- Details
- Category: การเมือง
- Published: Friday, 01 August 2014 22:43
- Hits: 5999
วันที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8647 ข่าวสดรายวัน
โปรดเกล้า 200 สนช. ทหาร 105 'พรเพชร'จ่อปธ. ประชุมสภา 7 สค. เปิดรายชื่อคนดัง กล้านรงค์-หยุย สมคิด-นรนิติด้วย 'กลุ่ม 40 สว.'ได้ดี ฮือฮามีชื่อนิพัทธ์
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แล้ว 200 สมาชิกสภานิติบัญญัติ ทหารยึดพรึบ-อดีตข้าราชการ-เอ็นจีโอที่ขึ้นเวทีกปปส.มีชื่อถ้วนหน้า กล้านรงค์-ทรงสุดา-พล.อ.อู้ด-พล.อ.สมเจตน์- ครูหยุยก็ด้วย เปิดสภาวันที่ 7 ส.ค.เลือกประธานสนช."พรเพชร"ยังเต็งจ๋า ด้าน"บิ๊กป้อม" ยังปึ้กนั่งว่าการกลาโหม ขณะที่ดาว์พงษ์เต็งรมต.สำนักนายกฯ หรือไม่ก็เลขาธิการนายกฯ ด้าน "พรชัย รุจิประภา"เต็งจ๋า รมว.ไอซีที กองปราบฯ ดำเนินคดีข้อหากรรโชกทรัพย์เสธ.เจมส์กับพวก
คสช.ซีเรียสข่าวละเมิดสิทธิฯ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ก.ค. ที่บก.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบให้พล.อ.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบกและเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) โดยที่ประชุมรับทราบสรุปสถานการณ์ด้านความมั่นคงและรายงานเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งนี้ ยังหารือถึงการดำเนินงานของคสช. ที่เน้นย้ำการชี้แจงกับสื่อต่างประเทศให้เกิดความเข้าใจสถานการณ์และการทำงานของคสช. ทั้งเรื่องการเรียกบุคคลมารายงานตัว การละเมิดสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยยืนยันว่า คสช.ระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศปก.ทบ.ยังหารือถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง รวมถึงรับทราบรายงานการจับกุมกลุ่มเรียกค่าคุ้มครองในย่าน ถ.พัฒน์พงศ์ ที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพล.ต.เจนรณรงค์ เดชวรรณ และพวก ตามที่มีผู้ร้องเรียนมายังคสช.
พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผบ.กกล.รส. กล่าวถึงการควบคุมตัวพล.ต.เจนรณรงค์ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการค้าขายย่านพัฒน์พงศ์ว่าถูกเรียกเก็บค่าคุ้มครองว่า แม้จะเป็นนายทหารระดับสูง แต่ถ้าพบว่าทำความผิดจริง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และเอาผิดทางวินัย กองทัพจะไม่ปกป้อง เพราะถ้าคิดจะช่วยเหลือกันก็คงไม่เข้าจับกุม ตอนนี้กลุ่มมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพลได้หายไปเกือบหมดแล้ว เหลือไม่กี่รายที่พบว่าเป็นเป็นคนมีสี ซึ่งคสช.จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด และตนได้รายงานให้พล.อ.ประยุทธ์รับทราบแล้ว
บิ๊กป้อมยังหนึบนั่งกห.-พรชัยไอซีที
สำหรับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมาเป็นรมว.กลาโหม นายพรชัย รุจิประภา เป็นรวม.ไอซีที ส่วนพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณนั้น คาดว่าจะมานั่งรมต.สำนักนายกฯหรือไม่ก็เลขาธิการนายกฯ
แหล่งข่าวระดับสูงระบุว่า สำหรับนาย พรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะทำงานฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. หนึ่งในทีมร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว 48 มาตรา ร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม คาดว่าจะมาดำรงตำแหน่งประธานสนช. ส่วนนายวิษณุจะไปรับตำแหน่งเป็นรองนายกฯ ดูแลด้านกฎหมาย
'อดุลย์'แจงเงินช่วยตร.เหยื่อม็อบ
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช.ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ กล่าวปฏิเสธถึงกรณีมีชื่อเป็นสนช. รวมทั้งมีชื่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนเข้ามาเป็นสนช.ว่า ไม่ทราบเรื่อง แต่ยืนยันยังไม่ได้รับการทาบทามแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เตรียมเสนอกกต.ชุดใหญ่ พิจารณาเอาผิด พล.ต.อ.อดุลย์ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีมอบเงินเยียวยาให้ตำรวจที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ดูแลรับสมัครรับเลือกตั้งที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2556 เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง
รองหัวหน้าคสช.กล่าวว่า ขอดูเอกสารหลักฐานตามข้อกล่าวหาก่อนจะไปชี้แจงด้วยตัวเอง ความจริงตนไม่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง บังเอิญว่าช่วงนั้นตนเป็นประธานในพิธีศพ ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่บช.น. รวบรวมจากตำรวจและประชาชน 5 ล้านบาท มอบให้ครอบครัวตำรวจที่เสียชีวิตและตนเป็นประธานรับมอบ และช่วงนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กลับออกจากงานไปแล้วหลังมาเคารพศพผู้เสียชีวิตและให้กำลังใจกับครอบครัว แต่พร้อมชี้แจงเพราะไม่ได้ทำผิด ถือเป็นคนละส่วนกับการหาเสียงเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ผิดหรือขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ไม่ผิด ตนต้องรับมอบเงินไว้เพราะเป็นเจ้าภาพในงาน เมื่อรับเสร็จก็มอบให้ครอบครัวทันที ยืนยันว่าช่วงเวลาดังกล่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์กลับไปแล้ว โดยไม่ได้อยู่เป็นเจ้าภาพ
ปลัดมท.เด้งรับดูแลกองทุนสตรี
ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงคสช. มีคำสั่งให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมาอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทยว่า ได้มอบให้อธิบดีกรมพัฒนาชุมชนดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเจ้าของเรื่องเดิม ต้องดูว่าจะปรับปรุงการบริหารจัดการอย่างไรจึงจะเหมาะสม
นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า ส่วนบทบาทของกระทรวงมหาดไทยในการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นั้น นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. ได้ประสานมาที่กระทรวงเมื่อวันที่ 30 ก.ค.เพื่อขอความ ร่วมมือ ซึ่งตนตอบไปว่ากระทรวงยินดีให้ความร่วมมือในทุกเรื่อง ส่วนการเตรียมการ กกต.คงมีการพูดคุยกับผู้รับผิดชอบโดยตรงและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอีกครั้ง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวครม.ชุดใหม่มีชื่อพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรองผบ.ทบ. จะมาเป็นรมว.มหาดไทย นายวิบูลย์กล่าวว่า ไม่ทราบ รอให้มีความแน่นอนชัดเจนก่อน ซึ่งคสช.คงจะคัดสรรผู้ที่เหมาะสมมาแล้ว ตนและทุกหน่วยงานของกระทรวงได้เตรียมพร้อมทั้งข้อมูลและภารกิจของกระทรวงไว้แล้ว ไม่ว่าบุคคลใดมาเป็นรัฐมนตรี เราพร้อมจะสนับสนุนและทำงานเต็มที่
รัฐสภาเตรียมพร้อมรองรับสนช.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า สำหรับความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมรองรับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภานั้น เจ้าหน้าที่จัดเตรียมสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับสมาชิก สนช.เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่การเปิดเว็บ Click NLA ซึ่งเป็นชื่อเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์เพื่อติดตามภารกิจของ สนช. ซุ้มต้อนรับสมาชิก สนช.ที่เข้ามารายงานตัว ตลอดจนจุดรับรายงานตัวที่ห้องประชุมกรรมาธิการชั้น 1 ของอาคารวุฒิสภา ซึ่งมีการตั้งโต๊ะรับจัดทำบัตรแสดงตนชั่วคราว การทำบัตรประจำตัวสมาชิก บัตรจอดรถ รวมถึงจุดถ่ายภาพติดบัตร
ขณะเดียวกันยังเตรียมกระเป๋าเอกสารแจกแก่สมาชิกสนช. ซึ่งมีคู่มืออำนาจหน้าที่ของสมาชิก อาทิ ข้อมูลเอกสารรายงานตัว และหนังสือรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ไว้รองรับหากมีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง สนช.
