช.กันอย่างต่อเนื่อง
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ภาพรวมการเปิดรับเสนอชื่อเพื่อเข้ารับการสรรหา สปช.ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีผู้ถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา สปช.ทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัดแล้ว 4,684 คน ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากเกินกว่าที่สำนักงาน กกต.ตั้งเป้าหมายไว้ 3,000 คน
"คาดว่าระยะเวลาที่เหลืออีก 2 วันน่าจะมีผู้ถูกเสนอชื่อถึง 5,000 คนแน่นอน ทั้งนี้ ขอให้องค์กรนิติบุคคลที่มีความประสงค์จะเสนอชื่อรีบทยอยเสนอชื่อผู้เข้ารับการสรรหาโดยเร็ว อย่ามาเสนอชื่อกันในวันสุดท้ายเพราะถ้ามีปัญหาเรื่องเอกสารก็อาจจะไม่ทันต่อเวลาได้ ถ้าไม่ทัน กกต.จะไม่ขยายเวลาในการเปิดรับเสนอชื่อเพิ่มเติมอีกต่อไป เนื่องจากพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ว่าด้วยการสรรหา สปช.กำหนดระยะเวลาในการสรรหา สปช.ไว้ 50 วัน หากขยายระยะเวลาจะส่งผลกระทบต่อปฏิทินการดำเนินการที่วางไว้" นายภุชงค์กล่าว
นายภุชงค์ กล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ถูกเสนอชื่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 15 หน่วยงานเริ่มทยอยส่งกลับมายังสำนักงาน กกต.แล้ว เบื้องต้นพบว่ามีผู้ถูกเสนอชื่อเพียงรายเดียวเท่านั้นที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติ เนื่องจากเคยถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง ทั้งนี้ หลังจากปิดรับเสนอชื่อสำนักงาน กกต.จะมีระยะเวลาอีก 10 วันในการตรวจสอบคุณสมบัติ
@ 4ก.ย."บิ๊กตู่"วางกรอบเคาะสปช.
นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 4 กันยายน เวลา 09.00 น. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเป็นประธานมอบแนวทางการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสรรหาสปช.ให้แก่คณะกรรมการสรรหา สปช.ทั้ง 11 ด้าน รวมทั้งจะคัดเลือกประธานคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้านด้วย มีผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด ปลัดกรุงเทพมหานคร ประธาน กกต.จังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ทั้ง 77 จังหวัด รวมกว่า 500 คน เข้าร่วมงาน เพื่อให้การดำเนินการสรรหา สปช.ทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องและเป็นธรรม
@ สรุป18วันสมัครสปช.4,797คน
ต่อมาเวลา 16.45 น. นายภุชงค์แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. วันที่ 18 ว่าในส่วนของ กกต.กลาง จำนวน 11 ด้าน มีผู้เสนอชื่อเข้ารับการสรรหาในส่วนกลางรวม 158 คน ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 17 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 175 คน ทั้งนี้ สรุป 18 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม-31 สิงหาคม มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 2,610 คน เสนอชื่อในส่วนจังหวัด 2,187 คน รวมทั้งสิ้น 4,797 คน โดยด้านการปฏิรูปที่มีผู้ถูกเสนอชื่อมากที่สุดคือด้านการศึกษา 436 คน รองลงมาคือด้านสังคม 373 คน และด้านอื่นๆ 370 คน น้อยที่สุดคือด้านสื่อมวลชน 112 คน
@ โสภณ-อนันต์-ดิเรกลงสปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเปิดรับเสนอชื่อ มีบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในวงสังคม อาทิ พรรคมาตุภูมิ เสนอชื่อ พล.ต.วีระศักดิ์ นาทะศิริ รองเลขาธิการพรรค เข้าสรรหาด้านการเมือง สมาคมเพื่อสวนสัตว์ไทย เสนอชื่อนายโสภณ ดำนุ้ย อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เข้าสรรหาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิอมตะ เสนอชื่อนายโกศล ใจรังษี อดีตรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าสรรหาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สมาคมนักเรียนทุนรัฐบาลไทย เสนอชื่อนางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตอธิบดีกรมประมง เข้าสรรหาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิกองบัญชาการตำรวจนครบาล เสนอชื่อ พล.ต.ท.อนันต์ ภิรมย์แก้ว อดีต ผบช.