วันที่ 06 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8652 ข่าวสดรายวัน


สมัครสปช. เริ่มเปิดรับ 14 สค.'
ดาว์พงษ์'อู้อี้ว่า ที่ รมต. ยูเอ็นจี้คลี่ปมกริชสุดา ปปช.ส่งคดีข้าวให้อสส. ทนาย'ปู'ยื่นโต้แย้ง 7 ข้อ


ศิษย์เก่า - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า เนื่องในวันพระราชทานกำเนิดสถาบันครบรอบ 127 ปี เมื่อวันที่ 5 ส.ค.

       ดีเดย์ 14 ส.ค. รับสมัครสปช. "บิ๊กตู่" เล็ง 9 ส.ค. เปิดตัวกก.สรรหาสปช. 11 ชุด คาด 50 วันตั้งเสร็จ สภาพร้อมจัดรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา 7 ส.ค. หลังสมาชิกสนช.รายงานตัวครบ 198 คน ส่วน 2 คนที่ขาด คสช.เล็งตั้งเพิ่มภายหลัง บิ๊กทหารพรึ่บ ร่วมงาน 127 ปีจปร. ดาว์พงษ์ไม่ตอบ ถูกทาบนั่งมท.1 ป.ป.ช.ส่งคดีจำนำข้าวให้อัยการสูงสุดแล้ว ด้านอสส.เผยพร้อมเปิดให้"ปู"ร้องขอความเป็นธรรม ยูเอ็น-*ฮิวแมนไรต์จี้สอบปม"กริชสุดา"

บิ๊กทหารพรึ่บ-127 ปีจปร.

      เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมงานวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนครบรอบ 127 ปี และงานรั้วแดงกำแพงเหลือง มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ศิษย์เก่า ผู้แทนหน่วยสังกัดกองทัพไทย กองทัพบก และส่วนราชการต่างๆ อาทิ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสธ.ทหาร พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. พล.อ.อักษรา เกิดผล เสธ ทบ. 

       ส่วนอดีตนายทหารนอกประจำการ อาทิ พล.อ.สมทัศน์ อัตตนันทน์ อดีต ผบ.สส. รวมถึงแคนดิแดตที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรอง ผบ.ทบ. 

      สำหรับนายทหารสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อาทิ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร พล.อ.วิลาศ อรุณศรี พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอรรตถ์ พล.อ.วิชิต ศรีประเสริฐ พล.อ.สกล ชื่นตระกูล พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ พล.ท. วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล พล.อ.จีรศักดิ์ ชมประสพ พล.ท.อดุลยเดช อินทะพงศ์ พล.ท. พิสิทธิ์ สิทธิสาร รวมถึงแม่ทัพภาค 1-4 โดยช่วงเช้ามีพิธีถวายพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ หน้าอาคารกองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์จะกล่าวมุทิตาจิตให้บรรดาครูอาจารย์ผู้ฝึกสอนนักเรียนนายร้อย จปร. เพื่อเป็นขวัญกำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ 

ดาว์พงษ์อู้อี้ถูกทาบนั่งมท.1

      พล.อ.ดาว์พงษ์ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวถูกวางตัวเป็นรมว.มหาดไทยว่า ไม่ทราบ ไม่รู้ว่าข่าวมาได้อย่างไรว่าบุคคลใดจะได้เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้เรียกคุยหรือมีใครมาทาบทามตน ยังไม่ถึงเวลาพูดเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ทราบดีว่าใครเหมาะสม ท่านจะเป็นผู้เลือกจะเป็นรัฐมนตรีเอง

      เมื่อถามว่าเป็นห่วงพล.อ.ประยุทธ์ที่ต้องแบกรับภาระหนักบริหารประเทศหรือไม่ พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวว่า เป็นห่วงมาก ต่อข้อถามในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.ประยุทธ์เหมาะจะเป็นนายกฯหรือไม่ พล.อ.ดาวพงษ์ปฏิเสธตอบคำถามแต่อมยิ้มแทน 

ปลัดมท.ส่งโผโยกย้ายให้คสช.

      ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังประชุมหารือข้อราชการกับผู้บริหารกระทรวง ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการว่า ขณะนี้กระทรวงจัดทำข้อมูลเบื้องต้นส่งคสช.พิจารณา ตำแหน่งสำคัญคือรองปลัดฯ ผู้ตรวจราชการกระทรวง และผู้ว่าฯรวม 22 ตำแหน่ง อาจย้ายสลับบ้างในบางกรณีซึ่งผู้บังคับบัญชาจะตัดสินใจ กระบวนการขึ้นสู่ตำแหน่งต้องมีขั้นตอนสอบคัดเลือก ใช้เวลา 40 กว่าวัน หากยกเลิกขั้นตอนดังกล่าวจะร่นเวลาลง ทั้งนี้โผรายชื่ออาจผ่านการพิจารณาของทั้งคสช.และรัฐมนตรีใหม่ด้วย 

        เมื่อถามถึงการหารือกับกกต.เพื่อคัดเลือกตัวแทนจังหวัดมาปฏิบัติหน้าที่สมาชิก สปช. นายวิบูลย์กล่าวว่า กกต.มีหลักเกณฑ์อยู่หลายข้อ ในส่วนของจังหวัดให้ผู้ว่าฯมีส่วนร่วมนำเสนอชื่อ ทั้งนี้ กระทรวงอาจเสนอรายชื่ออนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ของกระทรวงหรือกรมต่างๆ 2 คน นอกจากนี้มีการขอรับการสนับสนุนให้ช่วยเรื่องการประชาสัมพันธ์ เช่น ป้ายต่างๆ ด้วย 

รัฐพิธีเปิดสภาสนช.-7ส.ค.นี้

        ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานการรับรายงานตัว สนช. วันสุดท้าย สมาชิกสนช. 6 คน เดินทางมารายงานตัว ได้แก่ พล.อ.สุรวัช บุตรวงษ์ หัวหน้าศูนย์ประสานงานประเทศเพื่อนบ้าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปพ.ศปก.ทบ.) นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาฯคณะกรรมการกฤษฎีกา นายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตสนช.ปี 49 พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ อดีตรองผบ.ทบ. คุณพรทิพย์ จาละ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และนายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เดินทางมาเป็นคนสุดท้าย ในเวลา 12.30 น. รวม 5 วัน สนช. มารายงานตัวทั้งหมด 197 คน ส่วน นายสม จาตุศรีพิทักษ์ อดีต รมว.พาณิชย์ ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ แต่ได้ทำหนังสือนัดหมายกับทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาว่าจะมารายงานตัววันที่ 7 ส.ค.นี้ ทำให้สนช.ชุดปี 2557 จะมีทั้งหมด 198 คน โดยลาออกไปแล้ว 2 คน พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี 

       นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า การรายงานตัวของ สนช.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนนายสม ที่แจ้งว่าจะมารายงานตัวในวันที่ 7 ส.ค. ก็ทำได้ไม่มีปัญหาอะไร สำหรับรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ.2557 วันที่ 7 ส.ค. สำนักนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว และวันที่ 8 ส.ค. สนช.จะประชุมนัดแรกมีวาระเลือกประธานและรองประธาน สนช. ส่วนกระแสข่าวการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ยังไม่มีกำหนดการดังกล่าวเนื่องจากต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งประธาน และรองประธาน สนช.ก่อน 

"พรเพชร"เต็งจ๋านั่งประธาน

        ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวตำแหน่งประธาน สนช.ว่า ขณะนี้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าคสช.ยังเป็นเต็งหนึ่งที่จะเป็นประธาน สนช. เพราะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สนช.เกือบทั้งหมด แม้ก่อนหน้านี้จะมีชื่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ขึ้นมาเป็นคู่แข่ง แต่ล่าสุดนายสุรชัยกล่าวกับเพื่อน อดีตส.ว.บางคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์กลุ่มอดีตส.ว. เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ว่า จะไม่ลงชิงตำแหน่งประธาน สนช.กับนายพรเพชร เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ จึงควรช่วยกันและไม่ควรเอาชนะคะคานกัน โดยนายสุรชัยยินยอมเป็นรองประธาน สนช. คนที่ 1 สำหรับตำแหน่งรองประธานคนที่ 2 มีชื่อนายพีระศักดิ์ พอจิต อดีตว่าที่รองประธานวุฒิสภา แต่มีกระแสข่าวว่าในสัดส่วนรองประธาน สนช.นั้น สนช.สายทหารจะผลักดันนายทหารที่มีความเชี่ยว ชาญด้านกฎหมายขึ้นเป็นรองประธาน 1 คน 

      นายวิทวัส บุญญสถิต สนช.และอดีตส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์ว่านายพรเพชร เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เป็นผู้ใหญ่ และยังเคยเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ส.ว.ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนนายพรเพชร ยืนยันว่าสนช. สายทหารไม่ได้ล็อบบี้ขอเสียงให้นายพรเพชร

คสช.ถกแผนคัดเลือก"สปช."

      ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมคสช.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 9/2557 มีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายความมั่นคง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายสังคมจิตวิทยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. ฝ่ายกิจการพิเศษ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการคสช. นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี พร้อมปลัดกระทรวงและหัวหน้าส่วนงานต่างๆ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

       ที่ประชุมมีการรายงานความคืบหน้าการรายงานตัวของ สนช.ที่รายงานตัวครบ 198 คนแล้ว ส่วน 2 คนที่ขาดคุณสมบัติตามกฎหมายนั้น จะมีการเสนอแต่งตั้งใหม่อีกครั้งหลัง ต.ค. ทั้งนี้หลังจากที่มีพ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ.2557 แล้วจะแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาให้ครบทั้ง 11 คณะ โดยจะเริ่มดำเนินการเปิดตัวเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ส.ค.ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีฯ ซึ่งจะเชิญทุกฝ่ายที่เห็นต่างมาร่วมงานด้วย จากนั้นวันที่ 14 ส.ค. จะเปิดรับสมัคร สปช.จากการส่งรายชื่อนิติบุคคล หน่วยราชการ กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ แต่บุคคลไม่สามารถยื่นสมัครได้โดยตรง เมื่อสมัครครบแล้วจะคัดเลือกให้เหลือ 550 คน คสช.จะคัดเลือกต่อให้เหลือ 173 คน เพื่อให้ได้ตัวแทนจากทุกสาขาอาชีพ เนื่องจากต้องการได้บุคคลที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ และความเข้าใจการดำเนินการของคสช. เข้ามาเป็นผู้แทน อีก 1 คณะคือการสรรหาของคณะกรรมการประจำจังหวัดจะคัดเลือกผู้แทนให้ได้ 77 คน รวมเป็น 250 คน ทั้งนี้จะใช้เวลาไม่เกิน 50 วันในการจัดตั้งสปช. และเริ่มทำงานได้ในช่วงเดือนต.ค. อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีจะสำเร็จได้ไม่เกินช่วงต้นเดือนก.ย.

คสช.ทุ่ม 2 พันล.ซื้อฮ.ฝรั่งเศส

       รอ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. แถลงว่าที่ประชุม คสช.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นประธาน อนุมัติโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง EC-725 ผลิตโดยบริษัทยูโรคอปเตอร์ ของฝรั่งเศส 2 เครื่อง เพื่อการช่วยเหลือและกู้ภัยในพื้นที่การสู้รบ ซึ่งเป็นโครงการในระยะที่ 2 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอให้กองทัพอากาศก่อหนี้ผูกพันงบประมาณวงเงิน 48 ล้านยูโร หรือ 2,148.96 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ปี 57-60 ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะปัจจุบันกองทัพอากาศมีเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ในภารกิจกู้ภัยและการค้นหาช่วยชีวิตรวม 28 เครื่อง 17 เครื่องเป็นรุ่น UH-14 อายุเฉลี่ย 40 ปี อีก 11 เครื่องเป็น bell-412 ใช้ได้แค่ 3 เครื่อง

     นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า คสช.ยังเห็นชอบในการขยายวงเงินก่อหนี้ผูกพันการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารสนามบินอู่ตะเภาจาก 567 ล้านบาทเป็น 728.75 ล้านบาท รวมถึงขยายระยะเวลาการก่อหนี้ออกไป 3 ปี ระหว่างปี 54-56 เป็น 6 ปีคือระหว่างปี 54-56 โดยให้กระทรวงคมนาคมประสานกับกองทัพเรือในการดำเนินการตามแผนการพัฒนาสนามบินพาณิชย์แห่ง 3 เพื่อรองรับการขยายเส้นทางการบินในอนาคต 

อนุมัติเงินเพิ่มตลก.-ดาโต๊ะยุติธรรม

      นพ.ยงยุทธ แถลงว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบการโอนเปลี่ยนรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ในการผูกพันงบประมาณ จำนวน 9 รายการ วงเงิน 72.24 ล้านบาทเศษ โอนไปยังโครงการอื่นที่มีความพร้อม ซึ่งมีเสนอมา 9 รายการ แต่ คสช.อนุมัติให้ผูกพันไป 6 รายการ บางส่วนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบกลับไปพิจารณาใหม่ เช่น โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาที่ดิน จ.สมุทร สาคร จ.พัทลุง เปลี่ยนไปเป็นโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ จ.ตรัง และจ.นครพนม และที่ประชาชนคัดค้านโครงการเดิมขอเปลี่ยนโครงการ เช่น เขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลบริเวณชายแดนที่บางไทรย้อย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เปลี่ยนเป็นเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลที่บริเวณชายแดนทิศใต้ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 

      นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ที่ประชุมอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 หรืองบกลาง สำหรับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรรายการเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการตุลาการและดาโต๊ะยุติธรรม ซึ่ง คสช.เห็นชอบโดยพิจารณาจากผู้พิพากษาชั้น 3-5 และผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งเป็นไปตามร่างระเบียบของคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมว่าด้วยการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว ข้าราชการตุลาการและดาโต๊ะยุติธรรม โดยทางสำนักงานงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนงบประมาณในปี 2557 จำนวน 390.421 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 200 ล้านบาท ให้จ่ายจากงบประมาณปี 2557

ปรับปฏิทินงบประมาณ 

      นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า สำนักงบประมาณเสนอเรื่องการขยับการชี้แจงรายจ่ายประจำปี 2558 ไป 1 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ จากเดิมวันที่ 6 ส.ค. สนช.จะพิจารณาวาระแรก เห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา ไปเป็นวันที่ 15 ส.ค. ส่วนวาระที่ 2-3 จากวันที่ 9 ก.ย. เป็นวันที่ 17 ก.ย. จากนั้นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะนำร่างฯขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม วันที่ 22 ก.ย. แต่ยังมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 

      นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ในที่ประชุมเร่งรัดในการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ คสช.รับทราบรายจ่ายภาพรวมตั้งแต่ 1 ต.ค. 2556 ถึง 30 มิ.ย.2557 โดยในไตรมาสที่ 3 เป้าหมายคือร้อยละ 70 ซึ่งดำเนินการได้ในขณะนี้ร้อยละ 68.12 มูลค่า 1,720,032.86 ล้านบาท โดยมีผลต่างร้อยละ 1.88 ต่ำกว่าเป้าเพียงเล็กน้อย คาดว่าภายใน 30 ก.ย. จะมีการเบิกจ่ายในภาพรวม 92 เปอร์เซ็นต์ 

       นพ.ยงยุทธ แถลงว่า คสช.ยังเห็นชอบลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อจัดตั้งสมาคมรถไฟของประเทศลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMRA วัตถุประสงค์ เพื่อเชื่อมโยงประเทศในกลุ่ม GMS ผ่านโครงข่ายรางภายในปี 2563 ผู้แทนระดับรัฐมนตรีของกัมพูชา จีน ลาว เมียนมาร์ ลงนามเอ็มโอยูแล้ว เวียดนามก็แจ้งว่าพร้อมแต่รอไทย

3 กกต.จ่อชิงโควตา

       ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต.เผยว่า ที่ประชุมกกต.ยังไม่ได้หารือและพูดคุยถึงการเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ในส่วนของสำนักงานกกต. เนื่องจากในการประชุมครั้งนี้ต้องพิจารณาสำนวนคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และมองว่ารอคสช.ตั้งคณะกรรมการสรรหาแล้วจึงจะมาหารืออย่างเป็นทางการน่าจะเหมาะสมกว่า แต่คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าน่าจะได้ข้อยุติว่ากกต.จะเสนอชื่อบุคคลใดเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.

      รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานกกต.จะส่งบุคคลเข้ารับการสรรหาตามโควตาที่กำหนดไว้ โดยคาดจะเป็นด้านที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคือด้านการเมืองและด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยท่าทีของกกต.ที่เป็นแคนดิเดต คือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ และนายประวิช รัตนเพียร แต่ละคนก็แสดงความพร้อมแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับกกต.อีก 2 คน คือนายศุภชัย สมเจริญ และบุญส่ง น้อยโสภณ ที่ไม่ประสงค์จะถูกเสนอชื่อว่าจะเห็นชอบให้ใคร 

อำนวยติงกกต.ไปนั่งสภาปฏิรูป

      นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หาก คสช.จริงใจจะเชิญฝ่ายการเมืองเข้าร่วมเป็น สปช. ควรกำหนดรายชื่อสมาชิกพรรคที่จดทะเบียนแล้ว กำหนดเลยว่าพรรคละ 1 คน ให้เข้าร่วม สปช.ทันที การเปิดโอกาสให้หัวหน้าพรรคคัดเลือกบุคคลเข้าร่วม สปช.จำนวน 5 คน แต่เลือกแค่เพียงคนเดียว มันไม่ใช่ 

      นายอำนวย กล่าวด้วยว่า ขณะที่องค์กรอิสระจะเข้าร่วมเป็น สปช.นั้น มองว่าองค์กรอิสระ เช่น กกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมเท่านั้น ไม่สมควรเข้าไปเป็น สปช.หรือกรรมาธิการยกร่างฯ เพราะคู่ขัดแย้งไม่ควรเข้ามาเป็น สปช. เรื่องการปฏิรูปควรให้ สปช. และภาคประชาชนเข้ามาทำจะดีกว่า 

มาร์คค้านองค์กรอิสระร่วมสปช.

      วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า อำนาจที่สำคัญที่สุดของสปช.คือการพิจารณาและเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะเป็นกติกาสูงสุดทางการเมืองต่อไป จึงเห็นว่าพรรคการเมืองตลอดจนผู้เล่นอื่นๆ เช่น องค์กรอิสระ ไม่ควรเป็นผู้พิจารณาเห็นชอบหรือกำหนดกติกาต่างๆ ที่ตนเองจะเป็นผู้มีส่วนได้เสีย อย่างไรก็ดี พรรคยืนยันจะให้ความร่วมมือและพร้อมให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการทำงานของสปช.อย่างสร้างสรรค์และเต็มที่ จึงอยากให้ คสช. และ สปช. ให้ความสำคัญกับหลักการ "การไม่มีผลประโยชน์ขัดกัน"

       นายอภิสิทธิ์ ระบุด้วยว่า วันนี้ปัญหาการควบตำแหน่งของบุคคลที่เป็นข้าราชการพอเข้าใจได้ในภาวะไม่ปกติที่มีข้อจำกัด แต่หวังว่าการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีก็ดี การกำหนดบทบาทของสมาชิกสปช.หลังการปฏิรูปก็ดี จะยึดถือหลักการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด แม้ว่าปัจจุบันจะมีประกาศ คสช.ฉบับที่ 73 และรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเปิดช่องไว้ก็ตาม

ปนัดดาเผยตรวจข้าวแล้ว90%

ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจโกดังข้าวในพื้นที่ต่างจังหวัด ว่า คณะทำงานที่ตั้งขึ้นทั้ง 100 ชุดได้ลงพื้นที่ตรวจโกดังและไซโลในจังหวัดต่างๆ ไปแล้วประมาณร้อยละ 90 จากการตรวจสอบทั่วประเทศกว่า 1,700 โกดัง และไซโลอีกกว่า 100 แห่ง ในด้านปริมาณได้มีการตรวจนับและบันทึกข้อมูลแต่ในส่วนคุณภาพข้าวต้องส่งตัวอย่างข้าวแต่ละโกดังไปตรวจในห้องปฏิบัติการ จึงยังไม่สามารถสรุปผลได้ในขณะนี้ แต่คาดว่าผลการตรวจจะเสร็จในช่วงกลาง ก.ย.นี้ 

เมื่อถามถึงข้อกังวลการตรวจสอบจะไม่ครอบคลุม ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า การตรวจสอบโกดังแต่ละแห่งต้องใช้เวลา 1-2 วันรวมทั้งเก็บตัวอย่างข้าวในทุกโกดังเข้าตรวจจึงยืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบคณะทำงานได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส หากผลการตรวจสอบออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ตนเชื่อว่ามาตรฐานการจัดเก็บข้าวของโกดังต่างๆ ดีขึ้น

ปปช.ส่งคดี"ปู"ให้อสส.แล้ว

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) แจ้งวัฒนะ นายวิศิษย์ ตันอารีย์ เจ้าหน้าที่ปราบปรามการทุจริตชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำสำนวนการชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคดีปล่อยปละละเลยไม่ระงับยับยั้งการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเอกสาร 5 กล่อง ประมาณ 30 แฟ้ม หรือกว่า 4,000 แผ่น มาส่งมอบต่อ อสส. มีนายพิบูลย์ จตุพัฒนกุล รองเลขานุการสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้รับ เพื่อขอให้ส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

นางสันทนี ดิษยบุตร รองโฆษก อสส.กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ อสส.จึงสั่งให้ตั้งคณะทำงานที่มีรองอสส.เป็นหัวหน้าพิจารณาสำนวน หากเห็นว่าพยานหลักฐานมีความสมบูรณ์เพียงพอแล้ว ก็จะส่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ภายใน 30 วันตามกำหนด แต่หากยังมีข้อไม่สมบูรณ์ก็จะตั้งคณะทำงานร่วม ป.ป.ช.-อสส.ขึ้นมาพิจารณาให้สมบูรณ์ 

เผยยิ่งลักษณ์ขอสอบพยานเพิ่มได้

"ระหว่างการพิจารณาของ อสส. น.ส. ยิ่งลักษณ์สามารถยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมได้ตลอดเวลา รวมถึงสามารถยื่นขอให้สอบพยานเพิ่มเติมที่ ป.ป.ช.เคยไม่อนุญาตได้ด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับคณะทำงานพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์อย่างเต็มที่"

เมื่อถามว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางกลับจากต่างประเทศจะส่งผลกระทบใดหรือไม่ รองโฆษกอสส. กล่าวว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เดินทางกลับประเทศในวันที่ 10 ส.ค.ตามกำหนดการ ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินคดีนี้แต่อย่างใด เพราะกฎหมายให้ อสส.นำสำนวนส่งฟ้องศาลได้โดยไม่จำเป็นต้องนำผู้ถูกกล่าวมาแสดงได้ ขณะเดียวกัน อายุความคดีนี้จะหยุดนับเมื่อผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หลบหนี แต่ต้องมีพฤติกรรมที่ชัดเจนก่อน เช่น เมื่อออกหมายเรียกแล้วไม่มาปรากฏตัว

ทนายปูเตรียมขอความเป็นธรรม

นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เตรียมเอกสารและคำร้องยื่นขอความเป็นธรรมต่ออสส. จะไปยื่นวันที่ 6 ส.ค. เวลา 10.00 น. เพราะเห็นว่าสำนวนของป.ป.ช ยังไม่สมบูรณ์หลายประเด็น เร่งทำและรวบรัดคดีเกินไป เอกสารที่เตรียมร้องขอความเป็นธรรมมีทั้งประเด็นที่เคยยื่น ป.ป.ช.แล้ว และประเด็นใหม่เสริมด้วยหลายข้อ 

นายนรวิชญ์กล่าวว่า กรณีคสช.ตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่ตรวจข้าว พบว่าข้าวที่เน่าเสียมีไม่มาก ยังอยู่ในเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จึงมั่นใจว่าอสส.จะรับฟังคำร้องและให้ความเป็นธรรม น.ส.ยิ่งลักษณ์ เรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปต่างประเทศและมีกำหนดกลับวันที่ 10 ส.ค. ตนยัง ไม่ได้รับแจ้งว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร

ร้องไต่สวนเพิ่ม 7 ประเด็น

รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มอบอำนาจให้นายนรวิชญ์ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ อสส.ให้ตั้งกรรมการร่วมกับป.ป.ช. ไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมใหม่ในทุกประเด็น เนื่องจากเห็นว่าการไต่สวนของ ป.ป.ช. ที่ผ่านมาไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งเรื่องขั้นตอนและกระบวนการในการดำเนินคดีที่รีบเร่ง รวบรัด ประเด็นของเนื้อหาที่มีการกล่าวหา การไต่สวนพยานมีข้อบกพร่องและข้อไม่สมบูรณ์หลายเรื่อง ที่ไต่สวนพยานหลักฐานไม่สิ้นกระแสความ 

โดยเสนอประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เป็นสาระสำคัญของเรื่องที่กล่าวหาคือ 1.นำข้อมูลจากรายงานที่ว่าจ้างนักวิชาการ ในอดีตก่อนหน้าปี"54 ก่อนที่รัฐบาลน.ส. ยิ่งลักษณ์ จะดำเนินโครงการรับจำนำข้าวมากล่าวหา และรายงานที่นักวิชาการไปศึกษาวิจัยกระบวนการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดู 2548/49 เป็นการเก็บข้อมูลของการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวนับแต่ปี"25 ต่อเนื่องถึงปี"52 เป็นปีที่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ทำโครงการรับจำนำข้าวด้วย และมีข้อมูลตามรายงานว่านายอภิสิทธิ์ กำหนดราคาจำนำข้าวนาปรังตันละ 11,800 บาท สูงกว่าราคาตลาดเช่นเดียวกับรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะมาเปลี่ยนใช้นโยบายประกันราคาข้าวในเดือนก.ค.52 จึงถือเป็นการทำสำนวนที่ยกเมฆข้อมูลในอดีตมากล่าวหา 

ให้รอผลตรวจข้าวจากคสช.

2. ป.ป.ช.ไม่ไต่สวนตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือในสต๊อกของรัฐบาลให้ยุติว่ามีปริมาณคงเหลือและคุณภาพที่ดีและถูกต้องหรือไม่ก่อนการชี้มูลความผิดในคดีอาญา ทำให้ความเสียหายในเรื่องนี้ไม่สมบูรณ์และไร้พยานหลักฐานสนับสนุน ข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตทุกขั้นตอนของการเก็บรักษาข้าว จนถึงขนาดต้องยุติโครงการรับจำนำข้าว สำนวน ป.ป.ช.ที่ชี้มูลความผิดเรื่องข้าวหาย และข้าวเสื่อมคุณภาพเป็นการกล่าวหาที่ขาดการตรวจสอบก่อนการชี้มูล เห็นได้จากข่าวการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวของคณะทำงานตามคำสั่ง คสช. 

3. ผลจากการที่ ป.ป.ช.ไม่ตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือ ทำให้ ป.ป.ช.ไม่ไต่สวนข้อเท็จจริงว่ากรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ องค์การคลังสินค้า องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร สร้างหลักเกณฑ์และวิธีการป้องกันความเสียหายจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวไว้แล้ว สำนวน ป.ป.ช. จึงมีข้อไม่สมบูรณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ร้องขอให้สอบ ผอ.องค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อยืนยันปริมาณและคุณภาพข้าว

งานวิจัยที่อ้างยังมีข้อถกเถียง

4. รายงานวิจัยที่ ป.ป.ช.ว่าจ้างนักวิชาการเป็นข้อมูลในอดีตยังมีข้อถกเถียง ข้อเท็จจริงที่ไม่ยุติว่าโครงการรับจำนำข้าวบิดเบือนกลไกการตลาดมากจนเกินไปหรือไม่ เพราะมีข้อโต้แย้ง โครงการรับจำนำข้าวมีผู้ได้รับผลประโยชน์เพียงบางกลุ่ม ไม่ครอบคลุมเกษตรกรอย่างทั่วถึง ตลาดกลางข้าวเปลือกถูกทำลาย โรงสี/ผู้ส่งออกได้เปรียบโรงสีนอกโครงการ ข้าวไทยแพงกว่าข้าวคู่แข่ง ล้วนแต่ไม่มีหลักฐานทางคดี ข้อมูลทางวิชาการไม่ใช่หลักฐานทางคดีที่จะมาฟังให้ต้องรับผิดอาญา 

5.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการบันทึกบัญชีของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีข้าว เกี่ยวกับผลการขาดทุนและความเสียหาย การไต่สวนยังไม่มีข้อยุติว่าหลักเกณฑ์และวิธีการบันทึกบัญชีถูกต้องหรือไม่ การคิดคำนวณเรื่องมูลค่าผลการขาดทุนและความเสียหายที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีข้าว จัดทำยังไม่ถูกต้องสมบูรณ์ ข้ออ้างมูลค่าความเสียหายจำนวน 5 แสนล้านบาท ไม่ถูกต้องและไม่เป็นความจริงจำเป็นต้องไต่สวนพยานเพิ่มเติม ทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสาร 

ระบุไต่สวนไม่ฟังพยาน

ที่ป.ป.ช.อ้างการขาดทุนและความเสียหายที่ให้ยุติโครงการอีกหลายกรณี ป.ป.ช.ยังไม่ไต่สวนให้สิ้นกระแสความ สำนวนจึงมีข้อไม่สมบูรณ์ และทำให้รายงานคณะอนุกรรมการปิดบัญชี 2 ครั้ง ที่ ป.ป.ช.อ้างเป็นหลักฐานสำคัญนั้นมีข้อพิรุธ ข้อระแวงสงสัย ข้อไม่สมบูรณ์ และมีข้อสังเกตที่ไม่อาจรับฟังเป็นพยานหลักฐาน เพื่อนำมาชี้มูลความผิดกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ 1.การคิดคำนวณผลการขาดทุนระหว่างคณะอนุกรรมการปิดบัญชีกับผลการตรวจสอบรายงานคณะอนุกรรมการปิดบัญชี โดยอดีตผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นตัวเลขทางบัญชีแตกต่างในทางลดลง 172,933.33 ล้านบาท 2.การคิดคำนวณค่าเสื่อมสภาพข้าวที่เหลืออยู่ในโกดังและโรงสีข้าว อนุกรรมการปิดบัญชีใช้หลักเกณฑ์ในการคิดคำนวณที่ไม่ถูกต้อง 3.ป.ป.ช.ไม่ไต่สวน ทำให้สำนวนมีข้อไม่สมบูรณ์เรื่องการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมามีข้อดี และสามารถทำให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้น 4.ป.ป.ช.ไม่ไต่สวนทำให้สำนวนมีข้อไม่สมบูรณ์ในเรื่องโครงการรับจำนำข้าวไม่เสียวินัยทางการเงินการคลัง 

ชี้ขั้นตอนยุติไม่ได้อยู่ที่นายกฯ

6.การยุติยกเลิกโครงการที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา มีกระบวนการ ขั้นตอนและวิธีการอย่างไร ในการบริหารราชการแผ่นดิน ป.ป.ช.ไม่ไต่สวนเรื่องนี้ไว้ ข้ออ้างชี้มูลความผิดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยุติระงับยับยั้งโครงการหลังรับทราบรายงานคณะอนุกรรม การปิดบัญชี จึงเป็นข้อไม่สมบูรณ์ที่ต้องไต่สวน ข้อไม่สมบูรณ์ อีกทั้งการยกเลิกจะกระทำได้ต่อเมื่อได้ชี้แจงเหตุผลต่อรัฐสภาว่าเหตุใด จึงไม่สามารถดำเนินโครงการดังกล่าวให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา" มิใช่ว่านายกรัฐมนตรีได้รับรายงานจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีแล้วต้องยุติโครงการทันทีตามที่ ป.ป.ช. อ้าง

7.ป.ป.ช.ไม่ไต่สวนให้สิ้นกระแสความทำให้เกิดข้อไม่สมบูรณ์ในเรื่องที่ครม. กขช.สร้างมาตรการ วิธีการตรวจสอบ เพื่อกำกับควบคุมดูแลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว เพื่อมิให้เกิดการทุจริต อาทิ การติดกล้อง CCTV การออกใบประทวนออนไลน์ของ อคส. และ อ.ต.ก. การจ่ายเงินของธ.ก.ส. 

ยูเอ็นฯจี้สอบซ้อม"กริชสุดา"

วันเดียวกัน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติแถลงแสดงความวิตกกังวลต่อวิธีการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่เป็นนักการเมือง นักกิจกรรม นักวิชาการตลอดจนสื่อในเมืองไทยหลังการรัฐประหาร โดยวิธีการที่ผู้ถูกจับกุมและควบคุมตัวติดต่อกับใครไม่ได้อาจเป็นเงื่อนไขให้มีการละเมิดสิทธิรวมไปถึงถูกซ้อมทรมาน

น.ส.ราวินา ชัมดาซานี โฆษกของสำนัก งานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นยังแถลง เรียกร้องให้ทางการไทยสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่าได้มีการทำร้ายนส.กริชสุดา คุณะแสน ในระหว่างที่เธอถูกควบคุมตัว พร้อมกับนำตัวผู้กระทำมาลงโทษหากเป็นจริง ตามกฎหมายระหว่างประเทศและตามนโยบายของยูเอ็น การนิรโทษกรรมทำไม่ได้ถ้าทำให้ไม่มีการนำตัวผู้กระทำผิดอย่างในกรณีที่ค่อนข้างหนักรวมถึงการซ้อมทรมานมาลงโทษได้

ห่วงละเมิดสิทธิ

"ตั้งแต่ 22 พ.ค.มีการเรียกตัวและจับกุมบุคคลไปกว่า 700 คน แม้ว่าจำนวนมากจะได้รับการปล่อยตัวภายในเวลาสัปดาห์หนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามกฎอัยการศึก แต่อีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ชัดว่าเท่าไหร่ถูกคุมตัวมากกว่าเจ็ดวันโดยที่ไม่ได้ติดต่อญาติหรือทนาย จุดนี้ทำให้น่าวิตกว่าการคุมตัวในลักษณะดังกล่าว จะสร้างเงื่อนไขในอันที่จะทำให้มีการละเมิดสิทธิได้ และกรณีน.ส.กริชสุดา เป็นตัวอย่างที่ทำให้น่าวิตกมากขึ้น" 

โฆษกของสำนักงานให้รายละเอียดว่า ข้อมูลที่นส.กริชสุดาบอกเล่ากับสื่อและองค์กรสิทธิ มีรายละเอียดว่า เธอถูกจับตั้งแต่ 28 พ.ค.ถูกปิดตาไว้เจ็ดวันเต็ม ถูกทำร้ายและช่วงหนึ่งหมดสติเพราะมีการใช้ถุงดำครอบศีรษะ 

นิรโทษสากลจ่อบันทึกรายงาน

      น.ส.ราวินาระบุด้วยว่า ในส่วนของการดำเนินการของสำนักงานเอง เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนได้แสดงความวิตกกับทางการไทยถึงการที่ไม่มีข้อมูลเรื่องของนส.กริชสุดาออกมาสู่สาธารณะ และก่อนหน้านั้นเมื่อ 11 มิ.ย. ข้าหลวงใหญ่ได้สื่อสารกับทางการไทยว่า การใช้มาตรการฉุกเฉินใดๆ จะต้องเคารพมาตรฐานทั่วไปในเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่ละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองซึ่งไทยเป็นผู้ร่วมลงนามด้วย รวมทั้งไม่อาจละเมิดหลักการในเรื่องสิทธิในการสามารถใช้ชีวิตของตนเองและไม่ถูกทำร้ายไม่ว่าในกรณีใดๆ และบอกว่าจนถึงบัดนี้ทางการไทยยังไม่ได้ตอบสนองหรือแสดงปฏิกิริยาต่อข้อกังวลเหล่านี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวแต่อย่างใด 

      ทางด้านเจ้าหน้าที่ขององค์การนิรโทษกรรมสากลเปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนส.กริชสุดาแล้ว เตรียมนำข้อมูลในเรื่องนี้ใส่ไว้ในรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของไทยซึ่งคาดว่าจะเผยแพร่ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนส.ค.นี้

ฮิวแมนไรต์เร่งสอบจริงจัง

         ด้านฮิวแมนไรต์วอตช์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องคสช. ให้ดำเนินการสอบสวนกรณีน.ส.กริชสุดา โดยนายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำภาคพื้นเอเชีย ระบุว่า กรณีของน.ส.กริชสุดานั้นเป็นกรณีตัวอย่างที่จะพิสูจน์ความตั้งใจของกองทัพในการเคารพสิทธิมนุษยชนและคืนความยุติธรรมให้กับเหยื่อที่ถูกกระทำละเมิด ก่อนจะตั้งคำถามว่า สุดท้ายกองทัพจะตอบสนองกรณีนี้ด้วยการสอบสวนอย่างจริงจังหรือไม่ หรือจะเป็นเพียงการสรุปอย่างไม่น่าเชื่อถือ

        วันเดียวกันนี้ คณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีมติแต่งตั้งกรรมการบริษัท ดังนี้ 1. แต่งตั้ง พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง เป็นกรรมการบริษัท แทน นายอำพน กิตติอำพน 2. แต่งตั้ง นางสร้อยทิพย์ ไตร สุทธิ์ เป็นกรรมการบริษัท แทน นายสุธรรม ศิริทิพย์สาคร 3. แต่งตั้ง นายรัฐพล ภักดีภูมิ เป็นกรรมการบริษัท แทน นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.

ดีเดย์ 14 สค.เปิดรับสมัคร 250 สปช. อดีตสว.อกหักแห่ยื่นลุ้น ยูเอ็น 2 องค์กร แถลง จี้สอบปมคุมกริชสุดา สนช.ทหารเล็งรองปธ. บิ๊กหนุ่ยนิ่งข่าวนั่งมท.1 อสส.ตั้งทีมคุมคดีข้าวปู

วันสุดท้าย - นางพรทิพย์ จาละ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้ารายงานตัวที่อาคารรัฐสภา 2 เป็นวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม


มติชนออนไลน์ :

     'บิ๊กหนุ่ย'ปัดตอบนั่งเก้าอี้ มท.1 ชี้ยังไม่ถึงเวลา อดีต ส.ว.อกหักเล็งสมัครสรรหา สปช. พท.แนะให้ คสช.กำหนดชื่อสมาชิกพรรคร่วมสภาปฏิรูป

@ สนช.รายงานตัวแล้ว197คน

      เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่อาคารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้ารายงานตัวเป็นวันที่ 5 บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อย มี สนช.ที่เหลือ 6 คนเดินทางเข้ารายงานตัว อาทิ คุณพรทิพย์ จาละ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ซึ่งรวม สนช.รายงานตัวแล้ว 197 คน เหลือนายสม จาตุศรีพิทักษ์ อดีต ส.ว.สรรหา แจ้งมายังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาว่าจะเข้ารายงานตัววันที่ 7 สิงหาคม ก่อนเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา เนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มี สนช.ทั้งหมด 198 คน จากทั้งหมด 200 คน เนื่องจาก พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ยื่นหนังสือลาออก และนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ยื่นหนังสือไม่ขอรับตำแหน่ง

@ เลขาวุฒิฯยันพร้อมเปิดประชุม

      เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ว่า การรายงานตัวของ สนช.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนนายสมแจ้งว่าจะรายงานตัววันที่ 7 สิงหาคม ก็ไม่มีปัญหาอะไร ขณะเดียวกันสำนักงานเลขาวุฒิสภาได้แจ้ง คสช.กรณี พล.ท.ธวัชชัยที่ยื่นหนังสือลาออกจาก สนช. และนายอาศิสที่ยื่นหนังสือไม่ขอรับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว

       "สำหรับรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา สมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ.2557 วันที่ 7 สิงหาคม สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว และวันที่ 8 สิงหาคม สนช.จะประชุมนัดแรก มีวาระเลือกประธานและรองประธาน สนช." นางนรรัตน์กล่าว และว่า กรณีกระแสข่าวการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้ายังไม่มีกำหนดนัดหมาย เนื่องจากต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งประธานและรองประธาน สนช.ก่อน

       นางนรรัตน์ กล่าวอีกว่า ข้อบังคับการประชุม สนช.จะใช้ข้อบังคับการประชุม สนช.ปี 2549 ก่อน เมื่อเลือกประธานและรองประธาน สนช.แล้ว สนช.จะตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับการประชุมใหม่ โดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ยกร่างไว้ให้แล้ว หาก สนช.เห็นชอบก็นำไปใช้ได้ทันที คาดว่าน่าจะประชุมประมาณ 3 ครั้งก็แล้วเสร็จ

@ "วันชัย"บอกอยากร่วมวงสปช.

นายวันชัย สอนศิริ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ยังไม่มีการติดต่อทาบทามใดๆ ให้ตนเข้าไปทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติหรือเป็นกรรมาธิการ ส่วนการสมัครเข้าไปเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้คุยกับกลุ่มเพื่อน ส.ว. โดยเฉพาะกลุ่ม ส.ว.ที่ไม่ได้เข้าไปทำหน้าที่ใน สนช.ว่า หากใครมีความสนใจ มีความรู้ความสามารถตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดและมีความประสงค์ที่จะทำงานเพื่อประเทศก็ให้เตรียมความพร้อมเพื่อสมัครเข้าไปเป็นสมาชิก สปช.

"ยังไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะตัดสินใจอย่างไร แต่ส่วนตัวผมอยากสมัครเข้าไปเพื่อทำงานในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเนื่องจากที่ผ่านมาได้ทำงานในด้านนี้มาตลอดชีวิต จึงทำให้เห็นปัญหาทั้งหมดที่มีอยู่ว่ามีความจำเป็นต้องมีการปฏิรูปอย่างไรบ้าง" นายวันชัยกล่าว และว่า มีอดีต ส.ว.หลายคนที่ทราบว่ามีความสนใจจะเข้าร่วมเป็น สปช. อาทิ นายคำนูณ สิทธิสมาน และนายประสาร มฤคพิทักษ์

@ "บิ๊กหนุ่ย"ปัดตอบเต็งนั่ง"มท1."

      พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) และที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมพิธีเนื่องในวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) ครบรอบ 127 ปี ถึงกรณีมีชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า ยังไม่ทราบ ไม่รู้ข่าวออกมาได้อย่างไรว่าบุคคลใดจะได้เป็นรัฐมนตรีทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลา เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ส่งสัญญาณเพื่อทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีบ้างหรือไม่ พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวว่า ไม่ได้คุยกัน เพราะไม่ถึงเวลาที่จะพูดเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวคิดว่าการจะมาเป็นรัฐมนตรี ทาง พล.อ.ประยุทธ์คงจะทราบดีว่าใครเหมาะสมเพราะท่านจะเป็นผู้เลือกเอง

    ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องแบกรับภาระหนักในการบริหารประเทศ รู้สึกเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวว่า เป็นห่วงมาก ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ดาว์พงษ์ไม่ตอบคำถาม ได้แต่อมยิ้ม

@ "อำนวย"ชู1เก้าอี้สปช.ต่อพรรค

      นายอำนวย คลังผา อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และอดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการสรรหา สปช.ว่า หาก คสช.จริงใจที่จะเชิญฝ่ายการเมืองเข้าร่วม สปช.ก็ควรกำหนดรายชื่อสมาชิกพรรคการเมืองที่จดทะเบียนพรรคการเมืองแล้วพรรคละหนึ่งคนมาเข้าร่วม สปช.ทันที ส่วนการเปิดโอกาสให้หัวหน้าพรรคการเมืองคัดเลือกบุคคลเข้าร่วม สปช.จำนวน 5 คน แต่เลือกเพียงคนเดียว ตนมองว่ามันไม่ใช่

"การคัดเลือกบุคคลเข้า สปช.ไม่ใช่การเลือกพรรคเลือกพวก ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ตอบแทน ไม่ใช่เรื่องบำเหน็จความดีความชอบ แต่ขอให้คัดสรรบุคลากรเป็นพิเศษเพื่อให้ได้บุคคลที่เหมาะสมกับภารกิจ มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีผลงานตามความถนัด มาถกเถียงกันด้วยเหตุผล ซึ่งการปฏิรูปครั้งนี้จะประสบความสำเร็จได้ดีกว่าครั้งที่ผ่านมา ขอให้คิดถึงประชาชนส่วนใหญ่ รวมถึงผลประโยชน์ที่จะตกสู่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ อีกทั้งควรสร้างระบอบการเมืองให้เอื้อต่อประชาธิปไตย เปลี่ยนทัศนคติของคนให้เข้าใจในระบอบประชาธิปไตยที่ดีขึ้น" นายอำนวยกล่าว

@ พท.ข้องใจแฮปปี้เบิร์ธเดย์"มาร์ค" 

นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม พท.กล่าวว่า รู้สึกติดใจมากกรณีที่ผู้นำ คสช.ให้ตัวแทนนำดอกไม้มอบให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดซึ่งแสดงให้เห็นการเลือกข้างและความเป็นสองมาตรฐานอย่างชัดเจน ทำให้ความร้าวลึกเกิดขึ้นในหัวใจของคนไทยอีกฝ่าย เพราะอีกด้านหนึ่งคนไทยที่ยังศรัทธา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้จัดวันเกิดเพื่อระลึกถึง แต่กลับถูก คสช.สั่งให้รื้อป้ายออกและเข้ามาควบคุมสถานการณ์ห้ามดำเนินการใดๆ 

@ พุทธะอิสระชี้บิ๊กตู่ไม่สง่านั่งนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุถึงกรณีที่มีผู้สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ใครๆ ก็เชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ให้เป็นนายกฯ แต่ส่วนตัวกลับรู้สึกว่าไม่สง่างาม เพราะ พล.อ.ประยุทธ์พูดอยู่ประจำว่ามิได้ต้องการอำนาจ แต่ต้องการช่วยบ้านเมือง 

"หาก พล.อ.ประยุทธ์มานั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลายคนอาจจะรู้สึกดี เพราะมีอำนาจเบ็ดเสร็จ สามารถขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างรวดเร็ว แต่อาจจะขาดความสง่างาม ภาคภูมิ และเป็นที่ดูถูกของฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งต่างชาติและผู้ที่ไม่เห็นด้วย" พระพุทธะอิสระระบุ

@ เชียร์"ปนัดดา"เหมาะสม

พระพุทธะอิสระระบุว่า "หากคุณประยุทธ์ต้องการจะควบคุมอำนาจในกระบวนการปฏิรูปให้อยู่ในมือ ไม่ต้องเป็นนายกฯก็ทำได้ โดยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้า คสช. แค่นี้อำนาจก็ล้นฟ้าแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาตัวไปเกลือกกลั้วกับตำแหน่งที่มีปัญหา

ผู้ที่เหมาะสมกับสถานการณ์เช่นนี้ และมีภาพลักษณ์เป็นที่ยอมรับได้ ทั้งมือสะอาด ฉลาด สุขุม รู้ไส้รู้พุงทุกขดของพวกข้าราชการ เป็นที่ยอมรับของคนต่างชาติ ที่สำคัญเป็นผู้จงรักภักดีอย่างยิ่งยวด นั่นก็คือ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ หากคุณประยุทธ์เห็นอย่างที่ฉันเห็น ท่านปนัดดาน่าจะเหมาะอย่างยิ่งกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อีกทั้งท่านปนัดดายังมีภาพความประนีประนอม น่าจะได้รับความร่วมไม้ร่วมมือกับคนทุกกลุ่มทุกฝ่ายบรรยากาศความปรองดองที่คุณประยุทธ์อยากเห็นในบ้านเมืองจะเกิดขึ้นโดยมิยาก" พระพุทธะอิสระระบุ

@ เผย 14 ส.ค.รับสมัครสปช.

      รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อมีการตราพระราชกฤษฏีกาว่าด้วยการสรรหา สปช. แล้วก็จะแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาให้ครบทั้ง 11 คณะ จะเริ่มดำเนินการ เวลา 10.00 น. วันที่ 9 สิงหาคม ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งจะมีการเชิญทุกฝ่ายที่เห็นต่างมาร่วมงานด้วย จากนั้น วันที่ 14 สิงหาคมจะเปิดรับสมัคร สปช.จากการส่งรายชื่อนิติบุคคลหน่วยราชการ กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ เมื่อสมัครครบแล้วก็จะคัดเลือกให้เหลือ 550 คน 

     "คสช.จะคัดเลือกต่อให้เหลือ 173 คน เพื่อให้ได้ตัวแทนจากทุกสาขาอาชีพ และอีก 1 คณะคือการสรรหาของคณะกรรมการประจำจังหวัดจะคัดเลือกผู้แทนให้ได้ 77 คน รวมเป็น 250 คน จะใช้เวลาไม่เกิน 50 วันในการจัดตั้ง และเริ่มทำงานช่วงเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเสร็จไม่เกินช่วงต้นเดือนกันยายน" รายงานข่าวระบุ

@ "วีรวิท"ปัดถูกทาบนั่ง"สปช." 

      พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ อดีต ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะมาร่วมเป็นสมาชิก สปช.หรือไม่ และยังไม่ได้มีการทาบทามแต่อย่างใด เพราะในช่วงนี้ยังมีงานส่วนตัวที่ต้องทำอยู่ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีอดีต ส.ว.ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น สนช. ได้นัดหารือกันเพื่อเตรียมสนับสนุนให้อดีต ส.ว.ที่พลาดโอกาสในการร่วมเป็น สนช.เข้ามาเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) และ อนุ กมธ.ของ สนช.นั้น เท่าที่ตนได้ยินไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว 

        "แต่มีการคุยถึง สปช.จริง แต่ก็เป็นเพียงการพูดคุยในเรื่องวิธีการสรรหา ทั้งเป็นจังหวัด และแบบทั่วไปว่าเป็นอย่างไรมากกว่า" พล.อ.อ.วีรวิทกล่าว

@ ดันสนช.ทหารนั่งรองประธานคนที่2

      ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ขณะนี้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย สนช.และที่ปรึกษาหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังเป็นเต็งหนึ่งที่จะเป็นประธาน สนช. เพราะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สนช.เกือบทั้งหมด แม้ก่อนหน้านี้จะมีชื่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สนช. และอดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ขึ้นมาเป็นคู่แข่ง ล่าสุด นายสุรชัยได้กล่าวกับเพื่อนอดีต ส.ว. ที่เข้าร่วมงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์กลุ่มอดีต ส.ว. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า จะไม่ลงชิงตำแหน่งประธาน สนช.กับนายพรเพชร เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ จึงควรช่วยกันและไม่ควรเอาชนะคะคานกัน โดยนายสุรชัยยินยอมเป็นรองประธาน สนช.คนที่ 1 สำหรับตำแหน่งรองประธานคนที่ 2 ขณะนี้มีชื่อนายพีระศักดิ์ พอจิต สนช. และอดีตว่าที่รองประธานวุฒิสภา แต่มีกระแสข่าวว่าในสัดส่วนรองประธาน สนช.นั้น สนช.สายทหารจะผลักดันนายทหารที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายขึ้นมาเป็นรองประธาน 1 คน และยังมีข่าวว่า กลุ่ม สนช.หญิง ต้องการให้มีผู้หญิงเป็นรองประธาน แต่ยังอยู่ระหว่างการต่อรอง 

      นายวิทวัส บุญญสถิต สนช.และอดีต ส.ว.สรรหาเผยว่า นายพรเพชรเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เป็นผู้ใหญ่ เคยเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ส.ว.ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน ยืนยันว่า สนช.สายทหารไม่ได้ล็อบบี้ขอเสียงให้นายพรเพชร

@ ปปช.ส่งคดีจำนำข้าวให้อสส.

      ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี ป.ป.ช.ส่งสำนวนชี้มูลผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ในโครงการทุจริตจำนำข้าวไปยังอัยการสูงสุด ว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.นำเอกสารทั้งหมดไปส่งให้อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาแล้ว ทางอัยการสูงสุดมีเวลาพิจารณาภายใน 30 วันว่าจะสั่งฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ 

     "หากมีข้อไม่เห็นด้วยกับสำนวนชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ก็จะตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับ ป.ป.ช.ขึ้นมาพิจารณาทบทวนสำนวน" นายวิทยากล่าว

@ เผยสำนวนหนากว่า4พันหน้า

     เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายวิศิษย์ ตันอารีย์ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.นำสำนวนการสอบสวนจำนวน 5 ลัง 30 แฟ้ม รวมกว่า 4,000 หน้า พร้อมชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.มาตรา 123/1 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ จากกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง มีนายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ นายพิบูลย์ จตุพัฒนกุล รองเลขานุการอัยการสูงสุด นายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด และนางสันทนี ดิษยบุตร รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนผู้รับมอบสำนวน

@ อสส.ตั้งรองอสส.คุมคดี

นางสันทนีกล่าวว่า ถือว่าเป็นคดีสำคัญ โดยนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด (อสส.) มอบให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนการสอบสวน โดยมีรองอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะทำงาน พร้อมคณะพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาสำนวนและพยานหลักฐานด้วยความละเอียดรอบคอบ รวดเร็ว และเป็นธรรม ซึ่งถ้าหากคณะทำงานพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานในสำนวนเพียงพอแล้ว ทางอัยการก็จะดำเนินการยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายในกรอบระยะเวลา 30 วันตามกฎหมาย

นางสันทนีกล่าวว่า หากอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อมูลในสำนวนยังไม่เพียงพอหรือยังไม่สมบูรณ์ ก็จะตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างอัยการและ ป.ป.ช.ขึ้นมาเพื่อร่วมกันพิจารณาอีกครั้ง และดำเนินการหาข้อยุติภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ตั้งคณะทำงานร่วม ซึ่งถ้าหากคณะทำงานได้ข้อยุติตรงกันทั้งสองฝ่าย ก็จะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯต่อไป แต่หากไม่ได้ข้อยุติหรือความเห็นไม่ตรงกัน ทางอัยการจะคืนสำนวนให้กับทาง ป.ป.ช. และ ป.ป.ช. ก็จะต้องดำเนินการแต่งตั้งทนายยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาเอง 

@ ชี้"ปู"ไม่กลับก็ส่งฟ้องศาลได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมได้หรือไม่ นางสันทนีกล่าวว่า การร้องขอความเป็นธรรมก็เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาที่สามารถยื่นร้องขอความเป็นธรรมได้ ซึ่งอัยการก็ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาอย่างเต็มที่และไม่รู้สึกหนักใจ ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะร้องขอให้สอบพยานเพิ่มเติมนั้น จะต้องพิจารณาดูว่าประเด็นต่างๆ ในการสอบพยานเพิ่มเติมมีอยู่ในสำนวนการสอบสวนของ ป.ป.ช.แล้วหรือไม่ หรือเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่ยังไม่มีในสำนวน ทางอัยการจะพิจารณาว่าจะสามารถให้สอบพยานเพิ่มเติมได้มากน้อยแค่ไหน แต่จะพยายามพิจารณาให้อยู่ภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด

เมื่อถามว่า หากวันที่ 10 สิงหาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังไม่เดินทางกลับประเทศไทย จะกระทบต่อการพิจารณาสำนวนคดีหรือไม่ นางสันทนีกล่าวว่า ถ้าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังไม่กลับ ไม่กระทบต่อการพิจารณาสำนวนคดีของอัยการ เนื่องจากสุดท้ายแล้วมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งฟ้องได้ ตามกฎหมายก็ให้อำนาจอัยการสูงสุดยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯได้โดยไม่ต้องมีตัวจำเลย เพียงแต่จะต้องระบุแหล่งที่อยู่ให้ชัดเจน

เมื่อถามว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางกลับประเทศไทยจริงๆ จะต้องร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นางสันทนีกล่าวว่า การขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีสามารถทำได้ แต่ทางอัยการจะต้องพิจารณาว่าจะขอตัวมาดำเนินคดีหรือไม่ เพราะในทางกฎหมายก็ให้อำนาจอัยการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาได้อยู่แล้วโดยไม่ต้องมีตัวมาฟ้อง แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น 

"คดีในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้นมีอายุความถึง 15 ปี หากผู้ต้องหายังหลบหนีอยู่ตามกฎหมายก็จะยังไม่นับอายุความ ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าคดีนี้จะขาดอายุความระหว่างที่ผู้ต้องหาหลบหนี" นางสันทนีกล่าว 

@ "ทนายปู"ขอความเป็นธรรม 

นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์รับผิดชอบคดีรับจำนำข้าว กล่าวว่า เตรียมเอกสารและคำร้อง เพื่อยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด โดยจะเดินทางไปในวันที่ 6 สิงหาคม เวลา 10.00 น. เนื่องจากเห็นว่าสำนวนของ ป.ป.ช ยังมีความไม่สมบูรณ์ในหลายประเด็น และเร่งทำคดี รวบรัดคดีเกินไป อย่างไรก็ตาม เอกสารที่เตรียมไปยื่นนั้นจะเป็นการร้องขอความเป็นธรรมทั้งในประเด็นที่เคยยื่นต่อ ป.ป.ช.ไปแล้ว และมีประเด็นใหม่เสริมด้วยหลายข้อด้วยกัน 

นายนรวิชญ์กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ คสช.ได้ตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่ตรวจข้าว พบว่าข้าวที่เน่าเสียมีไม่มาก ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จึงมั่นใจว่า อสส.จะรับฟังคำร้องและให้ความเป็นธรรมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 

@ ฮิวแมนฯจี้สอบปม"กริชสุดา"

วันเดียวกัน ฮิวแมนไรต์ส วอตช์ องค์การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนของสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์ที่นครนิวยอร์ก เรียกร้องให้ทางการไทยสอบสวนต่อกรณีที่ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน ออกมากล่าวหาว่าถูกกระทำทารุณกรรมระหว่างอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของทหาร หลังจากที่ถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง โดยไม่มีการตั้งข้อหาระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม-24 มิถุนายน 

นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชียของฮิวแมนไรต์ส วอตช์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า การที่นักเคลื่อนไหวซึ่งถูกควบคุมตัวออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณเตือนที่แสดงให้เห็นมากยิ่งขึ้นว่า การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไม่ได้เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของกองทัพ

"มีเพียงแต่การดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาของ น.ส.กริชสุดาในทันทีและดำเนินคดีกับใครก็ตามที่รับผิดชอบจึงสามารถขจัดข้อกล่าวหาร้ายแรงดังกล่าวนี้ได้" นายอดัมส์ระบุ

"ฮิวแมนไรต์ส วอตช์ ได้แสดงความกังวลอย่างจริงจังมาหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับการใช้อำนาจของ คสช. ดำเนินการจับกุมและควบคุมตัวในค่ายทหาร นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดการหายตัวไป การทรมาน ทำทารุณกรรม และการกระทำต่อผู้ถูกควบคุมตัวในลักษณะอื่นๆ" แถลงการณ์ระบุ

@ จี้คสช.ตอบปมเหยื่อถูกละเมิด

ฮิวแมนไรต์ส วอตช์ ระบุว่า คสช.แถลงเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนว่าได้ปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวทั้งหมดเป็นอิสระแล้ว แต่ไม่เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวดังกล่าว นอกจากนั้นยังคงจับกุมและกักขังคนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่นกรณีการจับกุมนายดาชัย อุชุโกศลการ หัวหน้าพรรคพลังประเทศไทย จากบ้านพักในจังหวัดลำปาง และไม่มีใครรู้ว่านายดาชัยอยู่ที่ไหนในเวลานี้

แถลงการณ์ระบุว่า การกล่าวหาจาก น.ส.กริชสุดา เน้นให้เห็นถึงความน่าวิตกที่เกิดขึ้นจากการที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวได้ยกเว้น คสช. และผู้ที่กระทำการในนามของ คสช. ไม่ต้องรับผิดจากการกระทำผิดใดๆ อย่างไรก็ตาม ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และตามหลักการของสหประชาชาติ ว่าด้วยสิทธิในการแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน รัฐบาลใดๆ มีหน้าที่ต้องสืบสวนสอบสวนข้อกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและดำเนินคดีกับผู้ที่รับผิดชอบกับการกระทำนั้นๆ

@ ยูเอ็นออกโลงจี้ให้สอบด้วย

วันเดียวกัน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติออกแถลงการณ์แสดงความวิตกกังวลต่อวิธีการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่เป็นนักการเมือง นักกิจกรรม นักวิชาการ ตลอดจนสื่อในเมืองไทย หลังการรัฐประหาร โดยระบุว่า วิธีการที่ผู้ถูกจับกุมและควบคุมตัวไม่สามารถติดต่อกับใครได้อาจเป็นเงื่อนไขให้ละเมิดสิทธิรวมไปถึงถูกซ้อมทรมานได้

นางราวินา ชัมดาซานี โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น เรียกร้องให้ทางการไทยสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการทำร้าย น.ส.กริชสุดา คุณะแสน ในระหว่างที่ถูกทหารควบคุมตัว พร้อมนำตัวผู้กระทำมาลงโทษหากเป็นความจริง 

แถลงการณ์ระบุอีกว่า ตั้งแต่มีการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม มีการเรียกตัวและจับกุมตัวบุคคลไปกว่า 700 คน แม้ว่าจำนวนมากจะได้รับการปล่อยตัวภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ซึ่งเป็นไปตามกฎอัยการศึก แต่อีกจำนวนหนึ่งที่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีจำนวนเท่าใดที่ถูกคุมตัวมากว่า 7 วันโดยที่ไม่ได้ติดต่อญาติหรือทนาย ซึ่งจุดนี้ทำให้น่าวิตกว่าการควบคุมตัวในลักษณะดังกล่าวจะสร้างเงื่อนไขในอันที่จะทำให้มีการละเมิดสิทธิได้ และกรณี น.ส.กริชสุดาเป็นตัวอย่างที่ทำให้น่าวิตกมากขึ้น

เจ้าหน้าที่ขององค์การนิรโทษกรรมสากล (เอไอ)

เปิดเผยว่า มีการคุยกับ น.ส.กริชสุดาแล้ว และเตรียมนำข้อมูลเรื่องนี้ใส่ไว้ในรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของไทย คาดว่าจะเผยแพร่ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม

@ สวธ.แจงแบน"เกมทรอปิโค5"

นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวถึงผลการพิจารณาเนื้อหาเกมทรอปิโค 5 (Tropico 5) ของคณะอนุกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์และคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ซึ่งไม่อนุญาตให้ฉายและจำหน่ายเกมดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการมีมติไม่อนุญาต 5 ต่อ 1 และงดออกเสียง 2 คนว่า เหตุที่มีมติไม่อนุญาตจำหน่าย เพราะพบว่าทรอปิโค 5 เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกคนกำหนดและแสดงออกตามความเชื่อตนเองและผู้เล่นกำหนดชื่อประเทศ และพระนามของพระมหากษัตริย์ได้ตามจินตนาการ 

"เนื้อหาถือเป็นการเสียดสี ดูหมิ่น ละเมิด สถาบันพระมหากษัตริย์ จึงอาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงรัฐและเกียรติภูมิของประเทศได้ จึงมีมติไม่อนุญาต ตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551" นายชายกล่าว และว่า ผลการพิจารณาได้รับรายงานว่าจากตัวอย่างเนื้อหาของเกมมีหลายฉากเข้าข่ายการละเมิดสถาบัน ซึ่งขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญของไทยทุกฉบับที่ผ่านมา 

@ ชี้กระทบความมั่นคงของรัฐ

นายชายกล่าวว่า การเล่นเกมต่างจากการชมภาพยนตร์ เพราะเกมสามารถเปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกคนกำหนดและแสดงออกได้ตามความเชื่อของตัวเอง โดยไม่ต้องกลัวขัดต่อกฎหมายที่มีอยู่ จึงเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้เกมที่มีลักษณะดังกล่าวนี้เผยแพร่ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ในความเป็นจริงอาจไม่สามารถป้องกันการเผยแพร่ได้อย่างทั่วถึงและการไม่อนุญาตจะทำให้มีผู้เล่นส่วนหนึ่งให้ความสนใจมากขึ้น แต่ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลความเหมาะสมของเกม ถ้าอนุญาตจะเท่ากับรับรองความถูกต้องและความเหมาะสมของเกมนี้อย่างเป็นทางการ 

"จึงเห็นว่าอาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐตามมาตรา 29 ซึ่งมาตรา 51 กำหนดให้นำมาใช้บังคับโดยอนุโลมกับวีดิทัศน์ ประกอบกับประกาศคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ในการตรวจพิจารณาวีดิทัศน์และสื่อโฆษณา พ.ศ. 2552 ข้อ 8 คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ จึงมีมติไม่อนุญาต" อธิบดี สวธ.กล่าว

@ แจงเสียดสีสถาบันมากกว่าปว. 

นายชายกล่าวว่า ทั้งนี้ ตามกฎหมายแล้วเจ้าของลิขสิทธิ์หรือว่าผู้ซื้อลิขสิทธิ์สามารถยื่นอุทธรณ์มติของคณะกรรมการภายใน 15 วัน หากยื่นอุทธรณ์ก็สามารถดำเนินการได้ภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ จากนั้นก็จะนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เพื่อพิจารณาว่าจะอนุญาตจำหน่ายหรือว่ายืนยันมติเดิมที่คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไม่อนุญาต 

"ที่ผ่านมาเกมลักษณะสร้างเมืองก็ผ่านการพิจารณาไปแล้วจำนวนมากไม่ได้แบนหรือว่าสั่งห้ามแต่อย่างใด แต่เนื่องจากเกมนี้เปิดกว้างมากเกินไปไม่เหมือนหลายๆ เกมที่ผ่านมา ส่วนที่ระบุว่าสาเหตุไม่อนุญาต เพราะเลียนแบบหรือว่าเสียดสีรัฐประหารไม่จริง เพราะในความเป็นจริงคณะกรรมการมองว่าเป็นการเสียดสีสถาบันมากกว่า" นายชายกล่าว

วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานข่าวกรณีไทยแบนเกม "ทรอปิโค 5" โดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่จากสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (สภว.) กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ที่ไม่เปิดเผยชื่อ ระบุว่า เกมทรอปิโค 5 ถูกแบน แต่ไม่สามารถให้เหตุผลใดๆ ได้จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากอธิบดี

เอเอฟพีรายงานว่า บริษัท นิว อีร่า อินเตอร์แอ็คทีฟ ผู้จัดจำหน่ายเกมในประเทศไทย แจ้งว่า ได้รับจดหมายจากกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ว่าไม่อนุญาตให้ขายเกมทรอปิโค 5 ในประเทศไทย 

@ นิวอีร่าเล็งไม่ยื่นอุทธรณ์

ทั้งนี้ เกมทรอปิโค 5 เป็นเกมที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท แฮมินอนต์ จากบัลแกเรีย จัดจำหน่ายโดยคาลิปโซ มีเดีย เว็บไซต์ http://gamingbolt.com รายงานว่า ทางคาลิปโซ มีเดีย แถลงว่า ทางคาลิปโซ มีเดีย ยืนยันว่าเกมทรอปิโค 5 ถูกห้ามจัดจำหน่ายในไทย ทาง สภว.และ สวธ. แจ้งต่อทางนิว อีร่า ผู้จัดจำหน่ายของคาลิปโซในประเทศไทยแล้วว่าจะไม่ให้มีการวางขายเกมทรอปิโค 5 ในไทย เนื่องจากมีเนื้อหาบางส่วนในเกมที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ไม่ได้เจาะจงไปว่าเนื้อหาส่วนใดที่ทำให้เกิดความห่วงกังวลกัน และหลังจากมีการพิจารณากันแล้ว ทางนิวอีร่าตัดสินใจที่จะไม่ยื่นเรื่องอุทธรณ์