ปชป.ป้องชวน-แจ้งจับเรืองไกร
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สินโดยเฉพาะพระพุทธรูป 200 องค์ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ว่า อยากให้นายเรืองไกรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างชัดก่อนยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ เพราะทำให้เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ต้องมาทำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ซึ่งเขาเอือมระอากันเต็มทีแล้ว คนถูกร้องก็ต้องชี้แจงในเรื่องไร้สาระ ที่ผ่านมาเส้นทางการเมืองของนายชวน เป็นผู้ยึดมั่นในหลักกฎหมาย ยึดถือความถูกต้อง ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยขายตัวทางการเมืองเพื่อแลกกับเศษเงิน ไม่เคยขายอุดมการณ์เพื่อแลกกับตำแหน่ง
"การที่นายเรืองไกรยื่นป.ป.ช.สอบนายชวนและอดีตส.ส.คนอื่นๆ โดยเฉพาะการ กล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ เข้าข่ายมีเจตนากล่าวหาใส่ร้ายให้เสียหาย เรื่องนี้ทำให้ผมหมดความอดทน และดาบนี้จะคืนสนองนายเรืองไกรอย่างสาสม นับแต่นี้ถือว่าผมเปิดศึกกับนายเรืองไกรอย่างเป็นทางการตามช่องทางกฎหมาย โดยทีมกฎหมายพรรคจะแนะนำให้อดีตส.ส.ที่เคยถูกนายเรืองไกรร้องเช่นนี้เซ็นหนังสือมอบอำนาจให้ทีมกฎหมายเข้าแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทในทุกพื้นที่ที่อดีตส.ส.คนนั้นอยู่ เพราะต้องปกป้องรักษาสิทธิ์ในชื่อเสียง ถึงเวลาแล้วที่นายเรืองไกรต้องรับกรรม" นายราเมศกล่าว
จอมร้องโต้ทันที-ให้'ชวน'แจงเอง
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้นาย ราเมศที่ระบุจะเดินสายฟ้องร้องบ้างว่า อยากให้นายชวนออกมาพูดคุยมากกว่าเอาเด็กไม่มีพรรษามาพูด ทั้งนี้ นายชวนบริจาคเงินให้พรรคทุกเดือน แต่ระบุเงินบริจาคน้อยกว่า ที่แจ้งต่อกกต. เป็นการปกปิดข้อเท็จจริง เด็กพรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้เรื่องแล้วคิดจะปกป้อง เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ตนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ตกใจเร็ว ขู่ฟ้องคนโน้นคนนี้ ที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์เขียนนโยบายเรื่องปฏิรูปทรัพย์สิน ขอให้ไปอ่านเว็บไซต์พรรคเรื่องปฏิรูป เขียนเองว่าควรมีการตรวจสอบทรัพย์สิน ตรวจสอบรายได้ ตรวจสอบภาษีย้อนหลัง
นายเรืองไกรกล่าวว่า กรณีนายชวนเป็นการตั้งข้อสังเกตที่เราตรวจตามกฎหมายป.ป.ช. ส่วนเรื่องพระพุทธรูป 200 องค์ ทำไมนายชวนไม่แจง เรื่องนี้สำนักข่าวบางสำนักลงว่านายชวนมีปืน 2 กระบอก สร้อยคอทองคำ 5 เส้น พระพุทธรูปอีก 200 องค์ไม่แจ้งมูลค่า แต่ป.ป.ช.กลับเฉย ปัญหาอยู่ที่ว่าป.ป.ช.บอกว่าแจ้งทรัพย์สินแล้วต้องแสดงมูลค่า จึงถามว่านายชวนไม่แจ้งมูลค่าเพราะอะไร เพราะเป็นวัตถุโบราณที่มีมูลค่ามากกว่ามูลค่าของทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งหมดใช่หรือไม่
พท.ยื่นทวงถามคดีปปช.-กปปส.
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า การไม่แสดงมูลค่าเพราะมันไม่ใช่เรื่องร่ำรวยผิดปกติ แต่เป็นเรื่องการปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบหรือไม่ เป็นคนละปัญหา ดังนั้น อยากให้พรรคประชาธิปัตย์อ่านคำร้องให้ดีก่อน ไม่มีคำว่าร่ำรวยผิดปกติ มีแต่คำว่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นปกติหรือไม่ เนื่องจากดูรายได้หักรายจ่ายแล้วมันกระทบถึงบัญชีทรัพย์สินที่เพิ่ม ไม่ลงตัวกัน ยังไม่มีเหตุถึงคำว่าร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งดูตื่นตูมไปกว่าข้อเท็จจริงที่ร้อง
วันเดียวกัน นายสิงห์ทอง บัวชุม คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนจะไปยื่นหนังสือต่อคสช. และอัยการสูงสุด เพื่อทวงถามในเรื่องหลัก 3 เรื่อง คือ 1.การดำเนินคดีข้อหากบฏจากการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา เหตุใดจึงฟ้องแค่ 4 คน ที่เหลืออีก 40 กว่าคนทำไมไม่ฟ้อง 2.เหตุใดป.ป.ช.จึงดำเนินคดีแต่โครงการรับจำนำข้าว แต่ไม่ดำเนินคดีโครงการประกันราคาข้าวและโครงการไทยเข้มแข็ง และ 3.เหตุใด กกต.จึงชี้มูลเฉพาะทัวร์นกขมิ้น แต่เรื่องที่ กปปส.ขัดขวางการเลือกตั้งกลับไม่ดำเนินการ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกโดยพล.ร.2 รอ. จะเคลื่อนย้าย ยานเกราะล้อยาง (บีทีอาร์ 3 อี-1) ซึ่งเคลื่อนย้ายเข้ามาฝึกการปฏิบัติการทางยุทธวิธีพร้อมกับการฝึกเรียนรู้ และเพิ่มทักษะขีดความสามารถให้หน่วยทหารในพื้นที่กทม. ภายใน ร.11 รอ.กลับสู่ที่ตั้งปกติที่ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี และค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ในวันเดียวกันนี้ ตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป จึงขออภัยในความไม่สะดวกในช่วงที่มีการเคลื่อนย้าย
'สมยศ'สั่งล่าโปรยใบปลิวต้านคสช.
