- Details
- Category: การเมือง
- Published: Sunday, 17 August 2014 12:13
- Hits: 6417
คสช.รอดแจงทรัพย์สิน ปปช.ฟันธง ไม่มีกฎหมายบังคับไว้ ศาลทหารมึนปืนหาย 54 กระบอกคดีชุมนุม สปช.3 วันยื่น 222 ราย มทภ.1 รู้ใครทำใบปลิว
สภาผู้แทนฯเปิดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ล้างรัฐสภาต้อนรับการประชุมของ สนช.-สปช. กลุ่มนักวิชาการชี้ ป.ป.ช.ย้ำ ไม่มี กม.บังคับให้ คสช.ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน บุคคลเสนอตัวสรรหา สปช.ทั่ว ปท.รวม 3 วันได้ 222 คน
@ "สภาเปิดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐสภา นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดงานวันแห่งการรวมใจเพื่อสภาพแวดล้อมอนามัยของทุกคน หรือบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ บริเวณโดยรอบภายในบริเวณรัฐสภา จัดโดยสำนักรักษาความปลอดภัย สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
นายจเรกล่าวเปิดงานว่า การจัดทำความสะอาดครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือของ 2 หน่วยงานที่ร่วมกันทำกิจกรรมครั้งสำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อมในการรองรับและสนับสนุนการประชุม ตลอดจนภารกิจของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ รวมทั้งเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้บุคลากรในสำนักงาน เกิดความรัก ความสามัคคี ในการแสดงออกผ่านความร่วมมือกันพิทักษ์รักษาความสะอาด พร้อมทั้งดูแลรักษาสภาพแวดล้อมและร่วมกันทำความสะอาดภายในบริเวณรัฐสภาด้วย 2 มือของพวกเราทุกคน
@ ให้ความสะดวกสมาชิกเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายจเรได้ร่วมกับข้าราชการทั้ง 2 หน่วยงาน ออกกวาดพื้นทำความสะอาดและขัดพื้นบริเวณราชานุสาวรีย์ โดยเจ้าที่ของ กทม.ได้นำรถฉีดน้ำมาร่วมทำความสะอาดทั้งอาคารรัฐสภา 1 และรัฐสภา 2 รวมทั้งบริเวณลานจอดรถของรัฐสภาด้วย
นายจเรให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมรับการประชุม สนช.ด้วยว่า ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุม สนช.แล้ว เรื่องการอำนวยความสะดวกในเรื่องการจอดรถของสมาชิก ได้รับการอนุเคราะห์จากสวนสัตว์ดุสิตที่อยู่ใกล้เคียง น่าจะเพียงพอเพราะที่ผ่านมา ส.ส.-ส.ว. มีประมาณ 650 คน ขณะที่ สนช.และ สปช. มีประมาณ 450 คน ส่วนเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยจะมีการเข้มข้นในการตรวจคนเข้าออก การจัดระเบียบ พร้อมกับให้การสนับสนุนภารกิจการทำงานของ สนช.และ สปช.อย่างเต็มที่
@ "สมคิด"ติงงบวิจัยยังได้น้อย
นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และ สนช.กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ที่ สนช.จะประชุมพิจารณาในวันที่ 18 สิงหาคม ว่าเท่าที่ดูร่างยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถือว่าเดินไปถูกทาง คสช.เน้นเทงบส่วนใหญ่ไปในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษาและสังคม ไม่ใช่เทงบไปใช้ด้านความมั่นคง ทั้งที่ประเทศอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา
นายสมคิดกล่าวว่า สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ได้รับงบสูงที่สุดถือว่าถูกต้อง เพราะการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศ แต่มีข้อสังเกตอยู่นิดเดียวตรงที่จะเน้นไปที่โครงสร้างการจัดการเรียนการสอน เงินเดือนครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นหลัก แต่งบวิจัยยังอยู่แค่ 1% ของงบประมาณด้านการศึกษาทั้งหมด ทั้งที่ควรจะให้ความสำคัญมากขึ้น ไม่ต่ำกว่า 5% หากต้องการให้มหาวิทยาลัยสร้างงานวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ
@ "มศว"แนะเน้นพัฒนาครู
นายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) และ สนช. กล่าวว่า ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณทั้งหมด แต่เท่าที่ดูถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ส่งเสริมการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการเทงบประมาณไปทางด้านการศึกษา ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกันคงต้องลงลึกไปในรายละเอียดว่างบการศึกษาทั้งหมด เน้นนำไปใช้ในการพัฒนาส่วนใดบ้าง เพราะแต่ละเรื่องไม่ควรได้รับงบเท่ากัน แต่ควรจะเน้นไปในส่วนที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วนก่อน อาทิ การพัฒนาครูที่เป็นหัวใจสำคัญของการศึกษา
นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า สนช.อีกคน กล่าวว่า ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดในเรื่องดังกล่าว แต่คาดว่า สนช.จะมีการหารือในเรื่องนี้วันที่ 18 สิงหาคม ส่วนตัวคิดว่าการที่ คสช.เทงบประมาณส่วนใหญ่ไปเพื่อพัฒนาการศึกษาเป็นสิ่งที่ดี และเท่าที่ดูรัฐบาลที่ผ่านมาจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษามาโดยเฉพาะ แต่คงต้องไปดูในเรื่องการนำไปใช้ให้เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะงบวิจัยยังถือว่าน้อยเกินไป
@ "ครูหยุย"เสนอยุบ"สมศ."
