- Details
- Category: การเมือง
- Published: Thursday, 28 August 2014 10:15
- Hits: 4330
วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8674 ข่าวสดรายวัน
คสช.สั่งชะลอแต่งตั้ง ล้มทันที! ย้าย 39 บิ๊กป่าไม้ พบมีแอบอ้าง-มั่วล้างบางก.ทรัพย์ รบ.มี 5 รองนายกฯ-ณรงค์ชัยลาสนช. วินธัยยันไม่ล่าอภิวันท์โยนหน้าที่ตร.
พบนักธุรกิจ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พบปะกับกลุ่มนักธุรกิจไทย-ยุโรป ชี้แจงถึงความจำเป็นที่คสช.ต้องเข้ามาบริหารประเทศ พร้อมทั้งเชิญชวนให้มาร่วมลงทุนในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ 27 ส.ค. |
หน.คสช.สั่งชะลอ ย้ายขรก. ให้รอครม. ใหม่พิจารณา เผยเบื้อง หลัง เหตุจากคำสั่งย้าย ล้างบางก.ทรัพย์ ขรก.รุดร้อง'บิ๊กตู่'มีคนแอบอ้างคสช.สั่งเด้ง เลยแก้เกี้ยวให้ชะลอไว้ก่อน นายกฯตู่เปิดสูตร รัฐบาลใหม่มี 5 รองนายกฯ 'ณรงค์ชัย'ไขก๊อกลาสนช. ยังอู้อี้ไปคุมกระทรวงพลังงาน กกต.สรุปยอด 14 วัน มี 3,174 คน ยื่นสมัครสปช. วิธัยแถลงยัน คสช.ยันไม่ไล่ล่า"อภิวันท์" ชี้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ปรับปรุงทำเนียบเสร็จ 31 ส.ค.
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วยนางเรณู ตังคจิรางกูร รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายบริหาร และนาย สุรพล สัตตายานนท์ ผอ.สำนักสถานที่ และรักษาความปลอดภัย และตัวแทนผู้รับเหมา เดินตรวจสอบความเรียบร้อยในการปรับปรุงตึกบัญชาการ 1 และ 2 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมโยธาฯ ทั้งภายในและ โดยรอบ
จากนั้นนายมณฑล ให้สัมภาษณ์ว่า งานที่กรมโยธาฯรับผิดชอบเสร็จไปแล้ว 85 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงบางจุด เช่น การปูพรมบริเวณ ชั้น 5 ของตึกบัญชาการ 1 ที่จะใช้เป็นสถานที่ประชุมครม.และเก็บรายละเอียดปลีกย่อยของงานเท่านั้น คาดว่างานจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมรับการทำงานของครม.ชุดใหม่ ตามกำหนดภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้แน่นอน ทั้งนี้ วันที่ 31 ส.ค.ตนจะนำสื่อมวลชนเดินสำรวจความเรียบ ร้อยภายในทุกห้องทุกชั้นของตึกบัญชาการ 1
นักธุรกิจไทย-ยุโรปพบนายกฯตู่
เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ พร้อมสมาคมการค้า ไทย-ยุโรป นำนักธุรกิจไทย-ยุโรป เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. เพื่อหารือแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการส่งเสริม และอำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต้อนรับนักธุรกิจไทย-ยุโรปว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้เกียรติกับคสช.และทุกฝ่ายที่ทำหน้าที่ในวันนี้ เมื่อทุกคนให้เกียรติคสช. ดังนั้นคสช.ก็ให้เกียรติทุกคน ทราบว่านักธุรกิจกังวลในหลายเรื่อง จึงไม่ต้องกังวลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะคสช.ทราบดีว่านักธุรกิจที่เข้ามาลงทุนต่างมุ่งเน้นการลงทุน เป็นสำคัญ ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับการเมืองและมุ่งหวังให้มีแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ซึ่งประเด็นเหล่านี้คสช.จะรับไปพิจารณาเพราะ คสช.มีความเห็นตรงกับกลุ่มนักธุรกิจ และในวันนี้คสช.มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงมาพูดคุยทั้งหัวหน้าและรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ที่รับผิดชอบขับเคลื่อนแก้ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ รวมถึงคณะทำงานจากทุกกระทรวง ทบวง กรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักธุรกิจกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มแรกที่เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ หลังได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกฯอย่างเป็นทางการ
เผยจะมีรองนายกฯ 5 คน
พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงนักธุรกิจไทย-ยุโรป เข้าพบพล.อ. ประยุทธ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงถึงสถาน การณ์ในไทยเพื่อให้นักธุรกิจเกิดความเข้าใจ นอกจากนั้นยังชี้แจงถึงนโยบายบีโอไอว่า คสช. ทบทวนมาตรการต่างๆ พร้อมให้สิทธิพิเศษ ทางเศรษฐกิจกับนักลงทุนเพื่อเสริมสร้างการลงทุนเพื่อเกิดประโยชน์ต่อนักลงทุนและประเทศไทย นอกจากนี้ยังเชิญชวนให้นักธุรกิจไทย-ยุโรปมาลงทุนในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ พิเศษ พร้อมขอร้องให้ช่วยทำความเข้าใจกับกลุ่มประเทศอียู ถึงความจำเป็นที่คสช.ต้องเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ
พ.อ.วีรชน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันกับนักธุรกิจไทย-ยุโรปว่า ในเดือนก.ย.นี้ จะมีนายกฯพร้อมรองนายกฯ 5 คน และคณะรัฐมนตรี เรียบร้อย และพร้อมบริหารประเทศภายใน 1 ปี และขับเคลื่อนปฏิรูป 11 ด้าน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นหลังมีการเลือกตั้งแล้ว ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ระบุชื่อว่ารองนายกฯ ทั้ง 5 คนนั้นเป็นใครบ้าง เพียงแต่บอกว่าในที่ ประชุมนี้ก็มีผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานนี้อยู่ด้วย
'บิ๊กป้อม-บิ๊กคสช.'นั่งรองนายก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรองนายกฯทั้ง 5 คนคาดว่าประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. รองหัวหน้าคสช.ฝ่ายความมั่นคง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. รองหัวหน้าคสช.ฝ่ายสังคมจิตวิทยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. หัวหน้าคสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. รองหัวหน้าคสช.ฝ่ายกิจการพิเศษ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา คสช.
รายงานข่าวอีกกระแสแจ้งว่า สำหรับ 5 รองนายกฯ ในครม.ชุดใหม่ จะประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรมว.กลาโหม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรมว.คลัง และนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ เป็นต้น
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรอง หน.คสช. เปิดเผยถึงความคืบหน้ารายชื่อ ครม. ว่า ตนไม่ค่อยได้ติดตาม แต่หากได้ฟังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันชัดเจนว่าจะตั้งครม.ให้เสร็จภายในเดือนก.ย.นี้อย่างแน่นอน สำหรับตนตอบได้เพียงว่าต้องช่วยนายกฯทำงานต่อไป
บิ๊กเจี๊ยบลั่นคสช.ตั้งใจทำเต็มที่
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ในฐานะรอง หน.คสช. กล่าวกรณีมีชื่อติดโผ ครม.ว่า ขณะนี้ตนทำหน้าที่ดูแล 4 กระทรวงหลัก คือกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาด ไทย กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) แต่สื่อตั้งให้ตนเป็นรัฐมนตรีทุกกระทรวง
เมื่อถามว่า โผครม.ที่สื่อตั้งตรงบ้างหรือไม่ เช่นตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า เป็นทหาร นายกฯตั้งให้เป็นอะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้นโยบายของคสช.ก็เพื่อประเทศชาติและส่วนรวม และทุกคนในคสช.ตั้งใจทำงานเต็มที่ ซึ่งการทำงานของคสช. ที่ผ่านมา เหมือนเราเข้าไปช่วยให้กระทรวงต่างๆ ทำงานอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีที่จะแสดงความคิดอ่าน โดยมี คสช.เป็นผู้ประสานอำนวยความสะดวกและเชื่อมต่อในสิ่งที่ขาดหาย หากไม่คิดเข้าข้างตัวเองจะเห็นว่าการทำงานของทุกกระทรวงเร็วขึ้น พร้อมทั้งมีเกียรติและศักดิ์ศรีในการทำงาน
เมื่อถามว่า ถ้าต้องเป็นรัฐมนตรีเกินกว่าหนึ่งตำแหน่ง จะหนักเกินไปหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า คงเยอะไป ขณะนี้ปลัดกระทรวงต่างๆ ก็ทำหน้าที่เหมือนรัฐมนตรีอยู่แล้ว ส่วนคสช.ก็อำนวยความสะดวก ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดี
'ณรงค์ชัย'ลาสนช.-ลือนั่งพลังงาน
รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า นายณรงค์ชัย อัครเศรณี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยื่นหนังสือลาออกจากสนช.กับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแล้ว ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายณรงค์ชัยติดโผครม. คาดว่าจะรับตำแหน่งรมว.พลังงาน ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 กำหนดให้ผู้ที่เป็นรัฐมนตรีต้องไม่เป็น สนช.