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บช.น.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. ช่วยราชการบช.น.ดูแลงานความมั่นคง พร้อมรองผบช.น. ผบก. และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมความมั่นคงในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.สมยศเปิดเผยว่า บช.น.และฝ่ายทหารประชุมกำหนดแนวทางปฏิบัติหากเกิดการชุมนุมต่อต้าน คสช. รวมถึงปรับเปลี่ยนการรับมือสถานการณ์ เช่น ผู้นำใบปลิวต่อต้าน คสช.มาโปรยในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ได้กำชับพ.ต.อ.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง และฝ่ายสืบสวนของนครบาล เร่งจับกุมโดยต้องตรวจสอบจากกล้องซีซีทีวี ของกทม. และของตำรวจ รวมถึงกล้องของภาคเอกชน
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนมอบให้พล.ต.ท.จักรทิพย์รับผิดชอบสืบสวนติดตามตัวพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภา และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในข้อหากระทำผิดตามมาตรา 112 ซึ่งสืบสวนพบว่าหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งต้องติดตามตามกระบวนการส่งมอบเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาของประเทศนั้นๆ นอกจากมีความผิดตามมาตรา 112 แล้ว ยังมีความผิดเช่นเดียวกับนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ที่ก่อเหตุหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อปี 2552 ด้วย
เพิ่มข้อหาจารุพงศ์อีก-รวมเป็น 3
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า นอกจากนี้ยังเร่งรัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ติดตามนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งออกแถลงการณ์ต่างๆ เบื้องต้นเรามีข้อหาแล้วคือ ผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ดูหมิ่นโดยการโฆษณาผ่านสื่อ และละเมิดประกาศคำสั่งคสช. รวม 3 ข้อหา สามารถดำเนินคดีกับนายจารุพงศ์ได้ ส่วนจะหลบหนีไปประเทศใดนั้นยังไม่แน่ชัด
รองผบ.ตร.กล่าวว่า ทหารและตำรวจไม่สบายใจ เนื่องจากมีกลุ่มคนพยายามสร้างสถานการณ์ปลุกปั่น นำภาพเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันมาลงเว็บไซต์ เฟซบุ๊กหรือโซเชี่ยลมีเดีย เพื่อสร้างกระแสให้ทหารและตำรวจเกลียดชังกัน ซึ่งหัวหน้า คสช.รวมถึง รรท.ผบ.ตร. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทั้งทหารและตำรวจทราบดีว่าทำเพื่ออะไร
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า กรณีขว้างระเบิดถนนบรรทัดทองและอนุสาวรีย์ชัยฯ นั้น เราได้ตัวผู้ต้องหาซึ่งสารภาพว่าเดินทางไปกับนายกฤษฎา ไชยแค รับระเบิดกับนายอภิชาติ หรืออัคคี พวงเพ็ชร จากนั้นนายกฤษฎาไปขว้างที่บรรทัดทองและอนุสาวรีย์ชัยฯ ขว้างเสร็จได้โทรศัพท์รายงานนายณัฐพรรณ์ หรือแอ็ด หลุ่มบางล้า โดยขว้างไป 3 ลูก แสดงว่าเชื่อมโยงกันและเป็นระเบิดชุดเดียวกับที่จับได้ที่ สภ.วังน้อย ซึ่งทราบว่านายกฤษฎาหนีไปต่างประเทศแล้ว
เร่งดำเนินคดีเสธ.เจมส์-4 ผู้ต้องหา
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่บก.ป. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีพ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ. พร้อมสารวัตรทหาร เชิญตัวพล.ต.เจนรณรงค์ เดชวรรณ อายุ 55 ปี ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม น.ส.นงนุช สิทธิรัตน์ อายุ 44 ปี นายปานทอง ศิริวรรณ์ อายุ 40 ปี นางจันทิมา โชติกิตติเกษม อายุ 44 ปี และน.ส. สุรัตน์ พุ่มพวง อายุ 46 ปี รวม 5 คน มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน บก.ป.สอบปากคำ จากทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์ เขตบางรักว่ากำลังฝ่ายทหารควบคุมตัวพล.ต.เจนรณรงค์ ไปกักตัวในเขตทหารแล้วนั้น ในส่วนพลเรือนทั้ง 4 คน ยังคงถูกกักตัวที่ห้องขัง บก.ป.โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก
ต่อมา พ.ท.บุรินทร์ นำเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับพล.ต.เจนรณรงค์ กับพวก โดยนำหลักฐานประกอบด้วยเงินสด 27,000 บาท สำเนาธนบัตรที่กลุ่มผู้ค้าได้จ่ายเงินค่าคุ้มครอง โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง สมุดบัญชีที่มีการจดรายชื่อแผงค้าและยอดเงิน และหน่วยความจำหรือฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดของโรงแรมตะวันนา ถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
ตั้งข้อหากรรโชกทรัพย์-ขยายผล
พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.กล่าวว่าเบื้องต้นน่าจะเข้าข่ายความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ แต่จะพิจารณาตาม ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่ามีใครกระทำความผิด และกระทำผิดฐานใดบ้าง หากเชื่อมโยงถึงใครก็ดำเนินคดีทุกราย ผู้บังคับบัญชาก็ให้ความสำคัญ ยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด และจะเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้เร็วที่สุด ส่วนทหารที่กระทำความผิดต่อพลเรือน เป็นคดีอาญาต้องขึ้นศาลพลเรือน รวมทั้งฐานความผิดก็ยังไม่เข้าเกณฑ์ดำเนินคดีในศาลทหาร แต่คดีนี้มีพยานบุคคลจำนวนมาก ตนจะเสนอผู้บังคับบัญชาตั้งคณะพนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดี และหลักฐานน่าจะเพียงพอดำเนินคดีได้ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาได้กระทำมานานพอสมควรแล้ว ส่วนจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ขอเวลาสอบสวนก่อน
ส่วนที่พล.ต.เจนรณรงค์ระบุว่าเข้าไป เพื่อล้างมาเฟียเดิมนั้น พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า เป็นเพียงข้ออ้างของผู้ถูกกล่าวหา ขึ้นอยู่กับการกระทำว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องดูที่เจตนาด้วย เราจะให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน แต่เบื้องต้นพยานหลักฐานแน่นหนาพอสมควร ทั้งเงินที่ยึดมาและได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว
เผยกลุ่มผู้ค้าพร้อมเป็นพยาน
ด้านพ.ท.บุรินทร์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวพบรายละเอียดว่ามีการจ่ายให้ แยกเป็นขนาดของแผงค้า เช่น แผงร้านขายนาฬิกา ความกว้าง 2 เมตร เก็บเงิน 10,000 บาท ร้านขายกระเป๋า เครื่องหนัง เก็บร้านละ 5,000 บาท ร้านขายของเบ็ดเตล็ด ร้านละ 2,000 บาท โดยร้านทั้งหมดมีอยู่ 200 ร้านค้า รวมยอดเงิน 7 แสนบาทต่อเดือน หลังรับเรื่องร้องเรียนแล้วตนจึงนำข้อมูลไปปรึกษาผู้บังคับบัญชา ก่อนส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไปสืบสวนและวางแผนจับกุม โดยแม่ค้าให้ความร่วมมือจ่ายเงิน 2,000 บาทที่ถ่ายสำเนาและไปลงบันทึกประจำวันไว้ จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นพลเรือนทั้ง 4 คน จะคอยเดินเก็บเงิน มีพฤติกรรมคือผู้หญิงเป็นคนเก็บ ผู้ชายจะคอยยืนบังแล้วจดใส่สมุดบัญชีว่า ผู้ค้ารายใดจ่ายเงินแล้วบ้าง
"เก็บเงินมาได้แล้ว 20,000 กว่าบาท จากนั้นเอาไปส่งให้พล.ต.คนนี้ที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมตะวันนา เจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้าตามมาอยู่แล้วจึงเข้าควบคุมตัวและยึดของกลางทั้งหมด ก่อนเข้าไปพบกับพล.ต.คนดังกล่าว ระหว่างนั้นได้แจ้งตำรวจสน.บางรัก เจ้าของท้องที่มาดำเนินการ ฉะนั้นหลักฐานส่วนนี้ก็มีอยู่ รวมทั้งแม่ค้าที่จ่ายเงินก็พร้อมเป็นพยานด้วย" พ.ท.บุรินทร์กล่าว