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. กล่าวว่า หากให้วิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ในด้านการศึกษานั้น ควรยุบสำนักงานรับรองมาตรฐานและการประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เนื่องจากใช้เงินไม่คุ้มทุน มีการจ้างบริษัทเอกชนมากมายมาทำงานแต่การศึกษาไทยยังคงตกต่ำ หากมีการยุบ สมศ.เชื่อว่าจะประหยัดงบประมาณไปได้มาก ปัจจุบันงบประมาณด้านการศึกษาถือว่ามากสุดแต่ไม่มีประสิทธิภาพ ในปีหน้าประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน แต่การศึกษาไทยในเรื่องภาษายังไม่มีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษาเพื่อนบ้าน ภาษาอังกฤษ ครูผู้สอนไม่ได้ไม่มีคุณภาพแต่ส่วนใหญ่ถูกใช้ให้ทำงานธุรการ หากมีการยุบ สมศ.และนำเงินส่วนนั้นเพิ่มอัตราจ้างฝ่ายธุรการในโรงเรียน เพื่อให้ครูมีเวลาสอนเด็กและทำความเข้าใจกับเด็ก จะทำให้ระบบการศึกษาไทยดีขึ้น
@ เชื่อสนช.พร้อมประชุม18ส.ค.
นายวัลลภยังกล่าวถึงความพร้อมในการประชุม สนช. วันที่ 18 สิงหาคม ว่าตนและสมาชิก สนช.อื่นๆ มีความพร้อมที่จะประชุม ทั้งนี้ การประชุมที่จะเปิดได้นั้นมี 2 รูปแบบ คือ การประชุมอย่างถูกต้อง มีการโปรดเกล้าฯตำแหน่งประธาน สนช.และรองประธาน สนช. ซึ่งการประชุมอย่างถูกต้อง สามารถพิจารณาเรื่องภายนอกได้ อย่างเช่น เรื่องงบประมาณ การสรรหานายกรัฐมนตรี ส่วนการประชุมแบบที่ 2 แบบไม่เป็นทางการ เป็นการประชุมภายใน เรื่องเกี่ยวกับภายใน สนช. เช่นระเบียบข้อบังคับ สนช. เป็นสิ่งที่ต้องมีตามข้อบังคับของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 ในปีนี้มีระเบียบข้อบังคับเพิ่มขึ้นมามี 2 เรื่อง คือ เรื่องของการเข้าประชุม ขาดการประชุม หากไม่ทำตามระเบียบก็จะต้องให้ออกจากการเป็นสมาชิก สนช.
@ เสนอโหวตเลือกนายกฯเปิดเผย
นายวัลลภกล่าวว่า ส่วนอีกเรื่องคือ การสรรหานายกรัฐมนตรี จะเป็นการสรรหาแบบใด ลงคะแนนเปิดเผยได้หรือไม่ และจะตัดสินคะแนนเสียงอย่างไร ต้องมีคะแนนมากกว่าเท่าไหร่ ในความเห็นมองว่าควรจะเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผย เพราะสมาชิก สนช.มาอย่างเปิดเผย ส่วนเสียงที่จะได้รับเลือกเป็นนายกฯก็อยากให้อยู่ในอัตรา 2 ใน 3 ของสมาชิก สนช.ทั้งหมด 197 คน เชื่อว่าสมาชิก สนช.ทุกคนพร้อมเปิดเผยทุกเรื่อง
พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะสมาชิก สนช. กล่าวถึงการทำหน้าที่สมาชิก สนช. ว่าต้องรอการโปรดเกล้าฯ ประธาน สนช.ลงมาก่อนที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใครก็เป็นไปตามข่าวที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ว่าต้องการอยากให้ใครเป็น ก็คนๆ นั้นคงเลือกไม่ยาก เมื่อได้นายกฯเข้ามาแล้ว ขั้นตอนต่อไปนายกฯ ต้องเร่งขับเคลื่อนทำงานกันอย่างเต็มที่ พร้อมกับแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
@ "พีระศักดิ์"เผยอาจเลื่อนประชุม
นายพีระศักดิ์ พอจิต ว่าที่รองประธาน สนช.คนที่ 2 กล่าวถึงกำหนดการนัดประชุม สนช. ว่าตามกำหนดที่วางกันไว้ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ จะมีการเรียกประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 วาระแรก แต่จนถึงตอนนี้ คงไม่ทันตามกำหนดต้องอยู่ที่การตัดสินใจของนายพรเพชร วิชิตชลชัย ว่าที่ประธาน สนช.จะดำเนินการอย่างไร ส่วนที่มีข้อเสนอว่าให้เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สนช.เป็นผู้ออกหนังสือเรียกประชุม สนช.แทนนั้น เท่าที่ทราบไม่เคยมีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ โดยมารยาทแล้วไม่ควรทำ เพราะในเมื่อที่ประชุมลงมติเลือกตำแหน่งประธานและรองประธาน สนช.เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนี้แล้ว ก็ควรจะรอให้มีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานและรองประธาน สนช.อย่างเป็นทางการก่อน