ถกพลังงาน - สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จัดเสวนาเรื่องการปฏิรูปพลังงาน โดยมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานบอร์ด ปตท. พร้อมด้วยพุทธอิสระ และนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมด้วย ที่สโมสรทหารบก เมื่อวันที่ 27 ส.ค. |
เวลา 19.30 น. นายณรงค์ชัย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ยอมรับว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกสนช. จริงเมื่อช่วงบ่าย วันนี้ เนื่องจากไม่มีเวลาว่างและมีงานที่ต้องทำจำนวนมาก ส่วนกระแสข่าวจะได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เมื่อถามว่าพร้อมทำงานหรือไม่หากได้เป็นรัฐมนตรี นายณรงค์ชัยกล่าวว่า หากใช้คำว่าถ้า คงตอบไม่ได้เพราะยังไม่เกิดขึ้น
หน.คสช.สั่งชะลอโยกย้ายขรก.
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า วันที่ 27 ส.ค. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่นร 0506/ว 78 เรื่อง การชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ลงนามโดยนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม. ส่งถึงบางกระทรวง อาทิ กระทรวงแรงงาน มีเนื้อหาว่าเพื่อให้การบริหารบุคลากรภาครัฐโปร่งใส สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล หัวหน้าคสช.จึงสั่งการให้ทุกส่วนราชการชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับออกไปจนกว่าครม.ชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่และกำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ เมื่อสอบถามนายอำพน ได้รับการเปิดเผยว่า "ไม่รู้ ไม่ทราบ ผมไม่อยากเป็นคนโกหก"
เผยปมชะลอ-เหตุอ้างคสช.สั่งย้าย
รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องหลังคำสั่งชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้ สืบเนื่อง จากเมื่อวันที่ 26 ส.ค. กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีคำสั่งโยกย้ายข้าราชการสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ และกรมป่าไม้รวม 39 ตำแหน่ง โดยต่อมามีข้าราชการภายในกระทรวงทรัพยากรฯ ได้เข้าร้องเรียนต่อพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ที่มีกระแสระบุจะมาเป็นรมว.ทรัพยากรฯ และพล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. ว่า มีการแอบอ้างว่าเป็นคำสั่งคสช.ให้โยกย้ายล้างบางข้าราชการใน 2 กรมนี้ หลังการรับเรื่องร้องเรียน พล.อ.ประยุทธ์ได้ตรวจสอบและพบว่ามีผู้แอบอ้างคสช.จริง จึงมีคำสั่งให้ชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทั้งหมด ซึ่งจะมีผลให้คำสั่งย้ายใหญ่ของกระทรวงทรัพยากรฯเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ต้องยกเลิกทันที
สำหรับ คำสั่งย้ายดังกล่าว เมื่อวันที่ 26 ส.ค. นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 จำนวน 39 ตำแหน่ง มีทั้ง ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสจ.) ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ผอ. สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมป่าไม้ ที่ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ป่าอนุรักษ์ หรืออุทยานฯ ทั่วประเทศ เป็นต้น
ย้ายสลับผอ.ทสจ.เพียบ