อีกกลุ่มยื่นขอความเป็นธรรมให้
เวลา 14.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดพัฒน์พงศ์ไนท์บาซาร์ 10 คนยื่นเรื่องร้องเรียนถึงหัวหน้าคสช. ผ่านนายสาธิต สุทธิเสริม หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ร้องขอความเป็นธรรมให้กับพล.ต.เจนรณรงค์ โดยผู้ค้ารายหนึ่งเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประสบปัญหาถูกเรียกเก็บค่าคุ้มครองมานาน แต่เมื่อพล.ต.เจนรณรงค์ เข้ามาช่วยจัดระเบียบการค้าขายไม่ต้องถูกเรียกเก็บเงิน จึงถูกกลุ่มมาเฟียเดิมที่เสียประโยชน์วางแผนให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพล.ต.เจนรณรงค์ จึงขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด หลังจากยื่นหนังสือที่ศูนย์บริการประชาชนฯแล้ว ผู้ค้าส่วนหนึ่งได้ไปยื่นเรื่องที่บก.ทบ.ด้วย
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เบื้องต้นมอบให้นายทหารพระธรรมนูญร่วมฟังการสอบสวน หากมีการกระทำผิดก็ว่าตามกฎหมาย และให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ดำเนินการตามกฎอัยการศึก
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมแปลกใจเพราะไม่เชื่อว่าจะมีทหารกล้ากระทำการดังกล่าว ทั้งที่คสช.ดำเนินการอย่างจริงจังกับเรื่องนี้ หากผิดจริงก็คงรับโทษหนัก เพราะเป็นทหารและอยู่ในช่วงประกาศกฎอัยการศึก เรื่องนี้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบอีก ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎอัยการศึกได้เลย" ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าว
หน้ากากขาวชุมนุมค้านนิรโทษฯ
เมื่อเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน ที่บริเวณทางเชื่อมบีทีเอส สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีกลุ่มคนไทยไม่มีความสุข ประมาณ 10 คน รวมตัวกันสวมหน้ากากสีขาว พร้อมถือป้ายคัดค้านการนิรโทษกรรมทุกรูปแบบและการนิรโทษกรรม ตามมาตรา 48 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ด้วย
ผู้ร่วมทำกิจกรรมเผยว่า การรวมตัวครั้งนี้วัตถุประสงค์ให้ทบทวนการเว้นความผิด หรือนิรโทษกรรมทุกรูปแบบ เพื่อให้คงมาตรฐานของกระบวนยุติธรรมตามหลักสากล เหตุที่ต้องใช้หน้ากากขาวสวมเพื่อปิดบังใบหน้า เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่ามีเจตนาคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมทุกรูปแบบ ทั้งร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้อดีตนักการเมืองและคสช. กิจกรรมดังกล่าวใช้เวลาเพียง 5 นาที ก่อนสมาชิกกลุ่มจะแยกย้าย โดยไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายใดๆ ขึ้น
ทหารพรึบ 105 นาย-นิพัทธ์ด้วย
เมื่อเวลา 20.45 น. มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน 200 รายชื่อที่น่าสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทหารและอดีตนายทหาร รวม 105 นาย อาทิ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ พล.อ.อักษรา เกิดผล พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ พล.อ.อู้ด เบื้องบน พล.อ.ธีรเดช มีเพียร พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม
สำหรับตำรวจที่น่าสนใจ มี พล.ต.อ.ชัชวาล สุขสมจิตร์ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิช พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นต้น
อาศิส-ทรงสุดา-สมคิด-นรนิติก็มา
ส่วนรายชื่อนักวิชาการ องค์กรอิสระ อดีตส.ว.และภาคเอกชนที่น่าสนใจ มีดังนี้ นายกล้านรงค์ จันทิก นายเจตน์ ศิรธรานนท์ นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี นายดิสทัต โหตระกิตย์ นายตวง อันทะไชย คุณพรทิพย์ จาละ นายพรเพชร วิชิตชลชัย คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี นาย ทวีศักดิ์ สูทกวาทิน นายนรนิติ เศรษฐบุตร นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา นายบุญชัย โชควัฒนา นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายมณเฑียร บุญตัน นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ นายสม จาตุศรีพิทักษ์ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ นายสมชาย แสวงการ นายสมพร เทพสิทธา นายสมพล เกียรติไพบูลย์ นายสีมา สีมานันท์ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล นายอำพน กิตติอำพน นายอิสระ ว่องกุศลกิจ นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ นายภิรมย์กมล รัตนกุล นายรัชตะ รัชตะนาวิน เป็นต้น
โปรดเกล้าฯสนช.-เปิด200รายชื่อ
เมื่อเวลา 20.45 น.วันที่ 31 ก.ค. มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน 200 รายชื่อ ดังนี้ นายกรรณภว์ ธนพรรคภวิน พลเรือโทกฤษฎา เจริญพานิช พลตรีกลชัย สุวรรณบูรณ์ นายกล้านรงค์ จันทิก นางกอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูร พลโทกัมปนาท รุดดิษฐ์ นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ นายกิตติ วะสีนนท์ พลโทกิตติ อินทสร
นายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย พลเอกกิตติพงษ์ เกษโกวิท นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ พลตรีกู้เกียรติ ศรีนาคา พลเรือเอกไกรสร จันทร์สุวานิชย์ พลเอกคณิต สาพิทักษ์ พลอากาศโทจอม รุ่งสว่าง พลเรือเอกจักรชัย ภู่เจริญยศ พลตำรวจโทจักรทิพย์ ชัยจินดา พลตรีจารึก อารีราชการัณย์
พลเอกจิรพงศ์ วรรณรัตน์ พลเอกจีระศักดิ์ ชมประสพ พลเอกจิระเดช โมกขะสมิต นายเจตน์ ศิรธรานนท์ พลโทฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข
นายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ พลโทเฉลิมชัย สิทธิสาท พลอากาศเอกชนะ อยู่สถาพร พลอากาศเอกชนัท รัตนอุบล พลเอกชยุติ สุวรรณมาศ
พลตำรวจเอกชัชวาล สุขสมจิตร์ นายชัชวาล อภิบาลศรี พลตรีชัยยุทธ พร้อมสุข พลเรือเอกชัยวัฒน์ เอี่ยมสมุทร พลโทชาญชัย ภู่ทอง นายชาญวิทย์ วสยางกูร พลโทชาตอุดม ติตถะสิริ พลอากาศเอกชาลี จันทร์เรือง พลเรือเอกชุมนุม อาจวงษ์ พลเรือโทชุมพล วงศ์เวคิน
นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ นายดิสทัต โหตระกิตย์ พลอากาศเอกตรีทศ สนแจ้ง นายตวง อันทะไชย พลเอกไตรรัตน์ รังคะรัตน พลอากาศโทถาวร มณีพฤกษ์ พลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร์ พลอากาศเอกทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์
คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี พลเอกทวีป เนตรนิยม พลเรือเอกทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน พลอากาศเอกธงชัย แฉล้มเขตร พลเรือโทธราธร ขจิตสุวรรณ พลเอกธวัชชัย สมุทรสาคร นายธานี อ่อนละเอียด พลโทธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ นายธำรง ทัศนาญชลี
พลโทธีรชัย นาควานิช พลเอกธีระวัฒน์ บุญยะประดับ พลเอกธีรเดช มีเพียร พลเอก นพดล อินทปัญญา พลเรือเอกนพดล โชคระดา นายนรนิติ เศรษฐบุตร นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก นายนิรวัชช์ ปุณณกันต์
