- Details
- Category: การเมือง
- Published: Saturday, 23 August 2014 23:19
- Hits: 3953
ดัน'บิ๊กเต่า'รมต.แรงงาน บิ๊กตู่จัดโผ 'บรรพต'หวนคุมเกษตรฯ 'อุ๋ย'รองนายกฝ่ายศก. บิ๊กทหารพรึบร่วมครม. เตรียมรับ'ราชโองการ'ศรีสุวรรณยื้อประยุทธ์
วงประชุม กรอ. ยินดี'บิ๊กตู่'นั่งนายกฯ เจ้าตัวขอบคุณ ลั่นขอเดินหน้าทำงาน 'ศรีสุวรรณ'ยื่นผู้ตรวจฯสอบ สนช.มีมติให้'ประยุทธ์'เป็นนายกฯ ชี้ขัด รธน.-เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน
'บิ๊กตู่'ขอทำงานกับทุกฝ่าย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) มี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รอง ผบ.สส.) ผู้แทน พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง รวมถึงปลัดกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวแทนภาคเอกชนเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีการแสดงความยินดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติให้เป็นนายกฯคนที่ 29 ของไทย โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้เกียรติและเป็นกำลังใจให้ จะขอเดินหน้าทำงานไปด้วยกันกับทุกฝ่าย
ขอกลุ่มต้านอย่าให้ร้ายคสช.
ต่อมาเมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า อยากขอความร่วมมือ ขอร้องบรรดาผู้ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจที่พยายามจะต่อว่าหรือต่อต้าน โดยเลือกที่จะพูดคำว่าประชาธิปไตย โดยการคืนอำนาจและเลือกตั้ง หรือกล่าวคำตำหนิติเตียน ทำใบปลิว บัตรสนเท่ห์ ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก ให้ร้ายการกระทำอันเป็นเจตนาดีของ คสช. ไม่ทราบว่าจะทำไปเพื่ออะไร
"ยังคงมีการซุ่มซ่อน หลบเลี่ยง ดำเนินการในลักษณะที่มีการปกปิดซ่อนเร้นอยู่ตลอดมา และผมทราบมีการประชุมกันอยู่หลายๆ ที่ด้วยกัน โดยเป็นคนกลุ่มเดิมๆ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย กับการที่จะขับเคลื่อนประเทศในวันข้างหน้า เราก็อยากสร้างบรรยากาศการปรองดองในการที่จะปฏิรูปประเทศไทย ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ให้ได้ แต่หลายคนก็มีความพยายามที่จะนำพากลับไปสู่สถานการณ์ไม่ปกติ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ดันแก้กม.สำคัญ-ปัดนิรโทษ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การดำเนินการด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของ คสช. ได้พยายามปรับปรุงแก้ไขเรื่องเร่งด่วนไปบ้างแล้ว เรื่องใหญ่ๆ สำคัญๆ ที่มีผลผูกพันกับหลายๆ อย่างต้องไปแก้ใน สนช. ในสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คสช.ต้องการทำกฎหมายทุกอย่างให้เกิดความเป็นธรรมกับคนทุกหมู่เหล่า คนไทยทั้งประเทศ วันหน้าประเทศต้องกลับเข้ามาสู่การเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีการเลือกตั้งที่ทุกพวกทุกฝ่ายพอใจ ต้องพยายามปรับแก้สิ่งเหล่านั้น น่าจะดีกว่าการให้ คสช. แก้ด้วยความรวดเร็ว โดยใช้กฎหมายพิเศษมากนัก
"ฉะนั้นวันนี้อย่าเพิ่งมาติ ให้ร้ายกันตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไร หรือทำไปบ้างแล้ว จะถูก จะผิด จะดี จะไม่ดี กฎหมายต้องตัดสินมา เมื่อจะแก้ไขก็ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีปฏิบัติให้เหมาะสม ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปยกโทษให้ยังไม่มี ทำไม่ได้หรอก คนผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย อันนี้มีไว้สำหรับคนทุกคนที่ผิดกฎหมาย" หัวหน้า คสช.กล่าว
เผยมีแจกใบเขียว-แดง'สปช.'