โดยมีตำแหน่งสำคัญๆ อาทิ นายสุรชัย อจลบุญ ผอ.ทสจ.พระนครศรีอยุธยา ย้ายไปเป็น ผอ.ทสจ.กระบี่, นายนรินทร์ สายซอ ผอ.ทสจ.นนทบุรี ไปเป็น ผอ.ทสจ.ชัยภูมิ, นางจินตวดี พิทยเมธากูล ผอ.ทสจ.สงขลา เป็น ผอ.ทสจ.นครศรีธรรมราช, นายอิสระ พรหมเดชบุญ ผอ.ทสจ.ชัยภูมิ เป็น ผอ.ทสจ.นนทบุรี, นายสมาน สะแต ผอ.ทสจ.ยะลา เป็น ผอ.ทสจ.นราธิวาส, นายสามารถ ขุนศรีหวาน ผอ.ทสจ.นราธิวาส เป็น ผอ.ทสจ.ปัตตานี, นายจงรัก ทรงรัตนพันธุ์ ผอ.ทสจ.สุราษฎร์ธานี เป็น ผอ.ทสจ.ยะลา, นายเก่งกาจ ศรีหาสาร ผอ.ทสจ.สมุทรปราการ เป็น ผอ.ทสจ. ร้อยเอ็ด, นายสวัสดิ์ อั้งเต้ง ผอ.ทสจ.นครศรี ธรรมราช เป็น ผอ.ทสจ.สงขลา, นายองอาจ ชนะชาญมงคล ผอ.ทสจ.สุพรรณบุรี เป็น ผอ.ทสจ. สมุทรปราการ, น.ส.สุวิน สิทธิบุตระ ผอ.ทสจ. ร้อยเอ็ด เป็น ผอ.ทสจ.สุพรรณบุรี
นายเชิดชัย จริยะปัญญา ผอ.สบอ.ที่ 3 (บ้านโป่ง) เป็นผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่ง ชาติฯ, นายวิรัช จตุพนาพร ผอ.สบอ.ที่ 12 (นครสวรรค์) เป็น ผอ.สำนักบริหารกลาง กรม อุทยานฯ, นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผอ.สบอ.ที่ 7 (นครราชสีมา) เป็น ผอ.สบอ.ที่ 3 (บ้านโป่ง), นายไพศาล สถิตวิบูรณ์ ผอ.สบอ.ที่ 14 (ตาก) เป็น ผอ.สบอ.ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี), นายสุพจน์ เพริดพริ้ง ผอ.สบอ.ที่ 6 (สงขลา) เป็น ผอ.สบอ. ที่ 7 (นครราชสีมา), นายเฉลิมชัย ปาปะทา ผอ.สำนักบริหารกลาง กรมอุทยานฯ เป็น ผอ.สบอ.ที่ 12 (นครสวรรค์), นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานฯ เป็น ผอ.สบอ.ที่ 14 (ตาก)
โยกข้ามกรมอีกหลายตำแหน่ง
นายไพโรจน์ ปานสมุทร์ ผอ.ทสจ.อุทัย ธานี เป็น ผอ.สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานฯ, นายอาคม ยุทธนา ผอ. ทสจ.กระบี่ เป็น ผอ.สบอ.ที่ 5 (นครศรีธรรม ราช), นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ.ทสจ.สตูล เป็น ผอ.สบอ.ที่ 6 (สงขลา), นายวิจิตร แสงรัตน์ ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทรา เป็น ผอ.สบอ.ที่ 15 (เชียงราย), นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.ทสจ.สมุทรสาคร เป็น ผอ.สบอ.ที่ 16 (เชียงใหม่), นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.ที่ 15 (เชียงราย) เป็น ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทรา, นายฐากร ล้อมศตพร ผอ.สบอ.ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) เป็น ผอ.ทสจ.พระนครศรีอยุธยา, นายศักดา วิเชียรศิลป์ ผอ.สำนักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ เป็น ผอ.ทสจ.สตูล, นายกมลไชย คชชา ผอ.สบอ.ที่ 16 (เชียงใหม่) เป็น ผอ.ทสจ.สมุทรสาคร, นาย จิระศักดิ์ ชูความดี ผอ.สบอ.ที่ 5 (นครศรีธรรม ราช) เป็น ผอ.ทสจ.สุราษฎร์ธานี, นายปรมินทร์ วงศ์สุวัฒน์ ผอ.สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานฯ เป็น ผอ.ทสจ.อุทัยธานี
นายอมร ต่อเจริญ ผอ.สบอ.ที่ 11 (พิษณุ โลก) กรมอุทยานฯ เป็น ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 2 (เชียงราย) กรมป่าไม้, นายบรรพต คันธเสน ผอ.สบอ.ที่ 13 (แพร่) กรมอุทยานฯ เป็น ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) กรมป่าไม้, นาย สมศักดิ์ เร่งเพียร ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) กรมป่าไม้ เป็น ผอ.ทสจ.ปทุมธานี, นายสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) กรมป่าไม้ เป็น ผอ.สบอ.ที่ 11 (พิษณุโลก) กรมอุทยานฯ และนายยรรยง กางการ ผอ. สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) เป็น ผอ.สบอ. ที่ 13 (แพร่) กรมอุทยานฯ