น. เข้าสรรหาด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ศิลปากรสมาคม เสนอชื่อนายจรวย หนูคง อดีตตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง เข้าสรรหาด้านกฎหมายกระบวนการยุติธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อนายดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ อาจารย์คณะพัฒนาเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เข้าสรรหาด้านปกครองท้องถิ่น มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อนายพนม พงษ์ไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เข้าสรรหาด้านการศึกษา สมาคมการค้าพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทปราการ เสนอชื่อนายอุเทน ยังประภากร ผู้บริหารฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ เข้าสรรหาด้านเศรษฐกิจ
@ "พล.ต.ต.ปิยะ"ลงด้านสื่อมวลชน
มูลนิธิกองบัญชาการตำรวจนครบาล เสนอชื่อ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย อดีตโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เข้าสรรหาด้านสื่อสารมวลชน บริษัท รถไฟฟ้า รฟม. จำกัด เสนอชื่อ พล.อ.อ.คำรบ ลียะวนิช รักษาการผู้อำนวยการบริษัท รถไฟฟ้า รฟม. เข้าสรรหาด้านสังคม แพทยสภา เสนอชื่อ พล.อ.อ.อิทธิพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา เข้าสรรหาด้านสังคม มูลนิธิ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สถาบันราชภัฏสงขลา เสนอชื่อนายไพโรจน์ ด้วงวิเศษ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เข้าสรรหาด้านอื่นๆ มูลนิธิอีพีเอธรรมศาสตร์ เสนอชื่อนายนิรันดร์ ประดิษฐ์กุล อดีต ส.ว. และมูลนิธิวิทยากรลูกเสือชาวบ้าน เสนอชื่อ พล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน เข้าสรรหาด้านการเมือง
@ อจ.แนะฝ่ายหนุนแม้วควรสมัคร
นายวิบูลย์พงศ์ พูนประสิทธิ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการสมัครสมาชิก สปช.ว่า ทาง คสช.เปิดโอกาสให้คนทุกคนสมัครเข้าสรรหาเป็น สปช.ตามหลักแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายต่อต้านหรือสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สามารถสมัครได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น จะไปดูที่ว่าคนสมัครมีฝ่ายใดเยอะไม่ได้ สิ่งที่ควรจะดูคือทาง คสช.คัดเลือกใคร
"ประเด็นคือว่าตอนนี้ทุกคนต้องใช้สิทธิ ฝ่ายที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณควรจะลงสมัครด้วยเหมือนกัน คือคุณต้องเล่นเกมนี้ด้วย ไม่ใช่บอกว่าส่งเข้าไปเขาก็ไม่เลือกอยู่ดี ไม่เป็นไรให้ทาง คสช.เขาไม่เลือกก่อนค่อยมีปฏิกิริยาออกมา เพราะ คสช.บอกว่าทุกคนมีสิทธิลงสมัครเข้า สปช." นายวิบูลย์พงศ์กล่าว และว่า ทั้งนี้ เท่าที่ติดตามอยู่คิดว่าทำไมไม่มีทุกฝ่ายสมัครเข้ามา คือเขาเปิดให้ทุกคนสมัครเข้าไปได้อยู่แล้ว คสช.ไม่ได้ห้าม แต่ถ้า คสช.เลือกคนเข้าไปใน สปช.แล้ว แล้วเลือกแต่เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อันนี้เห็นด้วยว่าการปฏิรูปอาจจะไม่รอบด้าน
@ สมชายเปิดอวยพรวันเกิด67ปี
เมื่อเวลา 07.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดบ้านพักภายในหมู่บ้านเบเวอร์ลี่ ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ทำบุญถวายภัตตาหารพระจำนวน 9 รูป เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 67 ปี มีอดีตแกนนำพรรค พท. และอดีตรัฐมนตรี เช่น นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการ พท. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการ พท. อดีต ส.ส. สมาชิกพรรคการเมือง อดีตข้าราชการ และบุคคลที่เคารพนับถือทยอยเดินทางมาอวยพรวันเกิดอย่างต่อเนื่อง
@ รอกติกาชัดเจนคัมแบ๊กการเมือง
นายสมชายกล่าวว่า วันเกิดปีนี้หากขอพรได้อยากขอให้ประเทศเข้าสู่ความสงบเรียบร้อย ประชาชนอยู่ดีกินดี ผู้ที่มีหน้าที่บริหารบ้านเมืองก็ขอให้ทำหน้าที่ให้ประสบความสำเร็จ สร้างความปรองดองสามัคคีให้เกิดขึ้น ประชาชนก็จะมีความสุข อยู่ร่มเย็นภายใต้พระบารมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ส่วนตัวพ้นจากภาระหน้าที่ทางการเมืองมาหลายปีแล้วก็ขอให้กำลังใจผู้บริหารบ้านเมือง ให้ทำงานอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการเลือกตั้งจะลงรับสมัครหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า มีคนบอกว่าการเมืองเป็นสิ่งไม่จีรัง หมุนเวียนไป แต่หากมีโอกาสยังคงจะทำงานเพื่อประชาชน ไม่ทิ้งประชาชน แต่ไม่ปรารถนาตำแหน่งทางการเมือง หากมีเลือกตั้งอยากให้คนหนุ่มสาวที่มีไฟเข้ามาสานงานต่อ ส่วนจะวางมือหรือไม่นั้น เมื่อถึงเวลาจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
