วันที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8649 ข่าวสดรายวัน


โพลหนุน ครม.นายกประยุทธ์ 
เชียร์อนุพงษ์-ดาว์พงษ์นั่งรมต. สนช.แห่รายงานตัวคึกคัก 78 คน สมยศชี้ไม่มีใครเหมาะเท่าบิ๊กตู่


สนช.ใหม่ - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. เดินทางมารายงานตัวเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช. ที่อาคารรัฐสภา พร้อมกับสนับสนุนหัวหน้าคสช.เป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 

      บิ๊กทหาร-ตำรวจตบเท้ารายงานตัวสนช. วันที่สองคึกคัก ประสานเสียงหนุน'บิ๊กตู่-ประยุทธ์'นั่งนายกฯ "พรเพชร- สุรชัย"ชิงเก้าอี้ท่านประธาน เผยทหารส่งตัวแทนชิงรองประธาน กลุ่ม 40 ส.ว.เล็งตั้งวิป "พล.อ.ธวัชชัย"เตรียมยื่นหนังสืลาออกจากสนช.จันทร์นี้หลังพบคุณสมบัติตัวเองขัดรธน. 'ชูเกียรติ'จี้เร่งคลอดกฎหมายเร่งด่วนเร่งแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะวิธีพิจารณาความของศาลรธน. พท.-ปชป.ย้ำไม่ส่งตัวแทนร่วมสปช. เพื่อไทยชี้ไม่เหมาะเหตุถูกมองเป็นคู่ขัดแย้งคสช. ด้านปชป.เผยยกร่างแนวปฏิรูปไว้แล้ว แนะสนช.เปิดประชุมสภาสัปดาห์ละ 5 วัน เหตุเวลาทำงานน้อย โพลหนุนโผครม. บิ๊กตู่-นายกฯ ป๊อก-กลาโหม หม่อมอุ๋ย-ขุนคลัง ดร.ซุป-พาณิชย์ ดาว์พงษ์-มท.1 เชื่อเดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจ ลดปมขัดแย้ง

รายงานตัวสนช.วันที่สองคึกคัก
       เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า บรรยากาศการเข้ารายงานตัวของบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้ง เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา วันที่สอง เป็นไปอย่างคึกคัก มีสนช.สายทหาร ตำรวจ และอดีตส.ว.เดินทางเข้ารายงานตัวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน รวมทั้งหมดวันเดียวกันนี้รายงานตัวจำนวน 44 คน อาทิ พล.อ.อู้ด เบื้องบน อดีตนายทหารคนสนิทพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ อดีต ผบ.ทร. พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาค 1 พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร. และพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. ทั้งนี้การรายงานตัวของสนช. 2 วัน รวมผู้มารายงานตัวทั้งสิ้น 78 คน 
       นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภากำหนดนัดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาตินัดแรกวันที่ 8 ส.ค. เวลา 09.30 น. โดยมีวาระการประชุมเพื่อเลือกประธาน และรองประธาน สนช.

'พรเพชร-สุรชัย'ชิงท่านประธาน
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแคนดิเดตตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คือนายพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดิน และที่ปรึกษาคสช. โดยคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสนช.โดยมีคู่แข่งในตำแหน่งเดียวกันคือนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภา ที่ประกาศพร้อมสู้ หากนายสุรชัยพลาดจากตำแหน่งนี้อาจชิงตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่าสนช.ฝ่ายทหารจะส่งชื่อชิงรองประธานคนที่ 1 เช่นกัน เพราะต้องการให้ทหารเข้ามามีตำแหน่ง 1 คน ทั้งนี้การเลือกตำแหน่งประธาน และรองประธานสนช. จะมีขึ้นในวันถัดไปหลังรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสภานิติบัญญัติ แห่งชาติในวันที่ 7 ส.ค.