ปนัดดายันวิจารณ์อปท.ตามข้อมูล
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสลค. มีหนังสือคำสั่งให้ชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการจนกว่าครม.ชุดใหม่ว่า ขณะนี้มีหนังสือชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐของทุกกระทรวงออกมาแล้ว ซึ่งการอนุมัติโยกย้ายทั้งหมดจะนำเข้าพิจารณาอีกครั้งหลังมีครม. ชุดใหม่ และตนยังไม่ทราบว่าจะมีผลย้อนหลังถึงวันที่เท่าไร เนื่องจากมีการเซ็นอนุมัติโยกย้ายบางกระทรวงออกไปบ้างแล้ว
ม.ล.ปนัดดา ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า กรณีที่พูดเรื่องการใช้งบประมาณขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น(อปท.)นั้น ตนไม่ได้พูดเหมารวมทั้งหมด แต่สิ่งที่นำมาพูดนั้นได้รับเรื่องร้องทุกข์จำนวนมาก ทั้งที่สปน. ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียน 1111 หรือตู้ไปรษณีย์ที่บ้านของตน จึงอยากให้บริหารงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีมานานแล้วจึงต้องมาจัดระเบียบให้ดีขึ้นและข้าราชการหลายท้องที่ก็เห็นด้วย อยากให้คำนึงถึงงบประมาณในด้านที่จำเป็น อย่างการศึกษา วัฒนธรรม ส่วนเรื่องที่ไม่จำเป็น ขอให้ตัดทิ้ง ส่วนการไปดูงานที่ต่างประเทศ ขอให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน
"งบประมาณที่มีปัญหาและมีการร้องเรียนเข้ามานั้นมีหลายด้าน อย่างอปท.บางแห่งนำบริษัทที่เป็นของญาติพี่น้องมาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในโครงการต่างๆ ทั้งนี้ ได้ส่งเรื่องร้องเรียนต่างๆ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)แล้ว" ม.ล.ปนัดดากล่าวและว่า ที่ผ่านมาตนถูกระบายสีจากโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก แต่เมื่อมีการพูดคุยกันโดยตรง เชื่อว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจ
กำนันวอนชี้ให้ชัดอบจ.ไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย นำคณะอุปนายกสมาคม 4 ภาค เข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจ ม.ล.ปนัดดา โดยนายยงยศกล่าวว่า สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ มีสมาชิก 298,713 คนขอเป็นกำลังใจและจะยืนเคียงข้าง ม.ล.ปนัดดา ในการปฏิบัติหน้าที่เพราะทราบดีว่าการบริหารการปกครองส่วนท้องถิ่นมีปัญหาจริง แต่เพียงส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด ทุกคนเข้าใจเจตนารมณ์ในการพูดของม.ล. ปนัดดา แต่อยากให้ชี้ชัดไปเลยว่าอบจ.ที่มีปัญหานั้น อยู่ตรงพื้นที่ใดบ้าง
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคสช. กล่าวถึงการสรรหาสมาชิก สภาท้องถิ่นเพื่อทำหน้าที่แทนสมาชิกในบางท้องถิ่นซึ่งหมดวาระการทำงานลงว่า ทางคสช. ทราบว่าอาจมีปัญหาความไม่เข้าใจและอาจไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เมื่อมีรัฐบาลที่สมบูรณ์ในเวลาอันใกล้นี้ คงมีการดำเนินการใหม่ให้ประชาชนพอใจในการพิจารณาบุคคลมาทำหน้าที่ โดยคัดสรรบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ และประชาชนให้การยอมรับว่าซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใสอย่างแท้จริงเพื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีการเลือกตั้งตามระบบ ปกติในอนาคตต่อไป
คสช.ยันค่อยๆระบายสต๊อกยาง