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คนเข้ามาร่วมสภา
ปฏิรูปฯ ก็ไปตำหนิติติงกันว่าถูกเลือกไว้แล้ว ตนจะไปเลือกใคร คัดสรรมาทั้งหมด คาดว่าเป็น 1,000 2,000 3,000 คน ที่ประมาณการในขณะนี้ วันนี้น่าจะเกือบ 600-700 นี่คือมาสมัครส่วนกลาง ทั้งหมดนี้จะคัดเลือกให้เหลือ 550 คน จากนั้นจะคัดเลือกให้เหลือ 173+77 คนซึ่ง 77 คนนี้มาจากจังหวัด การคัดสรรจังหวัดก็บอกว่าเลือกคนไว้แล้ว เขาก็ตั้งคณะกรรมการคัดสรรไว้ ถ้าเขาทำไม่ดีเขาคงไม่เสี่ยงหรอกผู้ว่าราชการจังหวัด อัยการ ศาลที่เขาเกี่ยวข้องในการคัดสรรนี้ จะไปชี้นำ คนโน้นคนนี้มา เดี๋ยวเขาโดนฟ้องวันหลังคุ้มค่ากับเขาไหม อย่าพูดกันเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ฉะนั้น 173+77 ก็เป็น 250 คน วันนี้ที่ตนมีรายชื่อที่สมัครมา เท่าที่อ่านๆ ดู ไม่รู้จักใครสักคน ไม่รู้จักจริงๆ
"ผมไม่ได้มุ่งหวังจะไปแก้ไขอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ ไปว่ามาปฏิรูป ท่านอยากจะเปลี่ยนอยากจะยุบ อยากจะเลิก ใครก็ไม่ว่า ผมก็ไม่เกี่ยวกับท่านรอผลปฏิรูปออกมาทำได้หรือไม่ การลดความขัดแย้ง ฝ่าย อบต.ต้องหยุดให้ได้ทุกอย่างในสภาปฏิรูป 11 เรื่อง คสช.ไม่เคยมีธง ทั้ง สนช. สปช. ไม่เคยมีธงให้ไปจะทำอะไรก็ทำ วันที่ 4 กันยายนนี้ จะประชุมคณะกรรมการสรรหา โดยผมเป็นประธานครั้งที่ 1 อีก 3 ครั้ง เพื่อจะคัดสรรมาให้ได้ภายในวันที่ 22 กันยายน ทั้งนี้ ทุกอย่างโปร่งใส กรณีที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาแล้วและให้ปฏิบัติหน้าที่แล้วมีการฟ้องร้องว่าไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม อันนี้เราจะให้เข้ามาก่อน เหมือนกับใบเขียวใบแดง ถ้าเขียวก็ทำไปเลย ถ้าแดงเข้ามาก็สอบสวนและปลดออกไป ก็คัดสรรมาใหม่ก็แค่นั้นเอง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ซัดวิจารณ์โยกย้าย'ทหาร-ตร.'
พล.อ.ประยุทธ์กล่าว เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือปรับย้ายในกองทัพ ตำรวจ วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดเสียหาย เขาพิจารณากันหลายคน ไม่ใช่ใครจะไปชี้ตรงโน้น ตรงนี้ได้ มีระเบียบวินัย ทหาร ตำรวจต้องมีวินัย ไม่เคยไปแย่งชิงกัน แย่งชิงตำแหน่งผู้บัญชาการ แย่งกันไม่ได้ ถ้าแย่งต้องตาย ไม่แย่งต้องฟัง สั่งไปแล้ว เซ็นไปแล้ว ประชุมไปแล้ว อนุมัติไปแล้วก็จบแค่นั้น ปีหน้ามาต่อสู้กันด้วยเรื่องการทำงานใหม่
"ผมใช้คำว่าเป็นครอบครัว เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ทหารคือครอบครัวทหาร ตำรวจคือครอบครัวตำรวจ ก็เป็นสังคมระหว่างครอบครัวทหาร ตำรวจก็ต้องมารู้จัก ต้องมาเจอกัน ทำงานด้วยกันไปได้ เป็นเรื่องธรรมดา ฉะนั้นอย่าไปพูดมากให้เสียหาย ทุกอย่างมีระเบียบข้อบังคับกฎหมาย และวินัย" หัวหน้า คสช.กล่าว