ถามถึงความคืบหน้าของการร่างระเบียบข้อบังคับการประชุม สนช. นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ได้ส่งร่างที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาร่างไว้เป็นตุ๊กตาส่งกลับให้สมาชิก สนช.ที่สนใจจะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างข้อบังคับการประชุม สนช.ไปศึกษาไว้ล่วงหน้า เพื่อรอให้ที่ประชุมเห็นชอบในการตั้งคณะ กมธ.ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ หากสมาชิกยังเห็นแย้งกันถึงขั้นตอนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ก็จะหารือกันในคณะ กมธ. ขณะนี้มีสมาชิกทั้ง ทหาร และอดีต ส.ว.ให้ความสนใจแล้ว 19 คน และเมื่อคณะ กมธ.พิจารณาปรับแก้กันจนได้ข้อยุติแล้ว ก็จะนำกลับเข้ามาที่ประชุมใหญ่ สนช.ลงมติเห็นชอบหรือไม่ต่อไป
@ ป.ป.ช.ไม่สอบบัญชีคสช.
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกระแสสังคมบางส่วนเรียกร้องให้มีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ คสช.ว่า ป.ป.ช.คงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ กฎหมายกำหนดให้ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สินและต้องเปิดเผยต่อสาธารณชน มีเพียงนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) ส.ส.และ ส.ว.เท่านั้น ตำแหน่ง คสช.ไม่ได้ถูกระบุไว้ในกฎหมาย เพราะเป็นตำแหน่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น แม้สังคมอยากให้ยื่นเพื่อแสดงความโปร่งใส ป.ป.ช.ก็ไม่มีอำนาจไม่รู้จะหยิบยกกฎหมายฉบับใดมาใช้
นายสรรเสริญกล่าวว่า เพียง ป.ป.ช.จะตีความว่า คสช.ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สินหรือไม่ ก็อาจถูกนักกฎหมายโจมตีได้ว่าจะใช้อำนาจอะไรมาวินิจฉัย ทั้งนี้ คสช.มีหน้าที่ดูแลงานด้านความมั่นคงเป็นหลัก ไม่มีอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินเหมือน ครม.จึงไม่ต้องยื่นและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินฯ อย่างไรก็ตาม หาก คสช.ส่วนใหญ่เข้ามาเป็น ครม.ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องยื่นและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณชนอยู่แล้ว
@ แนะสนช.ไม่ต้องกลัวยื่นบัญชีฯ
นายสรรเสริญกล่าวว่า กรณีสมาชิก สนช.บางส่วนเป็นห่วงว่าอาจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ เพราะไม่เคยยื่นมาก่อนและมีเอกสารประกอบจำนวนมากนั้น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะไปอธิบายทำความเข้าใจให้ทราบอีกครั้ง
"สมาชิก สนช.กลัวจะยื่นเอกสารผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจนั้นไม่ต้องเป็นห่วง หรือยื่นเอกสารล่าช้าไม่ทันกำหนด เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก ป.ป.ช.ขยายเวลายื่นให้ 2-3 วันได้ จะดูเจตนาเป็นหลัก ต้องไม่มีเจตนาแจ้งเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ไม่เคยชี้มูลความผิดเรื่องบัญชีทรัพย์สินฯกรณีที่ยื่นผิดพลาดโดยไม่มีเจตนากระทำผิดเลย แต่ถ้าเจตนายื่นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงก็จะมีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช." นายสรรเสริญกล่าว
@ เร่งสอบจับมือปล่อยใบปลิว
กรณีมีผู้ก่อเหตุโปรยใบปลิวโจมตี คสช. บริเวณถนนราชดำเนินนอก หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่แยก จปร. ถึงแยกมัฆวานฯ แขวงวัดโสมนัสฯ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 สิงหาคมนั้น พ.ต.ท.วันชัย ชูจิตร รอง ผกก.สส.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียวโปรยใบปลิวทิ้งไว้ โดยมุ่งหน้าจากถนนราชดำเนินนอกไปทางสะพานมัฆวานรังสรรค์ จากภาพกล้องวงจรปิดยังไม่เห็นภาพทะเบียนรถที่แน่ชัด ต้องตรวจสอบกล้องบริเวณใกล้เคียงทั้งหมดก่อน