บิ๊กตร.หนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯ
      พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ. ตร. รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมทำหน้าที่สนช.เพราะเคยทำหน้าที่นี้เมื่อปี 2549 มาแล้ว ขณะนี้เตรียมเสนอแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจในการกระจาย อำนาจ เพื่อให้แต่ละหน่วยจัดการงบประมาณและใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น ส่วนการเลือกประธาน สนช. นั้น ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่เห็นว่านายพรเพชร วิชิตชลชัย สมาชิกสนช. มีความรู้ความสามารถ เนื่องจากเคยร่วมงานกันมาก่อน ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาจัดการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้กลับมาสงบเรียบร้อยได้ 

ย้ำโพลหนุนตู่-ทำมากกว่าพูด
   พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. ในฐานะสนช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารายงานตัวว่า ยินดีและภาคภูมิใจที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น สนช. หลังจากนี้จะให้ความสำคัญในงานของสนช.เป็นอันแรกก่อนงานในหน้าที่ประจำ เพราะถือว่างานสนช. เป็นงานเพื่อประเทศชาติ อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าทำงานด้านใดด้านหนึ่งในสนช.เป็นพิเศษ ส่วนงานปฏิรูปตำรวจที่คาดว่าจะมีการเสนอเป็นร่างกฎหมายเข้าสู่สภานั้นตนพร้อมสนับสนุนหากงานปฏิรูปตำรวจเป็นประโยชน์กับประชาชน
     พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงการเลือกประธานสนช. และรองประธานสนช.ว่า ตนมีบุคคลในใจแล้ว เป็นบุคคลที่มีวุฒิภาวะ ความรู้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ ขณะที่รายชื่อของบุคคลที่เหมาะสมจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นส่วนตัวยัง ไม่เห็นมีบุคคลใดเหมาะสมไปกว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. ผู้สื่อข่าวถามถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของพล.อ. ประยุทธ์ในงานที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่าหัวหน้าคสช.มีจุดแข็งคือมีความชัดเจน และมุ่งมั่นต่อการทำงาน แก้ปัญหาเพื่อประเทศชาติตามโรดแม็ป และแนวทางที่สำคัญคือเป็นคนทำมากกว่าพูด นอกจากนั้นยังเป็นที่ยอมรับจากประชาชนตามผลการสำรวจความเห็น 


กลับบ้าน -ญาติเข้าสวมกอดต้อนรับนักศึกษาไทยที่เดินทางกลับจากประเทศลิเบีย ในเที่ยวบินแรก ที่กระทรวงการต่างประเทศอพยพนักศึกษาไทยออกจากพื้นที่สู้รบ มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.

กลุ่ม 40 ส.ว.เล็งตั้งวิปสนช.
   นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว.ในฐานะสนช. กล่าวว่า ภายหลังรัฐพิธีวันที่ 7 ส.ค.แล้ว คงจะมีการเสนอชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งประธาน และรองประธาน สนช.ในลำดับต่อไป บุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งประธานสนช.จะต้องมีคุณลักษณะที่รอบรู้ด้านกฎหมาย มีประสบการณ์การทำงาน คิดว่านายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย คสช. มีคุณสมบัติเหมาะสมด้วยกันทั้งคู่ เพราะต่างมีประสบการณ์การทำงานในสภา
    นพ.เจตน์ กล่าวว่า ขณะที่พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภาก็เหมาะสม เช่นกัน เพราะมีประสบการณ์ในตำแหน่งประธานวุฒิสภามาแล้ว ส่วนนายพลทหารในราชการจะได้รับเสนอชื่อเป็นประธาน สนช. หรือไม่นั้นต้องว่าไปตามกระบวนการ หน้าที่ประธาน สนช.จะเป็นผู้กำหนดทิศทางการประชุม การนัดวัน ควบคุมวาระการประชุมในญัตติต่างๆ ฉะนั้นต้องมีเทคนิคควบคุมการประชุมให้ได้ ประธาน สนช.ก็ไม่ต่างอะไรจากประธานสภาผู้แทนฯ หรือประธานวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม การควบคุมเกมคุมเสียงในสภาไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นหน้าที่ประธาน สนช.เสมอไป อาจจะมีการกำหนดวิปขึ้นมาก็ได้