ย้ายที่รับสนองโปรดเกล้าฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาตินำชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ สนช.โหวตเลือกดำรงตำแหน่งนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯ มีคำสั่งล่าสุดให้เตรียมความพร้อมจัดพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกฯคนที่ 29 ไปที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เนื่องจากห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ยังปรับปรุงซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลนั้น ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่และคนงานเร่งปรับปรุง ซ่อมแซมภายในและภายนอกตึกต่างๆ อาทิ ตึกไทยคู่ฟ้า มีการรื้อนั่งร้านบริเวณด้านหน้าตึกออกแล้ว เหลือเพียงบริเวณด้านหลัง และด้านข้าง เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งปรับปรุงซ่อมแซมอยู่ ขณะที่คนงานสวนก็ตัดแต่งสนามหญ้า และต้นไม้หน้าตึก ส่วนตึกสันติไมตรียังคงเร่งปรับปรุง ซ่อมแซม และทาสีบริเวณภายนอกตัวอาคารและภายในตัวอาคาร ด้านตึกนารีสโมสรภายนอกอาคารคนงานยังคงทาสีและเก็บรายละเอียดงานโดยรอบตึก ที่เกือบเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนบริเวณภายในมีการติดตั้งโคมระย้า หรือ แชนเดอเลียร์ ส่วนตึกบัญชาการ 1 และ 2 คนงานยังคงเร่งปรับปรุงซ่อมแซมทั้งภายนอกและภายใน
ศรีสุวรรณยื่นสอบโหวตนายกฯ
ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนผ่านนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบสมาชิก สนช. กรณีเสนอชื่อและโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ เนื่องจากอาจเข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งมาตรา 6 ตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 ที่เข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อนกัน เพราะ สนช.มาจากการคัดเลือกและคำแนะนำของหัวหน้า คสช. ซึ่งใน สนช.มีข้าราชการทหารทั้งในและนอกประจำการเกินกว่าครึ่ง
"ดังนั้น การที่ สนช.ให้ความเห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯย่อมเข้าข่าย เกี้ยเซี้ยหรือผลัดกันเกาหลัง ถือได้ว่าการเข้ายึดและควบคุมอำนาจการปกครองประเทศของหัวหน้า คสช.เป็นเพียงเพื่อต้องการดำรงตำแหน่งนายกฯ" นายศรีสุวรรณกล่าว
ชี้คนเดียวกันอำนาจทับซ้อน
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้วางระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจหรือถ่วงดุลระหว่าง คสช.และนายกฯ ที่กำหนดให้ คสช.เสนอให้ สนช.มีมติทูลเกล้าฯให้นายกฯพ้นจากตำแหน่งได้ ดังนั้น หากหัวหน้า คสช.และนายกฯ เป็นคนเดียวกัน เมื่อนายกฯทำความผิด หัวหน้า คสช.จะเสนอชื่อตนเองให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯได้อย่างไร เพราะเป็นบุคคลเดียวกัน จึงเป็นการขัดต่อหลักการพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แม้ว่าจะมีนายกฯและ ครม. ขึ้นมาบริหารประเทศ แต่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวยังกำหนดอำนาจหน้าที่ของหัวหน้า คสช. ไว้ต่อเนื่องแทบทุกด้าน โดยสามารถรายงานให้ประธาน สนช.และนายกฯ รับทราบอำนาจในการสั่งการระงับหรือยับยั้งการกระทำใดๆ ดังนั้นเมื่อหัวหน้า คสช.และนายกฯเป็นคนเดียวกัน จึงเปรียบเหมือนการส่งรายงานมือซ้ายไปให้มือขวารับ
ถอนคำร้องถ้าไขก๊อกหน.คสช.
"สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงร้องเรียนมาที่ผู้ตรวจเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติหรือความเห็นชอบของ สนช. และการยินยอมเป็นนายกฯ ของหัวหน้า คสช.นั้น เป็นการฝ่าฝืนหรือดำเนินการขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวหรือไม่ โดยผมจะถอนคำร้องก็ต่อเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า คสช. เพื่อไม่ให้นั่งถ่างขาควบสองตำแหน่ง เช่นเดียวกับ คสช.คนอื่นๆ ที่อาจได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นรัฐมนตรีก็ควรลาออกจาก คสช.ด้วยเช่นกัน" นายศรีสุวรรณกล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่นๆ ของรัฐไม่ต้องเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เนื่องจากเข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อน ขัดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 และประมวลกฎหมายจริยธรรม
นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินจะเร่งตรวจสอบคำร้องโดยเร็ว แต่เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น การพิจารณาต้องดูทุกแง่ทุกมุมด้วยความรอบคอบ มิเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเฉพาะตัวรัฐธรรมนูญและเจตนารมณ์ของจริยธรรม ที่แตกต่างไปจากรัฐธรรมนูญปี 2550 แม้ขณะนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะอยู่ทำหน้าที่แค่เพียง 2 คน ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ เพราะไม่ว่าจะมีผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่กี่คน งานต่างๆ ก็ยังเดินหน้าได้ตามปกติ
เปิดโผรมต.ทหาร'บิ๊กตู่1'
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. กำลังพิจารณาเลือกบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใน "ครม.ประยุทธ์ 1" บางตำแหน่งยังไม่ลงตัว มีการต่อรอง ปรับเปลี่ยน เนื่องจากมีผู้ใกล้ชิดเสนอบุคคลเข้ามาพิจารณาเพิ่มเติม แต่สำหรับนายทหารที่เป็นรองหัวหน้า คสช. จะนั่งเป็นรองนายกฯควบรัฐมนตรีว่าการแต่ละกระทรวงด้วย โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. และรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายความมั่นคง เป็นรองนายกฯความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.และรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายสังคมจิตวิทยา เป็นรองนายกฯฝ่ายสังคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายกิจการพิเศษ เป็นรองนายกฯและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
'บิ๊กฉัตร'พณ.-'บิ๊กต๊อก'ยธ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่วน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ปรึกษา คสช. และอดีต ผบ.ทบ. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สำหรับ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เลขานุการที่ปรึกษา คสช. และอดีตรอง ผบ.ทบ. ซึ่งหลุดโผรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกวางตัวให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แต่ยังไม่ลงตัว อาจถูกโควต้าของนายทหารใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ เบียดหลุดโผ ครม. ได้แค่เก้าอี้เลขาธิการนายกฯแทน ส่วน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ยังมีนายทหารบางคนเป็นรัฐมนตรีช่วยบางกระทรวงด้วย
เผย'บิ๊กป้อม'ไม่ควบกห.-ไม่เอา
สำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา คสช. อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงทั้งการจัดรายชื่อ สนช. และการสรรหา สปช.นั้น หลายฝ่ายจับตาว่าจะนั่งเป็นรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้น แหล่งข่าวจากนายทหารเปิดเผยว่า "เดิม พล.อ.ประวิตร มีชื่อใน ครม.ชุดนี้ โดยดำรงตำแหน่งรองนายกฯควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่มีแรงต้านจากบางฝ่ายที่มองว่าจะเป็นปัญหาต่อภาพลักษณ์ในอนาคต โดยเฉพาะการเข้ามาคุมกองทัพอีกชั้นหนึ่ง อาจทำให้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ลำบากใจ จึงเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่า การกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่ง เพราะไหนๆ ก็เป็นหัวหน้า คสช. ดูงานรักษาความสงบเรียบร้อยตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวด้วย การคุมกระทรวงกลาโหมเองจะทำให้กองทัพมีเอกภาพ ขาไม่ลอย มีอำนาจดูแลทหารอยู่ในมือ หากเป็นไปตามข้อเสนอนี้ พล.อ.ประวิตรก็คงไม่รับตำแหน่งรองนายกฯ เพราะไม่ได้คุมกองทัพ ก็เหมือนยักษ์ไม่มีกระบอง อย่างไรก็ตามต้องรอดูว่า พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป" แหล่งข่าวทางทหารระบุ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ โดยมีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
สนช.ตั้ง 2 อนุฯถกถอดถอน
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุม สนช. มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่สอง เป็นประธาน โดยเชิญตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดเข้าร่วม โดยที่ประชุมเสนอให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญ 2 ชุด เพื่อศึกษาในส่วนการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง ให้ครอบคลุมกฎหมายที่กำหนดให้มีการพ้นจากตำแหน่ง ทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กฎหมายสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กฎหมายคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมถึงศึกษารายละเอียดเพื่อยกร่างข้อบังคับในส่วนการพ้นสมาชิกภาพของ สนช. เพื่อให้ทันต่อกรอบระยะเวลาการยกร่างข้อบังคับการประชุม โดยกำหนดให้ทั้ง 2 อนุกรรมาธิการแต่งตั้งที่ปรึกษาบุคคลภายนอกได้ไม่เกิน 10 คน เพื่อช่วยทำหน้าที่ศึกษาข้อมูลรายละเอียด
ทั้งนี้ ล่าสุดมีการเพิ่มหมวดการพิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งและการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่ง ในร่างข้อบังคับการประชุมแล้ว
'บิ๊กเต่า'จ่อนั่งรมว.แรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวว่าผู้ที่จะมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีชื่อ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ซึ่ง พล.อ.สุรศักดิ์ถือเป็นเพื่อนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เพื่อให้มาจัดการปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าว รวมถึงการแก้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเรื่องสถานการณ์การค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตาม อีกกระแสหนึ่งมีชื่อนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เนื่องจาก คสช.ต้องการให้มาปฏิรูปกระทรวงแรงงาน
ขณะที่ พอ.อ.วิลาศ อรุณศรี สนช. นายฐาปบุตร ชมเสวี อดีตรองปลัดกระทรวงแรงงาน และนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ที่มีชื่อก่อนหน้านี้ถูกเบียดหลุดโผไปแล้ว
ด้านนายออมสิน กล่าวว่า "ผมไม่รู้ว่าไปเอาข้อมูลมาจากไหน ยืนยันว่ายังไม่ได้รับการทาบทามแต่อย่างใด แต่หากเป็นจริงก็เป็นเรื่องของอนาคต"
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ มีข่าวว่านายยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายบรรพต หงษ์ทอง อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรอง ผบ.ทบ.จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
นายยงยุทธให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ไม่ทราบว่ามีการเสนอรายชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.หรือไม่
ปชป.หนุน'บิ๊กหนุ่ย'รมว.ทส.
นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็นประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ขอฝากนายกฯคนใหม่ว่าควรให้ความสำคัญกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ทส.เป็นพิเศษ เพราะขณะนี้ สถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรเสื่อมโทรม พื้นที่ป่าไม้ถูกบุกรุกยึดครองเป็นจำนวนมาก