"วันนี้ยังไม่ถึงโอกาสที่จะพูดกัน ขอให้คนที่มีหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ไปก่อน เพราะประเทศจะว่างเว้นจากการบริหารไม่ได้ ไม่ขอวิจารณ์หรือพูดเรื่องการเมือง ขอวางตัวเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย วันนี้ต้องรอกติกาและโอกาส แล้วค่อยมาคุยกันถึงเรื่องวางมือ" นายสมชายกล่าว
@ ฝาก"บิ๊กตู่"ทำงานเพื่อปชช.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี มีอะไรจะฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ นายสมชายกล่าวว่า" ท่านก็คงตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ขอให้ทำไป ในฐานะประชาชนภายใต้การปกครองของท่านก็ขอให้กำลังใจให้ทำงานอย่างลุล่วง ทุกคนมีสำนึกเพื่อประเทศและประชาชนอยู่แล้วคงไม่ต้องฝากอะไรถึงท่าน"
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อวยพรอะไรหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่ค่อยได้คุยกันมาก เพราะทุกคนรู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่จะมาคุยกันตอนนี้ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณได้อวยพรวันเกิดก่อนหน้านี้แล้วเพราะได้เจอกันที่ฮ่องกง และสิงคโปร์ เมื่อถามว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยา มอบของขวัญอะไรให้เป็นพิเศษหรือไม่ นายสมชายกล่าวติดตลกว่า ขอเก็บเป็นความลับ เพราะสำหรับคุณแดงทุกวันคือวันพิเศษ
เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตแกนนำ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายนพดล ปัทมะ คณะกรรมการกิจการพรรค และฝ่ายกฎหมายพรรค นายวันมูหะมัดนอร์มะทา นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายอุดมเดช รัตนเสถียร คณะกรรมการกิจการพรรค นาย
วิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.ภาค กทม. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค เข้าอวยพรวันเกิดนายสมชาย
@ พงศ์เทพชี้ครม.ต้องแถลงนโยบาย
นายพงศ์เทพกล่าวถึงโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ ว่าหน้าตาครม.ไม่ใช่เรื่อง สำคัญแต่เรื่องสำคัญอยู่ที่นโยบายและการทำงานมากกว่า เมื่อมี ครม.ควรแถลงนโยบายต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติได้ติดตามการทำงาน และทราบถึงนโยบาย ซึ่งเป็นปกติของการมี ครม. ทั้งยังทำให้ประชาชนรับทราบด้วย ว่า ครม.มีนโยบายอย่างไร สามารถประเมินได้ว่านโยบายใดเป็นเรื่องดี หรือนโยบายใดมีปัญหา รัฐบาลจะได้นำไปคิดให้รอบคอบได้ เพราะนโยบายที่ออกมาไม่ใช่จะดีไปทั้งหมด
เมื่อถามถึงนโยบายประชานิยมควรจะมีต่อไปหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า คำว่านโยบายประชานิยมเข้าใจตรงกันหรือไม่ แม้แต่คนที่พูดก็เข้าใจคำนี้ไม่ตรงกัน ฉะนั้นต้องเข้าใจตรงกันว่านโยบายประชานิยมที่คิดว่าไม่สมควร และคนไม่ต้องการคืออะไร จากนั้นค่อยมาดูว่าที่พูดอย่างนั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะนโยบายบางอย่างที่ประชาชนพอใจ ถือเป็นเรื่องดี อย่างการช่วยเหลือราคาพืชผลเกษตรตกต่ำเรียกว่าประชานิยมหรือไม่ ควรมีนิยามเรื่องประชานิยมให้ชัดเจน
@ เติ้งอวยพรให้แข็งแรง
ต่อมาเวลา 09.45 น. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำกระเช้าดอกไม้เข้าอวยพรวันเกิดนายสมชาย โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรค ฝากคำอวยพรมาว่า ขอให้มีความสุข ความเจริญ สุขภาพแข็งแรง พร้อมขอโทษที่ไม่ได้มาร่วมงานเหตุเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง
@ ตร.-ทหารสนธิรับ"แม่น้องเกด"
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมอชิต พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เฝ้าระวังตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟฟ้าบีทีเอส กว่า 5 จุด เพื่อเฝ้าติดตามการชุมนุมของกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 จะนำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาค พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมปี 2553 ซึ่งจะปฏิบัติงานอย่างละมุนละม่อมที่สุด ซึ่งจะทำการเจรจาก่อนว่าการกระทำนั้นขัดต่อกฎอัยการศึกและประกาศ คสช.