พ.อ.วินธัย กล่าวถึงข้อกังวลของเกษตรกรชาวสวนยางในเรื่องแผนการระบายยางในสต๊อกว่า คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) จะพิจารณาอย่างรอบคอบ คำนึงถึงผล กระทบอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะผลกระทบราคายางในปัจจุบัน ข้อมูลที่ได้ในเบื้องต้น ถ้ามีการระบายจะดำเนินการในรูปค่อยเป็นค่อยไปในปริมาณที่จำกัด มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคายางในปัจจุบัน ทั้งนี้ เป็นเรื่องของที่ประชุม
ทีมโฆษกคสช. กล่าวว่าขณะนี้ คสช.และหน่วยเกี่ยวข้องพยายามจะทำให้ยางอยู่ในราคาที่เหมาะสมโดยเร็ว ทั้งนี้ เตรียมมาตรการทั้งระยะสั้น ระยะยาว ขอความร่วมมือทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ชาวสวนยางได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรมอย่างสูงสุด สำหรับ ระยะยาวเริ่มดำเนินการมาตรการสนับสนุนด้าน เงินทุนเพื่อธุรกิจการแปรรูปเบื้องต้น ให้แก่องค์กรเกษตรกร และผู้ประกอบการทั่วไปที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาง จะเร่งจัดตั้งสถาบัน วิจัยยางในประเทศ เพื่อดูแลทั้งระบบอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาไปสู่ธุรกิจครบวงจรมากขึ้นในอนาคต
มั่นใจราคาพุ่ง 60 บ.ใน 1 เดือน
นายดำรง จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เผยกรณีตัวแทน 5 องค์กรยางร่วมหารือกับพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ว่า พล.อ.ฉัตรชัยมอบให้กรมวิชาการเกษตรรับช่วงเป็นตัวกลางหาตลาดผู้ซื้อยางต่างประเทศ ขณะนี้มีหลายประเทศมาขอซื้อยางในประเทศที่ราคา 65 บาทต่อก.ก. และกรมวิชาการเกษตร กำลังเร่งหาข้อสรุปให้ได้ ขณะนี้สถานการณ์ราคายางไม่ได้สะท้อนตามราคาสถานการณ์โลก แต่เป็นการสะท้อนพ่อค้า ผู้ประกอบการที่เอารัดเอาเปรียบ กดราคาเกษตรกร และรอซื้อยางราคาถูกจากสต๊อกรัฐบาล
นายดำรง กล่าวว่า นอกจากนี้จะต้องนำยางไปใช้ในประเทศมากขึ้น เช่น การก่อสร้างถนน เพื่อลดปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดจนเป็นผลให้ราคายางตก ส่วนที่ คสช.อนุมัติ งบประมาณ 5,000 ล้านบาทให้กับสถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพาราและนำเงินไปปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อผลิตยางจากยางพื้นฐานเป็นยางแท่งและยางแผ่นรมควันเพื่อการส่งออก จะทำให้ราคายางเพิ่มอีก 2-3 บาท และยังแปรรูปยางเพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ยางในรูปแบบอื่นๆ เช่น ยางรถยนต์ แทนส่งออกเป็นยางดิบ มั่นใจว่าจากมาตรการต่างๆ จะทำให้ ราคายางพุ่งถึง 60 บาทได้ในเวลา 1 เดือน
ปล่อยตัว'วีระ'แล้ว
ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เจ้าหน้าที่ทหารพระธรรมนูญเบิกตัวนายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น พร้อมพวกรวม 8 คน ออกจากห้องขังกองปราบปรามแล้ว หลังถูกควบคุม ตัวตามกฎอัยการศึก รวมเป็นเวลา 4 วัน จากกรณีเคลื่อนไหวเรียกร้องปฏิรูปพลังงานเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนทั้งหมดได้รับการพิจารณาให้ปล่อยตัวในวันนี้ เนื่องจากระหว่าง ถูกควบคุมตัวทั้งหมดมีการปรับทัศนคติและรับปากว่าจะไม่เคลื่อนไหวชุมนุมตามท้องถนนหรือสถานที่สาธารณะซึ่งขัดกฎอัยการศึกอีก เจ้าหน้าที่ทหารจึงไม่แจ้งข้อหาใดๆ แต่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นทั้ง 8 คนถูกควบคุมตัวขึ้นรถทหารเดินทางไปยังสโมสรทหารบก วิภาวดี เพื่อทำเรื่องปล่อยตัวและร่วมงานเสวนาการปฏิรูปพลังงานเพื่อความปรองดองของชาติที่มีหลายหน่วยงานเข้าร่วมในเวลา 09.00 น.