"คนที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการ ทส. ต้องเป็นคนเข้มแข็ง จริงจัง เพื่อยึดป่ากลับคืนให้ได้ ประกอบกับเป็นกระทรวงที่มีกองกำลังติดอาวุธกว่าหมื่นคนกระจายอยู่ทั่วประเทศ รัฐมนตรีใหม่ต้องควบคุมกำกับอย่างเข้มงวดเพื่อดูแลปกป้องทรัพยากรธรรมชาติอย่างจริงจัง ไม่ใช่นำไปรับใช้การเมืองเหมือนในอดีต" นายนริศกล่าว
เมื่อถามว่าถ้าตามโผ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ทส. จะเป็นอย่างไร นายนริศว่า "ถูกคน ถูกเวลา ถูกสถานการณ์ที่สุด"
นายอภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า กรณีมีข่าวว่าตนจะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการ วธ.นั้น ยังไม่ทราบ และยังไม่ได้รับการติดต่อทาบทาม ตนเพิ่งมารับตำแหน่ง ปลัด วธ. ยังไม่ถึง 2 เดือน ขอทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อนตามที่ คสช.ไว้วางใจให้มารับหน้าที่ตรงนี้ ส่วนใครจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ วธ. ก็พร้อมทำงานตามนโยบาย
ต่างชาติยินดีไทยมีนายกฯใหม่
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังจากเป็นประธานร่วมเปิดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับละตินอเมริกา (FEALAC) ครั้งที่ 15 ว่า ต่างชาติได้เห็นพัฒนาการของประเทศไทยว่ากลับสู่ภาวะปกติ มีความปลอดภัยและเสถียรภาพ พร้อมกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย และเป็นสิ่งยืนยันว่าไทยยังมีบทบาททางการทูตที่แข็งขัน รวมถึงนโยบายการต่างประเทศมากกว่าตัวบุคคล
"ประเทศที่มาเข้าร่วมประชุมแสดงความยินดีที่ไทยได้นายกฯคนใหม่ ที่ถือว่าเป็นการเดินตามโรดแมป นอกจากนี้ยังสอบถามถึงกระบวนการขั้นต่อไปของโรดแมปที่นำประเทศไปสู่การเลือกตั้ง" นายสีหศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ที่ต่างชาติจะมองว่าไทยมีนายกฯที่เป็นหัวหน้า คสช. นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ต่างชาติคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของไทย ต่างชาติให้ความสำคัญเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและบทบาททางการทูตมากกว่า เชื่อว่าทุกประเทศเข้าใจดีว่าไทยจะกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว เมื่อถามถึงกรณีที่สื่อต่างประเทศรายงานข่าวว่าไทยได้นายกฯภายในเวลา 15 นาที นายสีหศักดิ์กล่าวว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยได้บุคคลที่เหมาะสมแล้วมาเป็นนายกฯ
สหรัฐจี้ไทยเลิกอัยการศึก
ขณะที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยระบุว่า ได้ 'บันทึก'พัฒนาการล่าสุดแล้ว และสหรัฐอเมริกาหวังว่าจะเป็น'ย่างก้าวของกระบวนการที่นำไปสู่การเลือกตั้งรัฐบาลพลเรือนที่เสรีและเป็นธรรม'
แถลงการณ์ของสถานทูตสหรัฐอเมริกายังระบุด้วยว่า "หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวขึ้นมาแล้ว เราขอเรียกร้องให้ดำเนินกระบวนการปฏิรูปอย่างครอบคลุมโดยแท้จริงที่สะท้อนความคิดเห็นที่หลากหลายภายในประเทศ เรายังคงเป็นกังวลกับการจำกัดการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมอย่างเสรีที่ยังคงมีอยู่ และขอเรียกร้องให้นายกฯและ ครม.ยกเลิกคำสั่งห้ามการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมอย่างเสรี เช่นเดียวกับยกเลิกกฎอัยการศึกและการคุมสื่อ"
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ทีมโฆษก คสช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยกเลิกกฎอัยการศึกภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช.เข้ารับตำแหน่งนายกฯว่า ขณะนี้ประชาชนยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็เข้ามาเมืองไทยมากกว่าเดิม การที่ คสช.ยังคงดำรงกฎอัยการศึกไว้ก็เพื่อความสงบเรียบร้อย ขอยืนยันว่ากฎอัยการศึกไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินแต่อย่างใด
'แม้ว'ให้ปล่อยทหารโชว์