@ พะเยาว์ยันไม่เกี่ยวการเมือง
ต่อมาเวลา 10.45 น. นางพะเยาว์ และนายณัฐภัทร อัคฮาด บุตรชาย พร้อมนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดาของนายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือน้องเฌอ ผู้เสียชีวิตที่ถูกยิงภายในซอยรางน้ำ เดินทางมายังทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมอชิต
นางพะเยาว์กล่าวว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม หากจะบอกว่าการสั่งฆ่าประชาชนเป็นคดีการเมือง ไม่ใช่คดีอาญานั้น ตนเคารพในคำตัดสินของศาล แต่ไม่เห็นด้วยจึงมาเรียกร้องความเป็นธรรมในฐานะประชาชน จะให้ทำอย่างไร วันนี้มาก็ไม่ถึง 5 คน ไม่ได้เรียกร้องทางการเมือง มาเรียกร้องในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ผิดตรงไหน และตอนนี้กลายเป็นว่าการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี คดีสั่งฆ่าประชาชนเป็นคดีการเมือง แล้วกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกจับไปดำเนินคดีอาญา ไม่ใช่คดีทางการเมือง มันย้อนแย้งหรือไม่
@ ลั่นคดีอาญา-จี้มาร์คแจงให้ชัด
นางพะเยาว์กล่าวว่า คดีถูกจำหน่ายไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถามว่าหน้าที่ของ ป.ป.ช.คืออะไร คือป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่คดีนี้คนตายเกือบ 100 คน เป็นคดีอะไร ไม่เกี่ยวกับการที่นายอภิสิทธิ์ทุจริตแต่อย่างใดเลย แต่นี่คือคดีอาญา
"เพราะฉะนั้นหากจำหน่ายคดีเข้าไปที่ ป.ป.ช. จะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ว่า ในอนาคตคดีสั่งฆ่าประชาชน ป.ป.ช.สั่งฟ้องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แล้วโทษคือตัดสิทธิ 10 ปีเท่านั้นหรือ ตรงนี้ถือว่าไม่มีความเป็นธรรม" นางพะเยาว์กล่าว และว่า ทั้งนี้เนื่องจากนายอภิสิทธิ์เคยกล่าวด้วยว่า ไม่ต้องการ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมใดๆ ต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และคิดว่านายอภิสิทธิ์คงไม่เห็นด้วยที่คดีนี้ถูกจำหน่ายไปยัง ป.ป.ช. ทางที่ดีนายอภิสิทธิ์ควรออกมาพูดเองในเรื่องนี้
นางพะเยาว์กล่าวว่า เอกสารที่นำมาเปิดเผยก็เป็นเพียงรายชื่อของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งสลายการชุมนุม ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่สำเนาหมายศาล หรือ คำพิพากษาศาลมาแต่อย่างใด ขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหมิ่นศาล เพียงแต่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตเท่านั้น
เมื่อถามว่าทำไมจึงไม่เข้าสู่สภาปฏิรูป เพื่อปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม นางพะเยาว์กล่าวว่า ไม่มีองค์กรใดหนุน และทาง พล.อ.ประยุทธ์ เห็นชื่อแล้วจะไม่เลือก
โดนตร.คุมตัวไปสน.บางซื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพะเยาว์ นายณัฐภัทร และนายพันธ์ศักดิ์ โปรยใบปลิวเป็นกระดาษเอ 4 โดยโปรยจากทางฝั่งสะพานลอยและฝั่งทางสวนจตุจักร ข้อความในใบปลิวระบุทำนองเป็น "คำฟ้องของศาลประชาชน คดีหมายเลขดำที่ 1/2557 วันที่ 31 สิงหาคม ระหว่างญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมือง เม.ย.-พ.ค. 53 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 5 คน อาทิ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เป็นจำเลย ในข้อหาร่วมกันฆ่าประชาชนโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน
จากนั้น พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา (รอง ผบช.ศ.) ช่วยราชการ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.วาสุเทพ คงกล่อม รอง ผกก.สส. สน.บางซื่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จับทั้ง 3 คน ไป สน.บางซื่อ มีนายอานนท์ นำพา ทนายความติดตามไปด้วย เมื่อถึง สน.บางซื่อทั้ง 3 คนถูกแยกไปสอบสวนคนละห้องกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะขึ้นรถตำรวจนางพะเยาว์กล่าวว่า "ฆาตกรต้องขึ้นศาลอาญา"