พ.ต.อ.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า ใบปลิวที่พบหน้า บก.ทบ. น่าจะมีลักษณะคล้ายกัน ส่วนการโปรยใบปลิวที่หน้าศูนย์ราชการ ในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนหน้านี้ ค่อนข้างติดตามได้ยากเนื่องจากไม่มีพยานในที่เกิดเหตุ ต่างกับที่หน้า ป.ป.ช.นนทบุรี และหน้า บก.ทบ. มีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจน
@ คสช.เชื่อ"ใบปลิว"แค่ก่อกวน
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ในฐานะทีมโฆษก คสช. เปิดเผยความคืบหน้าผู้ไม่หวังดีโปรยใบปลิววิพากษ์วิจารณ์ คสช. ว่าการจับกุมเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก ทางเจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าดูและต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น หากพบว่ามีบุคคลแสดงออกเช่นนี้ต้องรีบดำเนินการทันที แม้จะเป็นการแสดงออกที่ไม่มีความรุนแรง แต่ไม่ค่อยมีเหตุผล เป็นพฤติกรรมก่อกวนมากกว่า คนในสังคมคงไม่ให้น้ำหนัก และคงไม่ใช่การส่งสัญญาณใดๆ สำหรับบุคคลที่เห็นต่าง เพราะมีวิธีการแสดงออกอันเป็นมาตรฐานสากล เช่นการยื่นหนังสือร้องเรียนต่างๆ เป็นต้น
@ "บิ๊กหมู"ชี้มือปล่อยเป็นกลุ่มเดิม
พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) กล่าวถึงกรณีใบปลิวโจมตี คสช. ว่าถือเป็นหน้าที่ของตนรับผิดชอบดูแล รู้อยู่แล้วว่ายังมีกลุ่มบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีต่อการทำงานของ คสช. เป็นกลุ่มเดิมๆ ที่เคยโปรยใบปลิวบริเวณแยกหลักสี่ รู้กันอยู่ว่าเป็นกลุ่มไหน อยากขอร้องอย่าทำเช่นนี้อีก ไม่ได้ประโยชน์อะไร มีอะไรมาคุยกันดีไหม พร้อมให้ความร่วมมือและพร้อมแก้ไขปัญหาให้ทุกเรื่อง ตนได้ติดตามกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เราทำงานกันมาเพราะต้องการความรักความสามัคคีของประชาชนในชาติ ไม่ใช่ว่าเราทำไม่ดี ฉะนั้น มาพูดคุยกันดีกว่าไหม
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้สั่งการอะไรกับเรื่องใบปลิวหรือไม่ พล.ท.ธีรชัยกล่าวว่า หัวหน้า คสช.ไม่ได้เป็นห่วงอะไร โดยให้ตนจัดการ คงไม่ต้องสั่งอะไรเป็นพิเศษ เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของ กกล.รส.อยู่แล้ว เราต้องเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลเหล่านี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ มีอยู่บ้างเป็นพวกใต้น้ำที่คอยดูการทำงานของ คสช. คนพวกนี้เหมือนกับว่ามีความผิดเยอะเพียงแต่ยังไม่ผุดออกมา อยากขอร้องสื่อมวลชนหรือประชาชนทั่วไปอย่าไปให้ความสำคัญ
@ ยังไม่ยกเลิก"กฎอัยการศึก"
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกในเร็วๆ นี้ พล.ท.ธีรชัยกล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา ขอดูอีกสักพักหนึ่ง ถ้ายกเลิกไป เจ้าหน้าที่จะทำงานลำบากเพราะจะไม่มีกฎหมายรองรับ ประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เดือดร้อนกับกฎอัยการศึกเลย คนที่เดือดร้อนคือคนที่มุ่งคิดร้ายต่อประเทศชาติ จ้องทำในสิ่งที่ไม่ดี จะก่อกวนจะปั่นป่วน ทุกวันนี้เขารู้หรือไม่ว่ายังมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่ ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะสถานการณ์ขณะนี้ปกติไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง ถ้าไปยกเลิกในวันนี้ คสช.จะไม่มีเครื่องมือในการทำงาน จะลำบากในการทำงานแต่ละพื้นที่รวมถึงอาจจะมีการเคลื่อนไหวกันขึ้นมาอีก
@ ปชป.สงสัยใช้งบทีวีสภาไม่เหมาะ