แหล่งข่าว พท. กล่าวว่า ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางไปฮ่องกงเพื่อฉลองวันเกิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็ก ที่มีวันคล้ายวันเกิดตรงกับวันที่ 21 สิงหาคม โดยมีคนใกล้ชิดครอบครัวชินวัตร เดินทางไปร่วมแสดงความยินดี นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองของพรรค พท. ส่วนหนึ่งเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณระบุกับผู้ที่ไปพบว่า ตั้งแต่มีการชุมนุมของ กปปส.ทำให้เศรษฐกิจของประเทศทรุดตัวลงเรื่อยๆ และเมื่อ คสช.เข้ามายึดอำนาจ ยิ่งทำให้ภาพรวมของประเทศเสียหาย อย่างไรก็ตามขณะนี้จะมีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว ก็ต้องให้โอกาสเขาทำงานไป หากไปขัดขวางก็จะกลายเป็นว่าไม่ให้ความร่วมมือกับประเทศ อะไรที่จะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องได้ก็ควรให้การสนับสนุน อะไรที่จะเป็นประโยชน์ของประเทศก็ควรให้ความร่วมมือกับเขา ให้โอกาสเขาได้ทำงานอย่างเต็มที่
'มาร์ค'ชี้'บิ๊กตู่'ภาระหนัก
ที่สภากาชาดไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สนช.มีมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ทราบดีว่าภารกิจสำคัญที่จะต้องทำ คือการปฏิรูปประเทศก่อนที่จะคืนการเมืองไปสู่ระบบการเลือกตั้ง ส่วนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ทราบดี โดยเฉพาะกรณีราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ส่วนปัญหาการตรวจสอบนั้น คิดว่าในภาวะไม่ปกติอย่างนี้ ย่อมไม่มีหลายกลไกในการตรวจสอบ รัฐบาลก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้มาก พยายามทำอย่างเปิดเผยและโปร่งใสที่สุด เพื่อแสดงถึงความสุจริตและบริสุทธิ์ใจ แต่ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์รับภาระหนักมากขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ ปชป.ไม่ส่งสมาชิกเข้าร่วม สปช.นั้น เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย จึงไม่สมควรเข้าร่วม สปช. การปฏิรูปจะมีการกำหนดกติกา และในอนาคต ปชป.ต้องเป็นผู้เล่น จึงเห็นว่าคนที่กำหนดกติกาไม่ควรเป็นผู้เล่น ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือให้ข้อมูลในฐานะที่มีประสบการณ์
มึนบัตร สนช. 6 ปีหมดอายุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตถึงวาระการทำงานของ สนช.ว่าอาจนานถึง 6 ปี ไม่ใช่ 1-2 ปี ตามโรดแมป คสช. ทั้งนี้ เพราะบัตรประจำตัวของสมาชิก สนช. ระบุออกบัตรวันที่ 18 สิงหาคม 2557 และวันหมดอายุวันที่ 17 สิงหาคม 2563
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเหตุใดบัตร สนช.จึงระบุวันหมดอายุปี 2563 เชื่อว่าคงเป็นเรื่องระบบการจัดทำบัตรมากกว่า ไม่น่าเกี่ยวกับการส่อเจตนาให้ สนช.มีอายุทำงานนานขึ้น ไม่มีทางเป็นไปได้ สนช.ชุดนี้อยู่ทำงานเต็มที่เพียง 1-2 ปี เมื่อเลือกตั้งใหม่ มี ส.ส.ชุดใหม่เข้ามา ก็หมดหน้าที่แล้ว
พล.อ.ธีรเดช มีเพียร สมาชิก สนช. กล่าวว่า เพิ่งทราบว่าบัตรสมาชิก สนช.ระบุวันหมดอายุในปี 2563 คงต้องถามเลขาธิการวุฒิสภาว่าเพราะเหตุใด ส่วนตัวเห็นว่าการระบุเช่นนี้ไม่มีนัยสำคัญว่า สนช.จะทำงานลากยาว เพราะมีโรดแมปต้องเลือกตั้งภายใน 1 ปี หากทำงานเสร็จเร็ว สนช.ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ แต่หากทำงานไม่เสร็จตามโรดแมป ก็ยังมี สนช.ทำงานได้ เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 และสมาชิก สนช. กล่าวว่า การทำงานของ สนช. มีโรดแมปอยู่ แต่จะอยู่นานแค่ไหน เป็นเรื่องอนาคต ไม่สามารถตอบได้ การที่บัตร สนช.มีอายุถึง 6 ปี สมาชิก สนช.ก็มีการคุยกันบ้าง แต่ต้องรอดูให้ถึงวันนั้น เป็นเรื่องอนาคตที่บอกไม่ได้ รวมถึงต้องให้คณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับการประชุมให้เสร็จก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าจะกำหนดให้ สนช.อยู่ 1-2 ปี หรือกี่ปี
ที่อาคารรัฐสภา 2 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการรับแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิก สนช. วันที่ 2 เป็นไปอย่างเงียบเหงา ยอดรวม 2 วัน มีผู้มายื่นบัญชีเพียง 15 รายเท่านั้น
กกต.เบรกจว.ปิดสรรหาสปช.