พลโทนิวัติ ศรีเพ็ญ นางนิสดารก์ เวชยานนท์ นายนิเวศน์ นันทจิต นายบุญชัย โชควัฒนา นายบุญทักษ์ หวังเจริญ พลอากาศเอกบุญยฤทธิ์ เกิดสุข พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ พลตำรวจโทบุญเรือง ผลพานิชย์ นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ นายประมุท สูตะบุตร
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ พลโทปรีชา จันทร์โอชา นายปรีชา วัชราภัย พันตำรวจโท พงษ์ชัย วราชิต ร้อยตำรวจตรีพงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ คุณพรทิพย์ จาละ นายพรเพชร วิชิตชลชัย นาย พรศักดิ์ เจียรณัย
พลเรือเอกพลวัฒน์ สิโรดม พลเรือเอกพิจารณ์ ธีรเนตร พลตำรวจเอกพิชิต ควรเดชะคุปต์ พลเอกพิรุณ แผ้วพลสง พลโทพิสิทธิ์ สิทธิสาร นายพีระศักดิ์ พอจิต นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ พลอากาศเอกเพิ่มเกียรติ ลวณะมาลย์ พลเอกไพชยนต์ ค้าทันเจริญ พลอากาศเอกไพศาล สีตบุตร
พลตรีไพโรจน์ ทองมาเอง พลเอกไพโรจน์ พานิชสมัย นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง นายภาณุ อุทัยรัตน์ พลโทภาณุวัชร นาควงษม์ นายภิรมย์ กมลรัตนกุล นายมณเฑียร บุญตัน นายมนตรี ศรีเอี่ยมสะอาด นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร พลเอกมารุต ปัชโชตะสิงห์
พลเอกยอดยุทธ บุญญาธิการ นายยุทธนา ทัพเจริญ พลเรือเอกยุทธนา ฟักผลงาม พลเอกยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา นายรัชตะ รัชตะนาวิน พลเอกเลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ พลเอกวรพงษ์ สง่าเนตร พลโทวลิต โรจนภักดี พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ นายวันชัย ศารทูลทัต นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ พลเรือเอกวัลลภ เกิดผล พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พลเอกวิชิต ศรีประเสริฐ
นายวิทยา ฉายสุวรรณ นายวิทวัส บุญญสถิตย์ พลตำรวจโทวิบูลย์ บางท่าไม้ พลเอกวิลาศ อรุณศรี พลเรือโทวีระพันธ์ สุขก้อน นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล พลโทวีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล นายวุฒิชัย กปิลกาญจน์ นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ นายศรีศักดิ์ ว่องส่งสาร นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ นายศิระชัย โชติรัตน์ พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ
พลอากาศเอกศิวเกียรติ์ ชเยมะ พลเรือเอกศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ พลโทศุภกร สงวนชาติศรไกร พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ พลเอกสกล ชื่นตระกูล นายสถิตย์ สวินทร พลเรือโทสนธยา น้อยฉายา นายสนิท อักษรแก้ว นายสม จาตุศรีพิทักษ์
นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ นายสมชาย แสวงการ นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ นายสมพร เทพสิทธา นายสมพล เกียรติไพบูลย์ นายสมพล พันธุ์มณี พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ พลเอกสมหมาย เกาฏีระ พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม
พลตรีสมโภชน์ วังแก้ว นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ พลอากาศเอกสฤษดิ์พงษ์ โกมุทานนท์ พลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล นายสีมา สีมานันท์ พลโทสุชาติ หนองบัว พลอากาศเอกสุทธิพันธ์ กฤษณคุปต์ นายสุธรรม พันธุศักดิ์ นาย สุพันธุ์ มงคลสุธี
คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย พลโทสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ พลเอก สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ พลเอกสุรวัช บุตรวงษ์ พลเรือเอกสุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ พลโทสุวโรจน์ ทิพย์มงคล นางสุวิมล ภูมิสิงหราช นางเสาวณี สุวรรณชีพ
พลเอกโสภณ ศีลพิพัฒน์ พลเอกอกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ พลเอกองอาจ พงษ์ศักดิ์ พลอากาศเอกอดิศักดิ์ กลั่นเสนาะ พลโทอดุลยเดช อินทะพงษ์ พลโทอนันตพร กาญจนรัตน์ นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล พลเรือเอกอมรเทพ ณ บางช้าง
นางสาวอรจิต สิงคาลวณิช พลเอกอักษรา เกิดผล พลอากาศเอกอาคม กาญจนหิรัญ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ พลอากาศเอกอานนท์ จารยะพันธุ์ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล นายอำพน กิตติอำพน พลโทอำพล ชูประทุม พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ พลเอกอู้ด เบื้องบน พลตำรวจเอกเอก อังสนานนท์
ตามที่มีการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 แล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5, 22 และ 43 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพ.ร.ฎ.เรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศพ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ.2557
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาประกาศให้ สนช.สามารถมารายงานตัวที่รัฐสภา อาคาร 2 ได้ตั้งแต่วันที่ 1-5 ส.ค. รวมเวลา 5 วัน ในเวลาราชการตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ส่วนการประชุมนัดแรกของ สนช.จะเป็นไปตามพ.ร.ฎ.กำหนดวันเปิดประชุมสภานิติบัญญัติ รายงานข่าวแจ้งว่าขั้นตอนการจัดรัฐพิธีเปิดสภานิติบัญญัตินั้นน่าจะเป็นไปตามกำหนดการเดิม คือวันที่ 6 ส.ค. ก่อนจะเปิดประชุมสภานิติบัญญัติครั้งแรกวันที่ 7 ส.ค.
200 สนช.ไร้ชื่อ'วิษณุ'นายพลอื้อ พรเพชรเต็งนั่งประธาน บิ๊กตู่รับโปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.เปิดสภา 7 สค. แฉ'เสธ.เจมส์'จ่ายส่วย 12 หน่วย-โยงอดีตรมต. โผครม.-พรชัยคุมไอซีที
ปรับรับนายกฯ - คนงานล้อมรั้วกั้นเขตก่อสร้างรอบตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อปรับปรุงซ่อมแซม พร้อมปรับสนามหญ้าด้านหน้าเพื่อความสวยงาม เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม
ปลัด กห.สั่งฟันทหารนอกแถว มทภ.1 ยันไม่ป้องคนผิด ทหารพระธรรมนูญนำ'เสธ.เจมส์'ส่ง ตร.สอบปากคำ เผยเก็บได้เดือนละ 7 โปรดเกล้าฯ แล้ว 200 สนช. นายพล 105 คน
@ คสช.เร่งชี้แจงสื่อต่างชาติ
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ พล.อ.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ลข.รมน.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) โดยที่ประชุมได้หารือถึงการดำเนินงานของ คสช. ที่ต้องเน้นย้ำการชี้แจงกับสื่อต่างประเทศให้เกิดความเข้าใจสถานการณ์และการทำงานของ คสช. ทั้งเรื่องการเรียกบุคคลมารายงานตัว การละเมิดสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ยืนยันว่า คสช.ระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว
@ ศธ.โยกย้ายซี 10 อีก 3 เก้าอี้
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้อนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร ศธ.ระดับ (ซี) 10 จำนวน 3 ราย ได้แก่ น.ส.อาภรณ์ แก่นวงค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ไปเป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) นางรัตนา ศรีเหรัญ รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และนายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นผู้ตรวจรการ ศธ. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม
@ มท.มอบนโยบายดูแลอปท.
ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวระหว่างมอบนโยบายหัวหน้าหน่วยราชการทั่วประเทศถึงการจัดสรรงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอจะเป็นผู้กำกับดูแล อปท. ตั้งแต่ในเรื่องการตั้งงบประมาณของส่วนต่างๆ แต่จะดูแลคนละระดับ เช่น นายอำเภอจะดูแลในส่วนของ อบต. โดยนโยบายของ คสช.ต้องการที่จะให้ผู้ว่าฯและนายอำเภอมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลตั้งแต่การตั้งงบประมาณ โดยอยากให้การตั้งงบประมาณสอดคล้องกับแผนพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น จังหวัด และประเทศ เมื่อมีการดำเนินการตั้งงบประมาณแล้วจะให้ตรวจสอบว่าโครงการนั้นๆ โดยเฉพาะงบลงทุนว่าเป็นไปโดยถูกต้องหรือไม่ การตั้งราคากลางเป็นอย่างไร
@ เฟ้น"เก่ง-ดี-ตั้งใจ"นั่งท้องถิ่น
นายวิบูลย์กล่าวว่า ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการสรรหาของ อปท. ได้แจ้งหลักการณ์และกระบวนการไปตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้ว ตนเองได้เน้นย้ำกับผู้ว่าฯซึ่งเป็นประธานว่า ผู้ว่าฯจะเป็นเพียงเสียงหนึ่งเท่านั้นในคณะกรรมการที่จะมาจากภาครัฐ เอกชน และองค์กรอิสระ ตนแนะนำว่าต้องดูว่ากระบวนการ คุณสมบัติถูกต้อง และหลักเกณฑ์หรือไม่ พยายามหาคนที่เป็นกลาง เก่งและดี ทั้งมีความตั้งใจที่จะทำงานให้ท้องถิ่น ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ต้องมีความหลากหลายในเรื่องของความรู้และประสบการณ์ เมื่อถามว่า กรรมการสรรหาระดับจังหวัดที่จะต้องประสานงานกับ กกต. นายวิบูลย์กล่าวว่า ได้ผ่านขั้นตอนตรงนี้ไปแล้วทำตามประกาศของ คสช. โดยบางจังหวัดได้ทำการคัดสรรไปแล้วด้วย
@ "บัณฑูร"ปัดนั่งรัฐมนตรี
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่ว่ามีการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่เคยได้รับการทาบทามแต่อย่างใด และได้แสดงเจตจำนงชัดเจนไปกับ คสช.แล้วว่ามีภารกิจต้องบริหารจัดการและดำเนินธุรกิจธนาคาร และทำโครงการรักษ์ป่าน่าน ซึ่งงานในความรับผิดชอบทั้งหมดทำเต็มเวลาอยู่แล้ว จึงไม่อยู่ในวิสัยจะรับงานเพิ่มเติมได้อีก
@ ตร.จัดทีมไล่ล่า"อภิวันท์"
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท. ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการศึกษา (รอง ผบช.ศ.) ช่วยราชการ บช.น. ดูแลงานความมั่นคง พร้อมรอง ผบช.น. ผบก. และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ประชุมด้านความมั่นคงในพื้นที่กรุงเทพฯ จากนั้น พล.ต.อ.สมยศแถลงว่า มอบหมายให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์รับผิดชอบสืบสวนติดตามตัว พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตามหมายจับมาตรา 112 โดยจะจัดชุดสืบสวนเพื่อติดตาม จากการสืบสวนพบว่าหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว จึงต้องติดตามขั้นตอนและไปสู่กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาของประเทศ นอกจากความผิดตามมาตรา 112 แล้วยังมีความผิดเช่นเดียวกับ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ก่อเหตุหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อปี 2552 ด้วย
@ ติดตามเอาผิด"จารุพงศ์"
พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นเร่งรัดให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ติดตามนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ออกแถลงการณ์ต่างๆ เบื้องต้นมีข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ดูหมิ่นโดยการโฆษณาผ่านสื่อและละเมิดประกาศคำสั่ง คสช.รวม 3 ข้อหา ส่วนจะหลบหนีประเทศใดนั้นยังไม่แน่ชัด
@ ปลุกปั่น"ตร.-ทหาร"แตกแยก
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สุดท้ายคือเรื่องทหารและตำรวจไม่สบายใจ เนื่องจากมีกลุ่มคนพยายามสร้างสถานการณ์ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกระหว่างตำรวจและทหาร มีผู้นำภาพเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันมาลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างกระแสให้เกิดความเกลียดชังกัน ทางหัวหน้า คสช. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทั้งฝ่ายทหารและตำรวจรู้ว่าเหตุผลต้องการอะไร ได้กำชับว่า การทำงานร่วมกันต้องไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีการกระทบกระทั่ง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่อยากให้มีเรื่องราวไม่เหมาะสมนำไปขยายสู่ความแตกแยก ได้ให้ ปอท.สืบว่าคนโพสต์ในโซเชียลมีเดียเป็นใคร หากผิดกฎหมายจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
@ สภาเตรียมรับสนช.รายงานตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารวุฒิสภาว่า สำหรับความคืบหน้าล่าสุดในการเตรียมความพร้อมรองรับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ของทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภานั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับสมาชิก สนช.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่การจัดซุ้ม Click NLA ซึ่งเป็นชื่อเว็บไซต์สำหรับการประชาสัมพันธ์ เพื่อติดตามภารกิจของ สนช.พร้อมทั้งซุ้มต้อนรับสมาชิก สนช.ที่จะเดินทางเข้ามารายงานตัวไว้ ตลอดจนจุดรับรายงานตัวที่ห้องประชุมกรรมาธิการชั้น 1 ของอาคารวุฒิสภา จำนวน 2 ห้อง พร้อมจัดทำบัตรแสดงตนชั่วคราว การทำบัตรประจำตัวสมาชิก บัตรจอดรถ รวมถึงจุดถ่ายภาพติดบัตร ขณะเดียวกัน ยังได้เตรียมกระเป๋าเอกสารแจก ซึ่งเป็นคู่มืออำนาจหน้าที่ สนช. อาทิ ข้อมูลเอกสารสำหรับการรายงานตัว และหนังสือรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ปี 2557 เป็นต้น
@ "อดุลย์"พร้อมแจงเงินช่วยตร.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช.และหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมพิเศษ กล่าวกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เตรียมเสนอเอาผิดร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีที่มอบเงินเยียวยาให้ตำรวจที่เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ดูแลการรับสมัครรับเลือก ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ต้องขอดูเอกสารหลักฐานตามข้อกล่าวหาก่อนที่จะเดินทางไปชี้แจงด้วยตัวเอง ความจริงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการหาเสียงเลือกตั้ง บังเอิญว่าในช่วงเวลาดังกล่าวตนเป็นประธานในพิธีศพ ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รวบรวมจากตำรวจและประชาชน จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อมอบให้กับครอบครัวตำรวจที่เสียชีวิต และตนเป็นประธานรับมอบซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กลับจากออกจากงานไปแล้วหลังจากที่มาเคารพศพผู้เสียชีวิตและให้กำลังใจกับครอบครัว เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย
@ พรชัยนั่งรมต.-ประวิตรควบ"กห."