ธวัชชัยยื่นลาออกสนช.จันทร์นี้
    พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สนช. ลำดับที่ 57 เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ตนจะเข้ายื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง สนช.ต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา หลังปรึกษาฝ่ายกฎหมายและบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้วพบว่าตนมีลักษณะต้องห้ามการเป็น สนช.ตามที่รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 มาตรา 8 (1) ว่าด้วยการดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองภายในระยะ 3 ปี ก่อนวันที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช.กำหนดไว้ ทั้งนี้ การลาออกดังกล่าวไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดเสนอเรื่องให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบก่อน เมื่อตนรู้ว่ามีคุณสมบัติที่ขัดด้วยตนเองก็พร้อมลาออก โดยไม่ยึดติดกับตำแหน่งใดๆ
    "ต้องให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย กรณีที่สื่อนำข่าวไปลงโดยผมไม่ได้ชี้แจง การที่ผมได้รับแต่งตั้งเป็น สนช.ผมไม่ได้เข้าไปสมัครด้วยตนเอง ตอนแรกผมดีใจที่ได้รับเลือกให้เข้าไปทำงานเพื่อประเทศ แต่เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองแล้วพบว่าขัดรัฐธรรมนูญก็ต้องลาออกเองเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนการลงสมัครรับ เลือกตั้งในสังกัดพรรคชาติพัฒนาก่อนหน้านี้เป็นไปตามคำชักชวนของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรค ที่อยากให้เข้าร่วมแก้ปัญหาบ้านเมือง"พล.อ.ธวัชชัยกล่าว

ชูเกียรติ จี้สนช.เร่งคลอดกฎหมาย
    นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สนช. ให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทการทำงานของสนช. โดยเฉพาะการพิจารณาร่างพ.ร.บ. ว่าภายใน 2 เดือนแรกของการปฏิบัติหน้าที่ สนช.ควรจะพิจารณาร่างกฎหมายที่สำคัญและผ่านการพิจารณาจากส่วนงานคสช.ให้แล้วเสร็จ เพราะถือเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญต่อการปฏิรูป ส่วนกรณีที่ร่างพ.ร.บ กว่า 80 ฉบับที่เตรียมเข้าสู่วาระพิจารณานั้นเบื้องต้น เชื่อว่าจะพิจารณาให้เสร็จได้ เพราะร่างกฎหมายบางฉบับที่ค้างอยู่ในวาระพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาผ่านการพิจารณาวาระแรกรับหลักการ การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯ และวาระสองมาแล้ว เมื่อเข้าสู่ที่ประชุม สนช.อาจนำไปพิจารณาเล็กน้อย หากบทบัญญัติใดที่ไม่มีปัญหาอาจจะลงมติเห็นชอบได้ ส่วนร่างพ.ร.บ. ที่เตรียมเสนอเป็นวาระแรกทราบว่ามีคณะกรรมการพิจารณาศึกษารายละเอียดไว้แล้ว คาดว่าไม่มีปัญหาใดๆ อีก ส่วนร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาคสังคมหรือประชาชนนั้นเชื่อว่าจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมแต่จะเป็นรูปแบบใดต้องพิจารณาอีกครั้ง

แนะปล่อยวางเน้นเรื่องเร่งด่วน
     "จากประสบการณ์ที่เคยร่วมงาน สนช.มองว่าแนวทางที่จะผลักดันร่างกฎหมายที่สำคัญได้นั้น สนช.ต้องปล่อยวางประโยชน์หรือประเด็นปัญหาส่วนตัวแล้วมุ่งสู่ประเด็นที่เร่งด่วนจริงๆ รอบที่ผ่านมาที่ร่างกฎหมายบางฉบับที่สำคัญไม่สามารถผ่านมาได้ เพราะมีสมาชิกมุ่งเรื่องแก้ปัญหา สิ่งแวดล้อม สังคม ผมว่าประเด็นส่วนตัวก็สำคัญ แต่ในระยะเวลาทำงาน สนช.ที่มีกรอบทำงานควรจะเน้นเรื่องที่เร่งด่วนจริงๆ และเมื่อทำกฎหมายที่เร่งด่วนแล้วควรพิจารณาร่างกฎหมายที่มุ่งแก้ปัญหา เช่น ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาความของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีปัญหาเหมือนที่มีการโต้แย้งในอดีต" นาย ชูเกียรติกล่าว
     ส่วนกรณีที่พบว่า สนช.อย่างน้อย 2 คนจะลาออกจากตำแหน่ง นายชูเกียรติกล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานหรือองค์ประชุม อีกทั้งในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดให้สนช.มีจำนวนไม่เกิน 220 คน หากจำเป็นและเหมาะสมอาจคัดเลือก เพิ่มได้ ทั้งนี้ นายชูเกียรติปฏิเสธที่จะตอบคำถามต่อประเด็นที่สังคมต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกฯ ระบุเพียงว่าหากดูตามผลสำรวจความคิดเห็น จะพบว่าเป็นกระแสที่ดี 