นายวีระ กล่าวยืนยันจะเดินหน้าเรียกร้องปฏิรูปพลังงานเป็นธรรม แต่จะไม่ใช่การชุมนุม เดินตามท้องถนนในลักษณะขัดต่อกฎอัยการศึกอีกตามที่มีการปรับทัศนคตดิกับเจ้าหน้าที่แล้ว ส่วนการร่วมงานเสวนาปฏิรูปพลังงานในวันนี้เนื่องจากได้รับคำเชิญ ซึ่งยินดีไปร่วมเวทีลักษณะนี้มานานแล้ว
แห่ร่วมเสวนาปฏิรูปพลังงาน
ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จัดเสวนาเรื่อง'การปฏิรูปพลังงานเพื่อความปรองดองของชาติ' มีตัวแทน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) กลุ่มบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ ตัวแทนกระทรวงพลังงาน ตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมเกือบพันคน จนล้นถึงด้านหน้าเวทีและนอกห้องประชุม โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจชายหญิงหลายร้อยนาย รักษาความปลอดภัยภายในและนอกบริเวณงานอย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเสวนาครั้งนี้มี พุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ทำหน้าที่พิธีกรควบคุมการซักถามและตอบของทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีตัวแทนกระทรวงพลังงานและปตท. อาทิ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการบริษัท ปตท. นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน นายไพโรจน์ กวียา นันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเชฟรอน ประเทศไทย ขณะที่ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน อาทิ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นางบุญยืน ศิริธรรม ขณะที่นางรสนา โตสิตระกูล แกนนำกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย ไม่เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้
กลุ่มต้านปตท.ตามเชียร์แน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า งานเสวนาเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 09.15-15.40 น. รวมเวลา 6 ชั่วโมง 25 นาที ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวนายวีระ สมความคิด มาร่วมการเสวนาครั้งนี้ด้วย ซึ่งการเสวนาครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เชิญตัวแทนจาก 2 ฝ่ายที่มีความเห็นต่างกันขึ้นเวทีเดียวกัน และมีประชาชนสนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มีความเห็นเอนเอียงไปทางฝั่งเครือข่ายภาคประชาชน สังเกตได้จากพฤติกรรม เมื่อฝ่ายที่ตนเองสนับสนุนแสดงความเห็นจะปรบมือและมีบางครั้งส่งเสียงไม่พอใจการตอบคำถามของฝ่ายปตท.และกระทรวงพลังงงาน จนพิธีกรต้องเตือนเป็นระยะและห้ามแต่ละฝ่ายชูป้ายขึ้นมาสนับสนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นแรกที่หารือคือ เรื่องคืนท่อก๊าซของปตท.แก่รัฐ นอกจากนี้มีการสอบถามเรื่องราคาแอลพีจี ประเด็นราคาน้ำมันเปรียบเทียบระหว่างไทยและต่างประเทศ นอกจากนั้นนายวีระได้สอบถามฝ่ายกระทรวงพลังงานและปตท.ว่าตัวแทนคนใดถือหุ้นปตท.บ้าง ซึ่งนายปิยสวัสดิ์ ยอมรับว่ามีหุ้นอยู่ในปตท. 4,400 หุ้น และตามกฎหมายดำเนินการได้เพราะไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง ทำให้กลุ่มสนับสนุนเครือข่ายภาคประชาชนส่งเสียงโห่ร้อง จนพิธีกรต้องห้ามปราม อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อผู้เข้าร่วมงานตะโกน ส่งเสียงโห่ร้องคำพูดของนายปิยสวัสดิ์ดังลั่นห้อง ทำให้พุทธอิสระประกาศให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบเพื่อให้งานเสวนาดำเนินการได้อีกครั้ง
ยังขัดแย้งประเด็นท่อก๊าซ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเสวนาพบว่า ตลอดทั้งวันผู้เข้าร่วมสัมมนามักแสดงอาการไม่พอใจ โห่ร้อง บางรายลุกขึ้นตะโกน ตั้งคำถามระหว่างที่การเสวนาดำเนินอยู่ เพื่อกระตุ้นให้ตัวแทนฝ่ายกระทรวงพลังงานและปตท.ไม่พอใจ
หลังจบการเสวนาในเวลา 15.40 น. พุทธอิสระกล่าวว่า จะสรุปข้อเสนอทั้งหมดภายในสัปดานี้หรือสัปดาหน้าเป็นอย่างช้า เชื่อว่าการเสวนาจะเป็นประโยชน์เพราะประชาชนหลายคนเข้าใจมากขึ้น ส่วนประเด็นท่อก๊าซที่ยังขัดแย้ง จะให้ทุกฝ่ายส่งเอกสารมาพิจารณาว่าบกพร่องอย่างไร ให้ฝ่ายกฎหมาย นิติกรเข้ามาดู หลังจากนี้อาจจัดเวทีเสวนาพลังงานอีกครั้งหนึ่งเพื่อหารือเรื่องพลังงานไฟฟ้าและพลังงานทดแทน เนื่องจากในการเสวนายังไม่มีการคุยครั้งนี้ ส่วนเครือข่ายประชาชนบางคนที่ไม่มาหากนำไปพูดข้างนอกอีกจะไม่เหมาะสม