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ได้รับแจ้งจาก คสช.ว่ามีคณะกรรมการสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ระดับจังหวัดโทร.ไปสอบถามโดยตรงกับ คสช.ว่าจะปิดการทาบทามบุคคลและปิดรับการเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช. รวมทั้งคัดเลือก 5 คน ช่วงวันที่ 26-28 สิงหาคมนี้ได้หรือไม่ ขอทำความเข้าใจว่าตามแผนงานการสรรหา สปช.ที่ คสช.ตั้งไว้จะใช้เวลาทั้งหมด 50 วัน ขณะนี้อยู่ในช่วงการเปิดรับการเสนอชื่อจากองค์กรนิติบุคคลที่จะเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. 11 ด้าน และทาบทามผู้เหมาะสม รวมถึงการผ่อนคลายให้ผู้ที่ไม่ได้รับการทาบทามแต่ประสงค์จะเข้ารับการสรรหาได้ยื่นแสดงเจตจำนงต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด นับแต่วันที่ 14 สิงหาคม-2 กันยายน
"ดังนั้น ทั้งคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด จะไม่มีการคัดเลือกบุคคลด้านละไม่เกิน 50 คน หรือจังหวัดละ 5 คน ในช่วงเวลานี้ คณะกรรมการสรรหาจะต้องดำเนินการช่วงวันที่ 13-22 กันยายน ตามตารางที่กำหนดไว้" นายภุชงค์กล่าว
เร่งปิดสรรหาหวั่นมีโต้แย้ง
นายภุชงค์ กล่าวว่า จังหวัดที่สอบถามมาบอกว่ามีการทาบทามแล้วและมีผู้ยื่นแสดงความประสงค์เข้ารับการสรรหาครบแล้ว เหมือนเขาคิดว่ามันหมดเวลาแล้ว และจะลงมติเลือกให้เหลือ 5 คนเลย ก็บอกว่าไม่สามารถทำได้ เพราะถ้าดำเนินการก่อนช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนดให้มีการสรรหาคือวันที่ 13-22 กันยายน ก็อาจะทำให้การเปิดรับการเสนอชื่อเกิดปัญหาทางกฎหมายและมีการโต้แย้งได้ รวมทั้งหากคัดเลือกไปก่อนเวลาที่กำหนดการจะรักษาความลับในเรื่องตัวบุคคลไว้จนกว่า คสช.คัดเลือกเสร็จสิ้นเป็นเรื่องยาก
นายภุชงค์ กล่าวว่า ดังนั้น กกต.จึงขอสื่อสารไปยังคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดทุกจังหวัดว่าขอให้ทาบทามและเปิดให้ผู้ที่ประสงค์จะเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ได้ยื่นเอกสารแสดงเจตจำนงจนถึงวันที่ 2 กันยายน ตามที่กำหนดไว้ โดย กกต.จะมีหนังสือแจ้งด่วนไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ให้แจ้งกำชับต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดอีกครั้ง
ชี้รีบปิดถูกมองล็อกสเปก
เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวเท่ากับเป็นการเพิ่มน้ำหนักข่าวคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดล็อกตัวบุคคลเป็น สปช.ไว้แล้วหรือไม่ นายภุชงค์กล่าวว่า ถ้ารีบปิดการทาบทามและปิดรับการเสนอชื่อ ก็จะยิ่งถูกกล่าวหาว่ามีการบล็อกโหวตจริง จึงขอให้ดำเนินการตามตารางเวลาที่กำหนด เจตนารมณ์ของ คสช.ต้องการให้ผู้ที่จะเป็น สปช. มาจากบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถหลากหลาย จริงอยู่ การจะเลือกใครเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการสรรหา แต่ก็ต้องเป็นดุลพินิจที่รอบคอบถูกต้องตามกฎหมาย
นายภุชงค์ กล่าวว่า วันที่ 25 สิงหาคม คณะกรรมการสรรหา สปช.ด้านการศึกษา ขอใช้ห้องประชุมสำนักงาน กกต. เพื่อประชุมเลือกประธานคณะกรรมการสรรหา ส่วนวันที่ 4 กันยายน จะเป็นการประชุมเพื่อเลือกประธานคณะกรรมการสรรหาอีก 10 ด้าน ที่หอประชุมกองทัพบก วิภาวดีรังสิต
นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงการสละสิทธิจากการเสนอตัวเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในฐานะตัวแทนของสำนักงาน กกต.ว่า ที่ประชุมพิจารณาเลือกนายสมชัย ศรีสุทธิยากร และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ เข้ารับการสรรหา สปช. ส่วน กกต.ที่เหลือ พร้อมสนับสนุนตัวแทนของ กกต.ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ที่ตนถอนตัวเพราะต้องการเร่งทำงานด้านการมีส่วนร่วม
9 วัน 1,830 คนสมัครชิงสปช.
ต่อมา นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. วันที่ 9 ว่า มีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. 11 ด้าน ที่สำนักงาน กกต.กลาง 11 ด้าน รวม 138 คน เป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 105 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์ 33 คน