เมื่อเวลา 08.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม ปชป. แถลงกล่าวการใช้งบในส่วนของสภาไม่โปร่งใสว่า ได้รับการร้องเรียนการใช้งบประมาณของรัฐเกินความจำเป็น เพื่อบริหารงานสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภายุครัฐบาลชุดที่แล้ว โดย ผอ.สถานีโทรทัศน์ดังกล่าวได้จัดอีเวนต์เปลี่ยนตราสัญลักษณ์ ตั้งรางวัลชนะเลิศ 1 แสนบาท แต่หลังจาก คสช.บริหารประเทศ ผอ.สถานี มีคำสั่งเปลี่ยนสีโลโก้เป็นสีขาว พร้อมสั่งห้ามใช้ตราโลโก้เดิม นอกจากนี้ ยังจัดซื้อรถถ่ายทอดสด DSNG และดัดแปลงตัวถังยี่ห้อเบนซ์ ทำให้เกิดความไม่สมดุล เพราะสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภายังต้องขอเช่าคลื่นความถี่ในการถ่ายทอดสดเป็นรายครั้ง ปัจจุบันรถถูกนำไปเก็บซุกไว้ที่สถานีวิทยุรัฐสภา ซอยอารีย์สัมพันธ์ (เขตพญาไท) ยังมีการกระทำที่อาจเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผลิตรายการโทรทัศน์รัฐสภา เลือกบริษัทที่เป็นพรรคพวกกับ ผอ.สถานี ซึ่งประมูลไปในราคา 30 ล้านบาทในปีแรก และต่อสัญญาปีที่ 2 ในราคา 24 ล้านบาท ในยุคที่มีนายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภาด้วย
"ยังมีการใช้อำนาจหน้าที่แต่งตั้งโยกย้ายบุคลากรด้านผลิตรายการไปอยู่ในส่วนงานเอกสาร ซ้ำยังเปิดรับพนักงานจ้างเหมาไม่คำนึงถึงวุฒิการศึกษา ความสามารถและประสบการณ์ เอื้อให้ค่าตอบแทนรายเดือนเกินกว่าหน้าที่ ขอให้นายจเร พันธุ์เปรื่อง ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และเห็นว่าควรจะสั่งย้าย ผอ.สถานีให้พ้นจากตำแหน่งในช่วงที่มีการสอบสวนข้อเท็จจริง" น.ส.รังสิมากล่าว
@ สมัครสภาปฏิรูปฯวันที่3
การเปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เวลา 08.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในช่วงเช้ามีบุคคลเดินทางมาสมัคร สปช. จำนวน 3 ราย โดยโรงเรียนบ้านละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ส่งเข้ารับการสรรหา 2 ราย คือ ร.ต.ต.ชยคม อุดมทรัพย์ เข้าสรรหาด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และ พ.ต.ท.สำราญ สุธรรม สรรหาด้านสังคม ส่วนสมาคมพบสุขส่งนายสุจิต เหมวัล สรรหาด้านการศึกษา จากนั้นยังมีผู้สมัครเดินทางทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
@ "ลีน่า จัง"หลั่งน้ำตาถอนตัวสปช.
เวลา 10.15 น. นางลีน่า จังจรรจา หัวหน้าพรรคมหาประชาชน เดินทางมาขอเอกสารการสมัคร สปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมคืน กล่าวด้วยเสียงสะอื้นกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่สมัครแล้ว เพราะขาดคุณสมบัติ กกต.มีระเบียบว่าผู้ที่มาสมัครต้องไม่เคยโดนเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง แต่มติ กกต.ให้ใบแดงเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม จากการลงสมัคร ส.ว.ครั้งที่ผ่านมา ทาง กกต.กล่าวหาว่าหาเสียงเกินจริงเข้าข่ายหลอกลวง ซึ่งข้อเท็จจริงเคยมาให้ปากคำกับ กกต.แล้วว่าร้านทำป้ายทำผิดพลาดเพราะลืมใส่คำว่า "เสนอกฎหมาย ยุติขึ้นราคาแก๊สหุงต้มและแอลพีจี" เรื่องนี้ถือว่าประชาชนมีสิทธิที่จะเสนอกฎหมายได้และไม่เป็นธรรมกับตน ทำให้รู้สึกเครียดมากจนเมื่อคืนวันที่ 15 สิงหาคม คิดอยากฆ่าตัวตาย ใช้กระดาษทิชชูอุดจมูก แต่ไม่ทำเพราะกลัวเจ้าหน้าที่ กกต.จะลำบาก อาจจะถูกกล่าวว่าทำให้ตนต้องฆ่าตัวตาย
@ นั่งขวางประตูขอเจอ"ภุชงค์"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. มีกำหนดแถลงข่าวในเวลา 10.30 น. แต่นางลีน่า จังได้นั่งขวางประตูทางเข้าห้องรับสมัครบุคคลที่จะเป็น สปช.ก่อนเวลาแถลงข่าว พร้อมกล่าวถึงเหตุผลที่นั่งขวางว่า ต้องการพบนายภุชงค์เพื่อขอความเป็นธรรมและส่งเอกสารบัญชีค่าใช้จ่ายการสมัคร ส.ว. และอยากได้เอกสารการสมัคร สปช.คืน ยืนยันว่าไม่ได้มาขัดขวางการรับสมัคร สปช.ครั้งนี้แต่อย่างใด