สมัครสภาปฏิรูปแล้ว 3,174 คน
เวลา 17.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการกกต. แถลงสรุปยอดการเปิด รับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 11 ด้าน ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันที่ 14 ของการเปิดรับเสนอชื่อ โดยตลอดทั้งวันมีองค์กรนิติกรบุคคล ไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในส่วนกลางรวม 204 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 132 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 72 คน ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 95 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 299 คน ทั้งนี้สรุป 14 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อมีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 1,284 คน เสนอชื่อในส่วนจังหวัด 1,890 คน รวมทั้งสิ้น 3,174 คน โดยยอด ผู้เสนอชื่อที่สูงสุดคือด้านการศึกษา 224 คน ด้านอื่นๆ 194 คน และด้านสังคม 185 คน ส่วนด้านที่ยังมีการเสนอชื่อน้อยสุดคือด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 53 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ในวันนี้ มีองค์กรนิติบุคคลต่างทยอยเข้ารับการเสนอชื่อ อาทิ สมาคมศิษย์เก่าวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล เสนอชื่อ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผอ. สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า และนายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว อดีตผอ.สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า มูลนิธิช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เสนอชื่อ พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. สมาคมต่อต้านยาเสพติดในสถานประกอบการ เสนอชื่อ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.ศ. ฯลฯ
ตร.ส่ง 2 ตัวแทนร่วมสปช.
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน จเรตำรวจแห่งชาติ และนายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) มีวาระการประชุม นอกจากการแก้ไขข้อบังคับ ก.ตร. ว่าด้วยการประชุมและการลงมติของ ก.ตร. และของอนุกรรมการ ก.ตร. พ.ศ.2547 แล้ว ยังเลือกผู้แทน ตร. เข้ารับการสรรหาเป็นสปช.
ตัวแทน ตร.ที่ประธานเสนอเป็นสปช. มี 2 ราย คือพล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ อดีตรอง ผบ.ตร. และอดีตคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร. และพล.ต.อ.อาจิณ โชติวงศ์ อดีตผู้ช่วยผบ.ตร. ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.ชาญชิต อาจไม่รับเป็นตัวแทนตร.เข้าสรรหาเป็นสปช.เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ และไม่เคยได้รับการทาบทามมาก่อน
คสช.ยันไม่ไล่ล่า'อภิวันท์'
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคสช. กล่าวถึงกระแสข่าวพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. รักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ว่า คสช.คงไม่ประสานขอตัวกลับมาดำเนินคดี หลังหลบ หนีหมายจับของศาลตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เรื่องคดีเป็นหน้าที่ของตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไร ขอให้เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย คสช.เพียงขอความร่วมมือให้กลับมาต่อสู้คดีในประเทศเท่านั้น ยืนยันไม่มีนโยบายไล่ล่าบุคคลที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ก็ไม่เคยพูดว่าจะต้องให้ดำเนินคดีแบบใด
เมื่อถามว่านายคารม พลพรกลาง ทนาย ความกลุ่มคนเสื้อแดง เรียกร้องหัวหน้า คสช. ให้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กลับมาสู้คดีโดยมีสิทธิขั้นพื้นฐานเหมือนคนทั่วไป พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เราให้กลับประเทศ ไม่เคยห้าม ไม่เฉพาะพ.อ.อภิวันท์ อีกหลายๆ คนที่อยู่ ต่างประเทศ ก็ขอให้กลับมาสู้คดี เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย คนที่อยู่สู้คดี ในประเทศไม่หลบหนี ศาลยังให้ประกันตัว ซึ่งหัวหน้าคสช.เคยพูดเชิญชวนไว้ว่าเปิดให้ทุกคนกลับมาสู้คดี โดยคสช.จะดำเนินการอย่างละมุนละม่อม อย่าได้วิตกกังวล เราพร้อม ให้ความเป็นธรรมทุกอย่าง