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีการจัดวางตัวบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีบ้างแล้ว ทั้งนี้นายพรชัย รุจิประภา กรรมการ (บอร์ด) บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มีชื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เคยเป็นปลัดกระทรวงฯมาก่อน ในขณะที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ มีการวางตัวให้ทำงานใกล้ชิดกับนายกฯ เพื่อกำกับดูแล สำนักงบประมาณ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะนั่งควบ 2 เก้าอี้ ในราย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ.นั้น ขณะนี้มีการส่งแฟ้มงานด้านมหาดไทยให้ไปศึกษา
@ เด็กพท.ทวง 3 ปมคาใจ
นายสิงห์ทอง บัวชุม คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ คสช.และอัยการสูงสุด เพื่อทวงถามในเรื่องหลักๆ 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การดำเนินคดีข้อหากบฏจากการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา เหตุใดจึงมีการฟ้องแค่ 4 คน ที่เหลืออีก 40 กว่าคนทำไมไม่ฟ้อง 2.เหตุใดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงดำเนินคดีแต่โครงการรับจำนำข้าว แต่โครงการประกันราคาข้าว และ โครงการไทยเข้มแข็งกลับไม่มี และ 3.คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เหตุใดจึงชี้มูลเฉพาะทัวร์นกขมิ้น แต่เรื่องที่ กปปส.ขัดขวางการเลือกตั้งกลับไม่ดำเนินการ
@ "อุ๊งอิ๊ง"ปัดแจกหนังสือวันเกิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวชื่อ "ingshin21" ถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่าในงานวันเกิดครบรอบอายุ 65 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีการแจกของชำร่วยเป็นหนังสือ "2559 ทักษิณ กลับมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลับมาหรือไม่ จากผู้เขียนอภิสิทธิ์คนเหนือดวง ขอทำนายว่าในปี 2559 คุณทักษิณจะกลับมา!" ว่า "งานวันเกิดคุณพ่อเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา จัดขึ้นที่ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมที่ปารีส อิ๊งอยู่ตั้งแต่ก่อนงานเริ่มยันงานจบ ในงานไม่มีการแจกของที่ระลึกอะไรทั้งสิ้นนะคะ ทุกอย่างที่ออกมาว่ามีการแจกของคือข่าวลือ หรือข่าวที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนปล่อยเท่านั้น ขอบคุณค่ะ"
@ "ปึ้ง"ยัน"ปู"กลับไทยแน่
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เพิ่งกลับจากเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสหลังจากที่ไปร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ การจัดงานก็เป็นแบบเล็กๆ เป็นการภายใน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณเองไม่ได้มีการพูดหรือแสดงความเห็นถึงการเมืองไทยแต่อย่างใด ส่วนบรรยากาศก็เป็นไปอย่างชื่นมื่นเพราะเป็นการพบกันของพี่น้อง คือ พ.ต.ท.ทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เจอกันนานกว่า 3 ปี ก็มีเรื่องให้คุยกันพอสมควร รวมถึงข้อห่วงใยต่างๆ
"น.ส.ยิ่งลักษณ์มีกำหนดกลับประเทศไทยเหมือนเดิมตามที่ขอ ท่านจะกลับไทยแน่นอน ที่มีข่าวว่าขนกระเป๋าสัมภาระไปเยอะบ้างหรือจะขอเลื่อนกลับไทยนั้นเป็นแค่เรื่องที่พูดกันไปเอง น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับบ้านกลับเมืองไทยแน่นอน" นายสุรพงษ์กล่าว
@ "แม้ว"สั่งพท.อยู่ตามกติกา
นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ได้เดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศฝรั่งเศสโดยไม่ได้ไปร่วมงานวันเกิด แต่ได้นัดพบเป็นการส่วนตัว
"ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมืองมากนัก พ.ต.ท.ทักษิณเพียงแต่บอกว่าให้อยู่ตามปกติ อยู่ตามกติกาบ้านเมือง โดยไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดการเมืองเลย และไม่ได้มีการพูดถึงสมาชิกในพรรคแต่อย่างใด ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี" นายเกียรติอุดมกล่าว
@ "บิ๊กเต่า"สั่งฟันทหารนอกแถว
วันเดียวกัน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว พล.ต.เจนรณรงค์ เดชวรรณ หรือเสธ.เจมส์ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการค้าขายย่านพัฒน์พงศ์ว่าถูกเรียกเก็บค่าคุ้มครองว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญของกระทรวงกลาโหมร่วมฟังการสอบสวน หากมีการกระทำความผิดว่าไปตามกฎหมายและให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ดำเนินการตามกฎอัยการศึก ขอเตือนกำลังพลสังกัดกระทรวงกลาโหมทุกคนว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย เพราะ คสช.จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยเฉพาะการปราบปรามกลุ่มมาเฟียและผู้มีอิทธิพล
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมรู้สึกแปลกใจเพราะไม่น่าเชื่อว่าจะมีทหารกล้ากระทำการในลักษณะดังกล่าว ทั้งที่ คสช.ดำเนินการอย่างจริงจังกับเรื่องนี้ ซึ่งหากผิดจริงก็คงรับโทษหนัก เพราะเป็นทหารและอยู่ในช่วงประกาศกฎอัยการศึก เรื่องนี้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องดังกล่าวอีก ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกฎอัยการศึกได้เลย" พล.อ.สุรศักดิ์กล่าว
@ มทภ.1ยันไม่ป้องคนผิด
พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) กล่าวว่า แม้จะเป็นนายทหารระดับสูง แต่ถ้าพบว่าทำความผิดจริงก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย และดำเนินการเอาผิดทางวินัย กองทัพจะไม่ปกป้อง เพราะถ้าคิดจะช่วยเหลือกันคงไม่เข้าจับกุม ตอนนี้กลุ่มมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพลได้หายไปเกือบหมดแล้ว เหลือไม่กี่รายที่พบว่าเป็นเป็นคนมีสี ซึ่ง คสช.จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด และได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.รับทราบแล้ว
@ ตร.สอบปากคำ"เสธ.เจมส์"
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2รอ. พร้อมสารวัตรทหาร เชิญตัว พล.ต.เจนรณรงค์ เดชวรรณ หรือ "เสธ.เจมส์" อายุ 55 ปี ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม น.ส.นงนุช สิทธิรัตน์ อายุ 44 ปี นายปานทอง ศิริวรรณ์ อายุ 40 ปี นางจันทิมา โชติกิตติเกษม อายุ 44 ปี และ น.ส.สุรัตน์ พุ่มพวง อายุ 46 ปี รวม 5 คน มาส่งมอบพนักงานสอบสวนสอบปากคำ หลังทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์ เขตบางรัก ว่า หลังฝ่ายทหารควบคุมตัว พล.ต.เจนรณรงค์ไปกักตัวในเขตทหารแล้ว ในส่วนพลเรือนทั้ง 4 คนยังถูกกักตัวที่ห้องขัง บก.ป.โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก
@ ทหารร้องทุกข์กล่าวโทษ
ต่อมา พ.ท.บุรินทร์ พาทหารชุดปฏิบัติการ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.เจนรณรงค์ กับพวก โดยนำหลักฐานประกอบด้วย เงินสด 27,000 บาท สำเนาธนบัตรที่กลุ่มผู้ค้าได้จ่ายเงินค่าคุ้มครอง โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง สมุดบัญชีที่มีการจดรายชื่อแผงค้าและยอดเงินและหน่วยความจำหรือฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดโรงแรมตะวันนา ถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก มามอบให้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาคดี
พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นน่าเข้าข่ายความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ ทั้งนี้ จะเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อตั้งเป็นรูปคณะพนักงานสอบสวน บก.ป.ในการดำเนินคดี
@ เผยเก็บได้เดือนละ7แสน
พ.ท.บุรินทร์กล่าวว่า การเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองพบรายละเอียดว่ามีการจ่ายให้กันแยกเป็นขนาดของแผงค้า เช่น แผงร้านขายนาฬิกา ความกว้าง 2 เมตร เก็บเงิน 10,000 บาท ร้านขายกระเป๋า เครื่องหนัง เก็บร้านละ 5,000 บาท ส่วนร้านขายของเบ็ดเตล็ด ร้านละ 2,000 บาท โดยร้านทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 200 ร้านค้า รวมยอดเงินประมาณ 7 แสนบาทต่อเดือน ที่ผ่านมามีการเฝ้าตรวจสอบข้อเท็จจริงระยะหนึ่ง ก็พบว่ามีการเรียกรับเงินในส่วนดังกล่าวจริง กระทั่งพบข้อมูลว่ามีทหารยศนายพลเข้ามาเกี่ยวพันด้วย โดยพลเรือนทั้ง 4 คน จะคอยเดินเก็บเงิน มีพฤติกรรมคือผู้หญิงเป็นคนเก็บ ส่วนผู้ชายจะคอยยืนบัง แล้วจดใส่สมุดบัญชีว่าผู้ค้ารายใดจ่ายเงินแล้วบ้าง
@ เผย 12 หน่วยงานรับส่วย
พ.ท.บุรินทร์กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบหลักฐานที่พบยังมีการระบุว่าเงินที่ได้มานั้นมีการนำไปจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงานรวมทั้งหมด 12 หน่วย เป็นยอดที่อ้างว่ามีการส่งให้ นอกจากนี้ แม่ค้าที่เป็นพยานยังเปิดเผยด้วยว่าจำเป็นต้องจ่ายเงิน ถ้าไม่จ่ายก็ขายของไม่ได้ หรือไม่จะโดนจับ หรือถูกกลั่นแกล้ง แล้วยังพบหลักฐานอีกส่วนคือการออกสติ๊กเกอร์ในนาม "ศูนย์ประสานงานราชการจัดระเบียบถนนพัฒน์พงศ์" นำไปแจกจ่ายกับกลุ่มผู้ค้า เหมือนเป็นการอ้าง คสช.จัดระเบียบต่างๆ เลย หลังจากนี้น่าจะขยายผลได้ถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่มีการรับส่วย
@ แม่ค้าพัฒน์พงศ์ป้อง"เสธ.เจมส์"
ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดพัฒน์พงศ์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรณีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้าเก็บค่าคุ้มครองถูกกดขี่ข่มเหงเป็นเวลากว่า 20 ปี พ่อค้า แม่ค้าจึงรวมตัวกันไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้แก้ไขปัญหาดังกล่าว อีกทั้งได้ขอให้ พล.ต.เจนรณรงค์ เข้าจัดการกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ ซึ่งได้เข้าช่วยเหลือจัดระเบียบให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามากว่า 2 เดือนแล้ว แต่ยังถูกผู้มีอิทธิพลกลั่นแกล้งโดยแจ้งไปยัง คสช.ให้เข้าไปจับกุมโดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้ พล.ต.เจนณรงค์และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าอีก 4 รายถูกจับกุม ทั้งที่พยายามเข้ามาช่วยเหลือ จึงมาขอความเป็นธรรมให้ พล.ต.เจนณรงค์ได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง
"เสธ.เจมส์เป็นคนเข้าช่วยเหลือและจัดระเบียบในตลาด ถ้าผมเป็นคนเสียผลประโยชน์ถูกเก็บค่าคุ้มครองจาก เสธ.เจมส์จริง จะรวมตัวมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้เขาทำไม" หนึ่งในตัวแทนพ่อค้ากล่าว
@ ยอมจ่ายส่วยแต่ลดราคา
แม่ค้ารายหนึ่งกล่าวว่า "เรายินดีเสียค่าส่วย แต่ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานรัฐหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ต้องเสียค่าส่วยเป็นจำนวนมาก เช่น แรงงานต่างด้าวเดิมเคยเก็บที่ 2,000 บาทต่อหัว แต่ตอนนี้เก็บ 4,000 บาทต่อหัว เมื่อเสธ.เจมส์เข้ามาจัดระเบียบก็ไม่ต้องเสียค่าส่วยให้พวกมาเฟีย เรายินยอมที่จะจ่ายส่วยให้ผู้มีอิทธิพล ไม่ได้ต่อต้านการจ่ายส่วย แต่ขอให้จ่ายในราคาที่อยู่ได้ เพราะทุกวันนี้แพงมาก ต้องจ่ายค่าส่วยก่อนที่จะมีเงินจ่ายค่าแผงเสียอีก"
ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ส่งตัวแทนมารับหนังสือร้องเรียน บรรดากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่กองบัญชาการทหารบกต่อไป
@ เผย"เสธ.เจมส์"เด็กอดีตรมต.ตัง
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า การเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองย่านพัฒน์พงศ์ เคยเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2556 ก่อนหายไปพักหนึ่ง และกลับมาเรียกเก็บในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สำหรับเสธ.เจมส์ นั้นสนิทสนมกับนักการเมืองดังคนหนึ่งในจังหวัดปริมณฑล อ้างว่าได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม และจะขอเข้าไปจัดระเบียบในตลาดพัฒน์พงศ์ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ยินยอมเนื่องจากเรียกร้องผลประโยชน์มากกว่าธรรมเนียมปฏิบัติที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เคยจ่ายอยู่ กระทั่ง คสช.ยึดอำนาจเสธ.เจมส์จึงหวนกลับมาอีกครั้ง
@ตำรวจยึดบัญชีจ่ายส่วยอื้อ
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจับกุม พล.ต.เจนรณรงค์ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดบัญชีที่มีการจัดทำและอ้างว่าจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ อาทิ 191, บช.น. และ ฉก.ปอศ.หรือชุดเฉพาะกิจ ปอศ.เป็นต้น อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว รวมถึงมีการตรวจยึดสติ๊กเกอร์ข้อความ "ศูนย์ประสานงานส่วนราชการ เพื่อจัดระเบียบ ถนนพัฒน์พงษ์ กรณีผู้ประกอบการไม่ได้รับความเป็นธรรม โปรดแจ้ง 095-8980XXX" ด้วย
@ 200 สนช.มี 105 นายพล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง สมาชิกสภานิติบัญญัติ จำนวน 200 คนแล้ว เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม สำหรับรายชื่อเป็นไปตามความคาดหมาย ผู้มีรายชื่อมีอาทิ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ซึ่งเป็นตัวเต็งประธานสภา ส่วนนายวิษณุ เครืองาม ไม่มีชื่ออยู่ใน สนช.ชุดนี้แต่อย่างใด
สำหรับรายชื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่โปรดเกล้าฯนั้น แบ่งเป็นนายทหารในและนอกราชการจำนวน 105 คน ส่วนนายตำรวจจำนวน 10 คน และพลเรือนที่ประกอบด้วยอดีต ส.ว.สรรหา อดีต ส.ว.เลือกตั้ง อธิการบดี นักธุรกิจ จำนวน 85 คน
@ พรฎ.เปิดประชุมสนช.7 ส.ค.
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. รับสนองพระบรมราชโองการ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ.2557
@ นัดรายงานตัว 1-5 สค.
ทั้งนี้ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภาได้ออกประกาศการรับรายงานตัว สนช.ที่ห้องโถงชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 ตั้งแต่วันที่ 1-5 สิงหาคมนี้ เวลา 08.30-16.30 น. โดยให้เตรียมเอกสารประกอบการรายงานตัว ดังนี้ 1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส 3.สำเนาทะเบียนบ้าน 4.สำเนาใบสำคัญการสมรส และ 5.รูปถ่ายหน้าตรง 1 และ 6 นิ้ว อย่างละ 6 รูป