ต่อมานายภุชงค์ได้เดินทางมาพูดคุยกับนางลีน่า จัง กล่าวว่า ขณะนี้คดียังไม่ถึงที่สุด ถือว่ายังมีคุณสมบัติอยู่ เพราะ กกต.ต้องส่งเรื่องให้ศาลฎีกา คงไม่ถึงขั้นที่จะต้องติดคุกหากแจ้งเอกสารเท็จ โดยเอกสารหลักฐานที่นางลีน่าส่งมานั้นยังอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติของเจ้าหน้าที่อยู่ ทั้งนี้ ไม่จำเป็นที่นางลีน่าต้องขอเอกสารคืน เพราะก่อนที่จะส่งรายชื่อให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กกต.จะทำหมายเหตุไว้อยู่แล้วว่าใครขาดคุณสมบัติหรือไม่
@ ถก11คณะนัดแรกสัปดาห์หน้า
ต่อมา นายภุชงค์ได้แถลงข่าวว่า มอบหมายให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กกต.ประสานไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 และช่อง 9 เพื่อขึ้นข้อความประชาสัมพันธ์ เป็นตัววิ่งว่ามีการเปิดรับสมัครสรรหา สปช.ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม ถึงวันที่ 2 กันยายน โดยสัปดาห์หน้าวันที่ 19 หรือ 20 สิงหาคม จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหา สปช.ทั้ง 11 คณะเป็นนัดแรก ที่สำนักงาน กกต. เพื่อกำหนดแนวทางในการคัดเลือกบุคคลที่มาสมัคร
@ สรรหาสปช.3วันรวม222คน
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ กกต. นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต.ด้านการเลือกตั้ง แถลงสรุปการเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.วันที่ 3 ว่ามีการเสนอชื่อนิติบุคคล 19 คน โดยเดินทางมายื่น 15 คน ทางไปรษณีย์ 4 คน ส่วนของต่างจังหวัด 12 คน รวม 31 คน เมื่อรวมยอด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-16 สิงหาคม ใน 11 ด้าน แบ่งเป็น นิติบุคคล 78 คน ต่างจังหวัด 144 คน ยอดรวมจำนวน 222 คน เป็นเพศชาย 203 คน เพศหญิง 19 คน
ส่วนอายุแบ่งเป็นระหว่างอายุ 35-45 ปี จำนวน 20 คน อายุ 46-55 ปี จำนวน 57 คน อายุ 56-65 ปี จำนวน 93 คน อายุเกิน 65 ปี จำนวน 52 คน ส่วนวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี 31 คน ปริญญาตรี 71 คน ปริญญาโท 96 คน และปริญญาเอก 25 คน ทั้งนี้ จะมีการรับสมัครต่อในวันที่ 17 สิงหาคม จนถึงวันที่ 2 กันยายนนี้
@ ชพ.ชง"บิ๊กเยิ้ม"สรรหาสปช.
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรคชาติพัฒนา (ชพ.) กล่าวว่า ตามที่พรรค ชพ.ให้ความสำคัญกับนโยบายการปฏิรูปประเทศและพร้อมที่จะนำเสนอข้อเสนอแนวคิดในการปฏิรูปประเทศ ทาง นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้า ชพ.
พร้อมเสนอชื่อ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาค 2 เป็นตัวแทนของ ชพ. เข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ซึ่ง พล.อ.ธวัชชัยเคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นอดีตรองหัวหน้า ชพ. และเป็นนายทหารผู้มีความจงรักภักดี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน มีประสบการณ์ด้านการรักษาความมั่นคงของประเทศเป็นอย่างดี มีส่วนร่วมในการเจรจารักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวเขตชายแดนภาคอีสานกับประเทศเพื่อนบ้านในอินโดจีน มีบทบาทสำคัญในการเข้าไปแก้ไขปัญหาความยากจนภาคอีสาน มีประสบการณ์ที่เหมาะสมในการจะเข้าไปทำหน้าที่ในสภาปฏิรูป
@ หลายภาคส่วนร่วมลุ้นที่เชียงราย
ผู้สื่อข่าวรายงานบุคคลที่สนใจขอสรรหาเพื่อเป็น สปช.จังหวัด โดยเสนอชื่อให้คณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัดพิจารณาแต่งตั้งจังหวัดละ 5 คน แล้วเสนอให้ คสช.คัดเลือกเหลือจังหวัดละ 1 คนนั้น
ที่ จ.เชียงราย พบว่ามีผู้สนใจยื่นขอรับการสรรหาชิง สปช.เชียงรายแล้ว อาทิ นายสุรศักดิ์ ดุรงคชยานุรักษ์ ภาควิชาชีพ นายบันลือ วิมลพันธุ์ นายประสิทธิ์ บุญยืน ภาควิชาการ นายชอบ ชัยธรรม นายธนพงษ์ผจญ สุตะพญา ภาคเอกชน และยังมี ด.ต.เย็น สืบคำแก้ว อดีตนายก อบต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ก่อนหน้านี้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองค่อนข้างมากต่างเก็บตัวเงียบ