@ "อำนวย"เผยแจ้งข้อหาหมิ่นฯ
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวหลังสอบสวนว่า เจ้าหน้าที่จับกุมนางพะเยาว์พร้อมพวกจากกรณีการโปรยใบปลิว ซึ่งมีรายชื่อบุคคลที่เป็นจำเลยรวม 5 คน ทั้งที่ความจริงแล้วคดีดังกล่าวมีผู้เกี่ยวข้องเพียง 2 คนเท่านั้น จึงแจ้งข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารต่อหน้าเจ้าพนักงาน ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นอาญาแผ่นดินจะต้องนำตัวผู้ต้องหาขึ้นศาลอาญาเพื่อพิจารณาต่อไป โดยพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อจะสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนการประกันตัวหากทางเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วว่า หากผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี สามารถให้ประกันตัวได้
"สำหรับคดีดังกล่าวนั้นขอชี้แจงให้ญาติผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ ทราบว่า ศาลอาญาไม่ได้ยกคำร้อง แต่ศาลไม่รับคดีไว้พิจารณา เนื่องจากไม่มีอำนาจ เพราะจำเลย 2 คน ในคดีนี้ คือ นายอภิสิทธิ์ ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ ที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี โดยศาลมีคำสั่งว่าคดีอยู่ในอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" พล.ต.ต.อำนวยกล่าว
@ ตร.เอาผิดกม.รักษาความสะอาด
นายวิญญัติ ชาติมนตรี กลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน (กนส.) ในฐานะทนายของทั้ง 3 คน เดินทาง สน.บางซื่อ พร้อมเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบเฉพาะนายพันธ์ศักดิ์ ในฐานความผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ซึ่งมีโทษปรับ 5,000 บาท เนื่องจากได้โปรยใบปลิวในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส
หมอชิต ส่วนนางพะเยาว์ และนายณัฐภัทร นั้นไม่มีโทษปรับแต่อย่างใด เพียงแค่ทางเจ้าหน้าที่ทหารพูดคุยและปรับความเข้าใจ ส่วนรายชื่อของบุคคลที่ปรากฏอยู่ในใบปลิว ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ใหญ่ไม่น่าจะติดใจเอาความเอาเรื่องแต่อย่างใด แต่ถ้าหากคนที่มีชื่อในใบปลิวติดใจเอาความ สามารถที่จะแจ้งความกับทั้ง 3 คน ได้ในความผิดฐานหมิ่นประมาท
"การโปรยใบปลิวไม่ได้เป็นการมาชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการแสดงออกเรียกร้องถึงการไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่านั้น" นายวิญญัติกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารได้พูดคุยทำความเข้าใจกับนางพะเยาว์ นายณัฐภัทรและนายพันธ์ศักดิ์แล้วจึงปล่อยตัวกลับ
@ ฮิวแมนไรต์สฯห่วงสิทธิในไทย
นายสุณัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์สวอตช์ประจำประเทศไทย กล่าวถึงการคุมตัวทั้ง 3 คนว่า ทางตำรวจตอบว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎอัยการศึกและคำสั่ง คสช. แม้จะมีไม่ถึง 5 คน และไม่ได้ต่อต้าน คสช. แต่ใบปลิวที่โปรยมีเนื้อหาทางการเมือง ซึ่งอยู่ในกรอบคำสั่ง ส่วนรายละเอียดต้องตามไปที่ สน.บางซื่อต่อไปว่าจะมีการตั้งข้อหาหรือไม่ เหตุผลในการจับกุมคืออะไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ทางฮิวแมนไรต์สวอตช์ ทางองค์การนิรโทษกรรมสากล และตัวแทนข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้รับรู้แล้ว และติดตามด้วยความห่วงใยอย่างยิ่ง
"ทั้งในส่วนของเหตุการณ์วันนี้และคำวินิจฉัยของศาลว่าไม่มีอำนาจพิพากษาคดีสลายการชุมนุมปี 2553 เพราะผลของคำวินิจฉัยดังกล่าวทำให้คดีนี้ไม่ใช่คดีฆาตกรรมอีกต่อไปแล้ว มันถูกลดทอนความร้ายแรงของข้อหา เป็นเพียงการใช้อำนาจโดยมิชอบซึ่งเบากว่า