ถึงบ้าน - ญาติเข้าสวมกอดต้อนรับนักศึกษาไทยที่เดินทางกลับจากประเทศลิเบีย ในเที่ยวบินแรก ที่กระทรวงการต่างประเทศอพยพนักศึกษาไทยออกจากพื้นที่สู้รบมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.

พท.ชี้สนช.ทหารเกินครึ่งเรื่องปกติ
       นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสัดส่วนทหารใน สนช.ที่มีจำนวนเกินครึ่งว่า เป็นเรื่องปกติของการแต่งตั้ง คงต้องการเอกภาพเพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาของประเทศตามที่ คสช.ประกาศเจต นารมณ์ไว้ต่อสาธารณะทั้งภายในประเทศ และต่อนานาประเทศ คสช.เป็นรัฏฐาธิปัตย์ มีอำนาจบริหารประเทศตามกฎหมาย เราต้องให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือการสร้างกติกากลางของบ้านเมือง หรือรัฐธรรมนูญให้เป็นที่ยอมรับ เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และยั่งยืน 
      "บทเรียนในอดีตที่เคยสร้างกติกาเพื่อประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยไม่ยึดหลักประชาธิปไตย จะนำมาซึ่งความแตกแยกของประชาชนในชาติ พวกเรามั่นใจว่าคงไม่มีใครอยากเห็นความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้นซ้ำซาก หลอกหลอนคนไทยไม่รู้จบอีกต่อไป เมื่อสร้างกติกาที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว ก็ขอให้คสช.ดำเนินการตามโรดแม็ปที่วางไว้ โดยการคืนอำนาจให้ประชาชน แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บางส่วนว่า คสช.จะอยู่ในอำนาจไปอีก 3 ปี ซึ่งผมไม่เชื่ออย่างนั้น เพราะการประกาศโรดแม็ปต่อสาธารณะก็ดี การที่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเดินทางไปทำความเข้าใจกับนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศก็ดี เปรียบเสมือนสัญญาประชาคมที่รัฐให้ไว้ต่อประชาชนและนานาชาติ" นายชวลิตกล่าวและว่าหวังว่า สนช.และสปช.คงเป็นมือไม้ที่มีเอกภาพ สามารถออกกฎหมายแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ ความยุติธรรม สร้างกติกาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และยั่งยืน และคืนอำนาจให้ประชาชนตามโรดแม็ปที่วางไว้ ก็จะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและไทยก็จะเป็น 1 ในประชาคมโลกที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี

ย้ำไม่เหมาะส่งตัวแทนร่วมสปช.
     รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการเสนอชื่อบุคคลเพื่อรับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 119/2557 แกนนำพรรคเพื่อไทยบางส่วนหารือกันแล้ว และมีแนวโน้มจะไม่ส่งตัวแทนพรรคเข้าร่วม สปช. เพราะหากเข้าไปก็เป็นเพียงเสียงส่วนน้อย คงทำอะไรไม่ได้มาก และไม่รู้ว่า คสช.จะเลือกหรือไม่ ที่สำคัญพรรคเพื่อไทยเหมือนเป็นคู่ขัดแย้ง เข้าไปคงไม่เหมาะสม ดังนั้นพรรคเพื่อไทยไม่ควรเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการต่างๆ ปล่อยให้เขาทำอะไรกันให้สุดๆ และคอยดูจะดีกว่า