@ แดงเชียงใหม่หนีลงที่กรุงเทพฯ
นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ กล่าวถึงการสรรหา สปช.ระดับจังหวัดว่าคณะกรรมการสรรหาไม่ทาบทามหรือชักชวนใคร แต่ให้เสนอตัวเอง เปิดกว้างให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม มีผู้สนใจสอบถามหลายราย อยากให้คณะกรรมการสรรหาใช้ดุลพินิจคัดเลือกอย่างเป็นธรรมและไม่ได้ล็อกสเปก เชื่อว่าเชียงใหม่จะได้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม 5 คน ส่งให้ คสช.พิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายองอาจ ตันธนสิน แกนนำแนวร่วม นปช.แดงเชียงใหม่ และนายพรศักดิ์ สังข์สังวาลย์ ประธานสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ ได้เสนอตัวขอลงสรรหาในนามองค์กรนิติบุคคลที่กรุงเทพฯแล้ว นายองอาจลงในนามสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาเชียงใหม่ นายพรศักดิ์ลงในนามสภาทนายความจังหวัด เนื่องจากมีโอกาสมากกว่าการสรรหา สปช.จังหวัด ที่มีการวางตัวนักวิชาการ ผู้บริหารท้องถิ่น และข้าราชการบำนาญไว้บ้างแล้ว
นายบวร ศรีเปารยะ ประธานพรรคประชาธิปัตย์ สาขาเชียงใหม่ กล่าวว่า สนใจลงสรรหา สปช.จังหวัดอยู่ อยากมีส่วนร่วมปฏิรูปประเทศ แต่พรรคไม่ส่งใครและไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องดังกล่าว ต้องใช้องค์กรอื่นรับรองแทน ขณะนี้ยังหาไม่ได้ ถ้าไม่มีหรือไม่ทันกำหนดเสนอตัวภายในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะทำเต็มที่แล้ว
@ พี่ชายส.ส.ลงลุ้นปากน้ำโพ
นายละม่อม ชัยโย ประธาน กกต.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า มีผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ยื่นใบสมัครเพื่อรับการสรรหาเป็น สปช.นครสวรรค์แล้ว 11 คน เช่น อดีต ส.ส. ส.ว. อดีตข้าราชการระดับสูง นายทหาร ทนายความ เกษตรกร และสื่อมวลชน มายื่นใบสมัคร และยังมีอีกหลายรายที่มาขอรับใบสมัคร คาดว่าวันสุดท้าย 22 สิงหาคม จะมีผู้สมัครเกิน 20 คน แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคการเมืองต่างๆ ได้ส่งตัวแทนสมัครเป็น สปช.กันคึกคัก ส่วนใหญ่ส่งเข้ามารับการสรรหาผ่านระบบตัวแทน เช่น หัวคะแนน คนใกล้ชิด ล่าสุด ร.อ.จักรวาล ตั้งภากรณ์ อดีตรองนายก อบจ.นครสวรรค์ และอดีต ส.ว.ปี 2557 พี่ชาย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และเป็นอดีต ส.ส.นครสวรรค์ 2 สมัย พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เดินทางมาขอรับใบสมัครสรรหาเป็น สปช.นครสวรรค์แล้ว ขณะที่อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย 2 สมัยอย่างนายสมชัย เจริญชัยฤทธิ์ หรือติ่งมิตซู ยื่นใบสมัครร่วมการสรรหาเป็น สปช.นครสวรรค์ เช่นกัน
ด้านนายสุคนธ์ เรือนสอน ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กต.) ประจำจังหวัดลำปาง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหา สปช. กล่าวว่า มีบุคคลที่สนใจขอสรรหาเข้ามาสมัครแล้ว 4 คน ได้แก่ ดร.นิมิตร จิวะสันติการ อดีตนายกเทศมนตรีนครลำปาง พ.ต.อ.โอภาส จันทร์ปิง อดีตข้าราชการตำรวจ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 3 พรรครักษ์สันติ พ.อ.รังสรรค์ มณีรัตน์ ข้าราชการบำนาญ และนายอธิพันธุ ทารักษ์ ทนายความ
@ อุบลฯแห่ส่งประกวดร่วม40คน
นายประยุทธ ชุมนาเสียว ประธานสภาองค์กรชุมชน จ.อุบลราชธานี ในฐานะกรรมการสรรหา สปช. กล่าวว่า มีผู้ที่สนใจขอยื่นเสนอตัวแล้วประมาณ 40 คน ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ อาจารย์มหาวิทยาลัย และอดีตนักการเมือง เช่น รศ.ดร.เสถียร ยุระชัย อาจารย์พิเศษ มรภ.อุบลราชธานี นายกุญชร สุธรรมวิจิตร อดีตผู้สมัคร ส.ว.อุบลราชธานี นายอดิศักดิ์ กุลวงษ์ ทนายความ อดีตสมาชิกพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ปชป. นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย อดีตผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี นายไสว ศรีจันทร์ อดีตพนักงาน ธ.ก.ส.และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ว.อุบลราชธานี
นายอภิรัตน์ จันทนฤกษ์ ผอ.กต.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาจังหวัด เปิดเผยว่า ที่ จ.บุรีรัมย์ ยังไม่มีผู้มาเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา หากยังไม่มีผู้มาสมัครหรือไม่ครบตามจำนวน 5 ราย ทางกรรมการสรรหาจะใช้วิธีการทาบทามบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นตัวแทนต่อไป
@ สุราษฎร์ฯได้อัยการ-อาจารย์ร่วม
นายทนงศักดิ์ ทวีทอง นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในฐานะเป็นกรรมการสรรหา ได้ส่งชื่อนายโกวิท ศรีไพโรจน์ อัยการประจำกรม สำนักงานอัยการภาค 8 สุราษฎร์ธานี และนายวิศาล ศรีมหาวโร อาจารย์ มรภ.สุราษฎร์ธานี ให้สำนักงาน กกต.สุราษฎร์ธานี เป็นชุดแรก ไว้รอรวมกันกับกรรมการสรรหาอื่นอีก 4 คน เพื่อพิจารณาให้เหลือ 5 คน เสนอต่อ คสช.
ที่ จ.สงขลา มีผู้มายื่นขอสรรหาเป็น สปช.สงขลา 2 ราย คือ นายธนัท กุลสุขสว่าง และนางอมรรัตน์ ศรีสถิตวงศ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลสำนักขาม
ที่ จ.ภูเก็ต สภาทนายความจังหวัดภูเก็ตเตรียมเสนอชื่อนายชัยยศ ปัญญาไวย ประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต และอดีต ส.ว. ปี 2557 เป็นตัวแทน
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้ทาบทามผู้มีคุณสมบัติเป็นที่ยอมรับ ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมือง และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สามารถเข้าไปทำหน้าที่ได้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
@ "เมืองคอน"แห่สมัครกว่า50คน
นายสมบัติ จันทรา ผอ.กต.ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการคัดสรร สปช. เปิดเผยว่า สิ่งที่ห่วงในเวลานี้คือกลัวคนดีคนเก่งไม่กล้าสมัคร เพราะบทเรียนในการสมัครมีให้เห็น เมื่อคนดีคนเก่งไม่กล้าลงสมัครหรือเสนอตัวเองแล้ว ยังเหลือวิธีการทาบทามอีกชั้นหนึ่ง มั่นใจว่า สปช.นครศรีธรรมราช จะได้คนที่มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมอย่างแน่นอน ที่สำคัญมีบุคคลสนใจในการทำหน้าที่นี้เป็นจำนวนมาก เข้ามาสมัครไม่ต่ำกว่า 50 คนแล้ว
@ ปืน54กระบอกหายจากศาลทหาร ของกลางยึดจากที่ชุมนุมการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม เวลา 20.00 น. พ.ท.สุรวุฒิ ศรีอังกูร ได้รับมอบอำนาจจากตุลาการพระธรรมนูญ หัวหน้าศาลทหารกรุงเทพ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ร.อ.ชินพล ออรุ่งโรจน์ และ จ.ส.อ.สมเกียรติ ม้ายอง ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์เบียดบังทรัพย์เป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย และเอาไปเสียซึ่งทรัพย์ที่ได้ส่งไว้ต่อศาล หรือที่ศาลให้การรักษาไว้ในการพิจารณาคดี หรือทรัพย์สินที่ได้มีคำพิพากษาให้ริบ และลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ และเอาไปเสียซึ่งทรัพย์ที่ได้ส่งไว้ต่อศาล หรือที่ศาลให้ไว้ในการพิจารณาคดี เหตุเกิดที่ศาลทหารกรุงเทพ แขวงพระบรมมหาราชวัง กทม.
สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2557 ในช่วงเวลากลางวัน ศาลทหารกรุงเทพได้พิจารณาคดีพยายามฆ่าและคดีฆ่าผู้อื่นตามลำดับ ในวันนั้นมีการเบิกอาวุธของกลางที่เก็บไว้ในแผนกเก็บรักษา เพื่อมาให้โจทก์ยืนยันของกลางในคดีแต่ไม่พบ โดยวันที่ 23 กรกฎาคม เป็นอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ ซีแซด หมายเลขทะเบียน กท. 4916390 และ วันที่ 24 กรกฎาคม เป็นอาวุธปืนสั้น รีวอลเวอร์ ขนาด .38 ยี่ห้อ