ปชป.ก็ไม่ร่วมแต่พร้อมให้คำปรึกษา
    นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคประชา ธิปัตย์ยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าจะเป็น การดีถ้าพรรคไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการหรือสภาใดโดยเฉพาะ การคัดสรร สปช. พรรคจึงเห็นว่าบทบาทที่เหมาะสมของพรรค การเมือง ในสปช. ควรอยู่ในฐานะเป็นผู้ให้คำปรึกษาคำชี้แจงหากมีการร้องขอมา แต่คงจะไม่เสนอตัวบุคคลโดยเฉพาะสมาชิกพรรคให้ไปนั่งเป็นสปช. เพราะเกรงข้อครหาว่านักการเมืองเขียนกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง สถานการณ์พิเศษในขณะนี้ พรรคเชื่อว่าพรรคการเมืองมีบทบาทอื่นที่จะทำได้ จึงตัดสินใจไม่ส่งคนเข้าไปเป็น สปช. แต่หากมีสมาชิกพรรคถูกเสนอชื่อจากองค์กรอื่นและตัดสินใจเข้าไปทำหน้าที่เป็น สปช. ก็ถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ต้องพิจารณาความเหมาะสมด้วยตัวเอง โดยต้องไม่ให้เกิดความสับสนในพรรคด้วย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ที่สมาชิกพรรคต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ส่วนจะมีผลเกี่ยวกับการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ยังไม่ได้หารือกัน นอกจากนี้เบื้องต้นคุยกันว่าพรรคจะ ไม่เสนอชื่อใคร แต่ถ้ามีบุคคลหรือนักวิชาการที่เหมาะสมและไม่ใช่สมาชิกพรรคเสนอตัวให้พรรคพิจารณาเนื่องจากยังไม่ได้ถูกเสนอชื่อจากองค์กรอื่นใด พรรคอาจจะพิจารณาได้ 

เผยปชป.ร่างโรดแม็ปปฏิรูปแล้ว
     น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหนก็ช่วยกันเดินหน้าปฏิรูปได้ พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนและยกร่างแนวทางการปฏิรูปไว้แล้ว การอยู่วงนอกคงสะท้อนความเห็นได้ จะทำให้คณะทำงาน ได้ทำงานอย่างไร้ข้อครหาเลือกข้าง ขอเพียง คสช. สนช. สปช.เปิดใจฟังเสียงคนวงนอกทุกกลุ่ม

นิพิฏฐ์วอนทบทวนเงินหนุนพรรค
     ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คสช.เปิดโอกาสให้หัวหน้าพรรคการเมืองส่งรายชื่อสมาชิกพรรคเป็นสปช.ว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้หารือกัน เนื่องจาก คสช. ยังห้ามพรรคการเมืองเคลื่อนไหว อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนพรรค การเมืองอื่น ที่ต้องประชุมและออกเป็นมติคณะกรรมการบริหารพรรค กลับกันขณะนี้มีการยกเลิกอุดหนุนเงินพรรคการ เมืองทั้งที่พรรคต้องเปิดอยู่ทุกวัน มีค่าใช้จ่าย ต่อเนื่อง มีสาขากว่า 200 สาขา แต่เคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ได้ ขณะที่ คสช.ขอความร่วมมือให้ส่งรายชื่อเป็น สปช. อยากให้คสช. ทบทวนเรื่องนี้ และอย่ามองว่านักการเมืองเลวร้ายทั้งหมด อย่าทำให้พรรคอ่อนแอลง ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีความเห็นจะไม่ส่งคนร่วม สปช. แต่จะส่งเป็นคำแนะนำเป็นระยะ เมื่อคสช.ขอความร่วมมือแบบนี้ยังไม่ทราบว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อีกทั้งภายในพรรคยังมีความเห็นหลากหลาย ต้องหารือกันก่อน 

แนะสนช.เปิดสภาสัปดาห์ละ 5 วัน
       น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีตส.ส. สมุทร สงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สนช.ชุดนี้มีเวลาทำงานน้อยมาก จึงอยากเสนอให้เปิดประชุม 5 วันต่อสัปดาห์ เพราะที่ผ่านมาการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพียงแค่ 2 วัน และการพิจารณากฎหมายหรือ ตอบกระทู้ มีเวลาน้อยไม่เพียงพอ ตนเป็นส.ส.มา 4 สมัยเคยเรียกร้องมาตลอดให้ประชุม 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ก็ยังไม่เป็น ผลสำเร็จ อยากให้ สนช.ทำเป็นตัวอย่าง ให้นักการเมืองเห็น หากทำได้จะเป็นประโยชน์มากต่อประชาชน อยากแนะนำสนช.ว่าเมื่อเข้ามาแล้วต้องทำงานเต็มที่และเสียสละให้คุ้มค่ากับที่ได้รับความไว้วางใจและถูกเลือกเข้ามา อยากให้ปราบปราม การทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ควรเข้ามาหาผลประโยชน์ ทั้งนี้จะคอยดูว่ามีใครบ้างที่ไม่ยอมอภิปราย ส่วนสนช.ที่ไม่ได้มาจากสายการเมืองขอให้ระมัด ระวังการเลือกทีมที่ปรึกษาหรือผู้ติดตามด้วย ขอให้เลือกคนที่เข้ามาทำงานให้กับประเทศ อย่าเลือกคนที่มาแสวงหาประโยชน์

ยุขรก.ปกป้องสิทธิ์ปมทัวร์นกขมิ้น
     นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่าย กฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไม่เดินทางไปชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีมติแจ้ง ข้อกล่าวหาทัวร์นกขมิ้นขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งว่า เป็นสิทธิของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่จะไปหรือไม่ไป แต่ที่ผ่านมาชัดทั้งภาพและเสียงว่าผิดพ.ร.บ.เลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ทั้งนี้กกต.ถามสดอยู่แล้วถ้าเตรียมตัวไปไม่ครอบคลุมก็จะเสียสิทธิ์เอง ส่วนที่ระบุว่าทำตามที่ข้าราชการกำหนดโปรแกรมให้และทัวร์นกขมิ้นไม่ได้ทำขึ้นมาตอนหาเสียงนั้น ขณะนั้นอยู่ระหว่างกฤษฎีกา เลือกตั้ง จะบอกว่าไม่ได้หาเสียงเป็นไปได้อย่างไร โดยเฉพาะเป็นนักการเมืองจะบอกว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ ข้าราชการควรออกมาปกป้องสิทธิของตัวเอง เพราะฝ่ายการเมืองสั่งการลงมา

แม่ทัพภาค 1 พอใจผลงานกำลังพล
    ที่หอประชุมกองทัพภาคที่ 1 พล.ท. ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธานเปิดการอบรมขยายผลแนวทางการปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือนให้กับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานมวลชน กกล.รส.ทภ.1 โดยพล.ท.ธีรชัยกล่าวว่าการทำงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมาพอใจในระดับหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการมวลชนต้องลงพื้นที่เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนและชุมชนหมู่บ้านให้เข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติงานของ คสช. รวมทั้งสามารถรักษาสภาพแวดล้อมให้เกื้อหนุนกับการบริหารประเทศของ คสช.ด้วย ในช่วงเดือนส.ค.เราเตรียมกระจายกำลังชุดปฏิบัติงานเพิ่มเติมในอีก 26 จังหวัดในเขตรับผิดชอบของ ทภ.1 ต่อไป

ลุยขจัดผู้มีอิทธิพล-อำนาจมืด
     "ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำความเข้าใจ สิ่งที่หัวหน้า คสช.ดำเนินการ ทหารเข้ามาไม่ได้มุ่งหวังอำนาจ แต่เพราะบ้านเมือง ไม่เคยแตกสามัคคีขนาดนี้มาก่อน มาวันนี้ต้องไม่มีสีอีกแล้ว ต้องมีสีเดียวคือสีประเทศไทย ส่วนกลุ่มผู้มีอิทธิพล อำนาจมืดหรือของเถื่อนต้องไม่มีในระดับหมู่บ้านอีกต่อไป ห้ามเจ้าหน้าที่เข้าไปเรียกรับ ผลประโยชน์เด็ดขาด" พล.ท.ธีรชัยกล่าวและว่าขณะนี้เป็นช่วงที่มี สนช.แล้ว ที่มีสัดส่วนทหารเยอะก็ไม่แปลก จะได้คุมได้
    พล.ท.ธีรชัย ให้สัมภาษณ์ว่าจะประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่ว่า ขณะนี้กระบวนการยังไปไม่ถึงขั้นตอนนั้น ส่วนการจัดระเบียบการบริการรถสาธารณะ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ประกอบการและผู้บริการ พวกเขาเข้าใจดีว่าทางเจ้าหน้าที่ต้องการอะไร เพื่อทำให้การจัดระเบียบง่ายขึ้น และหวังว่าจะมีการ บูรณาการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน